"ซืออิ่งแล้วอาหารของฉันล่ะ"
หลินซินอี้เอ่ยถามซืออิ่งคนรับใช้คนสนิท ที่เดินกลับมาตัวเปล่า ไม่มีถาดอาหารอยู่ในมือแล้วก็ไม่มีคนถือถาดอาหารตามหลังมาเลย ถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความโมโหเพราะหิว
"คุณนายรองใจเย็นๆก่อนนะคะ เข้าไปดูในห้องก่อนฉันมีเรื่องอะไรจะเล่าให้ฟัง"
ซืออิ่งได้ยินเสียงเจ้านาย ก็รู้ว่าเจ้านายต้องโกรธมากแน่ๆ
"ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย ไปที่ครัวแล้วั ทำไมไม่ยกอาหารมาให้ฉัน ทำไมถึงไม่มีอาหารกลับมาให้ฉันกิน"
"อะ เอ่อ อาหารที่คุณนายรองสั่งให้พ่อครัวทำวันนี้คุณนายใหญ่มายกเอาไปแล้วค่ะ"
ซืออิ่งพูดอ้ำอึ้งก่อนจะบอกเจ้านายของตนออกไปว่า อาหารที่สั่งวันนี้ถูกถูกเมิ่งอี้หรานที่เป็นคุณนายใหญ่ยกไปแล้ว
"อะไรนะ เปรี๊ยะ นังเมิ่งอี้หรานมันมีสิทธิ์อะไร ถึงมาได้ยกอาหารของฉันไป"
หลินซินอี้เมื่อได้ยินว่า เมิ่งอี้หรานมายกอาหารของตนไป ก็โกรธจนหน้าแดง ถาดน้ำชาที่อยู่ใกล้มือก็โยนลงพื้นกระจัดแตกกระจายไปหมด
"คุณนายรองใจเย็นๆก่อนนะคะ ฉันก็ไม่รู้ว่าคุณนายใหญ่คิดอะไร ฉันไปที่ห้องครัว สาวใช้ที่มีหน้ายกอาหารมาให้คุณนายรอง บอกฉันว่าคุณนายใหญ่มายกอาหารของคุณนายรองไป ฉันเองก็ตกใจเหมือนกัน"
"นังเมิ่งอี้หรานมันเกิดบ้าอะไรขึ้นมา ตั้งแต่มันเข้ามาในตระกูลหานมันก็กินอาหารแบบนั้นมาตลอด วันนี้ทำไมมันถึงมาเอาอาหารของฉันไป"
"ฉันเองก็ไม่แน่ใจคนรับใช้ในห้องครัวไม่ได้พูดอะไรมาก เราไปเอาเรื่องคุณนายใหญ่กันดีไหมคะ"
หลินซินอี้ทำหน้าครุ่นคิดอยู่สักพัก เมิ่งอี้หรานเป็นอะไรอยู่ดีๆทำไมถึงได้กล้าแย่งอาหารของตนไป หากทำแบบนี้ไม่กลัวว่า หานเจียฉีจะเอาเรื่องหรือไง หากหานเจียฉีรู้เรื่องนี้เข้า
"ช่างมันเถอะ ให้มันกินไปเถอะ แล้วแกก็โง่เนาะไปถึงห้องครัวทำไมไม่เอาอาหารกลับมาให้ฉันกิน"
"แต่อาหารที่สั่ง"
"แกก็โง่จริง ไม่ได้อาหารที่สั่ง ก็ไปเอาอย่างอื่นมาให้ฉันกิน ไม่งั้นออกไปซื้อข้างนอกมาให้ฉัน อย่างเร็วเลยฉันหิวแล้ว ส่วนเรื่องที่ นังเมิ่งอี้หรานทำวันนี้ ฉันจะปล่อยมันไว้ก่อน รอให้ท่านนายพลกลับมาจากราชการฉันจัดการมันแน่"
"ได้ค่ะงั้นฉันจะออกไปซื้ออาหารมาให้ คุณนายรอก่อนนะคะ"
ซืออิ่งรีบวิ่งออกไปข้างนอกอย่างเร็ว เพราะหากอยู่อีกหน่อย หลินซินอี้ที่มีอารมณ์โกรธอาจจะโยนอะไรมาโดนหัวซืออิ่งแทนที่จะโยนลงพื้น
หลินซินอี้นั่งคิดอยู่คู่นึงแต่ก็หาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมเมิ่งอี้หรานถึงมีนิสัยเปลี่ยนไปจากเดิม ตั้งแต่หายจากอาการป่วยก็เปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน ถึงขนาดที่กล้ามายกเอาอาหารของตนไป
วันเวลาผ่านไปหลายวันเมิ่งอี้หรานที่มาอยู่ในร่างนี้เริ่มทำตัวชินกับร่างนี้มากขึ้น และใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย มีคนคอยมารับใช้ตลอดเวลา
"คุณนายใหญ่คะนี่ก็ผ่านมา 7 วันแล้ว หลังจากที่เราไปสั่งตัดชุดไว้วันนี้เราออกไปรับชุดดีไหมคะ"
แม่นมจูพูดกับเมิ่งอี้ หราน ที่กำลังทานอาหารเช้าอยู่
"ในเมื่อถึงวันที่กำหนดก็ไปรับวันนี้เถอะจ้ะ"
เมิ่งอี้หรานกินข้าวเสร็จก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัว รีบออกไปจากบ้านตระกูลหาร แต่ครั้งนี้เมิ่งอี้หรานทออกไปทางด้านหน้าของตระกูลหาน
แต่ถึงเมิ่งอี้หรานจะออกหน้าประตู หรือหลังประตูก็ไม่มีใครมาสนใจว่าเมิ่งอี้หรานจะทำอะไรอยู่แล้ว เพราะคนในตระกูลหาน ไม่มีใครสนใจเมิ่งอี้หรานตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
"คุณนายใหญ่รถลากที่ชิงเยว่เรียกมา ถึงหน้าตระกูลหานแล้วค่ะ"
"ได้งั้นเรารีบไปกันเถอะแม่นม"
ชิงเยว่ที่ไปเรียกรถลากมา 3 คัน เพิ่งมาถึงหน้าประเมิ่งอี้หรานก็รีบขึ้นรถลากออกจากบ้านตระกูลหานอย่างรวดเร็ว
เมิ่งอี้หรานมาถึงร้านของซุนซูลี่ เจ้าของร้านตัดผ้าที่เมิ่งอี้หรานมาสั่งผ้าไว้ข้างก่อน
"คุณนายมาแล้วหรือคะฉันรออยู่นานแล้วรีบเข้ามาก่อนเถอะค่ะ"
ซุนซูลี่เมื่อเห็นเมิ่งอี้ หราน มาถึงหน้าร้าน ก็รีบออกมาทักทายด้วยรอยยิ้ม
"คุณซุนมีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงรอฉัน"
"ก็ที่คุณนายช่วยรักษาสามีฉันครั้งก่อน ขาของสามีฉันเริ่มขยับได้แล้ว แล้วก็ได้กินยาที่คุณนายสั่งทุกวัน สามีฉันบอกว่าขาของเขารู้สึกดีขึ้นมากมีกำลังเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถเดินได้"
ซุนซูลี่ตอบเมิ่งอี้หรานด้วยรอยยิ้ม เพราะหลังจากที่เมิ่งอี้หรานช่วยรักษาให้สามีของตน้ และได้กินยาที่เมิ่งอี้หรานสั่ง สามีของตนก็รู้สึกว่าดีขึ้นิ ทำให้สามีของตนมีกำลังใจที่จะกลับมาใช้ชีวตอีกครั้ง
"ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วละคะ ชุดที่ฉันสั่งตัดเสร็จหรือยังคะ"
"แน่นอนว่าเสร็จแล้ว 2 ชุดู ฉันตัดให้สุดฝีมือเลยค่ะ คุณนายเชิญเข้ามาก่อน"
เมิ่งอี้หรานเดินเข้ามาในร้าน ก็เห็นชุด 2 ตัวที่อยู่บนหุ่น 2 ที่ตั้งอยู่ในร้าน
"2 ชุดนี้ที่ฉันตัดเสร็จแล้ว ส่วนที่เหลือฉันก็จะพยายามตัดให้เร็วที่สุดเพราะฉันก็ยังมีงานที่ลูกค้าอื่นมาสั่งไว้ก่อนหน้านั้น"
"ไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องรีบ ค่อยๆทำฉันเชื่อในฝีมือของคุณซุนอยู่แล้วค่ะ"
เมิ่งอี้หรานเดินมาดูชุดที่อยู่บนหุ่น จับดูลวดลายของด้ายที่ปักลงบนผ้าอย่างละเอียด แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนของผู้ทำเป็นอย่างดี
"คุณนายใหญ่เป็นยังไงคะชอบไหม"
"ฉันชอบมากเลยแม่นม ถึงแม้ กี่เพ้าชุดนี้จะดูโบราณ แต่ก็ยังมีความทันสมัยผสมผสานกัน พอดูแล้วมันสวยและลงตัวมาก"
"ฉันได้ยินว่าคุณนายชอบ ฉันก็ดีใจแล้วล่ะค่ะ กี่เพ้ามีความโบราณฉันนำความคิดสมัยใหม่ของฉันมาประยุกต์ลงในกี่เพ้า ก็ฉันคิดว่าคุณนายยังสาวและสวยิ ถ้าจะทำกี่เพ้าในสไตล์โบราณก็อาจจะดูแก่เกินไป ฉันเลยนำมาประยุกต์ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้สมกับยุคสมัยและเหมาะสมกับคุณนายคะ"
ซุนซูลี่อธิบายให้เมิ่งอี้หรานฟังอย่างละเอียดถึงแนวคิดของตัวเอง แรกๆก็ตั้งใจจะตัดชุดตามที่ เมิ่งอี้หรานเลือกแบบเอาไว้แต่เมื่อเห็นว่าเมิ่งอี้หรานยังสาว และดูสวยมาก ถ้าจะใส่ชุดกี่เพ้าตามที่ร่างแบบเอาไว้ก็อาจจะดูแก่เกินไปเลยตั้งใจออกแบบใหม่เพื่อให้เข้ากับอายุของเมิ่งอี้ หรานมากที่สุด
"ขอบคุณจริงๆค่ะคุณซุน ฉันชอบชุดนี้มากฉันหวังว่าชุดต่อไปของฉันก็จะสวยเหมือน 2 ชุดนี้นะคะ"
เมิ่งอี้หรานจับชุดด้วยความหลงใหล ความโบราณและความสมัยใหม่บวกเข้ากันมันช่างลงตัวอย่างหาที่สุดไม่ได้
"แน่นอนค่ะ ในครั้งต่อไป ลฟฉันจะตั้งใจทำมันออกมาให้ดีที่สุด"
"ฉันเชื่อในฝีมือคุณซุนแล้วล่ะค่ะ ยังไงก็พาฉันไปหาสามีคุณซุนเถอะนะคะฉันจะไปดูขาของเขาหน่อย"
"ได้ค่ะ"
ซุนซูลี่เดินนำเมิ่งอี้หรานเข้าไปในห้องเดิมที่สามีตนอยู่ในครั้งก่อนที่เมิ่งอี้หรานเคยมาแล้ว
"พี่ซานดูสิใครมา"
"คุณนายมาแล้วหรือครับ"
เหอตงซานเมื่อเห็น เมิ่งอี้หรานก็พยายามอยากจะลุกขึ้นมาทักทาย
"คุณตงตามสบายเถอะค่ะฉันขอดูขาหน่อยนะคะ"
"ได้ครับ"
เหอตงซานดึงผ้าห่มที่คลุมขาของตัวเองออก เพื่อให้เมิ่งอี้หรานได้ดูขาของตัวเองชัดๆ
"หลังจากกินยาที่ฉันสั่งไปแล้ว 7 วัน มีความรู้สึกเป็นยังไงบ้างคะ"
"ผมรู้สึกว่ากล้ามเนื้อขาของผมมันกลับมาทำงานอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ผมก็ไปรักษามากับหลายคนแล้ว แต่ของคุณนายเพียงแค่ให้กับผมกินยาก็รู้สึกว่ามันดีขึ้น"
"ไม่ได้มีอะไรมากหรอกค่ะ ฉันแค่ให้กินยาคลายเส้นเพื่อให้เส้นไม่ทับกันเท่านั้นเอง็ ฉันมาวันนี้ฉันจะมาฝังเข็ม หลังจากนั้นคุณก็กินยาที่ฉันสั่งอีก 1 เดือนฉันคิดว่าขาของคุณก็สามารถกลับมาเดินได้ตามปกติ"
"ขอบคุณนายมากจริงๆครับ บุญคุณครั้งนี้ผมไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร"
เหอตงซานตอนแรกก็ไม่คิดว่าเมิ่งอี้หรานจะมีความสามารถขารักษาตนได้เพราะก็ไปหาหมอมาหลายคนแล้วก็ยังไม่หายสักที แต่หลังจากที่ได้กินยาที่ เมิ่งอี้หรานสั่งให้กินก็รู้สึกว่าขาของตนสามารถขยับได้นิดหน่อย ถึงแม้จะยังติดขัดอยู่บ้างแต่ก็เป็นสัญญาณที่ดี
"ถ้าอย่างนั้นก็ทนเจ็บหน่อยนะคะ คุณซุนฉันขอเตาไฟด้วยค่ะ"
"ได้ค่ะคุณนาย"
ซุนซูลี่ยกเตาไฟมาให้ เมิ่งอี้หรานใช้เข็มที่ให้แม่นมจูไปซื้อมาให้เมื่อหลายวันก่อน ออกมาเผาให้ร้อน แล้วก็นำไปแช่น้ำแล้วก็ฝังลงไปบนขาของ เหอตงซานอย่างรวดเร็ว
"อ๊าก เจ็บ เจ็บ"
เสียงร้องน่าสงสาร ที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ก่อนขาของเขาแทบจะไม่มีความรู้สึก แต่พอเมิ่งอี้หรานปักเข็มลงไปกลับรู้สึกเจ็บและทรมานมาก
"คุณเหอทนหน่อยนะคะผ่านช่วงเวลานี้ไปคุณก็จะกลับมาเดินได้แล้ว"
เมิ่งอี้หรานถึงแม้จะได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของเหอตงซานแต่ก็ยังเพ่งสมาธิฝังเข็มลงไปบนขาอย่างตั้งใจ็ เพราะหากเกิดการผิดพลาดแม้แต่น้อยการฝังเข็มครั้งนี้ก็จะสูญเปล่า
"ครับคุณนายผมจะยอมทนเจ็บ"
เหอตงซานตอบเมิ่งอี้หรานด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถึงแม้จะทรมานอยู่ก็ตาม
เมิ่งอี้หรานเข็มนับ 10 ลงบนขาเหอตงซาน
"เสร็จแล้วคะ รออีกหน่อยฉันถึงจะสามารถเอาเข็มออก แต่ต้องทนหน่อยนะคะ ช่วงที่เส้นกำลังจะคลายจะยิ่งรู้สึกเจ็บกว่าตอนปักหลายเท่า"
ซุนซุลี่นำผ้ามาให้สามีกัดเอาไว้ เพื่อระงับความเจ็บั และจับมือสามีเอาไว้อย่างแน่นเพื่อเป็นกำลังใจและผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดไปด้วยกัน เมิ่งอี้หรานเห็นภาพความรักของสองสามีภรรยาก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา ในชาติที่แล้วก็ไม่เคยมีความรักพอมาเกิดใหม่ก็ไม่ได้ความรักดีๆกับเขาสักที
"เป็นอย่างไรบ้างคะความเจ็บหายไปแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง"
เมิ่งอี้หรานถามเหอตงซานหลังจากที่ปักเข็มลงบนขา ผ่านมากว่า 1 ชั่วโมงแล้ว
"รู้สึกดีขึ้นมากเลยครับความเจ็บหายไป ผมรู้สึกมีกำลังมากขึ้น"
"ถ้าอย่างนั้นฉันจะดึงเข็มออกแล้วนะคะ ครั้งนี้ไม่เจ็บแต่จะเสียวๆหน่อย"
เมิ่งอี้หรานดึงเข็มออกอย่างรวดเร็ว จนแทบไม่รู้สึกว่าดึงออก เพราะความมือเบาของเมิ่งอี้หราน
"ผมแทบไม่รู้สึกเลยครับ บาง ว่ากำลังดึงเข็มออก ตอนผมยิ่งมีกำลังเพิ่มมากขึ้น"
"ดีแล้วล่ะค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็กินยาตามที่ฉันสั่งอีก 1 เดือน ในระยะเวลา 1 เดือนนี้ก็พยายามเดินหน่อยเดินทีละก้าว ก้าวสอง ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่ต้องรีบเดี๋ยวก็สามารถกลับมาเดินได้ตามปกติอย่างที่เราเคยเดินได้"
"ขอบคุณคุณนายจริงๆครับ ผมกับภรรยาไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรจริงๆ"
"ไม่ต้องตอบแทนอะไรฉันหรอกค่ะ แต่ฉันมีข้อเสนอมาให้พวกคุณสองคน"
"ข้อเสนออะไรหรือคะคุณนาย"
ซุนซูลี่ถามเมิ่งอี้หรานด้วยความสงสัย
"ฉันรู้สึกชื่นชอบในฝีมือของคุณซุนมาก ฉันจะเปิดร้านตัดชุดในเมืองหลวง พวกคุณสองสามีภรรยาสนใจจะมาเป็นหุ้นส่วนกับฉันไหมคะ คุณเหอเองก็สามารถกลับมาเดินได้แล้ว จะได้ช่วยคุณซุนดูแลร้านได้"
"แต่ฉันเองไม่มีกำลังมากพอ ที่จะไปไม่เป็นหุ้นส่วนกับคุณนายหรอกค่ะ เงินที่ฉันเก็บมาหลายปีก็ใช้รักษาพี่ซานไปหมดแล้ว"
"แต่ฉันสนใจในฝีมือการปักผ้าของคุณซุนจริงๆนะคะ ฉันจะเป็นคนจัดการเรื่องร้าน ฉันหวังว่าคุณสองคนจะกลับไปคิดเรื่องข้อเสนอของฉัน"
สองสามีภรรยาซุนซูลี่และเหอตงซานมองหน้ากันเหอตงซานพยักหน้าให้ ซุนซูลี่เพื่อเป็นการตอบตกลง
"ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะไปตามที่คุณนายก็ได้ ว่าแต่คุณนายจะให้ฉันไปทำอะไรบ้างหรือคะ"
"ฉันจะเป็นคนเปิดร้านให้เอง ส่วนคุณซุนก็มาเป็นหุ้นส่วนของฉัน ส่วนรายได้จากการตัดชุดจะแบ่งให้คุณซุน 30 ส่วนว่าอย่างไรดีล่ะคะ"
"30 ส่วนเลยหรือคะมันไม่มากไปหรือ แค่ค่าผ้าที่ใช้ตัดก็ต้องจ่ายเงินไปมากแล้ว"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงอย่างไรฉันก็ได้ผลตอบแทน ฉันไม่ต้องลงมืออะไรด้วยซ้ำ ฉันเชื่อในฝีมือของคุณซุน ถ้าออกไปเปิดร้านในที่ที่คนนิยมไปคนที่มีเงินจะต้องเข้ามาใช้บริการร้านของคุณซุนแน่นอนค่ะ"
"แต่ฉันยังมีชุดที่ลูกค้าสั่งไว้ก่อนหน้านั้น ฉันไม่สามารถทิ้งงานที่ลูกค้าสั่งไว้ได้"
ซุนซูลี่พูดมาด้วยความกังวล เพราะตนรับงานจากลูกค้าไว้จำนวนมาก เพราะอยากรีบนำเงินมารักษาสามี แต่ตอนนี้สามีก็หายดีแล้ว แต่ก็ยังมีงานที่ลูกค้าสั่งทำเอาไว้อยู่ถ้าจะทิ้งงานลูกค้าก็ไม่ดี
"ไม่เป็นไรเลยค่ะ คุณซุนสามารถทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จได้ เพียงแต่ไม่รับงานเพิ่มต่อจากนี้ก็พอแล้วคะ ส่วนเรื่องร้านฉันจะจัดการเอง ได้ยังไงเดี๋ยวฉันจะมาบอกอีกที "
"เอาตามที่คุณนายพูดเลยค่ะ ฉันยินดีมากที่จะได้ไปทำงานที่ร้านของคุณนาย"
"จะว่าเป็นร้านของฉันก็ไม่ใช่ พวกเราถือว่าเป็นหุ้นส่วนกันก็แล้วกัน "
"ก็ได้ค่ะ"
ซุนซูลี่รู้ยินดีมาก พูดกับเมิ่งอี้หรานด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุขสามีก็อาการดีขึ้นแล้ว ตนเองยังจะได้ไปเปิดร้านในย่านที่มีคนพุกพ่าน ก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
"ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันคงต้องกลับแล้ว"
"เดี๋ยวฉันจะนำชุด 2 ตัวที่อยู่ในหุ่นจัดใส่ถุงให้คุณนายนะคะ"
"ได้"
ซุนซูลี้นำชุดออกจากหุ่นจัดอย่างเรียบร้อยเพื่อจะให้เมิ่งอี้หรานนำกลับไป
"ได้แล้วค่ะคุณนายฉันว่า ถ้าคุณนายใส่ชุดนี้ออกมากคงจะดูสวยและสง่างามมาก"
"ขอบคุณค่ะฉัน จะจ่ายเงินค่าชุดให้ 2 ชุดนี้นะคะส่วนชุดที่เหลือฉันจะจ่ายให้ในวันที่ฉันมารับชุด"
"ไม่ต้องเลยค่ะคุณนายฉันรู้สึกเกรงใจเหลือเกินแค่คุณนายรักษาพี่ซานให้ฉันฉันก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว"
ซุนซูลี่พูดออกมาด้วยความเกรงใจและซาบซึ้งมากๆที่เมิ่งอี้หรานรักษาสามีของตนได้
"ไม่เลยค่ะคุณซุน ฉันจะไม่เอาเปรียบคนอื่นเด็ดขาด แค่นี้ถือว่าช่วยกัน อีกอย่างต่อไปนี้เราก็เป็นหุ้นส่วนกันแล้ว"
"ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่ขอเกรงใจ จะรับเงินที่คุณนายให้เอาไว้ค่ะ"
ซุนซูลี่รับจากเมิ่งอี้หรานเสร็จ เมิ่งอี้หรานก็กล่าวลาแล้วก็พาคนรับใช้ทั้งสองออกจากร้านไป
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว