เธอแรง迷人的她-บทที่ 2 เทพธิดาสนามบิน

โดย  โปรเจคพิเศษ by Hongsamut

เธอแรง迷人的她

บทที่ 2 เทพธิดาสนามบิน

‘ภูเขาจันทรา...Mountain Moon’

ซีรีส์เรื่องนี้กำลังจะเริ่มถ่ายทำ ผู้กำกับเข้าร่วมงานแถลงข่าวพร้อมกับเหล่านักแสดงนำ

บนหน้าจอหลินเฉินดูสวยและมีเสน่ห์ ยืนอยู่ข้างๆ ก็คือหานเยี่ยนที่กำลังโด่งดังที่สุดในตอนนี้

ผู้กำกับชื่อดังและทีมโปรดักชันใหญ่ ซีรีส์เรื่องนี้ยังไม่ทันได้ออกอากาศก็ดังเป็นพลุแตกแล้ว

จ้าวเซิ่งเทียนปัดผมเปียกบนหัวไหล่บางออก จูบบนใบหน้าบอบบาง

หลังจากเขาจุดไฟ หนานซื่อก็ยังคงดูโทรทัศน์ด้วยความตั้งใจ

จ้าวเซิ่งเทียนทั้งหิวและกระหายถามเสียงแหบพร่าว่า “มีอะไรเหรอ?”

หนานซื่อชี้ไปที่โทรทัศน์ “ฉันอยากแสดงเรื่องนี้”

ไม่ใช่ว่าจ้าวเซิ่งเทียนไม่เคยสนับสนุนนักแสดงหญิง

แต่โดยทั่วไปแล้วเขาไม่ต้องการเสียเวลากับเรื่องนี้มากเกินไป เพียงแค่คิดถึงก็โยนผลประโยชน์ออกไปให้บ้างเล็กน้อยเท่านั้น

เขาไม่ชอบเวลามีคนมาขออะไรจากตัวเอง

หยกทงหลิงอยากเตือนหนานซื่อให้ระวังว่าความรู้สึกดีของจ้าวเซิ่งเทียนลดลง แต่จอมมารไม่สนใจอะไรเลย เขาจำใจกลืนคำพูดกลับไป

สิ่งที่หยกทงหลิงไม่คิดฝันก็คือวันที่สองหลังจากที่หนานซื่อบอกว่าอยากเล่นละครเรื่องภูเขาจันทรา สัญญาการแสดงก็ถูกส่งมา แถมยังเป็นบทนางเอกอีกด้วย

หยางเยี่ยนดีใจจนเนื้อเต้นยิ้มปากจะฉีก สายตาที่มองหยวนเจินเจินเหมือนกับกำลังดูต้นไม้เงินต้นไม้ทอง

ซีรีส์กำลังจะเริ่มถ่ายทำ อีกทั้งยังมีนักแสดงแนวหน้าเข้าร่วม พอหยวนเจินเจินบอกว่าอยากได้ก็ส่งมาให้ถึงมือ นับวันกลยุทธ์ของหยวนเจินเจินชักจะแรงขึ้นเรื่อยๆ

“ประธานน้อยจ้าวโทรมาบอกว่ากำลังจะเดินทางไปทำธุรกิจ ให้เธอดูแลตัวเองให้ดี”

หนานซื่อพยักหน้าเฉยๆ ดูไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น “ช่วงนี้ฉันต้องตั้งใจศึกษาบท เรื่องไหนที่บอกปัดได้ก็บอกปัดไปเลยนะ”

หยางเยี่ยนไม่ขัดอะไรหลังจากตอบตกลง จู่ๆ ก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ถามออกไปอย่างลังเล “เจินเจิน แม่เธอกลับมาจากพักผ่อนแล้ว อย่าลืมโทรไปทักทายล่ะ”

อันที่จริงไม่จำเป็นที่หยางเยี่ยนต้องเตือนเรื่องแบบนี้

แม่ลูกหยวนสนิทสนมกันดี มิหนำซ้ำหยวนเจินเจินยังเป็นลูกกตัญญู เชื่อฟังแม่หมดทุกเรื่อง ช่วยแม่จ่ายหนี้พนันให้ได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา กล่าวได้ว่าแม่คือชีวิตของหยวนเจินเจินเลยทีเดียว

แต่หยวนเฟิ่งเหม่ยดูเหมือนจะไม่ได้รักลูกสาวอะไรมากมาย

ตอนที่หยวนเจินเจินอยู่ในสภาพย่ำแย่เพิ่งเข้าสถานบำบัด หยวนเฟิ่งเหม่ยก็ไม่สนใจเดินทางไปท่องเที่ยวในยุโรป เที่ยวมากว่าครึ่งปีในที่สุดก็คิดกลับบ้านสักที

หนานซื่อตอบรับแบบขอไปที จากนั้นก็ลืมไปสนิท

ตอนที่หยวนเฟิ่งเหม่ยเปิดประตูบ้านเข้ามา หนานซื่อกำลังนั่งอ่านสคริปต์และแกล้งลูกหมาไปด้วย

หยวนเฟิ่งเหม่ยกวาดมองรอบบ้านก็พบว่าเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดถูกเปลี่ยนใหม่ ของที่ลูกสาวใช้ก็แพงที่สุดและดีที่สุด เธอถามด้วยความประหลาดใจ “ไปเอาของมาจากไหน?”

หนานซื่อตอบด้วยความใจเย็น “ก็ซื้อมาด้วยเงินไง”

หยวนเฟิ่งเหม่ยตะลึง “ได้เงินมาจากไหน? เงินอยู่ในบัญชีฉันหมดแล้วไม่ใช่เหรอ?”

เมื่อก่อนเงินเดือนของหยวนเจินเจินจะฝากเข้าบัญชีของหยวนเฟิ่งเหม่ยอัตโนมัติ โดยเหลือไว้เพียงค่าใช้จ่ายพื้นฐานเท่านั้น หลังจากที่หนานซื่อเข้าสวมร่างก็ยกเลิกทั้งหมด เปิดบัญชีใหม่ไม่ได้ส่งเงินสักหยวนให้กับหยวนเฟิ่งเหม่ยอีก

หยวนเฟิ่งเหม่ยหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาตรวจสอบบัญชีก็เกิดความไม่พอใจ เก็บกดอารมณ์เอ่ยเกลี้ยกล่อม “เจินเจิน แม่ดูแลการเงินให้ลูกมาตลอด เรื่องบัญชีใช้จ่ายซับซ้อนมาก แม่กลัวว่าลูกจะไม่มีเวลาน่ะ”

หนานซื่อนั่งพิงบนโซฟา เสียงหวานพลิ้วพลางยิ้ม “แม่ไม่ต้องห่วง ฉันทำเองได้”

หยวนเฟิ่งเหม่ยหงุดหงิดขึ้นทันที “แม่บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้! เห็นหยางเยี่ยนบอกว่าช่วงนี้ลูกเพิ่งรับโฆษณาชิ้นใหญ่ รายได้ไม่ใช่น้อยๆ แน่ โอนเข้าบัญชีแม่ซะ จะได้ไม่จับจ่ายสิ้นเปลือง”

หนานซื่อปฏิเสธ

หยวนเฟิ่งเหม่ยกระทืบเท้า “ลูกกล้าขัดใจแม่เรอะ!”

หนานซื่อถามขึ้นอย่างกะทันหัน “แม่ เงินที่เมื่อก่อนฉัน ‘ฝาก’ ไว้ล่ะอยู่ที่ไหน?”

พอหยวนเฟิ่งเหม่ยได้ยินประโยคนี้ก็มีท่าทางลุกลี้ลุกลน แกล้งทำเสียงดังขึ้น “ก็เคยบอกไว้แล้วนี่ เงินของลูก แม่ก็เก็บเอาไว้ในบัญชีอย่างดีนั่นแหละ”

หนานซื่อแอบหัวเราะเยาะเย้ยอยู่ในใจพลางเค้นเสียงขึ้นจมูก

หยวนเฟิ่งเหม่ยแกล้งเลื่อนหน้าแอปพลิเคชันไปมาก็หาอะไรไม่เจอ ในใจเริ่มอึดอัด ยิ่งเมื่อเห็นว่าลูกสาวไม่ให้ทางถอยเหมือนแต่ก่อน ก็รู้สึกไม่สบายใจและสับสนมากขึ้น บังคับตัวเองให้เกลี้ยกล่อมมากขึ้น

แม้ว่าจะใช้เงินหมดแล้ว แต่ตราบใดที่หยวนเจินเจินหาเงินได้มากขึ้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในอนาคต หากถูกถามอีกก็คิดคำตอบเอาไว้แล้วหลายชั้น ไม่พลาดแน่

อย่างไรซะเธอเป็นแม่ของหยวนเจินเจิน ลูกสาวหาเงินให้แม่ใช้ก็เป็นเรื่องปกติ

หยวนเฟิ่งเหม่ยเปลี่ยนหัวข้อเริ่มบ่นเรื่องอื่นยาวยืด

หนานซื่อก้มลงทาเล็บสบายๆ คำพูดของหยวนเฟิ่งเหม่ยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่อยากฟังสักนิดเดียว

น่ารำคาญ

ทั่วทั้งฟ้าดินไม่เคยมีใครกล้าชี้นิ้วเบื้องหน้าจอมมารหนานซื่อ ยัยแก่นี่เป็นใครอยากตายนักใช่ไหม?

หยกทงหลิงพลิกตัวกลับจากจิตสังหารรุนแรงเพราะกลัวว่าหนานซื่อจะฆ่าหยวนเฟิ่งเหม่ย วูบเดียวก็คิดได้ว่าพลังของหนานซื่อถูกผนึกไว้อย่างสมบูรณ์ ไม่สามารถร่ายเวทในสามพันโลกได้ เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ยาทาเล็บสีแดงสดทำให้มือขาวขึ้น หยกทงหลิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจคนสวยแม้แต่เล็บก็สวย ทาเล็บเสร็จแล้ว หนานซื่อก็หมดความอดทนพอดี พูดแทรกหยวนเฟิ่งเหม่ยอย่างไม่แยแสชี้ไปทางประตู “ฉันเหนื่อยอยากนอนแล้ว”

หยวนเฟิ่งเหม่ยผงะเพราะไม่เคยถูกลูกสาวปฏิเสธแบบนี้มาก่อน ใบหน้าหูคอแดงก่ำขึ้นทันที “เจินเจิน พูดกับแม่แบบนี้ได้ยังไง?!”

หนานซื่อขี้เกียจจะไม่สนใจ ก้มหน้าเป่าเล็บถามด้วยรอยยิ้มไม่เชิงยิ้ม “แล้วต้องพูดยังไงแม่สอนสิ”

หนานซื่อไม่อยากสานสายสัมพันธ์รักแม่ลูกกับหยวนเฟิ่งเหม่ย แม้ว่าโลกพิภพระดับล่างจะเทียบกับสิบพิภพไม่ได้ แต่ก็เป็นสิ่งแปลกใหม่ดี เธอพร้อมจะสนุกเต็มที่ แต่ไม่เคยคิดที่จะจมปลักในความสัมพันธ์ทางศีลธรรมดีงามใดๆ

หยวนเฟิ่งเหม่ยคิดจะพูดเรื่องความลำบากตรากตรำในการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวให้หยวนเจินเจินสงสาร ไม่ว่าจะต่อต้านแค่ไหน เมื่อไรที่หยวนเจินเจินได้ฟังเรื่องนี้ก็จะอ่อนลงทันที

ทันทีที่กำลังจะเปิดปากพูดก็เห็นสายตาของหนานซื่อ

นัยน์ตาสื่อว่า ‘ทำไมยังไม่ไปอีก?’

หยวนเฟิ่งเหม่ยถลึงตาคว้ากระเป๋าถือสะบัดหน้าเดินออกจากประตูไป

หนานซื่อโทรลงไปที่ฝ่ายทรัพย์สิน “ฉันต้องการเปลี่ยนเป็นประตูล็อกไฟฟ้า แล้วก็ต่อไปไม่ว่าใครมาหาฉัน ถ้าไม่ได้รับอนุญาตก็ห้ามปล่อยเข้ามา"


จ้าวเซิ่งเทียนรู้สึกไปเองว่าไม่ได้ติดต่อกับหยวนเจินเจินมานาน

ทั้งที่จริงเวลาเพิ่งผ่านมาสิบวันเท่านั้น แต่กลับรู้สึกเหมือนจากกันหลายเดือน

คิดถึงภาพร่างนุ่มนิ่มถูกกดบนเตียงบังคับให้ยอมจำนน ส่ายหน้าไปมาด้วยอารมณ์เร้าร่อนแฝงความดื้อรั้นไม่เต็มใจ

ตลอดสิบวันที่ผ่านมาเขาไม่สนใจที่จะมีเซ็กส์กับผู้หญิงคนอื่น

เธอไม่ควรพูดแบบนั้นกับเขา ผู้หญิงคนก่อนที่ขอแบบนั้นก็มีแต่เสียกับเสีย สุดท้ายเขาเบื่อหน่ายต้องโยนทิ้ง

ที่จริงเขาไม่ต้องการแย่งบทละครเรื่องนั้นให้เลยสักนิด

แต่เขาไม่เพียงแค่คว้ามาเท่านั้น ยังเอาบทนางเอกมอบให้เธอกับมืออีกด้วย

จ้าวเซิ่งเทียนลูบขมับ มุมปากยืดเป็นเส้นตรงนึกถึงบางเรื่องได้ โทรศัพท์หาผู้กำกับหยวนด้วยตัวเอง

วันนี้เป็นวันแรกของการถ่ายทำละครเรื่องภูเขาจันทรา

ผู้ช่วยเตือนเป็นพิเศษตามคำสั่ง

ทักทายกันเรียบร้อย จ้าวเซิ่งเทียนก็ขอให้เขาดูแลหยวนเจินเจินให้ด้วย

เมื่อผู้กำกับหยวนได้รับโทรศัพท์ก็รู้สึกประหลาดใจมาก คุณจ้าวที่ปกติจะใช้รูจมูกเพื่อดูผู้คน ไม่ด่าก็ถือว่าโชคดีแล้ว แต่วันนี้กลับใช้น้ำเสียงสุภาพพูดคุยกับคนที่ไม่สำคัญอย่างพวกเขาเหรอ?

เขารับปากติดกันหลายครั้ง

เพิ่งจะวางสาย จ้าวเซิ่งเทียนก็เริ่มหงุดหงิด

เยอะล่ะ แย่งแล้วก็แย่งไปสิ ไม่จำเป็นที่เขาต้องสั่งให้คนดูแลหยวนเจินเจินเป็นพิเศษสักหน่อย

จ้าวเซิ่งเทียนขมวดคิ้วแน่นขึ้น

ข้อความที่เขียนเอาไว้ยาวเหยียด ค่อยๆ ถูกลบออกทีละตัว...ละตัว

ช่างเถอะ ปล่อยให้เธออดต่อไปอีกสักสองสามวัน


อีกด้านหนึ่งของกองถ่ายซีรีส์ภูเขาจันทรา

คนทั้งกองถูกกรมอุตุนิยมวิทยาหลอกไหนบอกว่าวันนี้แดดดี นี่ขนาดเที่ยงก็ยังมืดครึ้มไปหมด

ไม่ใช่ว่าท้องฟ้าอึมครึมแล้วถ่ายทำไม่ได้ แต่มนุษย์มักมองเห็นแต่ภายนอก เมฆหนาทึบแบบนี้ให้ความรู้สึกโชคร้าย

หลินเฉินที่ถูกถีบกลายเป็นนางรองมาช้าไปถึงสองชั่วโมง ทุกคนต้องมานั่งแกร่วรอในบรรยากาศแบบนี้ เห็นชัดว่าเธอทำเป็นประจำจนไม่รู้สึกผิดอะไร กลับพูดสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “ขอโทษ” ไม่มีแม้แต่คำอธิบาย พุ่งตัวตรงไปยังห้องแต่งตัวทันที

หลินเฉินเป็นคนที่นักลงทุนแนะนำมา ผู้กำกับหยวนเห็นว่าบุคลิกดีและทักษะการแสดงใช้ได้ก็ให้รับบทไป

ช่างแต่งหน้าต้องใช้เวลาในการแต่งหน้าให้กับหลินเฉินมากกว่าปกติ ใบหน้าเธอมีจุดบกพร่องชัดเจน ผิวหยาบกร้านแห้ง จุดฝ้ากระมีทั่ว ปกติรอยพวกนี้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ปัญหาเหล่านี้จะขยายใหญ่เมื่ออยู่ต่อหน้ากล้อง

ช่างแต่งหน้ามีประสบการณ์มากสามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ดีเยี่ยม งัดฝีมือเต็มที่เพื่อทำให้ใบหน้าของหลินเฉินสมบูรณ์แบบและปกปิดข้อบกพร่องที่อาจเปิดเผยเมื่ออยู่หน้ากล้อง

หลินเฉินกลับเร่งยิกๆ คิดว่าช่างแต่งหน้าไม่ได้เรื่อง ไม่เคยคิดว่าปัญหามาจากตัวเองเลย

วันนี้เธอต้องเปิดตัวสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ว่าหน้าไหนก็เทียบไม่ได้


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว