วาสนาของปลาเค็ม 向师祖献上咸鱼-2.ข้าน่าจะได้ไป

โดย  โปรเจคพิเศษ by Hongsamut

วาสนาของปลาเค็ม 向师祖献上咸鱼

2.ข้าน่าจะได้ไป

บทที่ 6

ความฝันที่แท้จริง


หลี่หมิงรู้สึกเหมือนเขากลายเป็นไททันที่นั่งอยู่กลางจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพลาสและไร้ขอบเขต โลกเป็นเพียงดาวเคราะห์ขนาดเท่าเมล็ดข้าวเท่านั้น และมันก็ค่อย ๆ หมุนไปอย่างช้า ๆ ข้างหน้าของหลี่หมิง หลี่หมิงมองทุกการเคลื่อนไหวของโลกจากมุมในอวกาศ ซึ่งมันดูมีเสน่ห์และขลังอันน่าอัศจรรย์


นอกจากมหาสมุทรแล้วผืนดินแล้ว ในเวลานี้สำหรับทั้งจักรวาล โลกและมนุษย์มีขนาดเล็กเพียงใด


เช่นเดียวกับเม็ดทรายในทะเลทราย การปรากฏตัวและการหายไปของมัน ไม่มีผลต่อการดำรงอยู่ของทะเลทรายหรือจักรวาลเลยแม้แต่น้อย


หลี่หมิงหันศีรษะช้า ๆ ดวงตาคู่หนึ่งของเขามองไปรอบ ๆ เขาอ้าปากกว้างราวกับเห็นสิ่งที่ไม่คาดฝัน ดวงดาวหมุนรอบตัวเขา หลี่หมิงเป็นเหมือนศูนย์กลางของกาแล็คซีที่ล้อมรอบไปด้วยหมู่ดวงดาวเหล่านี้ การเฝ้าดูดวงดาวหมุนที่รอบตัว ความงดงามที่น่าตกตะลึงและความรู้สึกอันน่าทึ่ง ทำให้เขาเริ่มรู้สึกล่องลอย


สายตาของหลี่หมิงมองไปที่สิ่งต่าง ๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการเกิดของซูปเปอร์โนว่า เนบิวรา องค์ประกอบต่าง ๆ มากมายของจักรวาล ดาวเคราะห์แต่ละดวงมีตำแหน่งและสีสันที่แตกต่างกัน สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากธาตุต้นกำเนิดของมันเอง แต่ก็ไม่ได้มีลักษณะเฉพาะใด ๆ เมื่อเทียบกับเพื่อน ๆ ดาวเคราะห์ของมันในจักรวาล


หลี่หมิงหลงรักท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวมานานแล้ว เขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับจักรวาลและดาราศาสตร์ ความลึกลับที่ไม่รู้จักทำให้ผู้คนโหยหามัน


หลี่หมิงจมอยู่ในภาพลวงตาที่สวยงามนี้ แต่ทันใดนั้นดวงดาวรอบตัวเขาก็เข้ามาใกล้เขาราวกับว่าเขามีแรงดึงดูดอย่างฉับพลันต่อพวกมัน


อย่างไรก็ตามหลี่หมิงพยายามยกมือ เพื่อสัมผัสดวงดาวดวงหนึ่งที่เข้ามาใกล้ ด้วยปลายนิ้วของเขาที่แตะไปยังผิวของดวงดาวเพียงเล็กน้อย นิ้วของเขาก็ทะลุเข้าไปในดาวเคราะห์นั้นราวกับว่าดาวเคราะห์เป็นภาพลวงตาเสมือนจริง หลี่หมิงโบกมือเล็กเบา ๆ มือของเขาพุ่งผ่านหมู่ดาวมากมายโดยตรงราวกับว่าพวกมันเป็นเพียงเงาเสมือนเช่นกัน หน้าจอแสง , การคาดการณ์, ภาพลวงตาซึ่งไม่สามารถมองเห็นและสัมผัสได้


นี่คือความฝันหรอ? ฉันกำลังฝัน? ใช่มันจะต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ


แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันเป็นความฝัน แต่หลี่หมิงก็ยังคงคิดว่ามันเป็นความฝันที่ยอดเยี่ยมที่สุด แต่ถึงยังงั้นมันรู้สึกเหมือนจริงมาก


ขณะที่ดาวเคราะห์โคจรรอบหลี่หมิงไปช้า ๆ พวกมันก็ยังคงเข้าไปใกล้ศีรษะของหลี่หมิงเช่นกัน ทันทีที่ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งเข้าใกล้ศีรษะของหลี่หมิง มันก็เหมือนกับก้อนหินที่ตกลงไปในน้ำ หลังจากการกระเพื่อมมันจมลงสู่เบื่องลึกของหลี่หมิงโดยตรงและหายไป

"อ๊ะ!”


ความเจ็บปวดพุ่งเข้ามาหาหลี่หมิง เขาอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา ด้วยความเจ็บปวดจี๊ด ๆ ราวกับว่ามีบางอย่างเข้ามาในหัวของเขา


นี่ไม่ใช่ความฝันเหรอ? ไม่งั้นมันจะรู้สึกเจ็บแบบนี้ได้ยังไง?!


ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งหรือแม้แต่โลกที่อยู่ข้างหน้าเขาก็เคลื่อนผ่านไป ความเจ็บปวดเริ่มเกินกว่าที่จะอธิบายได้แล้วทำให้หลี่หมิงต้องต่อต้านกลับไปบ้าง แต่ร่างกายของเขาไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย เขาต้องปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เข้าสู่สมองของเขาช้า ๆ และเจ็บปวด


หลี่หมิงรู้สึกแย่มาก เมื่อดาวเคราะห์ทุกดวงเข้ามาในสมองของเขา หลังจากที่ดาวเคราะห์เข้าสู่สมองของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าข้อมูลและความรู้จะถูกเติมเต็มพื้นที่ในสมองของเขาไปด้วย


ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจแทบจะเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง ข้อมูลที่จำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏออกมาสู้เบื้องหน้าของเขาอย่างฉับพลัน ทั้งอารยธรรม พลังต่าง ๆ ในจักรวาล และเนบิวลาขั้นสูงทุก ๆ รูปแบบ เหมือนกับข้อมูลเหล่านั้นถูกพิมพ์เข้ามาในสมองของเขายังไงยังงั้นเลย


ข้อมูลที่ถูกรวบรวมอย่างรวดเร็วนี้ เป็นข้อมูลใหม่ ๆ ที่เพิ่งเข้าสู่สมอง แต่ความรู้สึกมันเหมือนกับว่าความรู้พวกนี้ติดตัวเขามาตั้งแต่เด็กแล้วยังไงยังงั้น


เช่นเดียวกับคนทั่วไปที่จำสูตรคูณได้ มันถูกบันทึกไว้ในสมองอย่างสมบูรณ์ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อนึกถึงมันแล้วเราจะจำได้อย่างละเอียด


เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เหมือนความฝันเลยไม่ใช่หรอ! แต่ทำไมความทรงจำที่ได้ถึงรู้สึกเหมือนของจริงขนาดนี้ แปลกมากอะไรกัน?


"อึก!”


เสียงร้องด้วยความประหลาดใจดังขึ้นจู่ ๆ หลี่หมิงก็ลุกขึ้นจากเตียงของตัวเอง ดวงตาที่เปิดออกของเขาปิดลงอย่างช้า ๆ และความเจ็บปวดก็พุ่งออกมาจากข้างในหัวของเขา


“ หัวฉัน….เจ็บ ... ” หลี่หมิงกระซิบกับตัวเอง


สักพักเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือข้าง ๆ ขึ้นมา แล้วเปิดหน้าจออย่างลวก ๆ ไม่มีเสียงตอบรับอะไร มันเป็นเพราะเครื่องดับจากการขาดกระแสไฟฟ้า


เขาทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ที่เดิมอีกครั้ง แสงจากดวงอาทิตย์ส่องเข้ามาทางหน้าต่างแล้ว เมื่อมองไปที่ตึกสูงนอกหน้าต่างแล้ว จู่ ๆ เขาก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนในหัวก็กลับมาอีกครั้ง เหมือนมีอุปกรณ์อะไรสักอย่างกำลังสั่นสะเทือนอยู่ในนั้น การสั่นสะเทือนนี้ทำให้หลี่หมิงรู้สึกวิงเวียนและหน้ามืด


" ดูดซับพลังงาน ค้นหาพลังของเนบิวลาอื่นล่วงหน้า ... " คำพูดบางคำที่ไม่มีจุดเริ่มต้นก็หลุดออกมาจากปากของหลี่หมิง


“ อะไรนะ ฉันพูดอะไรของฉันเนี่ย ? ” หลี่หมิงรู้สึกสับสน เขาส่ายหัวแรง ๆ แล้วรีบลุกจากเตียง


เมื่อเขามาถึงห้องน้ำเขาก็เปิดก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้าทันที หลี่หมิงใช้มือของเขากรอกไปตามสายน้ำเย็น ๆ จากนั้นเขาก็สาดมันเข้าไปที่ใบหน้าของเขา เมื่อล้างหน้าด้วยน้ำเย็นซ้ำ ๆ แล้วเขาก็มองดูตัวเองในกระจก ไม่มีความผิดปกติ ๆ เลย แต่จู่ ๆ ปากของเขาก็พูดว่า : "มันอยู่ใกล้ ๆ นี้แล้ว ฉันต้องการมัน... "



คำพูดที่อธิบายไม่ได้ออกมาจากปากของเขาอีกแล้ว หลี่หมิงมองดูตัวเองในกระจกและพูดกับตัวเองว่า "ฉะ….ฉันพูดอะไรของฉันเนี่ย?"


หลี่หมิงใช้มือทั้งสองข้างถูใบหน้าจากนั้นดึงผ้าขนหนูออกมาเช็ดหน้าให้สะอาด


หลี่หมิงไม่รู้ความหมายของสิ่งที่เขาพึ่งพูดไป เขารู้สึกเหมือนเคยพูดมันเมื่อนานมาแล้ว และยังคงมีความรู้สึกค้างคาอยู่ในใจ

หลี่หมิงคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าและข้อมูลในสมองของเขาก็ผุดออกมาอย่างรวดเร็ว ประโยคนั้นไม่ได้พูดออกไปโดยไม่มีเหตุผล เพราะเขาคิดอยู่ในหัวก่อนที่จะพูด แต่ทำไมเขาถึงพูดคำแปลก ๆ แบบนี้ออกมากันนะ?


"เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!?" หลี่หมิงพูดกับตัวเองราวกับว่า เขาพยายามจะจำอะไรบางอย่างอยู่


หลี่หมิงรีบมาที่ห้องนั่งเล่น เขาค้นลิ้นชักใต้โต๊ะน้ำชาในห้องนั่งเล่นของเขาอย่างรวดเร็ว เพื่อหาอะไรบางอย่าง นั้นคือไดอารี่และปากกา เขาวางมันไว้ที่โต๊ะกาแฟ ก่อนที่จะเปิดไดอารี่แล้วจดสิ่งที่เขาคิดและพูดนั้นอย่างรวดเร็ว


"ชีวิตและอารยธรรมขั้นสูงของฉัน ฉันมาจากนอกโลกและนายได้กลืน [Nebula power] พลังของฉันไปแล้ว โปรดส่งคืนพลังให้ฉันด้วยได้โปรด ส่งมันคืนมา... "


เขาคิดอะไรอยู่ในใจ สิ่งที่เขาเขียนในมือนั้น ราวกับว่ามีใครบางคนกำลังเขียนอยู่ไม่ใช่เขา เมื่อมองไปที่คำเหล่านั้นที่เขียนขึ้นด้วยตัวเองแล้ว หลี่หมิงก็มีข้อมูลมากมายในใจของเขาอีกครั้ง

หลี่หมิงรีบเขียนมันอีกครั้ง ในขณะที่เขาเขียนเขามองไปที่มันอย่างใจจดใจจ่อ ข้อมูลในสมองของเขาตรงกับที่เขาเขียนมาก เขาเข้าใจและตีความมันได้หลังจากเขียนมันออกมาแล้วเท่านั้น วิธีนี้สามารถช่วยหลี่หมิงแยกแยะข้อมูลที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้


หลี่หมิงยังมีมุมมองแปลก ๆ ในความทรงจำของเขา มันเป็นความรู้สึกที่ตัวเขากำลังบินอยู่ ไม่สิต้องเรียกว่าตกลงมาอย่างรวดเร็วจากห่วงอวกาศ ก่อนที่จะผ่านเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก และในที่สุดก็ตกลงไปในถ้ำมืด ๆ ราวกับทางเดินอาหารของสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่ง


ข้อมูลของที่ผุดออกมาจากความคิดนั้น มีภาพต่าง ๆ ที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้สัมผัสสิ่งนั้นมากับตัว


ภาพหนึ่งในข้อมูลที่ซับซ้อนนี้ เหมือนชิ้นส่วนของปริศนาชิ้นใหญ่เพียงแค่ต้องปะติดปะต่อเรื่องราวเหล่านี้ก่อน


"อา..."


หลี่หมิงไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขาได้ มือที่เขียนของเขาสั่นเล็กน้อย หลี่หมิงมองไปที่มือแต่ก็เขียนต่อไป ข้อมูลในสมองของเขาปรากฏขึ้นรวดเร็วมาก บางทีก็เป็นภาพที่คุ้นเคยบางครั้งก็เป็นข้อมูลแปลก ๆ ที่เขารู้สึกเหมือนเคยรู้จักมาก่อน ในแง่หนึ่งเขารู้สึกราวกับว่าเขาไม่เคยทำสิ่งนี้และไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ แต่อีกด้านหนึ่งก็คอยดึงข้อมูลออกมาเรื่อย ๆ ไม่หยุด


ลึกลงไปในความทรงจำของสมอง ดูเหมือนจะมีความทรงจำสองอย่างที่ขัดแย้งกันไปมา มันต่างกันราวกับเป็นความคิดของคนละคน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นของเขาเอง แต่ความคิดของอีกคนดูเหมือนจะปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน แต่เขากลับรู้สึกว่าเขาได้ประสบกับมันด้วยตัวเอง


ภาพที่คุ้นเคยและแปลกประหลาดนั้น เป็นเหมือนข้อมูล และมือที่ถือปากกาของหลี่หมิงเปรียบเสมือนเครื่องพิมพ์ดีด


เมื่อกรอกข้อมูลในกระดาษไปจบหน้าหนึ่งแล้ว มือของเขาก็พลิกไปหน้าต่อไปเองแล้วเขียนต่อ ข้อมูลแต่ละหน้านั้นแตกต่างกัน และไม่เชื่อมโยง มันจะถูกคั่นด้วยกระดาษแต่ละแผ่น


หลี่หมิงลืมสภาพแวดล้อมของเขาไปแล้ว เขาไม่มีเวลาคิดถึงมันอีกต่อไป เขาไม่รู้สึกว่าได้อยู่บ้านของตัวเองด้วยซ้ำ เหมือนตกอยู่ในความฝันแปลก ๆ เมื่อคืนนี้


นอกจากหลี่หมิงและโต๊ะน้ำชาแล้วสภาพแวดล้อมโดยรอบก็เป็นภาพจำของหลี่หมิง บางครั้งดาวเคราะห์ประหลาดก็ปรากฏขึ้นและบางครั้งก็มีภาพแปลก ๆ ปรากฏขึ้นเช่นกัน ดูเหมือนว่าเขากำลังเดินไปตามกาลเวลาและอวกาศซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา


ไดอารี่เล่มหนาถูกเขียนเต็มไปหมดโดยไม่รู้ตัว


หลังจากบันทึกสิ่งเหล่านี้ไปแล้ว หลี่หมิงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นในจิตใจของเขา เมื่อมองไปที่ไดอารี่บนโต๊ะน้ำชาแล้ว สมองของหลี่หมิงก็ผุดข้อมูลใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหลี่หมิงไม่ได้เขียนต่อ แต่ฉีกเนื้อหาที่เขาเพิ่งเขียนจากหน้าก่อนหน้าของไดอารี่ของเขาออกมาแทน


เขาวางกระดาษที่ถูกฉีกลงบนพื้นและปิดสมุดบันทึกออกมา หลี่หมิงมองไปที่กองกระดาษแผ่นใหญ่ตรงหน้าเขาจากนั้นก็ยังคงนึกถึงภาพและข้อมูลเหล่านั้นอยู่ในใจ


นี่คือสิ่งที่หลี่หมิงต้องการทำ


เป็นเรื่องยากมากที่จะแยกแยะข้อมูลที่ซับซ้อนและฉับพลัน มันต้องการการวิเคราะห์และวิจารณญาณ หลี่หมิงเลื่อนกระดาษบนพื้นไปมา จัดลำดับมันใหม่อีกครั้ง


เขาจึงยุ่งมากในตอนนี้ เวลาก็ล่วงเลยไปทีละนิดโดยไม่รู้ตัว จากตอนเช้าจะมาถึงตอนเที่ยงแล้ว


เขาไม่รู้สึกหิวหรือเหนื่อยเลย เขาปวดหัวเป็นครั้งคราวเท่านั้น หลี่หมิงกำลังคิดและเรียงกระดาษบนพื้น เขาคุกเข่าลงบนพื้นอีกครั้ง และบางครั้งก็ใช้ปากกาทำเครื่องหมายไว้บนกระดาษ


ดวงอาทิตย์เปลี่ยนจากท้องฟ้ายามเที่ยงเป็น ดวงอาทิตย์ทางทิศตะวันตก ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดสลัว ในตอนนี้หลี่หมิงมีความคิดบางอย่าง กระดาษบนพื้นถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มอย่างเป็นระเบียบและแต่ละชิ้นของแต่ละกลุ่มจะมีหมายเลขประจำของตัวเอง


เพียงแค่มีช้อนส้อมจำนวนมากทับเอาไว้ไม่ให้กระดาษปลิว ตำแหน่งของตัวเลขนี้เกิดจากการปรับเปลี่ยนหลังจากการกาข้อมูลไม่จำเป็นออกในแต่ละครั้ง


หลี่หมิงยืนขึ้นและเปิดไฟในห้อง เมื่อมองไปที่กระดาษสองแผ่นบนพื้นหลี่หมิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ: "มันน่าจะถูกต้องแล้วนะ"


เขานับจำนวนกระดาษและวางไว้ตามลำดับ จากนั้น หลี่หมิงก็เริ่มอ่านอย่างละเอียด


ดูเหมือนว่าปริศนาขนาดใหญ่ถูกวางไว้ด้วยกันในมุมหนึ่ง ชิ้นส่วนที่เป็นความทรงจำก็เข้าสู่สมองอย่างกะทันหันหลังจากการเรียงลำดับ


ข้อมูลที่จัดระเบียบใหม่แล้ว จัดกลุ่มและการกำหนดหมายเลขที่ชัดเจน ข้อมูลที่ชัดเจนบางอย่างปรากฏในดวงตาของหลี่หมิง เมื่อมองดูข้อมูลเหล่านี้ ใบหน้าของหลี่หมิงก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เขาทั้งรู้สึกประหลาดใจ อยากรู้อยากเห็น และความเหลือเชื่อ



รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว