สู่ชีวิตนิรันดร์-บทที่ 15 บุกจวนตระกูลโหลว

โดย  สำนักยุทธ

สู่ชีวิตนิรันดร์

บทที่ 15 บุกจวนตระกูลโหลว

บทที่ 15 บุกจวนตระกูลโหลว


“ตะ แต่ก่อนหน้านี้… ก่อนหน้านี้หากไม่ใช่เพราะโชคช่วย พวกเราก็อาจจะไม่มีทางชนะเลยก็ได้ไม่ใช่หรือ? หากมิใช่เพราะท่านพัฒนาได้สามขั้นอย่างถูกเวลา เกรงว่า...”


เหลียงเฟยรู้สึกหงุดหงิดจึงขัดจังหวะคำพูดของนางด้วยน้ำเสียงฮึดฮัด “วาจาไร้ซึ่งความน่าเชยชมนัก เจ้าคิดจะละทิ้งบิดาและมารดาของเจ้าแล้วหรือไร? ฮึ ลูกอกตัญญู!”


“ไม่ ไม่ มิได้เป็นเช่นนั้น ข้าเพียงคิดว่าเรื่องนี้เกินกำลังนัก พึงปรึกษาหารืออย่างถี่ถ้วนเสียก่อน!” เซียวหนิงเสวี่ยรู้สึกเจ็บปวดจากสุดขั้วของหัวใจเมื่อถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกอกตัญญู นางรีบแก้ต่าง


“ปรึกษาอย่างถี่ถ้วนก่อนหรือ?” เหลียงเฟยถามประโยคหนึ่ง


เซียวหนิงเสวี่ยพยักหน้าและคิดว่าเขาคงจะยอมวางมือจากเรื่องนี้ลงก่อน


ทว่าเหลียงเฟยกลับฮึดฮัดใส่อีกครั้ง “บิดามารดาของเจ้าอยู่ในน้ำในไฟ ควรรีบช่วยเหลือมิใช่หรือ? เจ้าคิดว่าทั้งสองท่านจะรอให้เจ้าหารือเสร็จก่อนค่อยตายหรือไร?”


กล่าวมาถึงตรงนี้ เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ก็ได้ ข้าผิดเอง เป็นข้าที่ด่วนสรุปแล้วแส่มือเข้ามาช่วยเจ้า ในเมื่อเจ้าไม่สนใจ ข้าจะสนใจไย? บิดามารดาของเจ้ามิใช่บิดามารดาของข้า ข้าไปก็แล้วกัน”


เหลียงเฟยหันหลังกลับทันทีที่พูดจบ เขาเตรียมที่จะจากไป


“เหลียงเฟย เหลียงเฟยเดี๋ยวก่อน!” เซียวหนิงเสวี่ยรีบร้องเรียกสองคำ แต่กลับนึกคำพูดไม่ออก ท่าทางอึดอัดใจยิ่งนัก


อย่างไรก็ตาม เหลียงเฟย ดูเหมือนสิ้นหวังในตัวนางแล้ว เขาหันหลังเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง


สตรีนางนี้แม้แต่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเลี้ยงดูนางจนเติบโตมา นางก็ยังไม่สนใจชีวิตความตายของทั้งสอง เช่นนั้นแล้วจึงไม่ต้องหวังให้เขาจะดีกับนางได้ หากคบไว้เป็นมิตรคงจะมีแต่เรื่องให้ต้องเฝ้าระแวงแวดระวังเป็นแน่แท้!


เซียวหนิงเสวี่ยเห็นดังนั้นก็หยุดชะงัก ก่อนจะตัดสินใจก็รีบวิ่งเข้าไปคว้ามือเขา!


เหลียงเฟยหยุดนิ่ง!


นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกสตรีจับมือ!


ความรู้สึกเช่นนี้ราวกับไปถึงแดนสวรรค์ที่ปราศจากมลทิน มีเสียงนกร้อง และหมู่ไม้งามบานสะพรั่ง กลิ่นรัญจวนหอมของดอกไม้ปะปนอยู่ในสายลมรอบตัว ยากที่จะแยกว่านี่เป็นความฝันหรือภาพลวงตา


ผิวเนื้อนางอ่อนโยนดั่งปุยนุ่น มือเนียนนุ่มเรียวสลวยดั่งหยกขาว กายเยื้องย่างส่งกลิ่นหอมน่าจับจอง ยิ่งได้มองยิ่งหมายปองกว่าเชยชม


ผู้ฝึกสัตว์อสูรหนุ่มมัวเมาไปชั่วขณะไปกับความรู้สึกที่แปลกใหม่เช่นนี้!


เซียวหนิงเสวี่ยไม่ได้สังเกตเห็นแววตาของเหลียงเฟยเลย แต่เมื่อเห็นว่าเขาหยุดแล้ว นางก็พลันรู้สึกยินดีขึ้นมาในใจพลางเอ่ยเสียงเบา “เหลียงเฟย ข้าผิดไปแล้ว!”


เหลียงเฟยได้ยินเช่นนั้น จึงรีบตั้งสติกลับคืนมาทันทีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เช่นนั้นก็ไปกันต่อเถอะ ไปยังบ้านตระกูลโหลว!” พอพูดจบ เขาก็เดินนำหน้าออกไปทันที สีหน้ายังคงไม่มีแววหวาดกลัวแต่อย่างใด ครั้งนี้เขารู้สึกมั่นใจยิ่งกว่าเดิมเสียด้วย


โหลวอวี้ตี๋ประเมินเหลียงเฟยไว้ต่ำมาก เพราะงั้นจึงทำให้ตลอดสองฝั่งทางที่เดินทางมายังจวนตระกูลโหลวนั้น พวกเขาไม่ได้พบเจอยอดฝีมือใด ๆ จากตระกูลโหลวที่ถูกส่งมาขัดขวางให้เกิดอุปสรรคเลย


เมื่อมาถึงจวนตระกูลโหลวเหลียงเฟยก็พบว่ามันกว้างใหญ่ไพศาล มีกำแพงสีแดงหลังคาสีเขียว มีการแกะสลักประตูหน้าต่าง มีรูปวาดหงศ์เพลิงบนหน้าต่าง บ้านหลังใหญ่ล้ำลึก หรูหราโอ่อ่า น่าเกรงขาม!


ยิ่งใหญ่จริง ๆ!


เหล่ายามที่ยืนอยู่หน้าประตูเมื่อเห็นเหลียงเฟยมาถึงที่นี่ ทั้งสองก็ล้วนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้เรื่องที่เหลียงเฟยแสดงความโอหังกับตระกูลโหลวนั้นโด่งดังไปทั่วแล้ว แม้จะเป็นเพียงยามหน้าประตูก็พอจะได้ยินมาบ้าง


ทุกคนรับรู้แล้วถึงต้นเหตุของอันธพาลตระกูลโหลวที่ตายไปห้าคน ณ โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง และการมาถึงที่นี่ของเหลียงเฟยก็ยังทำให้พวกเขาเข้าใจได้ด้วยว่าเหล่าผู้ฝึกยุทธ์กว่ายี่สิบคนที่ถูกส่งไปจัดการเหลียงเฟยกับเซียวหนิงเสวี่ยนั้นก็ไม่ประสบความสำเร็จด้วย! ทั้ง ๆ ที่กลุ่มนั้นมีทั้งปรมาจารย์ยุทธ์อยู่ 3 คนและยอดยุทธ์อีกตั้ง 2 คนแท้ ๆ!


ในตอนนี้ หากจะบอกว่าเหลียวเฟยน่ากลัวกว่ารูปลักษณ์ที่เห็นคงจะไม่เกินจริงไปนัก !


เหลียงเฟยมิได้เป็นคนโง่เขลา ชายหนุ่มคนนี้มีความสามารถที่จะท้าทายสกุลโหลวได้ดังกิริยาท่าทีของเขาจริง ๆ!


“ไม่นะ! เจ้าเหลียงเฟยนั่นจะมาฆ่าพวกเราแล้ว!” เหล่าทหารยามร่างผอมเกร็งตื่นสติขึ้น ก่อนจะตะโกนเสียงดัง พร้อมกับวิ่งเข้าไปในจวนตระกูลโหลว


เหล่าทหารคนอื่นต่างชักกระบี่ประจำกายออกมา ดวงตาจ้องเขม็งไปยังเหลียงเฟยและเซียวหนิงเสวี่ยด้วยท่าทีพร้อมประจันหน้า กระนั้นพวกเขาก็ยังคงถอยกรูดไปทีละก้าวเหมือนเหล่ายอดฝีมือบนถนนเมื่อครู่ ไม่มีผู้ใดกล้าลงมือลองของกับเหลียงเฟยเป็นคนแรก !


ทั้งสองคนเดินลุยเข้ามาในประตูใหญ่ จนกระทั่งมาถึงลานบ้านขนาดใหญ่ !


เพียงแค่กวาดสายตาก็สามารถเห็นศาลาแกะสลักระเบียงหยก วังหยกหอแก้ว ตำหนักเรียงรายสลับซับซ้อน สวนหย่อมนานา ทรัพย์สมบัติล้นหลาม ยิ่งตอกย้ำถึงอำนาจอันเกรียงไกรของสกุลโหลว !


โหลวอวี๋ตี้ ได้ฟังรายงานจากยามหน้าประตูจวนแล้ว แม้ว่าตนจะไม่อยากเชื่อในสิ่งนี้ แต่เพราะสายตาเหลือบไปเห็นร่างของเหลียงเฟยและเซียวหนิงเสวี่ยที่บุกเข้ามาถึงหน้าลาน มันก็ทำให้เขาไม่อาจจะปฏิเสธความจริงได้


เดิมเขาคิดว่าทั้งสองต้องบาดเจ็บกันบ้าง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือมากมายเช่นนี้ !


ไม่คาดคิดว่าทั้งสองกลับไร้ซึ่งบาดแผลใด ๆ ทุกย่างก้าวนั้นมั่นคงและทรงพลัง ไร้ร่องรอยของการบาดเจ็บให้เห็น!


มันเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?


หรือว่าเหลียงเฟยจะอยู่ในขั้นที่สามารถเก็บซ่อนลมปราณไว้ได้แล้ว เขาแข็งแกร่งกว่าที่เห็นจากภายนอกและไม่ได้อยู่เพียงระดับขัดเกลากระดูกอย่างที่เข้าใจ?


เหลียงเฟย ไม่สนใจสีหน้าของ โหลวอวี้ตี๋ พุ่งตรงไปยังกลางลานบ้าน มองไม่เห็นเหล่าทหารที่ล้อมรอบ เอาแต่ก้าวไปข้างหน้าขณะตะโกนว่า “คุณชายโหลว เจ้าคนชั่วช้าไร้ยางอาย ส่งยาถอนพิษที่เจ้าใช้กับบิดามารดาของแม่หญิงเซียวมาเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้น...”


“มิเช่นนั้นอย่างไร?” คุณชายโหลวได้สติคืนมาก็ไม่ได้หวั่นกลัว เขาตอบโต้กลับด้วยการยั่วโมโห


อย่างไรก็ตาม นี่คือจวนตระกูลโหลว มีผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเลิศอยู่ที่นี่มากมายเสียยิ่งกว่าปุยเมฆเมื่อเทียบกับกลุ่มคนบนถนนเมื่อครู่ แถมผู้คนภายในจวน ก็ยังแข็งแกร่งกว่าคนที่เหลียงเฟยได้เจอก่อนหน้าอยู่มากเลยด้วย!


ยิ่งกว่านั้นที่นี่ยังเป็นแหล่งรวบรวมเหล่ายอดฝีมือระดับพระกาฬของตระกูลโหลวอยู่อีก!


ไม่เชื่อหรอกว่าเพียงคนคนเดียวจะสามารถทำลายตระกูลโหลวที่ยิ่งใหญ่มากว่าร้อยปีได้!


“มิเช่นนั้น ข้าจะฆ่าเจ้า!” เหลียงเฟยตะโกนหนักแน่น ใช้กระบวนท่าของตระกูลโหลวที่พัฒนาจนสมบูรณ์ แล้วสังหารผู้ฝึกยุทธ์ในลานนี้สองคนในพริบตาเดียว!


เห็นเช่นนั้นเซียวหนิงเสวี่ยจึงเข้าใจในที่สุดว่าเพราะเหตุใดเหลียงเฟยถึงสามารถสังหารผู้ฝึกยุทธ์ได้ถึงห้าคนในโรงเตี๊ยมได้ด้วยตัวคนเดียว!


เหล่าผู้ฝึกยุทธ์คนอื่น ๆ ที่ได้เห็นเหลียงเฟยสังหารคนไปสองคนติด ก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว พวกเขาถอยหลังไปอีกคนละก้าวหนึ่ง ร่างกายของแต่ละคนต่างสั่นเทิ้มไปโดยไม่รู้ตัว


ในสายตาของพวกเขา เหลียงเฟยก็เหมือนกับยมทูตตนหนึ่ง!


น่ากลัวเกินไปแล้ว!


โหลวอวี้ตี๋ก็รู้สึกตกใจและตะลึงงัน แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจยิ่งกว่าคือ เหลียงเฟยใช้กระบวนท่าของตระกูลโหลวได้! แถมมันยังสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติอีก!


นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?


ขณะที่กำลังครุ่นคิด เหลียงเฟยก็ตะโกนขึ้นอีกครั้ง "โหลวอวี้ตี๋ เอายาเเก้พิษมาให้ข้าซะ ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้าจริง ๆ แล้วนะ!"


ทันทีที่พูดจบ เสียงฝีเท้าคู่หนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ตามมาด้วยเสียงเอ่ยกล่าวของคนสูงวัย "ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่โอหังสิ้นดี! บอกจะฆ่าลูกชายข้า เจ้าได้ถามบิดาของเขาอย่างข้าหรือยังว่าจะยอมให้ทำหรือไม่?!"


น้ำเสียงนั้นทรงพลัง ก้องไปทั่วฟ้า สั่นสะท้านไปทั่วทั้งขุนเขาลำเนาไพร!


เพียงแค่เสียงก็มากพอที่จะประเมินความแกร่งกล้าได้ ผู้ที่มาใหม่นี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และอย่างน้อยเขาก็ต้องอยู่ในระดับปราชญ์ยุทธ์แน่ ๆ!


เซียวหนิงเสวี่ยรับรู้ได้ถึงจุดนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความหวาดกลัวออกมา ทว่าเมื่อนางหันไปมองเหลียงเฟย นางกลับพบว่าเขายังคงนิ่งเฉยและไม่หวาดกลัว ยิ่งได้เห็นเช่นนั้นก็ยิ่งงุนงงสงสัยเขาได้ความกล้ามาจากไหน เหตุใดจึงได้กล้าหาญขนาดนี้!


นางหันกลับไปยังทิศทางของศัตรู มองเห็นแสงสว่างวาบขึ้นมาจากสวนด้านหลัง ตามมาด้วยกลิ่นอายพลังที่แกร่งกล้าราวกับจะทำลายโลกได้ กลิ่นอายพลังนี้คืบคลานเข้าหาเซียวหนิงเสวี่ยและเหลียงเฟยอย่างไม่รอช้า


แม้จะยังมาไม่ถึงตัว คลื่นลมอันทรงพลังก็มาถึงก่อนแล้ว!


  ตามปกติกลิ่นอายพลังจะก่อตัวเหมือนคลื่นยักษ์ในท้องทะเล มันกลืนกินทุกสรรพสิ่งด้วยความแกร่งกล้า และจะกระจายตัวไปปกคลุมพื้นที่ในวงกว้าง สร้างความรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออกให้แก่ทุกคนที่สัมผัสได้ถึงมัน


  แต่กลิ่นอายพลังของชายผู้นี้กลับเล็กน้อยราวเส้นไหม ทว่ากลับแข็งแกร่งราวเหล็กกล้าจำนวนนับล้านพุ่งเข้ามาเฉือนให้เจ็บปวดทั่วทั้งร่างราวกับจะฉีกขาดออกเป็นห้าส่วน!


  เซียวหนิงเสวี่ยรู้ดีว่าพลังนี้แข็งแกร่งรีบควงกระบี่แดงวาดกระบี่ประกายแสงสว่างเจิดจ้ากระจายอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเกราะกำบังขวางพลังนั้นไว้ได้อย่างรวดเร็ว


  เหลียงเฟยก็สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของกลิ่นอายพลังนี้ เขาไม่คิดจะปะทะเข้ากับมันและรีบใช้ฝีเท้าลมกรดเพื่อเคลื่อนไหวร่างกายหลบการโจมตีที่รุนแรงนี้แทน!


  ตันกำเนิดกลิ่นอายพลังนี้อยู่ใกล้ ๆ โหลวอวี้ตี๋ เจ้าของพลังนั้นเป็นเงาดำร่างกายสูงใหญ่ ตั้งตรงเหมือนต้นสน สวมใส่เสื้อผ้าราคาแพง ใบหน้าใหญ่สีเหลืองทอง คิ้วหนา จมูกสูงโด่งและมีริมฝีปากหนา ดูเป็นคนที่มากด้วยพลังและดุร้ายยิ่งกว่าเย่เทียนฉงหลายเท่านัก!


รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว