พระจันทร์หรรษา-บทที่ 13 แอนตาซิลแจกเข็มละครึ่งพัน

โดย  Marmalade25

พระจันทร์หรรษา

บทที่ 13 แอนตาซิลแจกเข็มละครึ่งพัน

บทที่ 22

“ถอนหุ้น!”

ทักษิณากัดริมฝีปากแน่นทันทีที่ได้รับรายงานมาผู้ถือหุ้นและผู้ที่กำลังจะร่วมลงทุนกับโรงแรมของเธอมีอันต้องขอยกเลิกกระทันหันด้วยเหตุผลบางกระการที่ดูแล้วแทบไม่มีเหตุผลเลยสักนิด

การลุงทุนก่อนหน้าที่เธอได้ทำไปบ้างแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระดมทุนจำนวนมหาศาลเพื่อให้กิจการดำเนินต่อไปได้ หากเกิดเรื่องแบบนี้เห็นทีนอกจากโครงการใหม่ที่อาจจะต้องชะงักกลางคัน กิจการเก่าก็อาจได้รับผลกระทบกระเทือนตามไปด้วย

“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ทำไมฉันถึงไม่ระแคะระคายมาก่อนเลย”

“เอ่อ...คือมีบางเรื่องไม่ทราบว่าจะเรียนดีรึเปล่าน่ะค่ะ”

เลขาข้างตัวทักษิณาทำตาปริบๆยิ่งเห็นเส้นเลือดสีเขียวที่ขมับผู้เป็นนายชัดเจนกว่ายามปกติยิ่งไม่แน่ใจ

“มีอะไรก็ว่ามาเถอะ...คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว...ใช่ใหม?”

“คือทัวร์จากฝั่งยุโรปขอแคนเซิลกรุ๊ปทัวร์ไตรมาสหลังของปีนี้ทั้งหมดด้วยค่ะ”

“ไม่จริง!...พวกเขาจะยอมตัดอนาคตตัวเองได้ยังไง อีกอย่างเราก็ทำการค้ากับบริษัทพวกนี้มาเป็นสิบๆปีจู่ๆทำไมถึงมีปัญหาขึ้นมาได้”

“ข่าวว่า...บัลลังก์กรุ๊ปอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ค่ะ”

“ทุเรศ!...ทุเรศที่สุด...”

ทักษิณาเกือบลืมไปแล้วว่าผู้ชายเลือดเย็นที่เธอเคยหลงรักนั้น...สุดท้ายเขาก็ยังเลือดเย็นและใช้วิธีการชั่วช้าสามานเกินกว่าที่เธอจะตั้งรับได้

แต่เอาเถอะลองกันดูสักตั้ง เธอไม่ใช่หนูณา...คนอ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว

เมื่อเลขาส่วนตัวออกไปแล้วเธอก็ไม่รีรอที่ต่อสายไปยังตัวการของเรื่องทั้งหมด...อดีตสามี...และพ่อของกังสดาล

“น่าดีใจจริงๆที่คุณหนูณากรุณาให้เกียรติโทรมาหาผมด้วยตัวเอง”

น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงเสียงกลั้วหัวเราะนั้นยิ่งทำให้ทักษิณาโกรธจนแทบเต้นผางๆ

“คุณทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง...จะบีบเราสองคนแม่ลูกให้ไม่มีทางไปเลยใช่ไหม?”

เสียงตวาดแหวที่ไม่คิดว่าจะได้ยินดังขึ้นทันทีที่เขากดรับสาย บัลลังก์มุมปากโค้งขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อได้ยินเสียงคนที่เฝ้ารอ...ในที่สุดเธอก็เป็นฝ่ายติดต่อกลับมาหาเขาก่อนจนได้

“อะไรกัน...เรื่องทางธุรกิจมันก็ต้องใครดีใครได้ ทำอย่างกับคุณไม่รู้เดียงสากับเรื่องแบบนี้...ได้ข่าวว่ามิสเตอร์ลีเขาเป็นหุ้นส่วนใหญ่อีกคนหนึ่งนี่นาทำไมคุณไม่ขอให้เขาช่วยล่ะ”

บัลลังก์แอบนึกฉุนเมื่อสายข่าวรายงานว่ามีนักธุรกิจหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่มาแวะเวียนมาขายขนมจีบภรรยาเขาไม่ขาดสาย

โดยเฉพาะมหาเศรษฐีม่ายชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่ดูท่าจะเป็นตัวเต็งยิ่งกว่าใคร เพราะเห็นบินไปบินมาร่วมทุนด้วยแทบจะทุกโครงการ ไม่เว้นแม้แต่โครงการที่ขาไปจัดการลอบบี้มาแล้วทั้งหมด

หากแต่มีพียงหนุมใหญ่รายนี้เท่านั้นที่ดูจะไม่สนใจและไม่ได้อนาทรร้อนใจกับเงินก้อนใหญ่ที่เขาเสนอให้ ต่างจากบริษัทรายอื่นที่ล้วนฮุบเหงื่อชิ้นโตที่เขาให้อย่างง่ายดาย

“เลวที่สุด!...คุณคิดว่าคนอื่นเขาจะเหมือนคุณรึไง ฉันอยู่ของฉันได้...ไม่จำเป็นต้องอาศัยจมูกใครหายใจ...รวมถึงคุณด้วย”

คนฟังถึงกลับยิ้ม ฟังดูก็รู้ว่าใจเธอยังคงปิดสนิทแน่นหนาจนไม่มีใครฝ่าด่านเข้าไปได้

แต่ในเมื่อเขาเคยเป็นคนที่อยู่ในนั้นมาก่อนแถมยังเป็นพ่อของลูกเสียด้วย มีหรือจะไม่มีโอกาส

“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร อันที่จริงโครงการที่คุณทำอยู่มันก็ดีแต่มันก็ยังมีจุดอ่อนอีกเยอะ ถ้าเกิดคุณยังดันทุรังทำต่อไปผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเกิดประโยชน์อะไร สู้หยุดไว้แค่นี้ก่อนแล้วหาทางอุดรอยรั่วในแผนพวกนั้นยังจะดีซะกว่า”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ แต่เก็บเอาไว้ใช้กับบริษัทคุณเถอะค่ะ”

“ไม่เป็นไร จะช้าหรือเร็วยังไงทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามที่ผมพูดอยู่แล้ว...ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท”

“ไม่จริง..คุณโกหก...คุณมัน...”

“มันอะไร?”

ทักษิณาใจหายวาบ เธอเกือบลืมไปว่าหุ้นบริษัทอีกครึ่งหนึ่งอยู่ในตลาดหุ้นและบางส่วนอยู่กับเธอและคนสนิทที่ไว้ใจได้...ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้

โลกทั้งโลกหมุนคว้างเหมือนเธอตกลงไปในก้นเหวที่ลึกที่สุดจน

ทักษิณารู้สึกว่าเสียงนั้นช่างใกล้ราวกับคนพูดมายืนอยู่เบื้องหน้าเธอ...แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

นิ้วเรียวสั่นสะท้านชี้หน้าคนมาใหม่ที่ยืนยิ้มเย็นขณะกอดอกมองดูเธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาได้

“คุณ!...คุณเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง”

คนถูกพูดถึงยักไหล่ หย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้นวมบุหนังสีดำสนิทด้านหลังทักษิณา พยางเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างสบายอารมณ์

“แปลกตรงไหนที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะเข้ามาดูกิจการของตัวเอง ว่าแต่คุณเถอะ...นั่งลงก่อนดีไหม ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันอีกยาวเลย”

“คุณออกไปจากห้องนี้เดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นฉันจะเรียกรปภ.มาลากคุณออกไป”

“หนูณา...มีเหตุผลหน่อย คุณคิดว่าใครจะกล้าทำกับคนที่จ่ายเงินเดือนให้พวกเขาทุกเดือนกัน”

“คุณทำแบบนี้ต้องการอะไร?”

“ง่ายมาก...คุณ...กับลูกของเรา”

บัลลังก์ยิ้มจนถึงตา รอยยิ้มอบอุ่นจับใจแบบนี้ไม่มีทางเลยที่คนในแวดลงธุรกิจจะมีโอกาสได้เห็น แววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความคิดถึง

ทักษิณายิ้มเย็น กำมือแน่นจนแทบจะสั่นไปทั้งตัว แต่กระนั้นเสียงที่พูดก็ยังคงชัดเจนหนักแน่นตามปณิธานเดิมของเธอที่มามานานนับหลายสิบปี

“เห็นจะไม่ได้นะคะ...เพราะที่ผ่านมา...เรามีกันแค่สองคนแม่ลูกเท่านั้น...คนอื่นไม่เกี่ยว”

“คนอื่น?”

บัลลังก์หัวเราะเสียงก้อง อะไรที่เขาตั้งใจแล้วไม่มีทางยอมล้มเลกความตั้งใจแน่

“งั้นเรามาคอยดูกัน...ผมจะทำให้คุณกับลูก...ยอมรับผมได้”

สายตาแน่วแน่ที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและมั่นใจนั้นทำให้ทักษิณาหวั่นไหวไม่ได้

เขาไม่ได้ทำการคุกคามหรือพูดจากดดันอะไรเธออีก นอกจากหยิบดอกกุกลาบบนโต๊ะขึ้นมาจูบแล้วช้อนตาขึ้นมองเธอก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป

ทักษิณาเม้มริมฝีปากแน่น หัวใจพลันสั่นไหวขึ้นมา...หลังจากไม่เคยเป็นอย่างนี้มานานร่วมยี่สิบกว่าปี

.....................................................................................................

ขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกกำลังใจนะคะ ฝากพี่วินทร์กับน้องเดือนด้วยค่าาาา ^ ^...ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว