ยิ่งฮันหยานแสดงพลังอันน่าเกรงขามมากเพียงใด ยิ่งทำให้เฝินคุนหมายที่จะสังหารเขายิ่งขึ้น เพื่อที่จะช่วยให้หนานเป่ยเฉาบรรลุความทะเยอทะยานและเป้าหมายของเขา มันจำเป็นต้องกำจัดทุกคนที่ขวางทางเขา ด้วยสถานะของเฝินคุนในนิกายเซวียนอี้ในตอนนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะล่วงเกินมัน ตัวมันรู้สึกราวกับตนเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่และไร้คู่ต่อกร มันสามารถที่จะกดขี่ผู้ใดก็ได้ตามที่ใจปรารถนา หากว่ามันต้องการให้ผู้ใดตาย ผู้นั้นจักต้องตาย รู้สึกราวกับตนเองเป็นผู้สูงส่ง การมีอำนาจเหนือทุกๆคนช่างเป็นเรื่องที่อัศจรรย์โดยแท้จริง และมันทำให้มันรู้สึกอิ่มเอมกับความรู้สึกนี้
ในอีกด้านหนึ่งหวังหยุนจับข้อมือนางและพยายามตรวจอาการของนาง คนรอบข้างต่างใจเต้นระส่ำ และท่าทางของหวังหยุดยิ่งเคร่งเครียด
ฮันหยานเช็ดคราบเลือดออกจากมุมปากของเขา แล้วเขาหันไปทางหวังหยุน
"นางเป็นเป็นอย่างไร?"
ฮันหยานถาม
"ชีพจรของศิษย์พี่หญิงเยี่ยนอ่อนมากขอรับ นางมีอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส ยิ่งไปกว่านั้น พลังชีวิตของนางอ่อนอย่างมาก และมันเกือบหายไป...อาการของนางอยู่ขั้นวิกฤตขอรับ "
หวังหยุนตอบพร้อมส่ายหัว
ย้าก!!
หลังจากคำพูดได้ออกมาจากปากหวังหยุน ฮันหยานเงยหน้าขึ้นแล้วคำรามดังกึกก้องทั่วทั้งภูเขาเซวียนอี้ ฮันหยานโกรธเกรี้ยวถึงขีดสุด และเงาของปีศาจสวรรค์บรรพกาลได้ปรากฎขึ้นที่หลังของเขาอีกครั้ง
"เฝินคุน หากเยี่ยนเฉินหยวี่เป็นอะไรไปล่ะก็ ข้ารับประกันว่าเจียงเฉินจะต้องฉีกเจ้าให้เป็นชิ้นๆแน่!!"
เสียงของฮันหยานเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง
"ฮ่าฮ่า...น่าขัน!การที่เจียงเฉินมันจะกลับมาน่ะ ยาก!ฮันหยาน เจ้ากับเจียงเฉินเป็นผู้เดินทางสายมารร้าย วันนี้ข้าจะกำจัดสิ่งที่เป็นภัยร้ายให้พ้นจากนิกายเซวียนอี้ซะ!"
เฝินคุนหัวเราะเสียงดัง มันไม่สนใจคำขู่ของฮันหยาน
ฮันหยานปลดปล่อยมังกรปีศาจออกมา และพุ่งตรงไปยังเฝินคุน
"รนหาที่ตาย!ผนึก จองจำ!"
เฝินคุนเผยรอยยิ้มแสยะ มันสร้างผนึกไว้ที่นิ้วและวาดตัวอักษร 'หนึ่ง' ตรงหน้าและทันใดนั้นคำๆนั้นได้กลายเป็นกรงสีทอง ไม่เพียงแค่กรงนั่นทำลายมังกรปีศาจของฮันหยาน มันยังคลุมร่างฮันหยานและจองจำเขาไว้ภายใน
เฝินคุนได้ปลดปล่อยพลังออกมาเต็มที่ และถ่ายพลังหยวนเข้าไปมหาศาลเพื่อทำให้กรงนั้นแข็งแกร่งมั่นคงยิ่งขึ้น ฮันหยานคำรามออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่อาจทำลายกรงได้
นี่เป็นทักษะยุทธที่ทรงพลัง สามารถจองจำศัตรูได้ชั่วขณะ ศัตรูจะกลายเป็นแกะเชื่อรอถูกสังหารเท่านั้น
"ฮันหยาน อย่าได้พยายามโดยไร้ประโยชน์เลย ผนึกจองจำมันไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถทำลายได้ ข้าจักสังหารเจ้าปีศาจอย่างเจ้าต่อหน้าทุกคน!"
พลังปราณของเฝินคุนพุ่งสู่สวรรค์ มันได้ซัดฝ่ามือออกมาทันที ฝ่ามือซัดโดนหน้าอกข้างขวาของฮันหยานอย่างรุนแรง ทำให้หน้าอกฮันหยานยุบลงไปจากการลงมือครั้งนี้
พรู่ด!
ฮันหยานพ่นเลือดสดๆออกมาคำโต พร้อมกับเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยของอวัยวะภายใน พลังฝ่ามือของเฝินคุนรุนแรงยิ่งนัก เรือนที่พักที่แตกร้าวด้านหลังเฝินคุนได้ถล่มพินาศ
"ศิษย์พี่ฮัน!"
หวังหยุนตะโกนออกมาด้วยความตกใจ การลงมือของเฝินคุนนั้นรุนแรงมาก หากเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางทั่วๆไปโดนการลงมือผสานกับผนึกจองจำพร้อมซัดฝ่ามือใส่อย่างรุนแรง เขาคงตกตายทันที
ก๊าซ!
แต่ฮันหยานยังไม่ตาย เขายังคำรามเสียงดังอีกครั้งและยืนขึ้นจากซากปรักหักพัง ดวงตาของเขาดำสนิท และร่างกายของเขา ปรากฎลวดลายปีศาจและเกล็ดของปีศาจสวรรค์บรรพกาลขึ้น บนเกล็ดเหล่านี้มีอักขระโบราณอยู่
"ปีศาจก็คือปีศาจอยู่ดี การสังหารเจ้าเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว! "
เฝินคุนเคลื่อนไหวดั่งอสรพิษกำลังล่าเหยื่อ ด้วยความเร็วสูง มันได้ซัดฝ่ามือไปที่อกของฮันหยานอีกครั้ง ด้วยการจู่โจมครั้งนี้ เพลิงปีศาจที่ปกคลุมร่างของฮันหยานได้หายไปในทันที เขาได้สติจากสภาพตอนนี้ของเขา และร่วงลงบนพื้นนอนนิ่งไม่ไหวติง สภาพของเขาคล้ายกับเยี่ยนเฉินหยวี่
ชิ้ง!
ดาบยาวอันคมกริบได้ปรากฎขึ้นที่มือของเฝินคุนและมันเปล่งประกายเย็นเยียบ มันเดินไปหาฮันหยานทีละก้าวทีละก้าว
"เจ้ามารนอกรีต ลงนรกไปเสียเถอะ!"
ด้วยจิตสังหารที่พุ่งทะลวงฟ้า มันดูเหมือนว่าเฝินคุนจะบั่นคอฮันหยานด้วยดาบของมัน
เห็นเช่นนี้บนใบหน้าของหวังหยุนและคนอื่นๆเผยถึงความตึงเครียด พวกเขามองไปยังเฝินคุนด้วยความเกลียดชัง ในฐานะหนึ่งในหน้าตาของศิษย์ในเฝินคุนได้กล้าที่จะสังหารศิษย์ร่วมนิกาย ไม่เห็นกฎนิกายเซวียนอี้อยู่ในสายตา
แม้ว่ามันจะบอกว่าฮันหยานเป็นปีศาจร้าย ทุกๆคนต่างรู้ดีว่ามันเป็นเพียงข้ออ้าง สายเลือดปีศาจสวรรค์บรรพกาลอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา และนั่นหมายความว่าเขามีพลังของปีศาจสวรรค์บรรพกาล แต่จิตใจเขาไม่ได้เป็นปีศาจตามไปด้วย จากที่เขาเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเยี่ยนเฉินหยวี่ นั่นสามารถบอกได้ว่าเขาเป็นคนที่มีคุณธรรม
หวังหยุนและศิษย์คนอื่นๆไม่กล้าที่จะหยุดในสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่มีความกล้าที่จะพูดแม้แต่คำเดียว เพราะพวกเขาต่างรู้ว่าหากออกหน้าและพูดบางสิ่งล่ะก็ดาบในมือของเฝินคุนคงจะบั่นคอของพวกเขาในทันที ด้วยสถานะของมันในนิกายเซวียนอี้ เฝินคุนสังหารพวกมันจะไม่มีผู้ใดที่สามารถตำหนิมันได้
ตอนนี้หวังหยุนหวังเพียงแค่ให้ท่านผู้อาวุโสกั๋วมาที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากไม่ล่ะก็ชีวิตฮันหยานอาจต้องจบสิ้น
"หยุดมือ!!"
ในตอนนั้นเอง มีเสียงตะโกนดังออกมาแต่ไกล ในวินาทีถัดมา เงาคนพุ่งมาด้วยความเร็วเต็มที่ ทันใดนั้นเขาได้ปิดทางตรงหน้าเฝินคุนและกั้นมันไม่ให้ไปต่อ คนผู้นั้นก็คือ กั๋วฉานนั่นเอง
เมื่อกั๋วฉานมาถึงฉากนี้ เขาได้มองไปยังสภาพของเยี่ยนเฉินหยวี่ในทันที ในฐานะนักปรุงยา เขาสามารถบอกได้ถึงความร้ายแรงของอาการเยี่ยนเฉินหยวี่ได้ จากนั้นเขามองไปยังสภาพของฮันหยาน ซึ่งมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าสภาพของเยี่ยนเฉินหยวี่นัก
เห็นเช่นนี้ ความโกรธเกรี้ยวของกั๋วฉานได้ปะทุออกมา ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงก่ำและเขาจ้องมองไปยังเฝินคุนเหมือนหมาป่าที่กำลังกระหาย เมื่อเฝินคุนสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ออกมาจากกั๋วฉาน ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปในทันที ในนิกายเซวียนอี้ กั๋วฉานเป็นคนเดียวที่มันเกรงกลัว
"มารดามันเถอะ ไม่ใช่ว่าไอ้แก่นี่กำลังปิดประตูศึกษาปรุงยาอยู่รึ?เหตุใดเขาออกมาเร็วนัก?จะต้องมีคนแจ้งเขาเรื่องนี้เป็นแน่!"
เฝินคุนก่นด่าในใจ
"เฝินคุน เจ้าได้อะไรลงไป?!"
กั๋วฉานตะโกนออกมาดังสนั่นด้วยความกราดเกรี้ยว ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เขาได้รับปากกับเจียงเฉินว่าจะปกป้องดูแลความปลอดภัยของเยี่ยนเฉินหยวี่ขณะที่เขากำลังจะออกไป แต่ตอนนี้เยี่ยนเฉินหยวี่ได้โดนคนชั่วทำร้ายจนอาการสาหัส กระทั่งสหายของเจียงเฉิน ฮันหยานเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน กั๋วฉานสามารถอธิบายต่อเจียงเฉินเมื่อเขากลับมาได้อย่างไร?เขาจะเผชิญหน้ากับเจียงเฉินได้อย่างไร?
เมื่อคิดเรื่องนี้ กั๋วฉานยิ่งหงุดหงิด
"เฝินคุน เจ้าพยายามสังหารศิษย์ร่วมนิกาย!ข้าในฐานะผู้อาวุโสนิกาย ข้าจักสังหารเจ้าที่นี่เดี๋ยวนี้!"
กั๋วฉานปลดปล่อยพลังของผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ เขาขยับมือและปลดปล่อยฝ่ามือขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นจากพลังหยวนขึ้นมาแล้วมันบินไปยังเฝินคุน ภายใต้แรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ เฝินคุนไม่อาจขยับได้แม้แต่ก้าวเดียว
"ท่านปู่ ช่วยข้าด้วย!"
เฝินคุนตะโกนออกมาเสียงดัง ทันใดนั้นลำแสงสีทองได้พุ่งมาแต่ไกล มันราวกับดาบอันคมกริบและได้เข้าปะทะกับฝ่ามือขนาดยักษ์ของกั๋วฉาน และทันใดนั้นมันได้แหลกสลายเป็นชิ้นๆ
"กั๋วฉาน ตัวเจ้าในฐานะผู้อาวุโสนิกายแล้ว เจ้าลงมือกับศิษย์ได้อย่างไร?เจ้าไม่คำนึงถึงสถานะของตัวเองงั้นเรอะ?!"
เฝินจงถังได้ปรากฎขึ้น มันยืนอยู่ตรงหน้าหลานชายของมันเพื่อปกป้องหลานชายมันจากกั๋วฉาน
"เฝินจงถัง!เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ข้าต้องการคำอธิบาย!"
กั๋วฉานโกรธมาก เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อน เขาต้องการที่จะกระโจนไปยังเฝินคุนและฉีกมันให้เป็นชิ้นๆ หากไม่ใช่เพราะเฝินจงถังมาหยุดเขาไว้ เขาจะสังหารเฝินคุนในทันทีโดยไม่ต้องคิดถึงผลกระทบใดๆ
"ข้ารู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันเป็นเพียงความขัดแย้งระหว่างศิษย์ พวกเราในฐานะผู้อาวุโสนิกาย มันจะดีกว่าหากไม่ยื่นมือเข้ามายุ่งในเรื่องนี้ สิ่งที่เฝินคุนทำไปอาจไม่เหมาะสมอยู่ ไว้ข้ากลับไปจะลงโทษเขาเอง"
หลังจากพูดเสร็จเฝินจงถังพาตัวเฝินคุนบินขึ้นฟ้ากลับไปยังเขตใน
"หยุดอยู่ตรงนั้น!"
กั๋วฉานบินขวางทางพวกเขาไว้
"เฝินจงถัง เฝินคุนพยายามสังหารศิษย์ร่วมนิกาย ข้าจะต้องลงโทษมันซะ!"
"ฮึ่ม!กั๋วฉาน ระวังคำพูดของเจ้าด้วย หากว่าเฝินคุนได้ทำสิ่งใดผิดไป มันไม่ใช่เจ้าที่จะลงโทษเขา!ข้าปฏิบัติหน้าที่แทนท่านผู้นำนิกายในตอนนี้ ดังนั้นข้าจะเป็นผู้ลงโทษเขาเอง มันไม่ใช่ธุระกงการใดของเจ้า!"
เฝินจงถังแค่นเสียงเย็นชาและพาเฝินคุนกลับไป
"ดี ดีมาก!เฝินคุน เจียงเฉินจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่ ทั้งเจ้าและปู่ของเจ้า รอรับความโกรธเกรี้ยวของเจียงเฉินไว้ได้เลย ทั่วทั้งนิกายเซวียนอี้จะต้องรับความพิโรธของเจียงเฉินได้เลย ฮ่าฮ่า......"
กั๋วฉานหัวเราะออกมาเสียงดังก้อง เขารู้จักเจียงเฉินเป็นอย่างดี เจียงเฉินเป็นบุรุษที่เกิดมาเพื่อเป็นจอมราชันย์ และเขามีกลิ่นอายของผู้เป็นจอมราชันย์ เขาเป็นเหมือนดั่งมังกรแท้จริง และมังกรมีเกล็ดย้อนของมัน หากว่าผู้ใดแตะต้องมันผู้นั้นจักต้องตาย เยี่ยนเฉินหยวี่และฮันหยานเป็นเสมือนเกล็ดย้อนสำหรับเจียงเฉิน
กั๋วฉานรู้ดีว่าเรื่องใหญ่จะเกิดขึ้นกับนิกายเซวียนอี้ ความสงบสุขนี้อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเจียงเฉินกลับมาทั่วทั้งนิกายเซวียนอี้จะตกอยู่ในความโกลาหล
กั๋วฉานไม่ได้ไปคิดบัญชีกับเฝินจงถังต่อ เพราะเขารู้ดีว่ามันไม่จบสิ้นหากเขาได้สู้กับเฝินจงถัง เฝินจงถังปฏิบัติหน้าที่แทนผู้นำนิกาย และระดับการบ่มเพาะของมันสูงกว่าเขาเช่นกัน ไม่มีทางที่เขาจะทำสิ่งใดกับมันและหลานของมันเช่นกัน นอกจากนี้สิ่งที่กั๋วฉานกังวลมากในตอนนี้คืออาการของเยี่ยนเฉินหยวี่และฮันหยาน เขาจัดลำดับความสำคัญและเลือกที่จะช่วยชีวิตพวกเขาไว้ก่อน
กั๋วฉานแบกเยี่ยนเฉินหยวี่ด้วยมือข้างหนึ่งและฮันหยานด้วยมืออีกข้างหนึ่งจากนั้นบินขึ้นสู่ฟ้าและตรงกลับไปยังยอดเขาของเขา ถัดไปเขาจักต้องทุ่มกำลังทั้งหมดของเขาในการหาทางช่วยชีวิตของพวกเขาไว้
ในใจของกั๋วฉานเต็มไปด้วยความเสียใจ เขาได้ทำให้เจียงเฉินต้องผิดหวังและเขาไม่รู้ว่าจะเอาหน้าที่ไหนไปพบเจียงเฉินเมื่อตอนเขากลับมา เขาเกลียดชังตัวเองที่เก็บตัวบ่มเพาะในช่วงเวลานี้ ทั้งหมดเป็นเพราะความยั่วยวนของทักษะยอดวิญญาณต้าเหยี่ยน กั๋วฉานได้มุ่งความสนใจทั้งหมดไปยังทักษะยอดวิญญาณต้าเหยี่ยนและเขาไม่คาดว่าเฝินคุนจะหาญกล้ามาข่มเหงเยี่ยนเฉินหยวี่
"เจ้าน้องชาย ทั้งหมดเป็นความผิดของพี่ชายผู้นี้...ข้าจะพยายามเต็มที่และหวังว่าจะสามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้ เมื่อเจ้ากลับมาแล้ว จะสับจะแกงข้าก็เชิญ"
กั๋วฉานจ้องมองไปยังทิศเหนืออย่างว่างเปล่า เขาไม่กล้าจินตนาการเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเจียงเฉินกลับมา
สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้สร้างความวุ่นวายให้กับเขตนอกอย่างแท้จริง โดยเฉพาะผู้ที่เคยเห็นเจียงเฉินก่อความวุ่นวายเมื่อครั้งที่ผ่านมา ในใจของพวกเขา เจียงเฉินเป็นคนที่ไม่สามารถผูกมัดไว้ด้วยกฎใดๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่อาจจบอย่างสันติได้อย่างแน่นอน
สิ่งที่กั๋วฉานพูดยังคงก้องกังวาลภายในใจของศิษย์ทุกคน ความสงบสุขมันคงอยู่ได้อีกไม่กี่วัน
ในเวลาเดียวกันภายในเมืองหงหยาง ขณะที่กำลังเตรียมตัวต่อสู้กับราชันย์จันทราโลหิต อยู่ๆเจียงเฉินรู้สึกถึงความไม่สบายใจ
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว