ทรายสวาททาสอสูร

บทที่ 14.2



ทันทีที่ประตูปิดลงอย่างสนิท ร่างสูงก้มลงครอบครองริมฝีปากอวบอิ่มอย่างหิวกระหายระคนอ่อนหวาน ขณะที่มือใหญ่ก็ช่วยถอดซิบชุดเกาะอกสีชมพูลงอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งปลดกระดุมเสื้อของตัวเอง มือเล็กปัดป่ายไปทั่วร่างแข็งแรงอยากสัมผัสเนื้อตัวแข็งแรงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อให้มากกว่านี้

โลแกนดันแผ่นหลังเล็กติดผนัง ไล้ริมฝีปากร้อนรุ่มอ้างับเนื้ออ่อนตรงลำคอขาวนวล ชวนให้คนถูกงับสะท้านไหว ส่งเสียงครางฮือ มือเล็กจิกแผ่นหลังแน่นกระชับ แหงนใบหน้าเปิดทางให้เขารุนรานได้ตามแต่ใจ ตอนนี้ความคิดอ่านของเธอนั้นถูกยากระตุ้นอารมณ์กดไว้อย่างเต็มที่ พร้อมจะทำตามที่ร่างกายเรียกร้อง อยากให้เขาสัมผัสให้มากกว่านี้ แต่ไม่รู้จะต้องทำอย่างไร

“อือ...ร้อน...”

หญิงสาวครางได้เท่านั้นก็บิดตัวไปมาราวกับจะยั่วเย้า ฝ่ามือใหญ่รูดชุดเกาะอกลงมากองอยู่ตรงปลายเท้า และเขี่ยมันออกไปราวกับเป็นแค่เศษผ้าเท่านั้น

ตอนนี้เขาสนใจร่างเล็กอวบอิ่มในสัดส่วนที่สตรีพึงมี ไม่ว่าจะเป็นอกอิ่มซ่อนตัวอยู่ในบาร์ไร้สายสีขาว เอวคอดกิ่วรับกับสะโพกผายภายในแพนตี้สีเดียวกัน ซึ่งไม่อาจเก็บความอวบอูมได้มิด และจัดการถอดมันออกจนเผยให้เห็นร่างงามนวลเนียนสะท้อนกับแสงโคมไฟสีส้ม

“สวยมาก”

เขาครางออกมาเหมือนคนละเมอ พร้อมปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนออกอย่างไม่ไยดีต่อราคาของมัน สายตาจับจ้องไปยังร่างเปลือยบิดเร้าไปมา สบตาเขาด้วยสายตาปรือฉ่ำ ถึงจะผ่านประสบการณ์รักมาพอสมควร แต่เขากลับตื่นเต้นมากกว่าครั้งแรกที่มีอะไรกับเพื่อนสาวในตอนมัธยมปลายเสียอีก

อา...สวยกว่าที่คิดไว้เสียอีก เร้าใจเป็นบ้าเลย!

“ช่วย...ด้วย..”

“ผมจะช่วยคุณเดี๋ยวนี้แหละ ทูนหัว...” เขาพึมพำ ก้มลงซุกไซ้ไปยังลำคอนวล ไล้เรียวปากมายังไหล่เนียน แต่มาธวีกลับครางประท้วงที่เขาเอาแต่หยอกล้อ ไม่ยอมทำอะไรที่มากกว่านี้ซักที

“อื้อ!”

“อย่าใจร้อนสิ คนสวย ผมไม่ชอบเซ็กส์จานด่วน ขอชิมคุณอีกสักนิดนะ”

“อือ...อ๊า!!” หญิงสาวครางอย่างพึงพอใจ เมื่อปากอุ่นอ้างับยอดทรวงชูชัน ปลายลิ้นไล้ดื่มชิมอย่างลุ่มหลง เหมือนคนอดอยากมานาน

ชายหนุ่มไม่เถียงว่าเขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ หลังจากโหมทำงานมานานนับเดือน และต้องเดือนทางมาเจรจาธุรกิจที่มาเลเซีย ก่อนกลับอเมริกา เขาก็ขอมาเที่ยวบาหลีสักหน่อย ไม่คิดว่าจะมาเจอสาวสวยถูกใจเข้า ถึงเธอจะเป็นโสเภณี เขาก็ไม่นึกรังเกียจ ก็เรือนร่างของเธอสวยงามสะกดตาและใจขนาดนี้ ใครปล่อยไปก็โง่แล้ว...

ฝ่ามือใหญ่เคล้นคลึงทรวงอกอีกข้างที่ยังว่างอยู่อย่างพึงพอใจ ไม่คิดว่าหญิงสาวไซส์เล็กอย่างเธอ จะมีหน้าอกหน้าใจที่พอเหมาะกับมือขนาดนี้ ที่สำคัญยังแน่นตึงราวกับไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน

โลแกนละริมฝีปากออก เลื่อนขึ้นมามอบจุมพิตร้อนที่ปากนุ่มอย่างเร่าร้อน กวาดชิมความหอมหวานที่ชิมเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ แม้จะแปลกใจบ้างที่คนในอ้อมแขนจูบตอบกลับมาอย่างไม่ประสา และอุ้มหญิงสาวไปที่เตียงกว้าง โดยที่ริมฝีปากของทั้งคู่ไม่ผละจากกันแม้แต่น้อย

มาธวีครวญครางไม่หยุด ยามที่ฝ่ามือใหญ่ร้อนรุ่มลูบไล้ไปทั่วทุกสัดส่วน ไหนจะปากซุกซนที่ขบเม้มประทับตราไปทั่วเรือนร่าง ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้คืออะไร แต่เธอพอใจและต้องการมันอย่างยิ่งยวด ก่อนจะสะดุ้งเฮือก เกร็งตัวและครางลั่นกว่าเดิม เมื่อปลายนิ้วแทรกลึกเข้ามาในร่างกายเรื่อยๆ รู้สึกเจ็บแปลบผสมกับความซาบซ่านบางอย่าง จากที่ถอยหนีกลับหยัดตัวรับสัมผัสหวามเร่งเร้านั่น

ชายหนุ่มนิ่วหน้า แปลกใจกับความคับแน่นร้อนรุ่มที่บีบรัดปลายนิ้ว แทบขยับไม่ได้ ก่อนใช้นิ้วหัวแม่มือบดคลึงช่อดอกไม้งามกระตุ้นให้รินน้ำหวานออกมา และเคลื่อนไหวปลายนิ้วไปมาอย่างใจเย็น เพิ่มจังหวะทีละน้อย จ้องมองดวงหน้าหวานแดงก่ำอ้าปากหอบสลับครางอย่างพอใจ เขาชื่นชอบที่จะมอบความสุขให้กับคู่นอนอย่างเท่าเทียม

“อือ...อา...” หญิงสาวครางสะอื้น มือเรียวจิกผ้าปูที่นอนแน่น มีบางอย่างที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนกำลังจุ่มจ้วงเข้ามาอย่างไม่ปรานี ก่อนจะกรีดร้องลั่นเมื่อจังหวะนั้นเร่งกระชั้น ส่งเธอถึงจุดหมายแห่งดวงดาวที่ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน

โลแกนหลุดปากครางลึกในลำคอ แค่ปลายนิ้วถูกบีบรัดแน่น แทบระเบิดตัวเองออกมาเสียให้ได้

ถึงกระนั้นเธอกลับไม่รู้สึกอิ่มหรือพอสักนิด ยิ่งต้องการมันมากขึ้นเรื่อยๆ ยาที่ออกฤทธิ์เต็มที่บังคับให้เธอพูดในสิ่งที่น่าละอายออกไป

“ได้โปรด...อื้อ...ช่วยฉันด้วย...”

“จะช่วยเดี๋ยวนี้ล่ะ ที่รัก” เขากล่าวเสียงสั่น ควานหาเครื่องป้องกันในลิ้นชักข้างเตียงมาสวมทับตัวตนที่พร้อมเต็มที่ มือข้างหนึ่งขยับเรียวขาให้ออกห่าง ช้อนสะโพกขึ้นมาและพาตัวตนเข้าไปค้นหาความลึกลับแสนหฤหรรษ์

มาธวีผวาเฮือก ใบหน้างามบิดเบี้ยว ปลายนิ้วจิกต้นแขนแน่นจนโลแกนจูบปากอิ่ม ซอกคอหอมกรุ่น ทั้งที่ตัวเขาก็เจ็บจากการบีบรัด สงสัยเธอคงไม่ค่อยได้รับแขกเท่าไหร่ เนื้อตัวถึงตึงกระชับขนาดนี้ ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าไปเรื่อยๆ ผ่านเยื่อบางอย่างที่เขาไม่คิดสนใจจนสุดเส้นทาง และขยับโยกไปมา ได้ยินเสียงครางจากร่างบางที่บ่งบอกว่ามีความสุขแค่ไหน

เขายิ่งเคลื่อนตัวเร็วกว่าเดิม เรียกเสียงครางลั่นจากหญิงสาวไม่หยุดปาก ตอบสนองอย่างร้อนแรงไม่แพ้กัน เขากดตัวตนลงไป เธอก็หยัดสะโพกตอบกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้

“เยี่ยม...อา...อย่างนั้นแหละที่รัก ร้อนแรงแบบนี้ ผมจ่ายไม่อั้นเลย”

มาธวีเรียกร้องจากร่างสูงที่โถมเข้ามาถี่ยิบ และครางออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะเกร็งตัวแน่น แผ่นหลังหยัดโค้ง เมื่อก้าวผ่านสายรุ้งอันงดงาม และทิ้งตัวลงบนที่นอน

ทว่าหญิงสาวยังไม่หมดฤทธิ์ง่ายๆ สมใจหนุ่มจอมพลังที่กลั้นตัวเองไว้แทบไม่อยู่ ซึ่งถอนตัวตนออกมาจากดอกไม้งามช้าๆ พลิกร่างเล็กให้นอนคว่ำ จัดแจงท่วงท่าและกดตัวเข้าหารวดเร็ว ไม่ทันสังเกตเลยว่าถุงยางอนามัยของตนนั้นมีรอยฉีกขาดเล็กๆ

หญิงสาวกรีดร้องสลับสะอื้นไอกับความร้อนผ่าวที่พุ่งเข้ามาในดงดอกไม้จากทางด้านหลัง หายใจหอบระรัวดวงตาปรือฉ่ำไม่แพ้ชายหนุ่มที่ขยับตัวเข้าออกเข้าจนสุดเส้นทาง และถอนตัวออกมาแทบหมดอย่างเชื่องช้า มือเล็กจิกทึ้งผ้าปูที่นอนกับความร้อนวูบวามที่ระดมเข้ามาในท้องน้อย ชายหนุ่มสูดปากครางไม่แพ้กัน หนำซ้ำยังลูบไล้ดอกบัวนุ่ม อีกมือหนึ่งกรีดกรายบนดงดอกไม้ เน้นย้ำตรงจุดเกสรสาว เร่งเสียงครางหวานให้ดังขึ้นมาอีก

“อื้อ...อ๊า!!”

และแล้วหญิงสาวก็ถึงจุดหมายอีกครั้ง คราวนี้ชายหนุ่มเร่งตัวเองให้เข้าสู่เส้นชัยบ้าง กระชั้นตัวตนถี่ยิบจนมาธวีกรีดร้องเสียงหลง

ร่างเล็กโยกคลอนไปตามจังหวะรักสุดระทึกไปกระทั่งถึงปลายทางอีกรอบหนึ่ง พร้อมกับเขาที่ระเบิดตัวตนออกมา ซุกหน้าลงบนท้ายทอยของหญิงสาว สูดกลิ่นหอมอ่อนที่ไม่เคยได้กลิ่นอย่างนี้มาก่อนเข้าปอด เขาชอบกลิ่นอ่อนๆอย่างนี้จริงๆ

มาธวีหลับตาลงอย่างอ่อนแรง ทว่าปากอุ่นยังแทะเล็มไม่เลิกราง่ายๆ พลิกร่างเล็กให้นอนหงายรับสัมผัสร้อนแรง อีกครั้ง...และอีกครั้ง จนกว่าเขาจะหมดแรง


@@@@@@@

ร่างเล็กขยับตัวอย่างยากลำบาก สูดปากเจ็บตรงกลางร่าง ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยใช้ร่างกายจนปวดระบมแบบนี้มาก่อน แม้จะเคยไปออกค่ายหรือรับน้องของมหาวิทยาลัยก็ไม่เคยเป็นเช่นนี้

นี่มันเกิดอะไรขึ้น...

มาธวีขมวดคิ้วมุ่น มีอะไรบางอย่างกดทับบริเวณหน้าท้อง ไหนจะลมอุ่นๆที่เป่ารดซอกคอนี่อีก

หญิงสาวขยับตัวช้าๆ พลางสูดปากระบายความปวดแปลบตรงบริเวณกลางลำตัวเหมือนถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง และเอามือจับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าท้องออก ซึ่งเป็นมือของใครบางคน

เธอลุกออกจากเตียงก็รู้สึกตัวโล่งๆ พอก้มดูก็เห็นร่างกายเปลือยเปล่า แม้ในห้องจะมืดสลัว ตามเวลาราวห้านาฬิกา ทว่าสายตาที่ชินกับความมืดนั้น สามารถเห็นทุกอย่างได้เป็นอย่างดี

หญิงสาวคิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่มีสติครบถ้วนนั้น เธอดื่มไวน์เข้าไป ตอนทานอาหารกับเครือมาศ ลดาวัลย์และคุณอาของลดาวัลย์ จากนั้นเนื้อตัวของเธอก็วูบวาบ และทุกอย่างก็กลายเป็นภาพเบลอไปหมด เพิ่งมารู้สึกตัวเอาก็ตอนนี้แหละ

เธอเคยได้ยินจากเพื่อนสาวว่าครั้งแรกของผู้หญิงจะเจ็บมาก และบริเวณที่เจ็บก็คือ...

มาธวีทรุดลงกับพื้น ไร้แรงทรงตัวกับความจริงที่ได้รู้ จับเนื้อตัวที่ถูกชายอื่นสัมผัสอย่างรังเกียจ

รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง...ความสาวของเธอ...

ดวงตางามเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา มองไปยังร่างสูงนอนคว่ำหน้าบนเตียง ก่อนจะก้มเก็บเสื้อผ้า เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ แต่ตอนนี้เธออยากจะออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด มือน้อยสวมเสื้อผ้าด้วยมือสั่นเทา ปากเม้มแน่น ไม่ให้เสียงสะอื้นไห้ดังลอดให้คนที่พรากความสาวของเธอตื่น

เธอไม่อยากเห็นหน้าเขา ชาตินี้ขออย่าได้เจอกันอีกเลย หญิงสาวคิดอย่างสะท้อนใจ หน้าตาก็ไม่รู้จัก แต่เขากลับ...ช่างเถอะ เธอพลาดเอง...คิดเสียว่าเป็นเวรกรรมก็แล้วกัน

คิดได้อย่างนั้น เธอก็รีบออกมาจากห้องนั้น และคิดว่าจะกลับเมืองไทยให้เร็วที่สุด

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว