นางหงครองภพ สยบมังกร-ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า

โดย  TonMaiBiYa

นางหงครองภพ สยบมังกร

ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า


เมื่อปล่อยให้เสี่ยวหงต่อสู้กับบรรดาสัตว์อสูรอีกนับสิบตัว ลี่หงก็มุ่งหน้าไปยังถ้ำขนาดเล็กที่มีกลิ่นอายของพลังที่แปลกประหลาดออกมาทันที แต่ก็ยังไม่วายเรียวหั่วหงผ่านทางพันธสัญญาให้มาช่วยฝึกซ้อมให้สาวใช้ตัวน้อยของตน


เมื่อมาถึงลี่หงก็มองสำรวจถ้ำตรงหน้าด้วยความแปลกใจ คิ้วเรียวงามขมวดมุ่นเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจในความแปลกประหลาดของถ้ำแห่งนี้


“ถ้ำมันจำเป็นต้องราบเรียบและเงางามขนาดนี้ไหม” ลี่หงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นด้วยความแปลกใจ เนื่องจากปากถ้ำ ผนังถ้ำ พื้นถ้ำ เพดานถ้ำ ตรงหน้าตนล้วนราบเรียบราวกับมีคนมาขัดถูกทำความสะอาดอยู่ทุกวัน


เมื่อเห็นว่าภายนอกถ้ำไม่มีอะไรน่าสนใจนอกจากความราบเรียบและเงางาม ลี่หงจึงเดินเข้าไปด้านในถ้ำทันที เมื่อเดินมาไม่ถึงห้าสิบก้าวก็พบเข้ากับทางตันที่มีผนังราบเรียบไม่ต่างจากส่วนอื่น หากผู้คนทั่วไปเดินเข้ามาก็จะคิดว่าเป็นเพียงโพรงที่มีคนมาขุดเจาะไว้เท่านั้น แต่ไม่ใช่กับลี่หงที่กำลังสอดส่ายสายตาไปยังผนังถ้ำเบื้องหน้า


“ฮึ่ม!! ในที่สุดก็เจอสักที!” ลี่หงหลังจากเดินมาสุดทางก็มองหาจุดที่มีพลังแปลกประหลาดรั่วไหลออกมา หากคนทั่วไปคงไม่อาจสัมผัสได้ถึงพลังแปลกประหลาดที่ว่า แต่ลี่หงที่ได้รับความรู้และความทรงจำมาจากท่านมหาเทพและท่านมหาเทพีแห่งพฤกษามีหรือที่พลังแปลกประหลาดแบบนี้จะรอดพ้นสัมผัสที่เฉียบคมของเจ้าตัวไปได้


เมื่อหาจุดที่พลังแปลกประหลาดรั่วไหลออกมาได้ ลี่หงก็สะบัดมือส่งลมปราณของตนไปยังรอยแตกที่อยู่บนผนังถ้ำที่ราบเรียบ หากไม่สามารถสัมผัสถึงพลังที่รั่วไหลก็คงไม่อาจเห็นรอยแตกนี้ได้


หลังจากที่ส่งพลังปราณเข้าไปตรวจสอบรอยแตกลี่หงก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นพลางถอนลมปราณกลับมา จากนั้นจึงนำกระบี่ไม้ที่หนักหนึ่งหมื่นจินออกมาถือไว้แล้วแทงไปยังรอยแตกนั้น


ฉึก! เสียงกระบี่ไม้ที่ไร้คมแทงเข้าไปยังรอยแตกกว่าครึ่ง เมื่อเห็นว่ารอยแตกดังกล่าวไร้ซึ่งการเปลี่ยนแปลงลี่หงจึงคิดถอนกระบี่กลับคืน ทว่าทันทีที่กระบี่ไม้ถูกถอนออกเพียงแค่ข้อนิ้วจู่ๆ ผนังถ้ำรอบกระบี่ก็ปริแตก


แกร๊ก! แกร๊ก! แกร๊ก! เสียงแตกร้านของผนังถ้ำดังขึ้นพร้อมกับที่รอยแตกเริ่มขยายออกไปจนทั่วทั้งผนังถ้ำ ในขณะที่รอยแตกเริ่มขยายใหญ่ขึ้นนั้นก็ปรากฏลมปราณแปลกประหลาดรั่วไหลออกมาเรื่อยๆ และไม่ได้มีเพียงลมปราณเท่านั้นยังมีน้ำไหลซึมออกมาอีกด้วย


เมื่อเห็นท่าไม่ดีลี่หงจึงรีบเก็บกระบี่และพุ่งออกจากถ้ำด้วยความรวดเร็ว ทางด้านหั่วหงเมื่อสัมผัสถึงพลังแปลกประหลาดที่รั่วไหลออกมาจากถ้ำที่เจ้านายของตนเข้าไปก็ขมวดคิ้วมุ่น แต่ไม่ทันที่จะได้ตามเข้าไปก็เห็นเจ้านายของตนพุ่งออกมาจากถ้ำด้วยความรวดเร็วก่อนที่จะมาหยุดอยู่ไม่ห่างจากตน เมื่อเห็นดังนั้นอสรพิษสาวจึงเอ่ยถามขึ้นมาทันที


“เกิดอะไรขึ้นข้างในหรอเจ้าคะลี่หง”


“อย่าพึ่งถามอะไรตอนนี้เลยหั่วหง เจ้ารีบพาเสี่ยวหงกลับจวนไปก่อน ฝากบอกท่านแม่ให้กำชับบ่าวไพร่ในจวนห้ามเข้ามาในหุบเขาเด็ดขาด” เมื่อได้ยินเสียงเฉียบขาดของลี่หง หั่วหงก็ไม่รอช้ารีบคว้าตัวเสี่ยวหงแล้วทะยานกลับขึ้นไปบนผาชมจันทร์ด้วยความรวดเร็ว


หลังจากหั่วหงจากไปไม่นานก็เกิดเสียงระเบิดดังก้องไปทั่วทั้งหุบเขาชมจันทร์


ตู้ม!!! สิ้นเสียงระเบิดลี่หงก็สัมผัสได้ถึงกลุ่มคนที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ด้วยกลัวว่าจะมีคนถูกลูกหลงจากการต่อสู้เจ้าตัวจึงเรียกพี่ชายของตนออกมาจากมิติพิเศษ


ทางด้านหลิวลี่หยาง เมื่อออกมาจากมิติพิเศษเจ้าตัวก็มองไปรอบตัวด้วยความงุนงง แต่ไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามสิ่งใดน้องสาวของตนก็ชิงพูดขึ้นก่อน


“อย่าพึ่งถามไถ่สิ่งใดเลยท่านพี่ ตอนนี้น้องอยากให้ท่านพี่ไปห้ามทหารของท่านไม่ให้เข้ามาในบริเวณนี้เด็ดขาด หากโดนลูกหลงบาดเจ็บล้มตายน้องจะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น” แม้จะยังไม่เข้าใจกับคำพูดของน้องสาวตน แต่ด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่ที่จริงจังทำให้รองแม่ทัพหนุ่มอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่น


แต่เมื่อมองไปรอบตัวอีกครั้งก็พบกับถ้ำเล็กๆ ที่ตนเคยเข้ามาสำรวจอยู่บ่อยครั้งระเบิดออกจนไม่เป็นชิ้นดี เมื่อเห็นดังนั้นรองแม่ทัพหนุ่มก็เข้าใจได้ทันทีว่าเหตุใดน้องสาวตนถึงได้เคร่งเครียดและจริงจังปานนั้น


แม้จะยังไม่เข้าใจสถานการณ์โดยรวมมากนัก แต่ด้วยความสามารถของน้องสาวของตนไม่ว่าสิ่งที่อยู่ภายในถ้ำนั้นจะเป็นสิ่งใดย่อมไม่คณามือน้องสาวของตนแน่นอน คิดได้ดังนั้นรองแม่ทัพหนุ่มจึงคิดจะทะยานกลับขึ้นไปด้านบนผาชมจันทร์


แต่ไม่ทันที่รองแม่ทัพหนุ่มจะได้ขยับตัวก็ปรากฏแรงกดดันมหาศาลระเบิดออกมาจากปากถ้ำที่ถูกเปิดกว้างด้วยแรงระเบิด ไม่เพียงแค่นั้นยังมีเสียงขู่คำรามดังออกมาจากถ้ำดังกล่าว


“ฟ่อ!!! เจ้ามนุษย์บัดซบตัวใดบังอาจมารบกวนการจำศีลของข้า” สิ้นเสียงขู่คำรามก็ปรากฏเงาร่างของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่กำลังคืบคลานออกมาจากปากถ้ำ พร้อมกับน้ำใสสะอาดทะลักออกมาเจิ่งนองไปทั่วทั้งพื้นที่


เมื่อเห็นร่างของสิ่งมีชีวิตที่ออกมาจากถ้ำ ลี่หงก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจพลางแค่นเสียงออกมาด้วยความหงุดหงิด


“เหอะ! มาอาศัยอยู่หลังบ้านผู้อื่นแล้วยังมาทำตัวอวดดีอีก เจ้าปลาไหลบัดซบนี่!” พูดจบลี่หงก็ยืนพิจารณาสิ่งมีชีวิตตรงหน้าที่มีลำตัวสูงใหญ่ราวสองเมตรยาวกว่าห้าสิบเมตร ตลอดทั้งลำตัวเต็มไปด้วยเกล็ดสีฟ้าขาวสดใสเงางาม


“อวดดีนักเจ้ามนุษย์ตัวจ้อย บังอาจมารบกวนการจำศีลของข้าทั้งยังกล้าเรียกข้าว่าปลาไหล แค่ชีวิตของเจ้าคงไม่เพียงพอต่อโทสะของข้าอสรพิษวารีผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้” สิ้นเสียงอสรพิษวารีตรงหน้า ลี่หงก็แค่นเสียงขึ้นมาอีกครั้ง


“ฮึ!! อาศัยเจ้าน่ะรึเจ้าปลาไหล ดูยังไงข้าก็ดูไม่ออกว่าเจ้าเป็นงูน้ำแต่อย่างใด อย่างเจ้าเป็นได้เพียงเพียงปลาไหลมีเกล็ดเท่านั้นแหละ” เมื่อได้ยินคำพูดของลี่หง อสรพิษวารีก็ระเบิดแรงกดดันระดับจักรพรรดิออกมาทันที


ด้วยแรงกดดันระดับจักรพรรดิขั้นเก้า ทำให้ทุกชีวิตที่อยู่ในเมืองหลวงมังกรทะยานต่างก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันอันหนักหน่วงที่กดทับลงมาได้อย่างชัดเจน


ณ อาคารแห่งหนึ่งในเมืองหลวงมังกรทะยาน มีชายชราที่พึ่งเดินทางกลับมาถึงทว่ายังไม่ได้พักให้หายเหนื่อยก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันหนักหน่วง


“ท่านพ่อนี่มันเกิดอะไรขึ้น แล้วแรงกดดันนี่มันอะไรกันขอรับ” ชายวัยกลางคนที่อยู่กับชายชราพูดขึ้นด้วยความตกใจ


“นี่มัน! แรงกดดันของสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิขั้นเก้า อีกก้าวเดียวมันคงจะทะลวงถึงระดับราชันย์แน่นอน แล้วมันมาทำอะไรที่เมืองมังกรทะยานแห่งนี้ เจ้าดูแลคนของเราอยู่ที่นี่ข้าจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น” พูดจบชายชราก็ทะยานจากไปทันที ไม่เพียงแต่ชายชราเท่านั้นบรรดาจอมยุทธระดับสูงต่างก็มุ่งหน้าไปยังจุดที่เกิดแรงกดดันทั้งสิ้น


เมื่อเจ้าปลาไหลระเบิดแรงกดดันระดับจักรพรรดิขั้นเก้าออกมา ลี่หงก็ไม่รอช้าระเบิดแรงกดดันออกมาเช่นกัน ก่อนจะหันไปรีบเร่งพี่ชายของตนให้ออกห่างจากจุดที่ตนอยู่


“ท่านพี่ถอยห่างออกไปจากที่นี่ก่อนเจ้าค่ะ ท่านพี่ในตอนนี้ยังสู้มันไม่ได้” ได้ยินดังนั้นลี่หยางก็ไม่รอช้ารีบทะยานจากไปทันที พลางจ้องมองมายังน้องสาวตนด้วยความเป็นห่วงและความรู้สึกผิด ทั้งที่ตนเป็นพี่และยังเป็นถึงรองแม่ทัพแต่กลับไม่สามารถยื่นมือช่วยเหลือน้องสาวตนในตอนนี้ได้


เมื่อหมดห่วงเรื่องพี่ชายแล้ว ลี่หงก็กันมาพูดกับปลาไหลมีเกล็ดตรงหน้า


“เจ้าสินะที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้เหือดแห้ง วันนี้เจ้าจงมารับโทษของเจ้าซะเจ้าปลาไหลมีเกล็ด หลังจากนั้นเจ้าจะต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า” พูดจบลี่หงก็ทะยานเข้าไปปะทะกับเจ้าปลาไหลมีเกล็ดตรงหน้าทันที


“หน็อย!! บังอาจนักเจ้ามนุษย์ตัวจ้อย คิดจะกินข้างั้นรึ! ไม่มีวันหรอก” เมื่อมันเห็นลี่หงพุ่งทะยานเข้ามา มันก็สะบัดหางเข้าปะทะทันที


เมื่อเห็นปลายหางเรียวเล็กที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้าที่กำลังพุ่งเข้ามาปะทะกับตน ลี่หงไม่รอช้ารีบยกกระบี่ไม้ที่หนักกว่าสามหมื่นจินเข้ามาต้านรับ


ปัง!!! เสียงปลายหางของเจ้าปลาไหลมีเกล็ดปะทะกับกระบี่ไม้ดังก้อง แต่ด้วยน้ำหนักที่มากกว่าสามหมื่นจินของกระบี่ทำให้ปลายหางน้อยๆ ที่ใหญ่เท่าเสาบ้านปลิวกระเด็นออกไปกระแทกเข้ากับหน้าผาที่อยู่ด้านหลัง


ตู้ม!!! อ๊าก!!! เสียงร้องโหยหวนของเจ้าปลาไหลมีเกล็ดดังขึ้น ด้วยการปะทะเพียงครั้งเดียวกระดูกหางของมันกลับแหลกละเอียดจนไม่มีชิ้นดี


“เจ้ามนุษย์โสโครก เจ้าทำอะไรกับหางข้า” ปลาไหลมีเกล็ดกรีดร้องขึ้นมาด้วยความเดือดดาล พลางจ้องมองลี่หงด้วยสายตาอาฆาตแค้น


ทางด้านลี่หง เมื่อเห็นสายตาของปลาไหลมีเกล็ดตัวเขื่องก็ยกยิ้มเยาะ


หึ! เมื่อเห็นท่าทางของมนุษย์ตรงหน้ามันก็ยิ่งเดือดดาล ด้วยความเดือดดาลที่มากล้นทำให้มันไม่สนใจหางที่ใช้การไม่ได้ของมันอีก พลางอ้าปากกว้างรวบรวมลมปราณไปยังปากของมันแล้วปล่อยศรน้ำออกมาจากปากหลายสิบอัน


แม้ระดับพลังของลี่หงในตอนนี้จะน้อยกว่าปลาไหลมีเกล็ดตรงหน้าหลายระดับ แต่ด้วยการที่เจ้าตัวสามารถฝึกฝนเคล็ดวิชาเหินเวหาจนถึงขั้นสูงสุดทำให้ความเร็วของศรน้ำของปลาไหลมีเกล็ดตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับเต่าป่วย ทำให้ลี่หงสามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย แถมท่าทางการหลบหลีกของลี่หงนั้นก็เพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อยทั้งยังส่งสายตาเยาะเย้ยยั่วโมโหไปให้ปลาไหลมีเกล็ดตรงหน้า


ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!! เสียงศรน้ำหลายสิบอันกระทบฟื้นดังก้องไปทั่วทั้งเมืองหลวงมังกรทะยาน


เมื่อมันเห็นว่ามนุษย์ตัวจ้อยสามารถหลบหลีกศรน้ำที่มันปล่อยออกไปได้อย่างง่ายดาย มันก็อ้าปากกว้างแล้วพุ่งเข้าหาหมายจะกลืนกินลี่หงลงท้องของมัน


เมื่อเห็นเจ้าปลาไหลมีเกล็ดอ้าปากกว้างหมายจะกลืนกินตน ลี่หงก็ยกยิ้มเหี้ยมขึ้นมา


พรึบ!! พริบตาที่ปากกว้างของเจ้าปลาไหลน้อยก็เข้าใกล้ลี่หงในระยะสิบเมตร แต่จู่ๆ ลี่หงก็หายตัวไปจากครรลองสายตาของมันแล้วก็ไปปรากฏตัวที่ปลายหาง


“เจ้าจะกินข้าใช่ไหม” พูดจบลี่หงก็บรรจงสะกิดกระบี่ไม้ที่หนักกว่าสามหมื่นจินในมือไปยังหางของเจ้าปลาไหลมีเกล็ด


ตู้ม!! อ๊าก!!! เมื่อหางส่วนที่ยังคงมีสภาพดีถูกสะกิด เจ้าปลาไหลมีเกล็ดก็กรีดร้องโหดหวนด้วยความเจ็บปวด ร่างกายอันยาวเหยียดหลายสิบเมตรของมันดิ้นพล่านจนผืนดินสั่นสะเทือน ไม่ว่ามันจะสะบัดตัวหลบหลีกเท่าไหร่การสะกิดของมนุษย์ที่มันเห็นว่าอ่อนแอก็ยิ่งทวีความรวดเร็วและรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น


“เอ้า!! เอาสิ มากินข้าสิ เข้ามากินข้าอีกสิ เจ้าจะหนีทำไม” ลี่หงพูดขึ้นในขณะที่มือและเท้าก็ยังคงเคลื่อนไหว และบรรจงสะกิดเจ้าปลาไหลมีเกล็ดไปด้วย


จากปลายหางค่อยๆ ขยับเข้ามาทีละนิด จนตอนนี้เจ้าปลาไหลมีเกล็ดตัวเขื่องถูกลี่หงสะกิดจนกระดูกแตกร้าวไปกว่าครึ่งแล้ว


ลี่หยางที่มองดูภาพการต่อสู้? ตรงหน้าด้วยความรู้สึกสงสารปลาไหลมีเกล็ดที่ไปสะกิดต่อมโทสะของน้องสาวตน


ส่วนเจ้าปลาไหลมีเกล็ดตอนนี้มันได้แต่คร่ำครวญด้วยความโศกเศร้าเสียใจ พลางคิดว่าตัวมันนั้นผิดอะไร ด้วยมันที่เป็นถึงอสรพิษวารีที่เข้ามาจำศีลอยู่ในถ้ำแห่งนี้มานานหลายร้อยปี ตั้งแต่มันยังเป็นอสรพิษวารีตัวน้อยๆ


ในตอนนั้นมันหลบหนีจากการตามล่าสังหารจากพวกมนุษย์จนมาเจอถ้ำแห่งนี้และบังเอิญค้นพบความลับของถ้ำ มันจึงปิดผนึกและอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีเป้าหมายว่าเมื่อมันบรรลุสู่ระดับราชันย์มันจะออกไล่ล่าสังหารพวกมนุษย์ให้หมดสิ้น


แต่ทว่าจู่ๆ ผนึกที่ปิดกั้นถ้ำแห่งนี้ถูกทำลายทำให้มันโมโหเป็นอย่างมาก มันจึงคิดจะออกมาระบายโทสะกับตัวบัดซบใดก็ตามที่มาก่อกวนมัน แต่ใครจะคาดคิดว่าวันนี้มันจะต้องมาตายด้วยน้ำมือของตัวบัดซบตรงหน้า ที่ดูยังไงก็อ่อนแอกว่าตัวมันหลายระดับ


เสียงร้องโหยหวนของเจ้าปลาไหลมีเกล็ดตัวเขื่องดังก้องไปทั่วเมืองหลวงมังกรทะยาน ทำให้ผู้คนที่มีระดับพลังต่ำกว่าระดับจักรพรรดิขั้นสูงต่างก็หวาดกลัวจนไม่กล้าขยับตัว ไหนจะแรงกดดันที่หน้าหวาดหวั่นที่สามารถสังหารพวกตนได้อย่างไม่ยากเย็น ไหนจะเสียงร้องโหยหวนที่น่าหวาดกลัวที่ดังก้องนั่นอีก


แม้ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงจะสัมผัสและได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ของลี่หงกับปลาไหลมีเกล็ด? แต่คนในตระกูลหลิวกลับไม่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากการหั่วหงและสัตว์อสูรตนอื่นๆ ส่งแรงกดดันออกมาหักล้างนั่นเอง


เดิมทีลี่หงคิดจะเล่นกับเจ้าปลาไหลมีเกล็ดนี่อีกสักพัก แต่จู่ๆ เจ้าตัวก็สัมผัสได้ถึงกลุ่มคนหลายสิบคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ทำให้ลี่หงจำต้องรีบจัดการปลาไหลมีเกล็ดตรงหน้าเพื่อไม่ให้ใครรับรู้ถึงความสามารถของตน


“ต้องรีบจัดการแล้ว หากมีคนมาเห็นคงเป็นเรื่องใหญ่แน่” พูดจบลี่หงก็หายตัวไปจากจุดที่ยืนอยู่แล้วไปโผล่บนหัวของเจ้าปลาไหลมีเกล็ด จากนั้นจึงโคจรลมปราณไปยังกระบี่ไม้แล้วก็ตวัดกระบี่ไม้ผ่านหัวของเจ้าปลาไหลมีเกล็ดด้วยความรวดเร็ว


ฉึบ!!! ตุ๊บ!! เสียงกระบี่ไม้ตัดผ่านศีรษะขนาดใหญ่ของเจ้าปลาไหลมีเกล็ดราวกับตัดผ่านเต้าหู้ ตามมาด้วยเสียงศีรษะขนาดใหญ่ตกสู่พื้นดิน จากนั้นลี่หงก็เข้าไปเก็บร่างขนาดยักษ์ของเจ้าปลาไหลไว้ในมิติด้วยความรวดเร็ว แล้วมุ่งหน้าไปหาพี่ชายของตนที่ยืนเบิกตากว้างอยู่บนผาชมจันทร์


เมื่อมาถึงจุดที่พี่ชายตนเองอยู่ ลี่หงก็ไม่รอช้ารีบพูดขึ้นทันที


“ท่านพี่ตอนนี้มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ หากมีใครถามให้น้องจัดการเองตกลงตามนี้นะเจ้าคะ” หลังจากลี่หงพูดจบไม่ไกลจากทั้งสองก็ปรากฏกลุ่มคนนับสิบ แถมแต่ละคนยังมีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิทั้งสิ้น เมื่อกลุ่มคนกลุ่มดังกล่าวเห็นลี่หงและลี่หยางยืนอยู่ตรงผาชมจันทร์ก็เข้ามาสอบถาม


“ยัยหนูลี่หง นี่มันเกิดอะไรขึ้นงั้นรึ!” เมื่อลี่หงได้ยินเสียงเรียกก็หันไปมองด้วยความแปลกใจ เพราะตนไม่ได้เป็นที่รู้จักของผู้คนในเมืองหลวงมังกรทะยานแห่งนี้แต่กลับมีคนมาเอ่ยทักตน แต่เมื่อเห็นว่าคนที่เอ่ยทักตนเป็นใครลี่หงก็ยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้น


“คารวะท่านปู่โจวหยวน ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ” ลี่หงเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใส จนทำให้ชายชราและคนที่ตามมาอดยิ้มด้วยไม่ได้


“คารวะท่านผู้อาวุโสโจวหยวน” เมื่อลี่หงพูดจบ ลี่หยางก็เอ่ยขึ้นตามทันที มีใครบ้างจะไม่รู้จักผู้อาวุโสโจวหยวน อดีตประมุขตระกูลโจวและเป็นเจ้าของหอการค้าและโรงเตี๊ยมตระกูลโจวที่โด่งดัง


“ไม่ต้องมากพิธีไป เรียกข้าอย่างน้องสาวเจ้าเรียกเถอะ ว่าแต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นงั้นรึ” ชายชราพูดขึ้นพลางจ้องมองไปยังด้านล่างผาชมจันทร์ ที่มีน้ำไหลทะลักออกมาจากปากถ้ำทั้งยังมีสีแดงฉานเจิ่งนองไปทั่วบริเวณ


“มีผู้อาวุโสท่านหนึ่งต่อสู้กับสัตว์อสูรตรงนี้เจ้าค่ะท่านปู่โจวหยวน” ลี่หงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นราวกับตนพึ่งจะเคยได้เห็นการต่อสู้ที่สุดแสนอลังการเป็นครั้งแรก จนลี่หยางอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวให้กับน้องสาวของตน


“เจ้าพูดจริงรึยัยหนู!” ชายชราอีกคนพูดขึ้น พลางมองมาทางลี่หงด้วยสายตาคาดคั้น


“เจ้าค่ะ มันเป็นงูยักษ์ตัวสีฟ้าตัวใหญ่มากๆ เลยเจ้าค่ะ” ได้ยินดังนั้นแต่ละคนก็ยิ่งงุนงงและไม่เข้าใจ พลางส่งสายตาไปหาลี่หยางที่ดูน่าเชื่อถือมากกว่า เมื่อเห็นสายตานับสิบคู่จ้องมายังตนลี่หยางก็พูดขึ้น


“อย่างที่น้องสาวข้าพูดขอรับ มีท่านผู้อาวุโสท่านหนึ่งต่อสู้กับอสรพิษวารีระดับสูงตัวหนึ่งที่นี่” เมื่อได้ยินคำยืนยันจากลี่หยางแต่ละคนก็พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเบนสายตาไปมองยังสถานที่ต่อสู้ด้านล่าง จากนั้นโจวหยวนก็พูดขึ้นอีกครั้ง


“เหตุใดจึงไม่มีใครรู้ ว่ามีสัตว์อสูรระดับนี้มาเพ่นพ่านไกลถึงเมืองหลวง” ได้ยินดังนั้นกลุ่มชายชราก็พูดคุยกันด้วยความไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดจึงมีสัตว์อสูรระดับสูงแบบนี้หลุดเข้ามาถึงเมืองหลวงได้ ในขณะที่แต่ละคนกำลังถกเถียงกันอยู่นั้นเสียงเล็กๆ ของลี่หงก็ดังขึ้น


“เอ่อท่านผู้อาวุโสเจ้าคะ ข้าได้ยินเจ้างูยักษ์ตัวนั้นมันคุยกับท่านผู้อาวุโสท่านนั้นด้วยเจ้าค่ะ” ได้ยินดังนั้นสายตานับสิบคู่ก็จดจ้องมายังร่างเล็กที่แสนบอบบาง?


“คุยอะไรกันงั้นรึยัยหนู”


“คุยอะไรกันข้าก็ไม่รู้รายละเอียดหรอกเจ้าค่ะ แต่ข้าได้ยินว่าเจ้างูยักษ์ตัวนั้นมันจำศีลอยู่ที่ถ้ำด้านล่างเจ้าค่ะ ข้ากับท่านพี่มาถึงหลังจากถ้ำด้านล่างระเบิดออกพร้อมกับเจ้างูยักษ์ตัวนั้นออกมาจากด้านในถ้ำเจ้าค่ะ” ได้ยินดังนั้นแต่ละคนก็ยิ่งขมวดคิ้วมุ่น แต่ก็มีบางคนที่เคยมาสำรวจถ้ำด้านล่างแล้วก็พูดขึ้น


“ที่เจ้าพูดมามันจริงงั้นรึยัยหนู ถ้ำนั่นเล็กออกอย่างนั้นแล้วสัตว์อสูรระดับสูงแบบนั้นจะเข้าไปอยู่อาศัยได้ยังไง” ชายชราคนหนึ่งพูดขึ้น เพราะมันคิดว่าที่ลี่หงพูดมาคงจะจริงบ้างเท็จบ้างตามประสาเด็ก


แต่กับผู้อาวุโสโจวหยวนนั้นกลับเชื่อทุกคำพูดของลี่หงจึงทะยานลงไปด้านล่างด้วยความรวดเร็ว เห็นดังนั้นผู้อาวุโสแต่ละคนก็รีบทะยานตามลงไป


“จริงอย่างที่ยัยหนูนั่นพูดไม่มีผิด เดิมถ้ำแห่งนี้สูงราวสามเมตรเท่านั้น แต่ดูตอนนี้สิมันสูงใหญ่กว่าหกเมตรเสียอีก แถมเศษหินเศษดินยังระเกะระกะอยู่ไปทั่ว แล้วนี่มันอะไรกันทำไมถึงมีน้ำออกมาจากถ้ำนี่ได้” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความตกใจ ไม่เพียงแต่ถ้ำจะระเบิดจนเปิดกว้างเท่านั้นแต่กลับมีน้ำสะอาดไหลซึมออกมาจากถ้ำมากมาย


“ข้างในถ้ำคงมีตานี้อยู่ แต่ด้วยอสรพิษวารีที่ปิดกั้นเส้นทางน้ำทั้งมันยังต้องอาศัยอยู่ในน้ำตลอดเวลา แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่ามันมาอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้วทำไมไม่มีใครรู้เลยแม้แต่คนเดียว” ผู้อาวุโสโจวหยวนพูดขึ้นด้วยความแปลกใจ แต่ในขณะนั้นก็มีผู้อาวุโสอีกคนพูดขึ้น


“จริงอย่างที่ท่านผู้อาวุโสโจวหยวนพูด หนำซ้ำมันยังมาจำศีลอยู่ในที่ที่เปรียบดั่งปราการธรรมชาติของเมืองหลวงแบบนี้ หากมันบรรลุระดับสูงแล้วออกอาละวาดในเมือง ข้าไม่อยากคิดเลยว่าผู้คนจะล้มตายไปมากแค่ไหน”


“ใช่ๆ ยังดีที่มีคนมาพบเจอมันก่อน ทั้งยังสามารถกำจัดมันลงได้อีกแต่ว่าผู้อาวุโสท่านนั้นเป็นใครกัน สามารถสังหารอสรพิษวารีระดับจักรพรรดิขั้นเก้าได้ไม่ถึงครึ่งเค่อด้วยซ้ำ”


“หรือว่าจะเป็นท่านเจ้าสำนักมังกรฟ้า” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น


“ก็อาจจะเป็นไปได้” จากนั้นบรรดาชายชราพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่งแล้วไปสำรวจพื้นที่ที่เกิดการต่อสู้ แต่กลับไม่ปรากฏร่องรอยการต่อสู้มากนัก มีเพียงถ้ำที่ระเบิดและหน้าผาบางส่วนถูกกระแทกอย่างแรงจนแตกร้าวถล่มลงมากองอยู่ที่พื้น จากนั้นบรรดาชายชราก็แยกย้ายกันกลับไป


รีวิวจากผู้อ่าน 24 รีวิว
  • Mine Ohho
    เมื่อ 6 ปี 10 เดือนที่แล้ว
    สนุกมากกกกเลยยค่าา
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • Nittaya Chaiyasit
    เมื่อ 6 ปี 11 เดือนที่แล้ว
    ในธัญวลัยอัพนำไปเยอะ หสม.ไม่อัพแล้วรึคะ
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • พยอล
    เมื่อ 6 ปี 11 เดือนที่แล้ว
    ยังรอต่อไปค่ะ
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • Nittaya Chaiyasit
    เมื่อ 6 ปี 11 เดือนที่แล้ว
    หายไปนานมาก ไม่อัพต่อแล้วรึคะ
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • ณรงค์ 11
    เมื่อ 6 ปี 11 เดือนที่แล้ว
    ขอบคุณ รออ่านต่อ
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • พยอล
    เมื่อ 6 ปี 11 เดือนที่แล้ว
    มาเถอะนะรออยู่จ้า
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • พยอล
    เมื่อ 6 ปี 11 เดือนที่แล้ว
    รอลุ้นอาทิตย์หน้าว่าจะมาหรือเปล่านะ.............
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • silverwolf
    เมื่อ 6 ปี 11 เดือนที่แล้ว
    ขอบคุณครับ
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • พยอล
    เมื่อ 7 ปี 22 ชั่วโมงที่แล้ว
    รอต่อไปนะค่ะ....
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • พยอล
    เมื่อ 7 ปี 2 วันที่แล้ว
    จะตั้งตารอตอนต่อไปค่ะ...สนุกมากเลย
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • อี้เซียวไน่เหอ ต้าเสิน
    เมื่อ 7 ปี 2 วันที่แล้ว
    หายเป็นอาทิตย์ สงสัยเลิกแล้ว
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • พยอล
    เมื่อ 7 ปี 3 วันที่แล้ว
    ตอนต่อไปจะมาเมื่อไหร่นะ
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • พยอล
    เมื่อ 7 ปี 3 วันที่แล้ว
    รอตอนต่อไปค่ะ
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • Voyardger
    เมื่อ 7 ปี 5 วันที่แล้ว
    ว้าว มีอาหารชั้นเลิศแล้ว
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า
  • พยอล
    เมื่อ 7 ปี 6 วันที่แล้ว
    รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
    • อ่านถึง : ตอนที่ 59 : เจ้าต้องมาเป็นมื้อเย็นของข้า

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว