นางมารร้ายของนายมาเฟีย-ตอนที่ 22 เด็กไม่ยอมกินผัก

โดย  ณิณิณ

นางมารร้ายของนายมาเฟีย

ตอนที่ 22 เด็กไม่ยอมกินผัก

อ่านจนจบได้ที่แอพ Meb จำนวน 125 ตอน

_________________________

แคนาดา

ภายในห้องนอนอันอบอุ่น แสงแดดยามเช้าที่ส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามากระทบใบหน้าสวยอิ่มเอิบ ที่กำลังหลับพริ้มอยู่บนเตียง ช่วงนี้เป็นฤดูหนาวของประเทศแคนาดา ทำให้อากาศหนาวมาก

มุกดาแทบไม่อยากลุกจากที่นอนเลย แต่เพราะมีร่างเล็กของใครบางคนไต่ขึ้นมาบนตัว จนทำให้เธอต้องตื่นจนได้ และสิ่งที่รบกวนเธอจากฝันหวานก็คือลูกสาวตัวน้อยของเธอนั่นเอง

“อื้อ…มิริน...ซนตั้งแต่เช้าเลยนะ”

“คุงแม่ตื่น...ตื่น”

มุกดาลืมตามองเด็กน้อยลูกเสี้ยวหน้าตาน่ารัก ใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นดูคมคายละม้ายคล้ายผู้เป็นพ่อมาก คุณแม่ลูกหนึ่งงัวเงียพร้อมจับลูกสาวตัวน้อยมากอดหอมไปรอบหนึ่ง เสียงเล็กแหลมหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเพราะรู้สึกจั๊กจี้

มุกดานอนเล่นบนเตียงกับลูกสักพักจึงค่อยพาลูกไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วค่อยจัดการกับตัวเองต่อโดยมีลูกสาวรออยู่ข้าง ๆ อย่างเชื่อฟัง

หนูน้อย มิรันดา ชัยบริรักษ์ หรือ มิริน ที่เพิ่งฉลองวันเกิดอายุสามขวบ กับคุณปู่คุณย่าและน้าลูกศรน้ามินนี่ผ่านวีดีโอคอลเมื่อไม่กี่วันก่อนยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่

เผลอแป๊บเดียวคนที่จากบ้านมาไกลก็อยู่ที่นี่มาเกือบสี่ปีแล้ว ตอนที่เธอคลอดมิรินพ่อกับแม่ก็มาอยู่เป็นเพื่อน หลังจากนั้นพ่อก็กลับไปทำงานตามเดิม ส่วนคุณแม่รั้นจะอยู่ต่อจนมิรินครบหนึ่งขวบ เพราะทำใจห่างจากหลานสาวตัวน้อยไม่ได้ และไม่วางใจให้คุณแม่มือใหม่อย่างมุกดาเลี้ยงลูกคนเดียว

มุกดาดรอปเรียนไปหนึ่งเทอม เพราะอยากมีเวลาเลี้ยงลูกอย่างเต็มที่ หลังจากนั้นก็กลับมาเรียนต่อจนจบ และเริ่มทำงานในบริษัทจิวเวลรี่ในแคนาดาต่อ เพื่อหาประสบการณ์การที่จะนำไปต่อยอดในธุรกิจของครอบครัว

หลังจากทำธุระส่วนตัวกันเสร็จ คุณแม่วัยยี่สิบสี่ก็อุ้มลูกออกมาทานข้าวเช้าที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้ หลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอต้องทำเอง...ยกเว้นเรื่องเดียวคือทำอาหาร คงเป็นสิ่งที่เกินความสามารถของมุกดาจริง ๆ นอกจากนี้เธอยังจ้างพี่เลี้ยงให้คอยดูแลลูกสาวตอนที่เธอออกไปทำงานอีกหนึ่งคน

“ว้าว! วันนี้อาหารของมิรินน่ากินจังเลย”

มุกดาทำท่าทางตื่นเต้นเพื่อหลอกล่อลูกสาว มิรินเป็นเด็กเลี้ยงง่ายและหัวไว ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรก็จำได้อย่างรวดเร็ว ปกติเด็กน้อยไม่ค่อยดื้อกับผู้เป็นแม่ ยกเว้นเรื่องเดียวคือเรื่องกิน

มิรินไม่ชอบกินผักมากที่สุด มุกดาจึงต้องเกลี้ยกล่อมให้ลูกยอมกินเพราะผักเป็นอาหารที่มีประโยชน์ กว่าจะผ่านไปได้ในแต่ละมื้อเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ไม่รู้ไปได้นิสัยดื้อรั้นแบบนี้มาจากใคร

“คุงแม่ ไม่เอาผัก...อี๋”

ปากน้อย ๆ ยื่นออกมาด้วยความไม่พอใจ ที่เห็นผักอยู่ในจานอาหารของตัวเอง

“ไม่ได้นะคะ ไหนเราสัญญากันไว้แล้วไง ถ้ามิรินยอมกินผักครบหนึ่งเดือน ก็จะได้รูปพ่อหนึ่งใบ หรือว่ามิรินไม่อยากได้แล้ว”

คนเป็นแม่ยกข้ออ้างที่เคยสัญญาไว้กับลูกสาวขึ้นมา ตั้งแต่มิรินเริ่มจำความได้เธอก็ไม่คิดปิดบังเรื่องพ่อของลูก มุกดายังจำครั้งแรกตอนที่ลูกสาวถามถึงพ่อได้

“คุงแม่!...ทำไมมิรินไม่มีคุงพ่อคะ?”

“หนูถามทำไมลูก”

“ก็แอลลี่กับนิกมีคุงพ่อกันหมดแถมยังใจดีด้วย แต่มิรินไม่มีคุงพ่อเลย มิรินอยากได้คุงพ่อค่ะ”

“คือ...มิรินก็มีพ่อเหมือนกัน แต่คุณพ่ออยู่ไกลมาก ๆ จึงมาหามิรินไม่ได้”

เมื่อต้องเอ่ยถึงคนที่ไม่ได้เจอมาหลายปีกระทันหัน มุกดาจึงหาคำอธิบายที่ดีกว่านี้ไม่ได้

“ไกลมากเลยเหรอคะ มิรินจะไปหาคุงพ่อเอง”

น้ำเสียงเหงาหงอยของหนูน้อยบอกกับแม่

“ไกลมากจ้ะ แม่ถึงพาหนูไปไม่ได้ไง”

“คุงพ่อไม่ชอบมิรินเหรอคะ ทำไมถึงไม่มาหาเลย”

แววตาใสซื่อของลูกทำให้มุกดาพูดไม่ออก เธอไม่อยากให้ลูกรู้ว่าพ่อกับแม่เกลียดกัน จึงได้แต่หาเหตุผลต่าง ๆ มาปลอบใจลูกเท่านั้น

“มิรินอยากได้รูปคุงพ่อ จาเอาๆ”

น้ำเสียงกังวานใสทำให้คนที่ใจลอยหันกลับมาสนใจลูกอีกครั้ง

“ถ้าอยากได้ก็ต้องกินผัก ป้าแมรี่ใส่ผักนิดเดียว”

“ก็ด้ายค่ะ”



สุดท้ายมิรินก็ยอมกินเพราะอยากได้รูป หนูน้อยสะสมรูปพ่อได้หลายใบแล้ว มุกดาเคยคิดจะทิ้งรูปของครูซแต่สุดท้ายเธอก็เปลี่ยนใจ เพราะคิดว่าจะเก็บไว้ให้ลูกดู ยังดีที่มันยังมีประโยชน์อยู่บ้างในตอนนี้ หลังทานข้าวเสร็จลูกสาวก็ทวงรูปพ่อทันที

“เย้ ๆ คุงพ่อหล่อที่สุด”

มิรินรีบนำรูปพ่อใบใหม่ไปแปะในอัลบั้มทันที นี่เป็นของรักของหวงที่มิรินเก็บไว้อย่างดีไม่ว่าจะไปไหนเธอก็จะเอามันไปด้วยทุกที่

มุกดาสัญญากับลูกแล้วว่าสักวันจะพาไปเจอพ่อ มิรินจึงไม่เซ้าซี้เรื่องนี้กับคนเป็นแม่อีก หนูน้อยได้แต่ตั้งหน้าตั้งตารออย่างมีความหวังเท่านั้น

......................................................................

สนามบิน XXX

เที่ยวบินตรงจากแวนคูเวอร์ถึงกรุงเทพฯ ใช้เวลาเกือบสิบสี่ชั่วโมงก็มาถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย ผู้โดยสารบนเครื่องพากันทยอยเดินออกมา รวมถึงหญิงสาวที่อุ้มลูกน้อยวัยสามขวบมาด้วย

คนที่จากบ้านไปนานนึกไม่ถึงเลยว่าสาเหตุที่เธอต้องรีบร้อนกลับมา เป็นเพราะพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ยังไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ตลอดการเดินทางมุกดาได้แต่ภาวนาขอให้พ่อปลอดภัย

มินนี่มารอรับมุกดาและมิรินที่สนามบิน พอทั้งสองมาถึงก็พากันตรงไปที่โรงพยาบาลทันที มินนี่บอกว่าตอนนี้พ่อของเธอออกจากห้องไอซียูแล้ว หัวใจที่บีบรัดของมุกดาจึงคลายลงได้บ้าง ส่วนมิรินเองทำตัวว่าง่ายไม่งอแงเลยแม้แต่น้อย เพราะรู้ว่าคุณตากำลังไม่สบาย

เมื่อมาถึงทันทีที่มุกดาเห็นพ่อนอนอยู่บนเตียงคนไข้เธอก็อดร้องไห้ไม่ได้ แม่เล่าให้ฟังว่าสาเหตุที่รถเกิดอุบัติเหตุเนื่องจาก ลุงพบ คนขับรถของพ่อหัวใจกำเริบกระทันหัน

ตอนเกิดอุบัติเหตุหลังของคฑาได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ตั้งแต่ช่วงเอวลงไปไร้ความรู้สึก จำเป็นต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน

ทางครอบครัวมุกดาไม่ได้เอาเรื่องกับคนขับรถ เพราะลุงพบขับรถให้คฑามาเกือบยี่ปีทำงานดีมาตลอด และตอนนี้เขาก็ได้เสียชีวิตแล้ว มุกดากับแม่จึงรู้สึกเห็นใจครอบครัวของลุงพบเช่นกัน

มุกดากับมิรินลงจากเครื่องก็ตรงมาที่โรงพยาบาลเลย การเดินทางยาวนานทำให้สองแม่ลูกดูอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด คุณหญิงรฐาจึงไล่ทั้งสองกลับพักผ่อนที่บ้านให้หายเหนื่อย

ถึงมุกดาอยากอยู่ต่อแต่ก็สงสารลูกที่ต้องเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง จึงพากันกลับบ้านไปก่อน ไว้พรุ่งนี้ค่อยกลับมาดูอาการพ่ออีกที

..............................................................

สงสัยกลัวรี้ดรีบแหละ! ยัยน้องเพิ่งไปแป๊บเดียวก็กลับมาละ555 เค้ากลัวรี๊ดค้าง>_< ยัยหนูมิรินก็น่ารักซะด้วย อยากรีบแจกความฉดใฉแล้ว

*** ปอปลอ : วันนี้วันหยุดใครอยากให้ไรท์อัพเพิ่ม คอมเม้นมาหน่อยว่ามีคนรอมั้ย ถ้ามีคืนนี้มาอัพเพิ่มนร๊า อุอิ อุอุ ^^

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว