วาสนาของปลาเค็ม 向师祖献上咸鱼-25.ข้าไม่อยากไป

โดย  โปรเจคพิเศษ by Hongsamut

วาสนาของปลาเค็ม 向师祖献上咸鱼

25.ข้าไม่อยากไป

ซือหม่าเจียวที่เมื่อครู่ยังมีท่าทางไม่คิดจะสนใจไยดีผู้คนเวลานี้กลับเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน ตีสีหน้าเย็นชาขณะถาม “เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ ใครใช้ให้เจ้าเดินเพ่นพ่านไปทั่วกัน”

เลี่ยนถิงเยี่ยนยกมือขึ้นปกปิดร่างกายตามสัญชาตญาณ ทว่าพอเห็นสีหน้าของเขา เธอก็คิดได้ว่าจะปิดไปทำไม เจ้าบ้านี่ไม่ได้สนใจผู้หญิงสักหน่อย คล้ายมองไม่เห็นส่วนโค้งเว้าอวบอิ่มที่ข้างหน้าชูชันข้างหลังงามงอนของเธอเลยสักนิด แถมพอมาถึงก็เตะเสื้อผ้าและเครื่องประดับงดงามลอยหวือกระเด็นออกไปด้านข้างอีกด้วย

“ตามข้ามา”

เลี่ยนถิงเยี่ยนค้อนตาคว่ำทว่าก็รีบสวมชุดแพรสีแดงเงียบๆ

“ท่านจะไปที่ไหนหรือเจ้าคะ?”

ซือหม่าเจียวหัวเราะเสียงเย็น “ข้าเคยบอกแล้วมิใช่หรือ รอข้าออกมาทุกคนต้องตายหมด ตอนนี้ย่อมต้องออกไปฆ่าคนน่ะสิ”

เลี่ยนถิงเยี่ยนคิดในใจ รบกวนแล้ว ขออำลา

ซือหม่าเจียวเหลือบมองสีหน้าของนาง “เจ้าไม่อยากไป?”

หญิงสาวแอบด่าไปคำ อะไรกัน BUFF พูดความจริงมาอีกแล้ว “ข้าไม่อยากไป”

สีหน้าของซือหม่าเจียวเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในทันที “หากเจ้าไม่ยอมไป ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งเป็นคนแรก”

“ข้าพร้อมแล้ว ไปตอนนี้ได้เลยเจ้าค่ะ”

ซือหม่าเจียวชะงักไปสักพัก ใช้แววตาที่ซับซ้อนมองเธออีกครา “ทำไมถึงไม่อยากไป?”

“ข้ากลัวเห็นคนตาย”

หากไม่ได้เปิดโหมด BUFF พูดความจริง ซือหม่าเจียวย่อมไม่มีทางเชื่อว่าคนของแดนมารจะกลัวคนตายได้ คนตายในแดนมารยังมีมากมายยิ่งกว่าคนเป็นเสียอีก คนจากแดนมารมีแต่จะโหดร้ายทารุณยิ่งกว่าผู้บำเพ็ญเพียร ทำไมคนแบบนางถึงมาเป็นสายได้กัน?

เขาถามอย่างประหลาดใจ “คงไม่ใช่ว่าเจ้าไม่เคยฆ่าคนมาก่อนกระมัง?”

“ข้าไม่เคยฆ่าใคร”

ตอนนี้ซือหม่าเจียวเงียบกริบไปแล้วจริงๆ เขาชักไม่ค่อยเข้าใจแล้วว่าคนของแดนมารเป็นอะไรกันไปหมดถึงได้ส่งคนแบบนี้มาพวกเขาคิดจะจัดการสำนักเกิงเฉินเซียนฝู่จริงๆ น่ะหรือ? ให้คนในสำนักเกิงเฉินเซียนฝู่จัดการกันเองยังจะจริงจังกว่าพวกแดนมารทำเสียด้วยซ้ำ


เลี่ยนถิงเยี่ยนไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดหลังซือหม่าเจียวลงจากเขาซานเซิ่งชานมาแล้วถึงไม่ลงมือฆ่าฟันทันที

ทว่ากลับรับคำเชิญมาพักผ่อนยังคฤหาสน์หรูแห่งนี้แทน

มาตอนนี้ดันนึกสนุกคิดจะพกที่ห้อยแบบเธอออกจากบ้านไปอาละวาดอีก แต่เธอจะเอาแน่เอานอนอะไรกับท่านปรมาจารย์ที่สมองไม่ค่อยสมประกอบผู้นี้กัน ความคิดอ่านของเขาไหนเลยจะเป็นสิ่งที่คนมีสติปัญญาพื้นๆ แบบเธอเข้าใจได้ ดังนั้นพอเธอสวมชุดเสร็จก็รีบติดตามเขาออกไปอย่างว่าง่าย

เลี่ยนถิงเยี่ยนเริ่มดีใจที่ตนเองไม่ได้กินอิ่มจนเกินไป ไม่เช่นนั้นอีกสักพักหากเธอเห็นภาพอะไรเข้าคงได้อาเจียนออกมาตรงนั้นจนหมด ไม่แน่ว่าซือหม่าเจียวอาจจะถือโอกาสนี้กำจัดเธอทิ้งไปด้วยเสียเลย

ทว่าวินาทีต่อมาเธอกลับรู้สึกไม่ค่อยดี เพราะการบำเพ็ญของเธอยังคงอยู่ขั้นฝึกลมปราณจึงไม่อาจเว้นการเสพอาหารได้ ตอนที่อยู่บนเขาซานเซิ่งชานเธอได้แต่อาศัยอาหารที่มีไอทิพย์จำพวกพืชวิเศษที่นำติดตัวไปด้วยมาเติมเต็มกระเพาะ อาหารพวกนั้นแม้จะทำให้อิ่มง่ายกว่าอาหารทั่วไปทว่าไหนเลยจะเทียบได้กับการกินอาหารแบบจริงจังสักมื้อ

ขณะที่นั่งอยู่บนหลังเจ้างูดำและถูกซือหม่าเจียวพาเดินทางไปที่อื่น เลี่ยนถิงเยี่ยนก็รู้สึกหิวขึ้นมาแล้ว คนที่ตกอยู่ในอาการหิวโหยล้วนเป็นแบบนี้ทั้งนั้น ตอนไม่นึกถึงยังพอทำเนาทว่าพอนึกถึงขึ้นมาก็เริ่มทรมานทันที หากเวลานี้ได้กลิ่นหอมหวนของอาหารก็จะยิ่งทำให้ทรมานหนักขึ้นไปอีก

เลี่ยนถิงเยี่ยนก็เป็นเช่นนั้น เพิ่งจะลงจากเขาป๋ายลู่หยา ผ่านป่าบุปผาบานสะพรั่งข้างทาง ทันใดนั้นเธอก็ได้กลิ่นหอมฉุยของอาหารเลิศรส กลิ่นหอมของเนื้อช่างหอมหวนยวนใจยิ่งนัก เลี่ยนถิงเยี่ยนที่
ไม่ได้กินเนื้อมานานจึงอดน้ำลายไหลไม่ได้ ดูเหมือนเสียงกลืนน้ำลายของเธอจะดังเกินไป ซือหม่าเจียวที่อยู่ด้านข้างจึงหันกลับมามองอยู่หลายครั้ง

“ไปทางด้านนั้น” เขาพลันงอนิ้วเคาะหัวของเจ้างูดำ แล้วชี้ไปยังทิศทางที่กลิ่นหอมโชยมา

เลี่ยนถิงเยี่ยนลองเอ่ยปากถามเขา “ท่านปรมาจารย์ พวกเรากำลังจะไปที่ไหนกันหรือเจ้าคะ?”

“ฆ่าคนน่ะสิ”

“เอ่อ ไปทั้งแบบนี้ จากนั้นก็ฆ่าทันทีเลยหรือเจ้าคะ?”

“ไม่งั้นจะอย่างไร”

ท่านช่างเป็นฆาตกรโรคจิตที่กระทำการได้รวบรัดเสียจริงเลี่ยนถิงเยี่ยนถอนหายใจอย่างเศร้าสลด พอผ่านทุ่งดอกไม้บานสะพรั่งไปก็พบว่าข้างบึงศิลาใต้น้ำตกกำลังจัดงานเลี้ยงของบรรดาลูกหลานเซียนรุ่นสองอยู่ มีอาหารเลิศรสถูกจัดเรียงเอาไว้มากมาย เหล่าหนุ่มสาวรูปโฉมโดดเด่นในอาภรณ์แผ่วพลิ้วหลายสิบคนกำลังนั่งสังสรรค์กันอย่างเต็มที่

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาล้วนเป็นศิษย์ที่มีตำแหน่งฐานะสูงเพราะสถานที่แห่งนี้มีไอทิพย์เต็มเปี่ยม ทิวทัศน์งดงามตระการตา อาหารก็ประณีตพิถีพิถัน ทุกคนดูงามสง่า นอกจากนี้ยังมีศิษย์คอยดีดพิณเสริมบรรยากาศให้สนุกสนานครื้นเครงอีกด้วย จู่ๆ พอมีงูดำยักษ์กับซือหม่าเจียวตลอดจนเลี่ยนถิงเยี่ยนโผล่พรวดเข้ามาจึงไม่เข้ากับบรรยากาศของที่นี่เลยสักนิด

เลี่ยนถิงเยี่ยนไม่เคยบุ่มบ่ามเข้าไปในงานเลี้ยงของคนอื่นส่งเดชมาก่อน ทว่าท่านปรมาจารย์กลับกระทำเรื่องเลวร้ายอย่างการเผา ฆ่า ปล้มสะดมพรรค์นี้จนช่ำชองเสียแล้ว เขาจึงไร้ซึ่งความกดดันภายในใจ

เมื่อพวกเขาปรากฏตัวก็มีศิษย์ที่นั่งอยู่ท้ายงานเลี้ยงผู้หนึ่งขมวดคิ้วตวาดด่า “พวกเจ้าเป็นศิษย์จากตำหนักไหน เหตุใดถึงกล้าบุกรุกงานเลี้ยงบุปผาของศิษย์พี่ใหญ่ตามอำเภอใจเช่นนี้ ยังไม่รีบไสหัวออกไปอีก!”

เลี่ยนถิงเยี่ยนสูดลมหายใจเย็นเข้าไปหนึ่งเฮือก เดิมทีท่านปรมาจารย์ก็มาเพื่อฆ่าคนอยู่แล้ว ตอนนี้กลับมีคนไม่กลัวตายถึงขนาดกล้าใช้แววตาดูแคลนและน้ำเสียงเชิงรำคาญพูดกับเขา นี่ไม่ใช่ว่าเทพอายุวัฒนะคิดจะแขวนคอตาย รังเกียจว่ามีชีวิตยืนยาวไปแล้วหรอกหรือ

เธอนึกว่าภายในเสี้ยววินาทีจะได้เห็นเจ้าศิษย์ผู้นั้นระเบิดเป็นบุปผาโลหิตไปแล้วเสียอีกทว่ากลับไม่ใช่ ซือหม่าเจียวที่ยืนอยู่ข้างกายเธอทำเพียงเดินลงจากหลังเจ้างูยักษ์ จากนั้นมองข้าวของโดยรอบราวกับไม่ได้ยินคำพูดของศิษย์ผู้นั้นเลยสักนิด

เลี่ยนถิงเยี่ยนเห็นเขาย่ำเท้าไปบนแพรพรรณสีสันสดใสที่ปูไว้ทั่วพื้น จากนั้นถือโอกาสฉวยป้านสุราบนโต๊ะของศิษย์ที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาดู เขายกมันขึ้นดมสักครู่ คล้ายไม่ชอบกลิ่นนั้นจึงเหวี่ยงทิ้งส่งเดช น้ำสุราสาดรดลงบนแพรหลากสีที่หรูหรางดงามจนเป็นรอยเปื้อน

การเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ ท่าทีเย่อหยิ่งจองหองเสมือนไม่เห็นคนพวกนี้อยู่ในสายตาทำให้ศิษย์ที่เอ่ยปากตอนแรกลุกพรวดขึ้นมาอย่างเดือดดาล “เจ้า...”

ชายหนุ่มเพิ่งจะเอ่ยไปได้แค่หนึ่งคำ ซือหม่าเจียวก็มาปรากฏตัวเบื้องหน้าจากนั้นคว้าหมับและบีบลำคอลากเขาไปยังข้างบึง เหยียบหัวเขาลงไปในน้ำภายใต้สายตาจับจ้องของคนทั้งหลาย

คนทั้งหมดลุกพรวดขึ้นพร้อมกัน สีหน้าแต่ละคนแฝงความเดือดดาล ในกลุ่มนั้นมีชายหนุ่มรูปงามที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งประธาน เขาผุดลุกขึ้นรวดเร็วที่สุด มีเพียงเขาเท่านั้นที่สีหน้าแตกต่างจากผู้อื่น ไม่ใช่โกรธแค้นเดือดดาลทว่าหวาดหวั่นและยำเกรง

สีหน้าแบบนี้เลี่ยนถิงเยี่ยนคุ้นเคยยิ่ง คนผู้นี้คงจะเคยพบท่านปรมาจารย์มาก่อน เมื่อครู่ที่อีกฝ่ายมีอาการตะลึงอาจเป็นไปได้ว่าไม่กล้าจะยอมรับ ซือหม่าเจียวมีศักดิ์ฐานะใด กระทั่งเจ้าสำนักยามอยู่ต่อหน้าเขายังมีท่าทีนอบน้อมยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้อื่น ต่อให้มีศิษย์บางส่วนกล้าต่อว่าเขาลับหลัง ยามอยู่ต่อหน้าก็ได้แต่พากันหวาดกลัวจนหัวหด

คนที่รู้ว่าซือหม่าเจียวรูปร่างหน้าตาเป็นเช่นไรมีไม่มาก คนที่สามารถจดจำเขาได้ส่วนใหญ่มีศักดิ์ฐานะอยู่บ้าง ทว่าที่นี่คนที่จดจำเขาได้กลับมีเพียงคนเดียวและตอนนี้คนผู้นั้นกำลังสาวเท้าเร่งร้อนเดินมาด้านหน้า ทว่าพอมาอยู่ในรัศมีหนึ่งจั้งจากซือหม่าเจียว ฝีเท้าของเขาพลันหนักอึ้ง ไม่กล้ามุ่งตรงไปข้างหน้าต่อ ได้แต่คุกเข่าค้อมศีรษะลงคารวะเต็มพิธีพร้อมตะโกนขึ้น “คารวะฉือฉางเต้าจวิน”

คนทั้งงานเลี้ยงต่างตกอยู่ในอาการนิ่งอึ้งไปตามๆ กัน สักพักพวกเขาค่อยพากันคุกเข่าโครมลงกับพื้นพร้อมกับตกอยู่ในอาการแตกตื่น ส่วนคนที่ถูกซือหม่าเจียวเหยียบลงไปในบึงยิ่งลนลานเป็นพิเศษ ราวกับเขาถูกสายฟ้าฟาดใส่ ทั่วทั้งร่างแข็งทื่อกระทั่งจะขยับตัวก็ยังไม่กล้า แน่นอนว่าผู้บำเพ็ญเป็นเซียนไม่มีทางถูกกดให้จมน้ำตายแบบธรรมดาเช่นนี้ได้ เขาเพียงแตกตื่นตกใจเท่านั้น

พอซือหม่าเจียวเห็นเขาหยุดดิ้นรนก็เอ่ยขึ้น “ดิ้นต่อไปสิ”

ศิษย์ผู้นั้นขยับตัวอย่างแข็งทื่อ เริ่มดิ้นรนช้าๆ การเคลื่อนไหวราวกับเต่ายักษ์ตัวหนึ่ง

เสียงหัวเราะอันแผ่วเบาของเลี่ยนถิงเยี่ยนส่งผลให้บรรยากาศที่เคยเงียบกริบกระทั่งได้ยินเพียงเสียงลมพลันสลายหายไปจนหมด เสียงหัวเราะของเธอยิ่งดังชัดเจนมากขึ้น ซือหม่าเจียวเอี้ยวหน้ามามอง เธอยังไม่ทันจะได้ควบคุมสีหน้าก็เห็นเขาหัวเราะตามมาเช่นกัน

เมื่อซือหม่าเจียวปล่อยมือจากคอของศิษย์ผู้นั้น ชายหนุ่มก็รีบฟุบอยู่ในน้ำทำเป็นแกล้งตาย ท่านปรมาจารย์ไม่สนผู้อื่นอีก เพียงเดินไปยังตำแหน่งประธานแล้วนั่งลงก่อนจะกวักมือเรียกเลี่ยนถิงเยี่ยนให้เข้าไปหา

“มานี่”

เลี่ยนถิงเยี่ยนเดินตรงไป ตอนนั้นเองท่านปรมาจารย์ที่ออกจากบ้านมาฆ่าคนก็เอ่ยกับเธอ “อยากกินอะไรก็กินเถอะ”

รีวิวจากผู้อ่าน 1 รีวิว
  • สนสม
    เมื่อ 2 ปี 4 เดือนที่แล้ว
    เอาใจน้องรัวเลยนะะะ พอ.เราา
    • อ่านถึง : 25.ข้าไม่อยากไป

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว