รถยนต์คันหรูหยุดจอดอยู่หน้าผับขนาดใหญ่ในย่านใจกลางเมือง สายตาคมมองลอดหน้าต่างออกไปด้วยความสงสัย ก่อนหันไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พร้อมถอนหายใจออกมา
“พี่ไม่อยากให้ณินท์รับงานนี้เลยรู้ไหม” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง พร้อมกับหันไปมองหน้าผันสีถูกส่องด้วยไฟสีชมพูก่อนหันกลับมาอีกครั้งด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
“แต่ณินท์รับปากไปแล้วนี่คะว่าจะทำงานนี้...” เธอเอ่ยขึ้น พลางเงยหน้าสบตาชายหนุ่มด้วยแววตาอ้อนวอน
ณัฐภัทรยิ้มบาง ๆ ให้หญิงสาวพร้อมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงนุ่ม “พี่รู้ครับ งั้นเดี๋ยวพี่จะตามณินท์ไปทุกที่เลย...”
“พี่ภัทรกับณินท์ไม่ได้ตัวติดกันสักหน่อย”
ชายหนุ่มโน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างใบหูของหญิงสาวด้วยรอยยิ้มและนำเสียงที่ละมุนชวนคนฟังแทบเคลิ้มไปทันที “ถึงตัวไม่ติดกัน...แต่หัวใจของพี่ก็ไปอยู่ที่ณินท์แล้ว แบบนี้ไม่เรียกว่าติดกันได้ยังไง จริงไหมครับ ?”
“พี่ภัทรบ้า” เธอมองใบหน้าคมเข้าที่หัวเราะออกมา
แบบนี้เขาเรียกว่าบอกรักได้หรือเปล่านะ
“พี่บ้า...แต่ณินท์ก็รับหัวใจพี่ไปแล้วใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มถามโดยไม่ต้องการคำตอบ เพราะคำตอบนั้นได้ถูกสรุปเองไปเรียบร้อยแล้ว
“…” เธอก้มหน้าหลบสายตาที่จ้องมองด้วยความเขินอาย
“ณินท์ไปทำงานดีกว่าค่ะ” หญิงสาวพูดขึ้น ก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินลงจากรถไป เพราะถ้าหากยังพูดต่อไปวันนี้คงไม่ได้ทำงานอย่างแน่นอน
ชายหนุ่มหัวเราะกับอากัปกิริยาของหญิงสาวก่อนจะเปิดประตูลงจากรถตามหญิงสาวเข้าไปในผับ
สายตาคู่หวานมองไปรอบ ผับที่เปิดเสียงดนตรีดังสนั่นจนแสบแก้วหู ก่อนจะหันไปมองข้างหลังให้อุ่นใจ เพื่อแน่ใจว่าชายหนุ่มนั้นได้เดินตามเธอมา เป็นครั้งแรกที่เธอต้องเข้ามาทำงานในผับแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกไม่อยากมาทำทั้งที่ก็เฉยชินกับสายตาหื่นของบรรดาผู้ชายที่จ้องมอง หรือว่าเธอกำลังกลัวเขาหึงกันแน่ จิรภาณินท์สะบัดความคิดฟุ้งซ่านออกพร้อมเดินเข้าไปข้างในเรื่อย ๆ
อย่าลงตัวเองมากยัยณินท์ บางทีทุกอย่างอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
ณัฐภัทรเดินตามหลังหญิงสาวไปอย่างใกล้ชิด ทั้งที่รู้สึกหึงแทบจะระเบิดออกมาเมื่อเห็นสายตาของชายหนุ่มอายุมากน้อยมองหญิงสาวตาไม่กระพริบ ชายหนุ่มได้แต่พยายามมองผ่าน ๆ พร้อมพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ ทั้งยังย้ำเตือนกับตัวเอง
งานนี้จะให้เป็นงานสุดท้าย ครั้งหน้าจะไม่มีอีก
สองเท้ายาวของจิรภาณินท์ยังคงเดินไปเรื่อย ๆ ก่อนหยุดชะงักลงเมื่อมีเสียงชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยเรียกขึ้น
“น้องผู้หญิงที่มารับงานเดินแบบในคืนนี้ใช่ไหมครับ” น้ำเสียงเป็นมิตรเอ่ยทักจากข้างหลัง เธอและชายหนุ่มหันกลับไปมองคนตรงหน้า
ชายหนุ่มใบหน้าเรียว สีผิวขาวอายุราวยี่สิบตอนปลายมองใบหน้าสวยตรงหน้าอย่างชอบใจ
“ใช่ค่ะ” เสียงหวานตอบ
“งั้นเชิญที่ห้องแต่งตัวเลยนะครับ” ชวินชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าเรียวชวนหญิงสาวด้วยสายตาที่จับจ้องมองจนณัฐภัทรยืนแทบอยากจะไปกระชากคนที่จ้องมองหญิงสาวออกแล้วลากไปไกล ๆ
ณัฐภัทรภัทรอดทนเก็บสีหน้าเรียบนิ่งราวกับไม่รู้สึกสิ่งใด ๆ ทั้งที่ใจของแทบระเบิดออกมา เขาได้แต่เดินตามไปโดยไม่ปริปากพูดสักคำ
จิรภาณินท์เดินตามไปข้างในผับ สองเท้าหยุดมองอยู่หน้าประตูที่เปิดแง้มออกมาพอเห็นบรรยากาศข้างใน แทนทำให้เธอไม่อยากที่จะทำงานนี้อีกเลย
บรรยากาศข้างในเต็มไปด้วยนางแบบที่จะมาเดินงานก็จริง แต่ละคนถึงได้เรียกว่าดูสวยกันทุกคน แต่ยิ่งดูก็ไม่ใช่เหมือนขาดคน เพราะนางแบบที่มาทำงานไม่มากมายขนาดนี้ ! เครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้าเธอยังไม่เห็นสักนิดเลย มีแต่พวกผู้หญิงนั่งดื่มแต่หน้าทาปากเหมือนกับเสริมความสวยธรรมดามากกว่า
ไหนผู้จัดการของเธอบอกว่าเป็นงานยังไงล่ะ
“ข้างในนี้แหละครับ” ชวินเอ่ยขึ้นสีหน้าของเขาแสดงถึงความตื่นเต้นออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ทันให้คนทั้งสองสังเกตเห็นทัน
จิรภาณินท์พยักหน้ารับ สายตามมองข้างในด้วยความลังเล ก่อนจะคิดทบทวนอีกครั้ง เธอคงคิดมากไปเอง บางที่อาจเป็นปกติของคนที่นี่ก็ได้
“ค่ะ” จิรภาณินท์ตอบสั้น ก่อนจะก้าวเข้าไปหยุดที่หน้าประตูมองอย่างช่างใจอีกครั้ง
“เข้าไม่ได้ครับ ต้องรอที่ข้างนอกโน้น” ชวินพูดเสียงสูงพร้อมส่งสายตาไล่ณัฐภัทรไม่ให้เข้าไปข้างใน
จิรภาณินท์รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย จึงหันไปมองณัฐภัทรที่ยืนเถียงกับชายหนุ่มใบหน้าเรียวด้วยความสงสัย พร้อมเดินเข้าไปหา
“มีอะไรเหรอคะ” น้ำเสียงใสเอ่ยถามขึ้น
“คือผู้ชายคนนี้จะเข้าไปด้วย มาส่งเป็นเพื่อนเฉย ๆ ไม่ใช่หรือครับ” ชวินพูดพร้อมยิ้มด้วยรอยยิ้มมีชัย
“เปล่าค่ะ คือ...” ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงดี สีหน้าของจิรภาณินท์เริ่มแสดงถึงความหนักใจ
“งั้นผมไล่ให้นะครับ” ชวินเอ่ยพูดอย่างไม่เกรงใจณัฐภัทร จนคนที่ยืนฟังเริ่มอดทนไม่ไหวขึ้นไปทุกที
“ไม่ได้ค่ะ พี่ภัทรเขาเป็น...เป็น...”
“เป็นแฟนณินท์” ณัฐภัทรเอ่ยเสียงเข้มพร้อมเดินเข้าไปโอบไหล่บางของหญิงสาวด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่แววตาที่เขามองมายังชวินนั้นบ่งบอกได้ว่า ผู้หญิงของเขา ห้ามยุ่ง!
“ยังไงก็เข้าไม่ได้ครับ” ชวินพูดขึ้น
“ถ้าผมเข้าไม่ได้ผมก็คงให้แฟนผมทำงานนี้ไม่ได้เหมือนกัน”
ณัฐภัทรได้ทีสวนขึ้นกลับบ้าง เขายิ้มที่มุมปากด้วยชัยที่เหนือกว่า
“เป็นคำสั่งของนายผมไม่กล้าขัดหรอกครับ”
“งั้นผมก็คงต้องกลับพร้อมกับแฟนของผม” ณัฐภัทรพูดขึ้นเสียงเข้ม ชายหนุ่มไม่รีรอที่จะฟังคำตอบ เขาตัดสินใจลากจิรภาณินท์ออกจากผับโดยเร็วที่สุด
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว