ทรายสวาททาสอสูร

บทที่ 7

บทที่ 7





เจ้าชายคามินทร์ทรงเรียกประชุมเหล่าข้าราชการ เพื่อบอกถึงเรื่องที่พระองค์จะต้องเสด็จไปต่างประเทศในวันรุ่งขึ้น พระองค์รับสั่งให้ทุกคนทำหน้าที่ดูแลคาไบเนียในระหว่างที่พระองค์ไม่ได้ประทับอยู่ และทรงสั่งให้ทุกฝ่ายจัดพิธีการต่างๆ ให้พร้อม เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าพระอนุชาของพระองค์จะเสด็จกลับมาเมื่อไหร่เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ฉุกละหุก

“หวังว่าทุกคนจะทำหน้าที่ ที่ได้รับอย่างดีที่สุดนะ” เจ้าชายรับสั่งถามเพื่อขอคำยืนยัน

“พะยะค่ะ” เหล่าข้าราชการต่างพร้อมใจกันเพื่อให้เจ้าชายคามินทร์ทรงวางพระทัย

เจ้าชายคามินทร์ทรงพอพระทัยเป็นอย่างมากที่เหล่าข้าราชการต่างสามัคคีกัน แต่ที่หนักพระทัยจนต้องถอนพระปัสสาสะออกมา ก็คงจะไม่พ้นเรื่องของวาจาวดี หากใครบางคนกลับมาก่อนที่พระองค์จะกลับมา อะไรจะเกิดขึ้น พระองค์ทรงวิตกกังวลจนไม่อยากจะไปจากคาไบเนียเลยแม้แต่สักวินาทีเดียว แต่เพราะมีพระราชกรณียกิจที่ต้องทำ พระองค์จึงต้องตัดพระทัย และทรงภาวนาขอพรจากเทพเจ้าว่าขอให้พระอนุชาเสด็จกลับมาหลังจากที่พระองค์กลับมาแล้ว

มีนา วาจาวดี และทีน่ารวมไปถึงเหล่าข้าราชบริพาร ต่างมารอส่งเสด็จเจ้าชายคามินทร์ที่หน้าปราสาท มีนานั้นมองวาจาวดีด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น คอยดูเถอะเมื่อเจ้าชายคามินทร์เสด็จออกจากปราสาทเธอจะชำระแค้นกับวาจาวดีทันที คราวนี้ใครหน้าไหนก็ช่วยไม่ได้

ไม่นานเจ้าชายคามินทร์ก็เสด็จออกมาพร้อมกับราเชนทร์และเหล่าทหารติดตาม พระองค์ทรงทักทายทุกคนที่มารอส่งเสด็จ ก่อนจะทรงหันมาทอดพระเนตรวาจาวดีที่ยืนหน้าเศร้าอยู่ข้างทีน่า

วาจาวดีที่เห็นว่าเจ้าชายทรงทอดพระเนตรมาทางเธอก็แกล้งยิ้มให้ แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ดูเศร้างหมองในความรู้สึกของเจ้าชายคามินทร์ พระองค์จึงดำเนินเข้าไปหาและขอรับสั่งกับหญิงสาวเป็นการส่วนพระองค์ ทุกคนต่างมองตามด้วยความสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสอง

เจ้าชายคามินทร์ทรงพาวาจาวดีมาที่สวนรับรองข้างปราสาท ก่อนจะรับสั่งกับหญิงสาวด้วยพระพักตร์ที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงและดูกังวลพระทัย วาจาวดีจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่ามีสิ่งไหนที่รบกวนพระทัยเจ้าชายคามินทร์

“พระองค์มีอะไรในพระทัยหรือเปล่าเพคะ ดูพระพักตร์ไม่แจ่มใสเอาเสียเลย”

“ว่าแต่ฉัน แล้วเธอล่ะวาจาวดี” เจ้าชายทรงตรัสถามยิ้มๆ

“ฉันไม่อยู่หลายวันต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ”

หญิงสาวยิ้มตอบ น้ำใสๆ คลอที่ดวงตาและมันกำลังจะไหลลงมาอาบแก้มนวล

“เพคะ...แต่หม่อมฉันคงดูแลตัวเองได้ไม่ดีเหมือนเมื่อตอนมีพระองค์อยู่หรอกเพคะ”

หญิงสาวตอบเสียงเครือ น้ำตาที่คลอเป้าอยู่เมื่อครู่มันไหลรินออกมาอาบแก้ม เจ้าชายคามินทร์ทรงตกพระทัยไม่น้อย ก่อนจะยกพระหัตถ์ขึ้มมาปาดน้ำตาให้หญิงสาวแล้วดึงเธอเข้ามากอดอย่างสมฤทัย

วาจาวดีกอดพระองค์ตอบด้วยความรู้สึกอบอุ่นและเหมือนต้องการกำลังใจในยามที่พระองค์ไม่อยู่




มีนาสั่งให้คนไปตามวาจาวดีมาพบเธอที่สวนรับรองทันทีที่เจ้าชายคามินทร์เสด็จออกจากปราสาท วาจาวดีที่เดินมาถึงที่สวนรับรองเธอมองเห็นมีนายืนรออยู่ ก็รู้เลยว่าชะตากรรมของเธอต่อจากนี้คงไม่รอดแน่ๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาเพราะอย่างไรเสียก็คงเลี่ยงไม่ได้

“ท่านหญิงมีนา”

มีนาหันมามองวาจาวดี เธอแสยะยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินเข้ามาใกล้วาจาวดีและเดินวนรอบตัวหญิงสาวอย่างพิจารณา

“เธอนี่สวยนะ สวยมากเสียด้วย แทบจะหาที่ติไม่ได้เลย”

วาจาวดีลอบถอนหายใจอย่างหนักหน่วง

“รู้ไหมว่าเจ้าชายคามินทร์จะเสด็จไปนานแค่ไหน” มีนาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดูสะใจ

“นับจากนี้เธอคงต้องทำใจหน่อยนะเพราะว่าไม่มีเจ้าชายคามินทร์คอยปกป้องแล้ว และฉันจะไม่ปล่อยให้เธอได้สุขสบายอีก เพราะเธอสบายมามากแล้ววาจาวดี” มีนาบอกด้วยสายตาชิงชัง

“ฉันรู้ว่าคุณต้องการอะไร...ท่านหญิงมีนา”

“ดี...ถ้างั้นก็ช่วยเก็บกวาดใบไม้ที่ร่วงเต็มสนาม แล้วก็ช่วยตัดหญ้าที่ยาวให้เรียบร้อยด้วย”

“แต่งานที่คุณสั่งมันเป็นงานของคนสวนนะ”

“แล้วไง” มีนาลอยหน้าถาม

“จะทำหรือไม่ทำ”

มีนาถามเสียงเด็ดขาด วาจาวดีถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะหันไปหยิบไม้กวาดแล้วเดินไปด้านหลังสวนเพื่อทำงานตามที่มีนาต้องการ มีนามองตามแล้วยิ้มอย่างสะใจ

“คราวนี้ฉันจะเอาคืนอย่างไม่ปรานีเลย เอาชนิดที่แกไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้เลยนังวาจาวดี” มีนาบอกอย่างหมายมาด

วาจาวดีกวาดใบไม้ด้วยความเหนื่อยล้าสวนนี้ออกกว้างใหญ่เธอคนเดียวจะทำไหวได้อย่างไร ขนาดคนสวนยังต้องใช้ถึงสิบคนกว่าสวนนี้จะเรียบร้อยภายในหนึ่งวัน วาจาวดีคิดแล้วก็ได้แต่นั่งเซ็ง ในเวลานี้เธอจะทำอะไรได้นอกจากยอมรับชะตากรรมที่โหดร้ายอย่างจำนน

ทีน่าเดินเข้ามาหาพร้อมกับไม้กวาดในมือ

“อย่านั่งพักนานนะคะคุณวาเดี๋ยวพระแม่เจ้าท่านจะพิโรธ” ทีน่าบอกอย่างขำขัน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ทีน่า” วาจาวดีกระโดดลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับยิ้มระรื่นด้วยความดีใจ

“เรามาช่วยกันทำงานเถอะค่ะ ถ้าคุณวาทำคนเดียวมีหวังเดือนหนึ่งก็ไม่เสร็จ”

วาจาวดียิ้มชอบใจในคำพูดของทีน่า สองสาวยิ้มให้กันก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป

ส่วนทางด้านนางกำนัลที่แอบดูการเคลื่อนไหวอยู่ก็รีบวิ่งไปฟ้องท่านหญิงมีนาเรื่องที่ทีน่าช่วยวาจาวดีทำงาน มีนานั่งฟังที่นางกำนัลบอกอย่างนิ่งเฉย ถึงแม้เธอจะไม่ชอบวาจาวดีแต่งานที่ให้ทำมันก็ไม่ใช่น้อย การที่ทีน่าช่วยหญิงสาวมันก็คงไม่ผิดอะไร

“ท่านหญิงจะไม่ทรงทำอะไรเลยหรือเพคะ”

“ฉันก็กะอยู่ว่าจะให้เธอไปช่วยสองคนนั่นทำงานดีไหมหากยังพูดมากอยู่อย่างนี้”

มีนาพูดออกมาอย่างรำคาญก่อนจะเดินจากไป นางกำนัลงงเป็นไก่ตาแตกแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะไม่อยากไปทำงานช่วยวาจาวดี

กว่าวาจาวดีจะทำงานในสวนเสร็จก็เย็มย่ำเข้าไปแล้ว ทั้งสองสาวช่วยกันเก็บข้าวของและพากันเดินกลับห้องพักอย่างหมดแรง วาจาวดีบ่นมาตลอดทาง ทีน่ายิ้มขำกับความน่ารักของหญิงสาว ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าชายคามินทร์จะทรงเผลอองค์รักหญิงสาวเข้า

ทีน่าถอนหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม เพราะหากวาจาวดีรู้ว่าเจ้าชายคามินทร์มีพระคู่หมั้นอยู่แล้วจะเสียใจแค่ไหน ความสวยงามและความน่ารักจะถูกบดบังไปด้วยความเศร้าหมองสักเพียงใด เธอควรบอกให้วาจาวดีรู้ดีหรือไม่เรื่องเจ้าชาย ทีน่ารู้สึกหนักใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

สองสาวเดินเข้ามาในปราสาทสวนเข้ากับมีนาที่เดินออกมาจากห้องเสวย ทั้งสามหยุดมองหน้ากันต่างก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ก่อนที่มีนาจะเดินเลี่ยงออกไปสร้างความงวยงงให้กับวาจาวดีเป็นอย่างมาก ไม่อยากเชื่อเลยว่ามีนาจะเป็นฝ่ายเดินจากไปโดยไม่เกิดศึกขึ้น ทั้งสองหันมามองหน้ากันด้วยความรู้สึกสงสัย

“สงสัยผีคนดีเข้าสิงนะคะคุณวา” ทีน่ากระซิบบอก วาจาวดีได้แต่ส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจเช่นกัน




เช้าวันใหม่ วาจาวดีเดินถือดอกไม้เข้ามาพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างสุขใจ หากก็แทบจะปล่อยดอกไม้ในมือทิ้งเมื่อเสียงร้องทักของนางกำนัลดังลั่นปราสาทแถมยังกระโดดมาจากทางไหนไม่ทราบมาขวางหน้าเธอไว้ “นั่นคุณเด็ดดอกไม้ทรงโปรดมาได้อย่างไร” นางกำนัลชี้ไปที่มือของวาจาวดี ซึ่งถือดอกไม้สีเหลืองสดอยู่

“นี่เหรอดอกไม้ทรงโปรด” วาจาวดีชูดอกไม้สีเหลืองสดที่เธอคิดว่ามันเหมือนกับดอกบัวตองที่ชอบขึ้นในแถบทางเหนือของประเทศไทยขึ้นมาเพื่อขอคำยืนยัน

“ใช่…และนั่นเป็นดอกไม้ชนิดเดียวที่ท่านหญิงทรงรักมากด้วย ดอกไม้พระอาทิตย์”

วาจาวดีได้ฟังก็ส่ายหน้าอย่างปลงๆ วาจาวดีนะวาจาวดี ดอกไม้มีมากมายเต็มสวนไปหมดทำไมถึงเลือกเด็ดดอกไม้ต้องห้ามด้วย นี่มันเป็นเวรกรรมอะไรของเธอนะ

“คุณแย่แน่คุณวาจาวดี” นางกำนัลขมขู่ ทีน่าที่เดินตามหาวาจาวดีเห็นสองคนกำลังมีปัญหากันจึงเดินเข้ามาถาม

“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะคุณวา”

วาจาวดีไม่ตอบแต่ชูดอกไม้ขึ้นมาให้ทีน่าดู หญิงสาวยกมือขึ้นทาบอกอย่างตกใจ ใบหน้าสวยสลดลงอย่างเห็นได้ชัด

“เธอรู้ไหมว่าการเด็ดดอกไม้ของฉันโทษของมันคืออะไร” มีนาเอ่ยขึ้นด้านหลัง ใบหน้าของเธอบ่งบอกถึงความโกรธเกรี้ยว

“ดอกไม้นี่มันก็มีออกมากในสวน ฉันเด็ดมาแค่ก้านเดียวมันคงไม่ได้ทำให้หมดสวนหรอกมั้ง” วาจาวดีเถียงขึ้น

“หนอย...ท่านหญิงมีนาเพคะ คุณวาจาวดีเธอเถียงท่านหญิงเพคะ” นางกำนัลยุส่ง

“ดอกไม้นั่นมันเป็นดอกไม้ที่ทรงโปรด และปลูกเพื่อถวายแด่กษัตริย์แห่งคาไบเนียเพียงพระองค์เดียว ใครก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง”

“งั้นคุณก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้องเหมือนกัน อีกทั้งเจ้าชายไม่ได้พระทับอยู่ที่ปราสาท อีกนานกว่าจะเสด็จกลับดอกไม้เหล่านี้ก็คงร่วงโรยไปแล้ว”

วาจาวดีไม่ยอมแพ้เพราะเธอเห็นว่ามันไม่ได้ผิดอะไรมากมาย อีกทั้งเจ้าชายคามินทร์ก็ไม่ได้ประทับที่ปราสาทหรือแม้แต่ตอนที่พระองค์อยู่ก็ไม่เห็นจะสนพระทัยในดอกไม้ชนิดนี้เลยสักนิด

“ใช่...ตอนนี้พระองค์ไม่ได้ประทับที่ปราสาท แต่เมื่อไหร่ที่พระองค์กลับมา พระองค์ก็จะได้ทอดพระเนตรเห็นดอกไม้ที่ทรงโปรด แล้วนี่เธอก็ดันมาเด็ดมันก่อนพระองค์ ฉันถือว่าเธอบังอาจเกินไป ทหาร...จับผู้หญิงคนนี้ไปขังโทษฐานเด็ดดอกไม้ต้องห้าม” มีนาร้องสั่งทหาร

ทีน่าตกใจทำอะไรไม่ถูก ผิดกับวาจาวดีที่นิ่งเฉยไม่รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ

“แต่ถ้าเธอไม่อยากโดนขังคุก...ก็คุกเข่าลงก้มกราบฉันสิ” มีนายิ้มเย้ยหยัน

“ไม่มีทาง...คนอย่างฉันไม่มีทางที่จะก้มกราบคนอย่างเธอ” วาจาวดีบอกด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว

“วาจาวดี! ทหาร...จับตัวมันไป”

เหล่าทหารต่างกรูเข้ามาจับตัววาจาวดีตามคำสั่งของมีนา ขณะที่ทางด้านทีน่าถึงกับทำอะไรไม่ถูกจึงตัดสินใจอ้อนวอนขอความเมตตาจากมีนาเพื่อขอให้ปล่อยวาจาวดีสักครั้ง

“อย่าไปขอร้องเลยทีน่า คนอย่างท่านหญิงมีนาไม่มีความปรานีให้ใครหรอก เชิญ...อยากจะฆ่าฉันให้ตายไปเลยก็ได้ แต่อย่าหวังว่าฉันจะลดเกียรติของตัวเองไปก้มกราบเธอ”

แววตาของวาจาวดีที่มองมีนานั้นมันดูน่ากลัวจนมีนาเองยังรู้สึกหวั่นเกรง

“เอานักโทษไปขังเพื่อรอลงอาญาและห้ามให้ใครเอาน้ำกับอาหารให้มันกิน” มีนาสั่งก่อนจะเดินจากไป

ทีน่านั้นร้อนใจจนแทบเป็นบ้า เมื่อไม่มีเจ้าชายคามินทร์คอยช่วย แล้วมีนายังสั่งให้อดข้าวอดน้ำ งานนี้วาจาวดีจะรอดไปได้อย่างไร

จากนั้นวาจาวดีก็ถูกนำตัวมาขัง เธอรู้สึกทดท้อจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อคิดถึงเจ้าชายคามินทร์ วาจาวดีจึงต้องรอคอยการกลับมาของพระองค์อย่างมีความหวัง

ทีน่านั้นสงสารหญิงสาวจับใจแต่จะบอกให้อีกฝ่ายก้มกราบมีนานั้น เชื่อได้ว่าวาจาวดีไม่มีทางทำแน่ จึงได้แต่ภาวนาขอให้เจ้าชายคามินทร์เสด็จกลับมาโดยเร็ว

“ไม่ต้องขอพรจากทวยเทพหรอกทีน่า เพราะเจ้าชายคามินทร์ไม่ทรงเสด็จกลับมาง่ายๆ หรอก กว่าจะสด็จกลับมา คุณวาจาวดีของเธอก็คงกลายเป็นศพไปแล้ว เมื่อนั้นฉันก็จะทูลพระองค์ว่าวาจาวดีป่วยตาย”

“ไม่มีทาง เพราะดิฉันจะทูลความจริงกับพระองค์”

“ฮึ...ถึงเธอจะทูลความจริงมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว คนตายไปแล้วจะทำให้ฟื้นขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ” มีนายิ้มเยาะเธอหันไปมองวาจาวดีที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว

“เป็นไงวาจาวดี บรรยากาศในคุกสุขสบายดีไหม” มีนาหัวเราะสะใจ หทารและนางกำนัลต่างสงสารวาจาวดีจับใจ

สองวันแล้วที่วาจาวดีต้องทนทุกข์อยู่ในคุก โดยมีทีน่ามาคอยนั่งเป็นเพื่อนเพื่อให้กำลังใจ สภาพของวาจาวดีดูอ่อนแรงลงแทบไม่หลงเหลือความงามและความสดใสอยู่เลย

“คุณวา คุณต้องอดทนนะคะ”

ทีน่าพยายามให้กำลังใจ แต่วาจาวดีเหมือนว่าจะไม่ไหวแล้ว ชีวิตทั้งชีวิตของเธอกำลังจะหมดลมลง สภาพที่อ่อนระทวย ขนาดเรี่ยวแรงที่จะนั่งยังไม่มี

ทหารที่คุมคุกอยู่มองหญิงสาวด้วยความสงสาร ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจขัดคำสั่งของมีนาแล้วหันไปหยิบน้ำส่งให้ทีน่า

“รีบให้คุณวาจาวดีดื่มน้ำซะ ก่อนที่เธอจะหมดลม”

ทีน่าจึงรีบรับขวดน้ำมาแล้วหทารก็เปิดประตูคุกให้ทีน่าเข้าไปหาวาจาวดี

“คุณวาขา แข็งใจดื่มน้ำก่อนนะคะ” ทีน่าประคองวาจาวดีที่กำลังจะหมดลมอยู่รอมร่อขึ้นมาเพื่อป้อนน้ำ หญิงสาวดื่มน้ำอย่างกระหายจนสำลักออกมา

“ค่อยๆ ดื่มนะคะคุณวา”

“รีบเข้านะเดี๋ยวนางกำนัลของท่านหญิงมาแล้วเราจะแย่กันหมด” หทารเอ่ยบอกก่อนจะเดินออกไปดูต้นทาง

“คุณวาคะ คุณวาต้องมีชีวิตอยู่นะคะ แข็งใจอีกนิด ไม่นานเจ้าชายก็จะเสด็จกลับมาแล้ว”

“ทีน่า” วาจาวดีเรียกชื่อหญิงสาวด้วยเสียงอันแหบพร่าก่อนจะหมดสติไป

“คุณวา!”

ทีน่าร้องเรียกหญิงสาวเสียงหลง หทารที่เฝ้าอยู่รีบวิ่งเข้ามาดูด้วยความตกใจกับเสียงร้อง ก่อนจะพากันกล้ำกลืนก้อนสะอื้นลงคอเมื่อเห็นภาพอันน่าเวทนานั้น


************************

วาจาวดีจะเป็นอะไรไหมน้อ แล้วใครจะมาช่วยนางทัน ลุ้นๆ กันค่ะ

พระเอกยังไม่ออก อย่าเพิ่งเปลี่ยนช่องนะคะ 5555555

จุ๊บๆๆๆ

**********************

ตอนนี้รักตาภามีจัดโปรนะคะ

จากราคาปก 249 บาท โปรโมชั่นพิเศษเช่นเคย ลดเหลือ 119 บาท ถึง 15/03/62 นี้เท่านั้นนะคะ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกยอดโหลดค่ะ

ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยค่ะ



รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว