บทที่ 3 หลบหนีขึ้นเรือ
หลี่เฟิงรีบถอดเสื้อผ้าของสายลับหนุ่มออกแล้วนำมาสวมใส่เอง หลังจากนั้นหลี่เฟิงก็เดินออกจากตรอกอีกทางหนึ่งแล้วก็เดินหายเข้าไปในฝูงชน
สามชั่วโมงต่อมา หลี่เฟิงได้ซ่อนตัวอยู่บนเรือสำราญลำหนึ่งซึ่งเป็นเรือที่กำลังจะออกเดินทางไปสิงคโปร์และกำลังออกจากท่าเรือในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า
ด้วยสถานะปัจจุบันของหลี่เฟิง เขาไม่สามารถออกจากสหรัฐอเมริกาได้อย่างปกติ จากความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา การที่เขาฆ่าคนไปกว่าร้อยเจ็ดสิบกว่าคนภายในครึ่งเดือนด้วยกำลังของเขาเพียงคนเดียว รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะต้องบันทึกชื่อเขาลงในนักโทษที่เป็นขั้นร้ายแรงแน่นอน
แม้แต่การลักลอบข้ามแดนด้วยทางน้ำก็เป็นเรื่องอันตรายมากในเวลานี้ตำรวจและเอฟบีไอทั่วสหรัฐอเมริกาต่างก็เพิ่มกำลังแต่ละจุดเพื่อสกัดกั้นเรือลักลอบ หากเขาแอบซ่อนอยู่บนเรือลักลอบเหล่านั้นเขาก็มีโอกาสถูกจับได้
แต่ถ้าแอบซ่อนอยู่บนเรือสำราญหรูสักลำเขาก็ยังมีโอกาสรอดพ้นไปได้มากกว่า
หลี่เฟิงซ่อนตัวอยู่มุมหนึ่งในห้องเก็บสินค้าและปิดเปลือกตาเพื่อพักผ่อนเพราะหลายวันที่ผ่านมาทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมากเกินไป
เขาจำเป็นต้องเติมพลังงานด้วยการนอนหลับอย่างรวดเร็ว แม้ว่าการอยู่บนเรือจะปลอดภัยกว่าอยู่บนแผ่นดินมากแต่ก็ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์นอกเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นมาอีก
ประมาณสามชั่วโมงต่อมาเมื่อฟ้าเริ่มมืดสนิทหลี่เฟิงจึงตื่นจากการพักสายตาครู่หนึ่ง เขาเดินออกจากห้องเก็บสินค้ามา
ในช่วงที่หลี่เฟิงเดินสำรวจบนเรือ เขาคอยระมัดระวังหลบหลีกกล้องวงจรปิดบนเรือสำราญ สำรวจไปสักพักเขาก็เดินมาถึงบริเวณดาดฟ้าเรือ
ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้วผู้โดยสารส่วนใหญ่ไปรับประทานอาหารที่ห้องอาหารกันหมด เมื่อหลี่เฟิงมองไป เขาเห็นมีคนเพียงสามคนอยู่บนดาดฟ้า นอกจากคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังคุยกันอยู่ไกล ๆ แล้วก็เหลือเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนเงียบ ๆ คนเดียว เธอยืนพิงราวระเบียงของเรือแล้วเหม่อมองออกไปยังท้องทะเลที่มืดมิด
หลี่เฟิงเดินโซเซไปทางหญิงสาวคนนั้นเขาพิงตัวไปกับราวระเบียงและมองดูหญิงสาวอีกครั้ง เมื่อเขาได้เข้าใกล้หญิงสาวจึงพบว่าเธอเป็นผู้หญิงเอเชีย เธอมีหน้าตาที่สวยมากแต่ดูท่าทีเฉยชาและไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างแม้ว่าจะมีคนมายืนข้าง ๆ ก็ตาม
เมื่อหลี่เฟิงเห็นว่าเธอเป็นสาวสวย เขาก็สนใจทันทีจึงเอ่ยปากถามเบา ๆ ว่า “คุณเป็นคนสิงคโปร์ใช่ไหมครับ?”
เมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงของหลี่เฟิง เธอจึงหันกลับมามองพบว่าหลี่เฟิงเป็นชายหนุ่มที่สวมสูตแบรนด์หรูแต่ชุดก็ดูโทรมพอสมควร แถมยังมีรอยเปื้อนฝุ่นเกาะอยู่บนตัวสูตของเขา
“คุณแอบขึ้นเรือมาสินะ?”
หลี่เฟิงรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที “คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมแอบขึ้นมา?”
“ถึงเสื้อผ้าของคุณจะเป็นแบรนด์เนมแต่กลับสกปรกมาก นี่คือเรือสำราญส่วนบุคคล การที่มีแขกขึ้นมาได้ พวกที่ดูแลที่นี่จะต้องตรวจสอบตัวตนของคุณด้วย หากตัวตนนั้นถูกต้องต่อให้คุณใส่สูตสกปรก พวกเขาก็ต้องพาคุณไปเปลี่ยนชุดใหม่..แต่ดูก็รู้แล้วว่าคุณไม่เพียงแค่แอบขึ้นมาเท่านั้น เสื้อผ้าชุดนี้ของคุณคงขโมยมาจากคนรวยคนใดคนหนึ่งที่โชคร้ายสินะ”
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว