มังกรซ่อนหัวใจ-11: สาวงามสกุลเหอ

โดย  TayidaG.

มังกรซ่อนหัวใจ

11: สาวงามสกุลเหอ

ที่อารามเล่งจื๊อ..

คุณหนูของเสี่ยวชิงยามนี้นั่งคุกเข่าก้มหน้าไม่กล้าเปิดปากโต้แย้ง ยิ่งเมื่อท่านป้าปรายหางตามองด้วยความไม่พอใจนางยิ่งต้องทำหน้าสำนึกผิดให้มากกว่าเดิมหลายเท่า เสี่ยวชิงนั้นเล่าได้แต่หมอบตัวกับพื้นมิกล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองผู้เป็นนาย ก่อนนี้คนทั้งอารามถูกส่งออกไปค้นหาตามแนวป่าสน ป่าไผ่ ทั้งด้านหน้าด้านหลัง คณะที่มาจากจวนสกุลเสวี่ยนั้นต่างร้อนใจที่คุณหนูคนเดียวของสกุลเสวี่ย จู่ๆหายตัวไปจากวัด หลายคนถามไถ่คนที่มาอารามแห่งนี้กลับไม่มีใครได้เจอ แต่ถึงเจอก็คงไม่อาจจะระบุได้ว่าเป็นบุตรสาวของจวนสกุลเสวี่ยเนื่องจากนางปกปิดหน้าตามิดชิดและมิใคร่ได้เจอผู้คน

เสี่ยวชิงไม่ได้โดนฮูหยินซื่อหยวนเอ็ดใส่ เนื่องจากรู้นิสัยหลานสาวของนางได้ดีว่าซุกซนขนาดไหน แม้แต่มาถึงวัดเล่งจื๊อก็ยังต้องให้อยู่แต่ในห้องพักส่วนตัว ไม่ให้ไปปะปนกับกับผู้คนในอาราม ที่ยามนี้มีหลายสกุลมารวมกันในอารามแห่งนี้เพื่อขอพร ถือศีลกันแน่นขนัด แม้จะแยกเป็นสัดส่วนก็ตาม ฮูหยินซื่อหยวนนั้นยังคงไม่ไว้ใจหลานสาวคนเดียวของนางเกรงว่าจะก่อเรื่องซุกซนให้ปวดหัวอีก นางอยู่สนทนากับท่านเจ้าอาวาสอยู่ในห้องโถง กว่าจะรู้ว่าหลานสาวหายตัวไปก็ตกค่ำ เสี่ยวชิงนั้นรายงานด้วยอาการร้องไห้ไปคร่ำครวญไปด้วยความผิดที่ปล่อยสายตาจากคุณหนูของนาง

ยามนี้คุณหนูกลับมารับโทษจากฮูหยินซื่อหยวนโดยไม่ปริปาก ก็ยิ่งทำให้เสี่ยวชิงต้องเจ็บปวดใจยิ่งขึ้น เข่าของคุณหนูนั้นคงจะบวมเป่งไปแล้วกระมัง เสี่ยวชิงรอจนฮูหยินก้าวเดินจากห้องนี้ไปนางจึงได้เงยหน้าขึ้นมาได้ ถอนหายใจหนักหน่วง เร่งไปหาอาหารในครัวมาป้อนใส่ปากคุณหนูด้วยความสงสารจนน้ำตาคลอเบ้า

“คุณหนูไปไหนเจ้าคะ รู้หรือไม่ฮูหยินท่านจุดพลุส่งข่าวไปให้คุณท่านทราบ..”เสี่ยวชิงถามเบาๆ

“ข้าไปเดินเล่น”

“หิมะตกหนักขนาดนี้ ไม่เกรงจะเป็นหวัดเลยหรือเจ้าคะ เสี่ยวชิงไม่นึกเลยคุณหนูหัดโกหกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ฮูหยินโกรธมากนะเจ้าคะ ทำไมไม่บอกความจริงกับฮูหยินเล่าเจ้าคะ โทษหนักจะได้เป็นเบา”

“เอาเถิดน่า เสี่ยวชิง แค่คุกเข่าสี่ห้าชั่วยาม ข้าไม่ตายหรอกน่ะ ว่าแต่ท่านป้าคุยกับเจ้าอาวาสว่าอย่างไรบ้างได้เรื่องหรือเปล่า ตกลงแล้วข้าจะได้บวชชีหรือไม่ได้?”

เสี่ยวชิงส่ายหน้าไปมาทั้งน้ำตา นางป้อนข้าวคุณหนูไปพลางน้ำตาไหลริน

“ท่านซือไท่อิงหวา ไม่อาจจะให้วิธีนี้แก่ฮูหยินได้เจ้าค่ะ ขัดราชโองการของฮ่องเต้ก็น่ากลัวพอแล้ว ซือไท่อิงหวามิกล้าพาพวกศิษย์วัดไปเสี่ยงกับการตัดสินใจของฮูหยินท่าน ได้ยินว่าแม้แต่ให้คุณท่านมาเอ่ยปากด้วยตนเองก็ไม่แน่ว่าจะมีใครกล้ารับปากเรื่องนี้ เรื่องในราชสำนักยุ่งเหยิงกว่าที่คิด เราเป็นแค่คนธรรมดา ขนาดท่านพ่อของคุณหนูเคยเป็นถึงแม่ทัพไร้พ่ายองค์หวงตี้อุตส่าห์ยื่นมือมาช่วยเหลือแล้ว ไม่นึกเลย..ไท่โฮว่จะชอบเอาชนะ แล้วไหนจะจวนอ๋องโม่หยางอีกเล่า..ฮูหยินได้แต่เจ็บปวดกับคำปฏิเสธของซือไท่อิงหวา แต่ก็น่าเห็นใจท่านนะเจ้าคะ ชีวิตผู้คนจะมาแลกเปลี่ยนแค่คนๆเดียวได้อย่างไร นี่ถ้าเสี่ยวชิงเปลี่ยนตัวกับคุณหนูได้เสี่ยวชิงก็ยอมตายแทนคุณหนูแล้วเจ้าค่ะ”

เสวี่ยอวี้หลันกลืนข้าวลงท้องไปพลางย่นหน้าตนเองไปพลาง ฟังสาวใช้ที่รับใช้สกุลเสวี่ยมานานบ่นพร่ำไม่หยุดก็นึกเห็นใจ นางครุ่นคิดอย่างตัดใจ

“ข้าอิ่มแล้วเสี่ยวชิง เจ้าไปพักผ่อนเถิด”

“ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ เสี่ยวชิงจะอยู่เป็นเพื่อนคุณหนูจนกว่าจะหมดเวลาลงโทษทัณฑ์จากฮูหยิน”

“ข้าทำให้ท่านป้าเสียใจมาก..”

“ใช่ค่ะ ฮูหยินกำลังเครียดเรื่องราชโองการของไท่โฮ่ว”

“ฮ่องเต้มีพระราชอำนาจมากกว่าผู้ใดในแผ่นดิน แต่ไม่นึกเลยยามนี้องค์ไท่โฮ่วกลับเหนือกว่าหวงตี้..ไม่แน่ว่าท่านพ่อของข้าจะกล้าขัดพระทัยนางได้..”เสวี่ยอวี้หลันถอนหายใจเฮือก นางรู้แล้วว่าการบวชชีหนีพระเสาวนีย์ของไท่โฮ่วนั้นมิใช่เรื่องง่าย

“แต่คุณหนูยังไม่ได้บอกเสี่ยวชิงเลยนะเจ้าคะ ว่าคุณหนูแอบไปเดินถึงไหนกัน ระยะห้าลี้รอบเขาลูกนี้บ่าวกับคนของอารามช่วยกันค้นหาคุณหนูเป็นชั่วยามแล้วกลับไม่เจอ แม้แต่แม่ทัพเหลยอี้ที่ไปตามหาคุณหนูเหอพี่น้องนั่นก็ยังบอกว่าไม่เห็นผู้ใดเลย..”

เสวี่ยอวี้หลันย่นจมูกของนาง

“จะเห็นได้อย่างไรเล่า ในเมื่อข้าแอบอยู่”เสี่ยวชิงทำตาโต

“แอบ? แอบทำไมเจ้าคะ”

“แม่นางเหอ สองคนนั้นประมือกันรุนแรงมาก จนข้าอดใจไม่ได้ต้องตามไปดู เสี่ยวชิง ดูๆไปแล้วข้าว่าแม่นางเหอคน น้องนั้นร้ายกาจไม่เบา ทั้งสีหน้าแววตา อ่านยากยิ่งนัก ดีไม่ดี ข้าว่าเหอหนิงเซียนคงไม่มีวันตามนางทันแน่ ตำแหน่งฮองเฮาของหวงตี้พระองค์นี้ดูท่าจะไม่พ้นมือนางไปได้..”

“อย่างไรเล่าเจ้าคะ คุณหนู เสี่ยวชิงไม่เห็นว่านางจะงดงามล่มเมืองเท่าพี่สาว แม้จะสวยก็ดาษดื่นเท่านั้น เสี่ยวชิงแน่ใจว่าหวงตี้พระองค์นี้คงจะไม่ได้เลือกฮองเฮาด้วยพระองค์เองแน่เจ้าค่ะ เพราะถ้าให้เลือกด้วยพระองค์เองแล้ว มีหรือตำแหน่งฮองเฮาจะหนีพ้นมือของคุณหนูของเสี่ยวชิงไปได้..”เสี่ยวชิงตอบโต้อย่างถือดี พลางกวาดสายตามองคุณหนูของนางด้วยแววตาชื่นชม

“อืม..ถ้าข้าจำต้องล่มเมืองได้ขนาดนั้นก็คงสวรรค์ลำเอียงแล้วล่ะเสี่ยวชิง หวงตี้พระองค์นี้ ได้ยินว่าไม่เคยเสด็จวังหลังมาหลายปีแล้ว ตอนนี้สนมชั้นในมีนับพันคน พวกนางคงเหี่ยวแห้งเฉาตายไปแล้วกระมังถึงได้คัดเลือกใหม่อีกแล้ว สามปีที่แล้วข้ายังวิ่งเล่นบนหิมะในป่าสนได้ มาปีนี้ท่านป้ากลับห้ามข้าทุกอย่างเลย นี่ข้าไม่ควรจะโตเลยใช่ไหมเสี่ยวชิง..ข้าอยากกลับไปเป็นเด็ก จะได้ให้พี่เฮ่อหลงพาขี่หลังวิ่งเล่นได้..แย่จริง ทำไมเป็นคนโตถึงได้ยุ่งยากนัก”

เสี่ยวชิงเองก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้ นางเลื่อนผ้าห่มคลุมไหล่คุณหนูเพิ่มอีกผืนหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไป เสวี่ยอวี้หลันนั่งคุกเข่าไปก็หวนคิดไปถึงชายอัปลักษณ์ผู้นั้นด้วยหัวใจที่เต้นรุนแรง

คนพรรคมารหรือว่าคนของทางราชสำนักกันแน่ที่ตามล่าเขา? ไม่นึกเลยว่าชายผู้นี้จะมีโชคดีเหลืออยู่ที่บังเอิญมาเจอกับนางจึงได้ยาถอนพิษได้ทัน ไม่เช่นนั้นป่านนี้คงไปเฝ้ายมโลกไปแล้ว เสวี่ยอวี้หลันถอนหายใจ หวังว่าท่านพ่อจะจัดการให้เขากลับลงจากเขาโดยเร็ว นางไม่อยากให้ใครมาตกตายในเขาลูกนี้หรอกนะ อารามเล่งจื๊อเป็นที่พักผ่อนของท่านป้า และที่นี่เปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองของนางหลายชั่วยามผ่านไป ทั้งนายทั้งบ่าวกลับนั่งโงนเงนไปมาด้วยอาการง่วงนอน เสวี่ยอวี้หลันสะดุ้งตื่นในคราหนึ่ง นางรีบยืดตัวตั้งตรงเมื่อเห็นผู้เป็นป้ากลับมาที่ห้องนี้อีกครั้ง

“ท่านป้า..”

“กลับไปนอนได้แล้วอวี้เอ๋อร์ ต่อไปอย่าทำให้ป้าเจ้าต้องอายุขัยสั้นลงแบบนี้อีก”

เสวี่ยอวี้หลันยิ้มแย้มกับน้ำเสียงดุๆของนางรับคำเสียงอ่อยเอาในลำคอท่าทีสำนึกผิด

“เจ้าค่ะ ท่านป้า..”ฮูหยินซื่อหยวนส่ายหน้าไปมา ก่อนจะทอดสายตามองสาวใช้แวบหนึ่ง เสวี่ยอวี้หลันรีบกระตุกชายเสื้อของเสี่ยวชิงจนนางผวาตื่น

“มาช่วยข้าเร็ว เสี่ยวชิงขาข้าแข็งไปหมดแล้ว”

อนิจจา เสวี้ยอวี้หลันเพิ่งรู้สึกว่าสองขานางนั้นแทบใช้การไม่ได้แล้ว เสี่ยวชิงหัวเราะคิกคัก ก่อนจะช่วยพยุงคุณหนูของนางกลับห้องพัก สุดท้ายแล้วเสวี่ยอวี้หลันนั้นถูกเสี่ยวชิงนั่งนวดเข่าและทายาให้จนครึ่งเค่อผ่านไป นางผล็อยหลับในยามใกล้รุ่งโดยมีเสี่ยวชิงนั้นฟุบหลับอยู่ข้างๆ



รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว