ทรายสวาททาสอสูร

บทที่ 4

บทที่ 4




ราเชนทร์เดินมาเจอเข้ากับทีน่าที่เดินกลับมาจากสวนรับรอง หนุ่มสาวยิ้มให้กัน ทีน่านั้นหลงรักราเชนทร์อยู่เมื่อเจอเข้าอย่างจังกับเขาจึงเก็บอาการไว้ไม่อยู่ ใบหน้าร้อนผ่าวและดูเหมือนว่ามันคงแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้ว ราเชนทร์มองหน้าหญิงสาวอย่างสงสัยว่าเธอไปทำอะไรมาหน้าถึงแดงเหมือนไม่สบาย

“ทีน่าเป็นอะไรหรือเปล่า หน้าแดงเชียว ไม่สบายหรือเปล่า” ชายหนุ่มรีบเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะยกมืออังที่หน้าผากของหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง

“เปล่าค่ะ” ทีน่าตอบเสียงสั่นหัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ อยากจะบอกให้ชายหนุ่มออกไปให้ไกลจากตัวเธอ แต่อีกใจก็อยากอยู่ใกล้ชิดเขา ดังนั้นจึงได้แต่ยืนนิ่งๆ

“เดี๋ยวผมเรียกหมอมาดูนะเผื่อว่าเป็นอะไรมาก ดูสิหน้าแดงและร้อนผ่าวเชียว ไปเถอะเดินไหวไหม”

ราเชนทร์เข้ามาโอบประคองหญิงสาวไว้ด้วยความเป็นห่วง ทีน่านั้นอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าเธออยากให้เขาโอบกอดเธอไว้อย่างนี้นานๆ แต่ความสุขของทีน่าก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อมีนาเดินหน้าตึงเข้ามาหาคนทั้งสอง ส่งผลให้ราเชนทร์รีบปล่อยมือจากเอวบางของทีน่าทันที

“ทำอะไรกันน่ะ” มีนาถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเพราะที่เธอเห็นคือราเชนทร์กำลังโอบกอดกับทีน่า

“คือทีน่าไม่สบาย ผมก็เลยจะพาเธอไปหาหมอ” ราเชนทร์บอกเสียงเรียบ

“เหรอ...นึกว่ากำลังพรอดรักกันอยู่”

“นี่!...ท่านหญิงมีนา คุณจะพูดอะไรดูหน้าคนซะบ้าง คนอย่างผมไม่ใช่จะมายืนให้ใครว่าได้อย่างเดียวนะ ผู้ชายห้ามรังแกผู้หญิง...แต่ผู้หญิงอย่างคุณมันก็ไม่แน่หรอก”

ราเชนทร์พูดใส่หน้ามีนาก่อนจะเดินจากไป ปล่อยให้มีนาเต้นเร่าๆ ด้วยความโกรธแถมยังชี้นิ้วด่าตามหลัง ทีน่ามองอย่างสะใจก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปอีกทาง

มีนาหันมาจะเอาเรื่องทีน่าก็ต้องถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อตอนนี้มีเพียงเธอที่ยืนเต้นเหมือนเป็นบ้าอยู่คนเดียว

“กรี๊ด...กรี๊ด...นายราเชนทร์...ยัยทีน่า!”



ยามเมื่ออรุณรุ่งของวันใหม่มาเยือน ท้องฟ้าต่างฉาบไปด้วยแสงสีทองของดวงอาทิตย์ยามเช้า นกกาต่างโบยบินออกหากิน บ้างก็มาเป็นกลุ่ม บ้างก็มาเดี่ยวหรือเป็นคู่ ดอกไม้ใบหญ้าต่างโยกไหวไปตามแรงลมที่พัดมาเป็นระยะ

วาจาวดีที่เดินเล่นอยู่ในสวนรับรองกำลังก้มดอมดมกลิ่นหอมของดอกไม้ดอกแล้วดอกเล่า เจ้าชายคามินทร์ทรงทอดพระเนตรมองหญิงสาวอย่างหลงใหลเธอสวยสดใสยิ่งกว่าดอกไม้ในสวนเสียอีก ไม่ว่าจะเยื้องกายไปทางไหนดอกไม้ที่หญิงสาวเดินผ่านก็ดูว่าจะหมองลงไปทันที พระองค์ทรงยืนทอดพระเนตรอยู่นานก่อนจะตัดสินพระทัยสาวพระบาทเข้าไปหา

“ดอกไม้ที่ว่าสวยยังเทียบไม่ได้กับสาวงามที่กำลังเดินเล่นอยู่ในสวนดอกไม้เลยกระมัง”

“ฝ่าบาท” วาจาวดีหันมามองที่ต้นเสียงหญิงสาวทำความเคารพเจ้าชาย ก่อนจะส่งยิ้มที่หวานจับใจถวาย

“คนน่ะไม่สวยเท่าดอกไม้หรอกเพคะ” วาจาวดีทูลเสียงหวาน พร้อมกับที่ใบหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส

“เช่นนั้นหรือ แต่ในความรู้สึกของฉัน เธอสวยกว่าดอกไม้พวกนี้เสียอีก” เจ้าชายตรัสชมอย่างไม่อ้อมค้อมเล่นเอาคนถูกชมอายม้วนไปเลยทีเดียว

ทั้งสองยืนคุยกันอย่างสนิทสนมเหมือนกับว่าโลกใบนี้มีเพียงสองเรา และโลกมันกำลังหยุดหมุนเพื่อให้คนทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตราบนานเท่านาน

“เอ่อ…หม่อมฉันเห็นที่นี่ปลูกดอกบัวตองไว้ทั่วปราสาท ไม่ทราบว่ามันมีชื่อเรียกเหมือนที่หม่อมฉันทูลหรือไม่เพคะ” วาจาวดีทูลถามด้วยความอยากรู้เพราะเธอเห็นว่าทั่วปราสาท โดยเฉพาะที่สวนรับรองเต็มไปด้วยดอกไม้สีเหลืองสดที่มีลักษณะเหมือนกับดอกบัวตองที่เมืองไทย

“นั่นคือดอกพระอาทิตย์ เห็นไหมเล่าว่าลักษณะของมันเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงเสมือนกำลังใจจากทวยเทพ ผู้คนที่นี่จะใช้ดอกไม้ชนิดนี้สำหรับการบูชาสักการะ”

เจ้าชายคามินทร์รับสั่งตอบในสิ่งที่หญิงสาวข้องใจ วาจาวดีพยักหน้ารับมันเป็นจริงอย่างที่รับสั่ง ดอกพระอาทิตย์ในยามที่บานเต็มทุ่งเสมือนกับดวงอาทิตย์หลายดวงที่ส่องสว่างเข้ามาในหัวใจของคนหลายๆ คนและหนึ่งในนั้นคงรวมเธอเข้าไปด้วย

ทางด้านทีน่าที่ยืนมองคนทั้งคู่อยู่ตรงมุมหนึ่งของสวนรู้สึกเป็นห่วงวาจาวดีอย่างบอกไม่ถูก อยากเตือนอีกฝ่ายเหลือเกินแต่ไม่กล้าเพราะเกรงว่าเจ้าชายจะทรงกริ้ว แต่ถ้าไม่บอก วาจาวดีคงต้องแย่แน่ๆ

“ทีน่า” ราเชนทร์เอ่ยเรียกหญิงสาว เสียงเรียกของชายหนุ่มทำให้ทีน่าสะดุ้งตกใจ

“คุณราเชนทร์ มาเงียบๆ ตกใจหมดเลยค่ะ”

“ผมเห็นคุณกำลังมองเจ้าชายคามินทร์กับคุณวาจาวดี มีอะไรหรือเปล่า”

ทีน่ามองหน้าชายหนุ่มก่อนจะถอนหายใจออกมา จนราเชนทร์นึกแปลกใจ

“มีอะไรเหรอทีน่า”

“คุณก็น่าจะรู้ คุณดูไม่ออกเหรอว่าเจ้าชายทรงพอพระทัยในตัวคุณวาและคุณวาก็ดูว่าจะมีใจให้เสียด้วยสิ”

“มันก็ดีไม่ใช่เหรอ ดีเสียอีก คุณวาจะได้ไม่ต้องมารับหน้าที่ของทาสรับใช้ที่ดูจะโหดร้ายกับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอ” ราเชนทร์บอกยิ้มๆ

“ฮึ... มันก็คงดีหากเจ้าชายไม่ทรงมีพระคู่หมั้น”

ทีน่ากล่าวออกมาในที่สุด และนั่นทำให้ราเชนทร์อึ้งไปเหมือนกัน เขาเองก็ลืมไปเสียสนิท แล้วเจ้าชายเล่าจะยังทรงจำได้อยู่หรือไม่ว่าพระองค์มีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว

ซึ่งหลังจากที่พระองค์ทรงทะเลาะกับเจ้าหญิงอลิซาเบทเมื่อหลายเดือนก่อนก็ดูเหมือนว่าทั้งสองพระองค์จะต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก หรือว่าทั้งสองพระองค์ทรงเลิกรากันเสียแล้ว แล้วเจ้าชายก็หาได้มีท่าทีสนใจเจ้าหญิงไม่ แต่กลับแสดงออกว่าสนพระทัยในตัวคุณวาจาวดีเสียนี่ เรื่องมันคงไปกันใหญ่แล้วแน่ๆ

ราเชนทร์และทีน่าหันมามองหน้ากันแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะต่างก็รู้สึกกังวลใจด้วยกันทั้งคู่


“นี่รีบๆ กันหน่อยได้ไหม ฉันจะต้องทำให้เสร็จในวันนี้นะ”

เสียงเอะอะโวยวายที่ดังอยู่ในห้องโถงใหญ่ทำให้เจ้าชายคามินทร์ต้องเสด็จเข้ามาดูด้วยความสนพระทัยเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยราเชนทร์ วาจาวดี และทีน่า

“เอะอะโวยวายอะไรกันมีนา เสียงดังไปทั่วปราสาทเลยนะ”

เจ้าชายคามินทร์รับสั่งถาม และมองเหล่านางกำนัลทั้งหลายด้วยความสนพระทัยว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ แต่จากที่ทอดพระเนตรเห็นก็น่าจะเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายข้าวของ แต่ทว่าจะย้ายไปไหน...

“มีนากำลังจะจัดห้องใหม่เพคะ” มีนาตอบเสียงใสพลางปรายตามองวาจาวดีอย่างมีแผน

“แต่ก็ไม่มีใครทำถูกใจเลยสักคน”

“แล้วจะจัดใหม่ไปทำไม ที่เป็นอยู่ก็ว่าดีอยู่แล้ว”

“พระองค์ไม่ทรงทราบหรือเพคะว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้า ฝ่าบาทจะเสด็จกลับมาแล้วเพคะ” มีนากระซิบบอกเจ้าชายคามินทร์โดยไม่อยากให้ใครได้ยิน

“เธอว่าอะไรนะ!” เจ้าชายตรัสถามด้วยพระสุรเสียงที่ดูตกพระทัยเป็นอย่างมาก

“ทำไมฉันถึงไม่รู้”

“ก็พระองค์เอาแต่สนพระทัยอย่างอื่นไงล่ะเพคะ”

“มีนา” สายพระเนตรตวัดมองมีนาและกระซิบดุด้วยพระสุรเสียงไม่ดังมากนักเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน

ฝ่ายราเชนทร์ วาจาวดี ทีน่า มองอย่างสงสัยว่าทั้งสองคุยอะไรกันเพราะมันดูมีลับลมคมในอย่างไรชอบกล

“ถึงเวลาที่พระองค์จะต้องทรงทำหน้าที่ผู้ลงทัณฑ์นักโทษได้แล้วนะเพคะ ไม่เช่นนั้นมีนาจะทูลฝ่าบาท” มีนายิ้มหยันอย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า

เจ้าชายคามินทร์แม้จะทรงไม่พอพระทัยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หน้าที่ที่ต้องทำมันช่างฝืนความรู้สึกของพระองค์ยิ่งนัก ระหว่างน้องชายกับผู้หญิงที่หลงรัก พระองค์ควรทำเช่นไร ความว้าวุ่นและสับสนเกิดขึ้นมาพร้อมกัน หากสุดท้ายเจ้าชายก็ทรงเลือกที่จะทำตามที่ได้รับปากกับพระอนุชาไว้



วาจาวดีกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่กับการจัดห้องโถงตามที่มีนาสั่ง แม้จะรู้ว่าโดนแกล้งแต่เธอก็เต็มใจทำ เนื่องด้วยว่าเจ้าชายคามินทร์เป็นผู้รับสั่งให้เธอมาช่วยมีนาจัดห้องนั่นเอง

“นี่วาจาวดี ฉันบอกให้เธอยกแจกันใบนั้นไปไว้ตรงโต๊ะนั่น แล้วทำไมเธอเอามันไปวางไว้ตรงประตู” มีนาออกคำสั่งอย่างเจ้านาย

“เอ๊ะ...ก็คุณบอกให้ฉันเอาไปไว้ที่ประตู ยังไม่ได้บอกเลยว่าให้เอาไปไว้ที่โต๊ะ”

“นี่เธอเถียงฉันเหรอ ดี! ถ้างั้นไอ้เรื่องย้ายของไม่ต้องทำแล้ว ฉันมีงานให้เธอทำใหม่”

ว่าแล้วมีนาก็เดินเข้าไปลากตัววาจาวดีออกไปที่ลานหลังปราสาท ก่อนจะผลักเธอล้มลงกับพื้นอย่างไม่ปราณี ทีน่าที่เดินตามหลังมาต้องเข้าไปประคอง

“ห่วงกันมากใช่ไหม ถ้างั้นก็ช่วยกันซักผ้ากองนี้ให้เสร็จ”

มีนาออกคำสั่งใบหน้ายิ้มหยัน นางกำนัลคนสนิทของหญิงสาวก็หัวเราะร่าเป็นลูกคู่อย่างเข้ากันดี แล้วทั้งสองก็เดินออกไปอย่างผู้ที่มีชัย

วาจาวดีหันมามองหน้าทีน่าแล้วยิ้มบางๆ

“ทีน่าไม่ต้องทำหรอกเดี๋ยวฉันทำเอง มันไม่ใช่หน้าที่ของเธอเลย”

“ไม่ได้นะคะ ถ้าคุณวาทำคนเดียวแล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ ผ้ากองโตขนาดนี้ แกล้งกันชัดๆ ใช้เวลาทั้งวันก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเสร็จหรือเปล่า ทีน่าจะไปฟ้องเจ้าชาย”

“อย่านะทีน่า” วาจาวดีร้องห้ามเสียงหลง

ทีน่าชะงักมองหน้าหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ

“ทำไมล่ะคะ”

“ช่างเถอะ ถ้าทีน่าจะช่วยฉัน งั้นเราก็ลงมือเลยแล้วกัน”

วาจาวดีบอกเสียงเรียบก่อนจะหันไปจัดการกับเสื้อผ้าเหล่านั้น ทีน่ามองด้วยความสงสัย คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจแต่ก็หันไปช่วยวาจาวดีทำงานอย่างเต็มใจ



“อะไรนะ!!...ซักผ้าของคนทั้งปราสาทเนี่ยนะ มันจะมากไปแล้ว”

เจ้าชายคามินทร์ตรัสรับสั่งด้วยความโมโห พระองค์ยอมให้มีนาสั่งให้วาจาวดีทำงานได้แต่ต้องเป็นงานที่เธอควรจะทำไม่ใช่ให้มานั่งซักผ้าของคนทั้งปราสาท

“ไปราเชนทร์”

“พระองค์จะทรงทำอย่างไรพะยะค่ะ” ราเชนทร์เอ่ยถามทั้งที่ยังวิ่งตามไม่หยุด

“ฉันจะไปดูวาจาวดีก่อนแล้วค่อยไปจัดการมีนา” เจ้าชายหยุดดำเนินและหันมารับสั่งกับราเชนทร์

“แล้วพระองค์ทรงคิดว่าท่านหญิงมีนาเธอจะยอมหรือพะยะค่ะ เดี๋ยวก็เอาฝ่าบาทขึ้นมาอ้างอีก”

“ก็ให้มันรู้ไป” เจ้าชายคามินทร์รับสั่งด้วยพระพักตร์ที่ดุดัน พระองค์จะไม่ยอมให้มีนากลั่นแกล้งวาจาวดีไปมากกว่านี้หากจะต้องมีปัญหาเกิดขึ้นก็คงต้องยอม

วาจาวดีกำลังตากผ้าที่ซักเสร็จไปได้ครึ่งหนึ่งอย่างเหนื่อยอ่อน โดยมีทีน่านั่งซักผ้าที่เหลือไปเรื่อยๆ

“โอ๊ย...นี่ก็ซักไปตั้งเยอะแล้ว ทำไมไม่เห็นมันหมดสักที” วาจาวดีตะโกนโวยวายอย่างต้องการปลดปล่อย ทีน่านั่งหัวเราะชอบใจ

“เป็นไงล่ะคะ ไหนบอกว่าสบายไง” ทีน่ากระเซ้าอย่างขบขัน

“เฮ้อ...ใครจะไปรู้ แล้วนี่เครื่องซักผ้าก็มีทำไมเราไม่ใช้” วาจาวดีชี้ไปที่เครื่องซักผ้าหลายเครืองที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ ทีน่ายิ้มชอบใจพร้อมกับส่ายหน้ากับความน่ารักเหมือนเด็กของวาจาวดี

“ก็เขาไม่ให้เราใช้เราก็ไม่มีสิทธิ์ได้ใช้หรอกค่ะคุณวา”

“เขาจะรู้ได้ไง มาเอาผ้ามา เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

วาจาวดีรีบโกยผ้ากองโตหอบไปที่เครื่องซักผ้า หญิงสาวเลือกเครื่องที่อยู่ตรงหน้าใกล้มือที่สุดเพราะว่ามันมีหลายเครื่องเลือกไม่ถูก จัดการเปิดฝาและเอาผ้ายัดใส่เครื่อง ทำการเสียบปลั๊กและกดปุ่มให้เครื่องทำงานแต่มันกลับเงียบสนิท

“เอ้า...เป็นอะไร ปลั๊กก็เสียบแล้วหรือว่าไฟไม่เข้า” วาจาวดีเกิดความสงสัยและพยายามหาสาเหตุ

ทีน่ามองแล้วอดขำไม่ได้

“อย่าเสียเวลาเปล่าเลยค่ะ ก็บอกแล้วว่าถ้าเขาไม่ให้เราใช้ เราก็ไม่มีสิทธิ์ได้ใช้หรอกค่ะ”

“หมายความว่าไง” วาจาวดีหันมาถามด้วยความสงสัย

“ก็เขาตัดไฟที่ส่งมายังเครื่องซักผ้าพวกนี้ เพราะไม่ให้เราใช้เครื่องไงคะ”

“มีอย่างนี้ด้วยเหรอ” วาจาวดีหน้าเหวอ รู้สึกเซ็งสุดๆ หญิงสาวเปิดฝาเครื่องซักผ้าแล้วจัดการเอาผ้าทั้งหมดออกแล้วหอบกลับมาวางที่เดิมก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวจิ๋ว จัดการซักผ้าต่อไปอย่างหมดอาลัยตายอยาก

“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิวาจาวดี”

พระสุรเสียงทุ้มนุ่นของเจ้าชายคามินทร์ดังขึ้น สองสาวหันไปมองเป็นตาเดียว

“ฝ่าบาท” สองสาวเอ่ยออกมาพร้อมกัน ใจหนึ่งก็ดีใจที่เห็นพระองค์แต่อีกใจก็นึกหวั่นว่าผ้าที่กองอยู่มันน้อยไปหรือเปล่า

“เอาผ้าไปใส่เครื่องซักสิ ซักมือแบบนี้วันนี้ก็ไม่เสร็จหรอก” เจ้าชายคามินทร์ทรงเห็นสองสาวไม่ขยับจึงเข้าไปหอบเอาผ้าเหล่านั้นขึ้นมาเสียเอง คราวนี้ไม่เว้นแม้แต่ราเชนทร์ก็ร้องเสียงหลงก่อนจะเข้าไปร้องห้าม

“เดี๋ยวหม่อมฉันจัดการเองเพคะ” วาจาวดีแย่งผ้าจากพระหัตถ์เจ้าชายคามินทร์ก่อนจะหอบไปใส่เครื่องคราวนี้เครื่องซักผ้ากลับทำงานขึ้นมาเล่นเอาวาจาวดีงงเป็นไก่ตาแตก

“ไม่ต้องงงหรอก อำนาจของเจ้าชายทำได้ทุกอย่าง”

เจ้าชายคามินทร์แย้มพระโอษฐ์อย่างพอพระทัย ก่อนจะหันไปพยักพระพักตร์กับราเชนทร์ ซึ่งเป็นคนสั่งให้ฝ่ายส่งไฟจัดการตามพระประสงค์ของเจ้าชาย ส่วนทางด้านวาจาวดีนั้นถึงกับยิ้มแก้มปริเพราะงานนี้เธอก็ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว



*******************************

ตอนนี้รักตาภามีจัดโปรนะคะ

จากราคาปก 249 บาท โปรโมชั่นพิเศษเช่นเคย ลดเหลือ 119 บาท ถึง 15/03/62 นี้เท่านั้นนะคะ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกยอดโหลดค่ะ

ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยค่ะ



รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว