ตะวันรึงรอน

4. หลงรัก คลั่งใคร่ /2

“ท่านแม่..ลูกชิ้นทอดเป็นยังไง?”

เด็กน้อยไม่เคยกินหรือแม้แต่ได้ยินชื่อมาก่อน

“ก็เป็นแป้งผสมกับเนื้อ ตอนนี้ไปซื้อส่วนผสมกันก่อนเถอะ”

โจวเถาเถาซื้อเนื้อหมูมาสองสามชั่ง รวมถึงเครื่องปรุงรสอีกหลายอย่าง พวกเขาพากันดินไปรอบๆ เด็กน้อยร้องขึ้นมาว่า

“ท่านแม่..ข้าขอซื้อหนังสือสักสองสามเล่มจะได้หรือไม่?”

“ได้สิ แม่จะซื้อหนังสือให้หงเอ๋อ "

“ท่านป้า!! ท่านอยากจะซื้ออะไรหรือ?”

เถ้าแก่ร้านทักทายด้วยรอยยิ้ม หากที่ทำให้โจวเถาเถาหน้าชาคือเขาเรียกนางว่า “ป้า” นี่ละ ฮึ่ม!!

“มีหนังสือเล่มไหนที่เหมาะสำหรับให้เด็กที่เริ่มอ่านไหม?”

คนขายรู้ทันทีว่านางจะซื้อหนังสือให้ลูกชาย เขาหยิบหนังสือออกมาจากชั้นสองสามเล่ม โจวเถาเถามองดูหนังสือเหล่านั้น เห็นได้ว่าตัวหนังสือไม่แตกต่างจากตัวหนังสือโบราณในชาติที่แล้วของนางมากนัก หญิงสาวถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีที่นางพอจะอ่านได้บ้าง

“คัมภีร์สามอักษร ร้อยแซ่สกุล เรื่องเล่าตำราพันอักษร” คนขายแอบมองโจวเถาเถา เขารู้สึกประหลาดใจที่หญิงอ้วนหน้าตาขี้เหร่คนนี้ สามารถอ่านหนังสือได้ ในสมัยนี้อย่าว่าแต่คนธรรมดาทั่วไปเลย แม้แต่บุตรสาวในตระกูลมีอันจะกินยังหาหญิงสาวที่รู้หนังสือนั้นยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก

“เอาหนังสือทั้งหมดสามเล่มนี้ล่ะ แล้วข้าต้องการ กระดาษ แท่นหมึกกับพู่กันเพิ่มอีกด้วย” นางใส่ทุกอย่างที่ซื้อมาในวันนี้ลงในตะกร้าแล้วใช้ผ้าปิดเอาไว้เพื่อไม่ให้ใครได้รู้ได้เห็น หลังจากที่เดินไปรอบๆ จนไม่มีอะไรที่ต้องการซื้อเพิ่มแล้ว นางจึงจูงมือลูกชายเดินกลับบ้าน ทันทีที่กลับถึงบ้าน นางแทบจะรอไม่ไหวที่จะสอนสูตรคูณให้ลูกชาย เสี่ยวหงเอ๋อเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วจนทำให้โจวเถาเถารู้สึกละอายใจ เป็นเพราะสมัยนางยังเด็กกว่าจะเรียนรู้ได้ก็นับว่าใช้เวลาไม่น้อยเลยทีเดียว นางหยิบหนังสือ คัมภีร์สามอักษรขึ้นมาสอนลูกชายในหนึ่งย่อหน้า เด็กน้อยก็สามารถจำได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

ช่างน่าทึ่งเสียนี่กระไร!!

โจวเถาเถาจับหัวลูกชายโยกไปมาเบาๆ นางมองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ แล้วชมเขา

“เสี่ยวหงเอ๋อ ไอคิวลูกต้องสูงมากแน่ๆ”

“ไอคิว!! คืออะไร?” เด็กน้อยถามทันที

“เอิ่ม..นั่น”

มารดาจะอธิบายให้เจ้าฟังได้อย่างไรดีล่ะ?

พูดถึงไอคิวแล้ว ไอคิวคืออะไรล่ะ?

หลังจากนึกอยู่นาน ที่สุดนางก็คิดได้ว่า

“ก็หมายความว่า ลูกเป็นเด็กที่ฉลาด ฉลาดมากกว่าผู้อื่นอย่างไรเล่า…”

โจวเถาเถาอดหยิกแก้มเขาไม่ได้ “หงเอ๋อทำไมฉลาดแบบนี้ เจ้าเป็นลูกแม่จริงๆ หรือเปล่านะ?”

เด็กน้อยหน้าแดงเพราะคำชมของมารดา แม้ว่าใบหน้าจะเขินอาย หากดวงตาของเขากลับแวววาวเปล่งไปด้วยความปีติยินดีในคำชมของท่านแม่ของเขา โจวเถาเถาตัดสินใจที่จะส่งลูกชายไปเรียนหนังสือทันที ไม่เช่นนั้นคงได้แต่ไว้อาลัยกับมันสมองที่ชาญฉลาดขนาดนี้

เย็นวันนั้น โจวเถาเถาทอดลูกชิ้นตามที่นางพูดกับลูกชายเอาไว้ ลุกชิ้นที่ทอดเป็นสีทองสวยงามดูน่ากินและยังมีรสชาติอร่อยอีกด้วย ทันทีที่ลูกชิ้นถูกนำขึ้นจากกะทะ ทันใดนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูบ้าน โจวเถาเถาเดินไปเปิดประตูเห็น นางหล่ายยืนอยู่ที่หน้าประตูนางอุ้มเด็กอายุห้าหรือหกขวบเอาไว้ในอ้อมแขน

“มีเรื่องอะไรหรือ?” โจวเถาเถาถามอย่างเย็นชา

นางหล่ายยิ้มให้นางราวกับสนิทสนมกันมาก่อน

“หยวนเป่า เจ้าอยากมาหาป้าหวังไม่ใช่หรือ? ทำไมไม่ไปหาป้าล่ะ?”

เด็กชายอ้วนท่าทางแข็งแรงทำท่ารังเกียจ “ท่านแม่ ป้าหวังทั้งอ้วน ทั้งน่าเกลียด”

นางหล่ายไม่คิดว่าลูกชายจะพูดแบบนั้นออกมา นางจึงรู้สึกเขินอาย หากแต่พูดว่า “เด็กน้อยเจ้าไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเจ้าเป็นใบ้นะ "ว่าแล้วนางก็ฟาดเพียะไปที่แขนอ้วนของลูกชาย

“ท่านแม่ไม่ได้พูดแบบนี้หรือ? ..แล้วท่านแม่ตีข้าทำไม?” เด็กอ้วนยิ่งร้องเสียงดังยิ่งทำให้นางหล่ายยิ่งอายมากยิ่งขึ้น โจวเถาเถามองไปที่การแสดงออกของคนตัวเล็กตัวใหญ่ที่อยู่ข้างหน้านาง นางจะไม่รู้เชียวหรือว่าสองคนนี้พูดจาลับหลังนางอย่างไร?

ถึงแม้ว่าเจ้าของร่างเดิมจะเป็นคนใจคอหยาบกระด้าง แต่นางก็ถือว่านางหล่ายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนาง ในความทรงจำของโจวเถาเถาแล้ว หวังเสี่ยวเตี๋ยเองก็ดีกับหยวนเป่ามากกว่าลูกชายของนางเสียอีก

เมื่อเห็นว่านางหล่ายพยายามปกป้องตัวเองด้วยการตีลูกชายก็ทำให้โจวเถาเถาถึงกับพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้คิดว่านางโง่มากหรือ..ถ้านางหล่ายไม่พูดกับลูกชายแบบนั้นแล้วเด็กจะรู้เรื่องนี้มาใครกันละ? การสอนและการกระทำให้เด็กเห็นเป็นตัวอย่างมีความสำคัญมาก

“มีอะไรหรือเปล่า?”

นางหล่ายไม่ตอบคำถามหากถามนางกลับว่า

“เจ้าทำอะไรกินหรือ? กลิ่นหอมจริงๆ” ว่าแล้วนางก็วางหยวนเป่าลง เด็กน้อยก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที เมื่อได้โอกาสนางก็รีบเดินตามลูกชายนางเข้าบ้านไปทันที โจวเถาเถาก็พูดไม่ออกอีกครั้ง สองแม่ลูกผู้นี้ช่างไม่รู้จักมองสีหน้าผู้คนเลยว่า เขายินดีต้อนรับหรือไม่?

หยวนเป่าวิ่งไปที่ห้องครัวทันที เขาเห็นลูกชิ้นทอดสีทองที่อยู่ในจาน เขารีบคว้าเข้าปากทันทีโดยไม่กลัวว่าจะร้อนลวกปากเลย พอเสี่ยวหงเอ๋อได้ยินเขาก็รีบวิ่งเข้ามาในครัวทันที

เขาเห็นหยวนเป่าคว้าลูกชิ้นเข้าปากด้วยมือที่สกปรกของเขา

“อย่าขโมยนะ”

หยวนเป่าหันกลับไปมองอย่างไม่สนใจ ดูท่าเขาไม่กลัวหงเอ๋อเลย “อย่ากินนะ! ห้ามกิน!”

ซาลาเปาน้อยตะโกนห้ามเสียงดังมากขึ้น หยวนเป่ามองมาที่หงเอ๋อ มือหนึ่งยกกำปั้นอีกมือหนึ่งก็กวักมือเรียกหงเอ๋อ

หงเอ๋อยกมือปกป้องลูกชิ้นในจาน หยวนเป่ายิ่งโกรธมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นเขาไม่ให้กินเด็กอ้วนปล่อยลูกชิ้นแล้วชกเข้าที่หน้าของหงเอ๋อทันที เด็กน้อยโดนชกใบหน้าปวดแปลบ หากเขาก็ไม่ยอม ชกกลับไปทันทีเหมือนกัน ตอนนี้เด็กทั้งสองเลยตะลุมบอนสู้กันเป็นการใหญ่

เมื่อโจวเถาเถาได้ยินเสียงของเสี่ยวหงเอ๋อ นางรีบหมุนตัวจะไปที่ห้องครัวทันทีหากนางหล่ายกลับรู้ว่าลูกชายนางไปหาของกินที่ห้องครัว หลังจากเขากินอิ่มแล้วก็จะเอามาฝากนางด้วย นางจึงฉุดมือของโจวเถาเถาเอาไว้ หากโจวเถากลับสะบัดมือหล่ายซื่อทิ้งแล้ววิ่งไปที่ห้องครัวทันที ภาพที่เห็นคือเด็กสองคนกลิ้งกันอยู่กับพื้นต่างดึงผมซึ่งกันและกัน อีกคนก็ลงกัดแขนกันอย่างไมยอมปล่อย โจวเถาเถาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก นางหล่ายที่เพิ่งเข้ามาจึงรีบวิ่งไปแยกทั้งสองคนออกจากกัน

เมื่อนางหล่ายเห็นลูกชายหน้าตาสะบักสะบอม นางโกรธเคืองและสาปแช่งเสี่ยวหงเอ๋อทันที “เด็กสารเลว เจ้าช่างขวัญกล้าเทียมฟ้ามากนะ เจ้ากล้าสู้หยวนเป่าของข้าหรือ?”

โจวเถาเถามองปอยผมที่ถูกดึงออกมาจากขมับของหงเอ๋อแล้ว นางโมโหจนหน้าเปลี่ยนสี นางทุกข์ใจเป็นอันมาก!!

***************














รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว