รู้ตัวอีกทีวาฬน้อยผู้นี้ก็กลายเป็นที่รักของเหล่ามนุษย์แล้ว-บทที่ 58 เยี่ยนลี่เฉิงเริ่มสงสัย

โดย  OfficeOnlybook

รู้ตัวอีกทีวาฬน้อยผู้นี้ก็กลายเป็นที่รักของเหล่ามนุษย์แล้ว

บทที่ 58 เยี่ยนลี่เฉิงเริ่มสงสัย

บทที่ 58 เยี่ยนลี่เฉิงเริ่มสงสัย


ฉินอิงอิงตั้งใจควบคุมปริมาณอาหารของตัวเอง ปริมาณอาหารที่เด็กน้อยทานลดลงแบบฮวบฮาบ ฉินอี้หานกับเยี่ยนลี่เฉิงเห็นแล้วเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก


ไม่ว่าฉินอี้หานกับเยี่ยนลี่เฉิงถามยังไง ฉินอิงอิงก็ตอบมาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือ…


เธอกินอิ่มแล้ว


แต่ซ่งซือหลินกลับสงสัยว่า ก่อนหน้านี้เพื่อนสนิทอย่างฉินอี้หานหลอกเขามาตลอด เห็น ๆ อยู่ว่าฉินอิงอิงกินอาหารเทียบเท่ากับเด็กปกติ


หลังกินข้าวเสร็จมีผู้ป่วยฉุกเฉินมาที่โรงพยาบาล ซ่งซือหลินจึงรีบร้อนกลับไป ส่วนฉินอี้หานก็พาเด็กทั้งสองคนกลับคฤหาสน์เยว่หัว


หลังกลับไปถึงก็พบกับปาร์ตี้อาหารทะเลขนาดย่อมที่ป้าหวงจัดเตรียมไว้ให้เป็นพิเศษ ฉินอิงอิงน้ำลายไหล เธองอนผู้เป็นพ่อขึ้นมากะทันหัน ไม่น่ากินข้าวมาจากข้างนอกเลย!


ฉินอี้หานเห็นลูกสาวสุดที่รักทำหน้าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็นิ่งไปทันที


“อิงอิงน้อย?”


ฉินอิงอิงกลืนน้ำลายไปหนึ่งอึก ทำแก้มพองก่อนจะดึงมือพี่ชาย


“พี่ลี่เฉิง อิงอิงง่วงแล้ว!”


นอน!


แค่นอนหลับก็จะไม่หิวแล้ว


จริงด้วย!


“อิงอิงน้อยไม่อยากกินเหรอ? อาหารทะเลทั้งนั้นเลยนะ” เยี่ยนลี่เฉิงถามด้วยเสียงอ่อนโยน


ฉินอิงอิงบอกกับตัวเองอย่างมาดมั่น วาฬเพชฌฆาตอย่างฉันน่ะเลือกกินนะ ถ้าไม่ใช่แมวน้ำก็ไม่กินหรอก!


อาหารทะเลพวกนั้นมีเนื้อหวานอร่อยสู้แมวน้ำได้ที่ไหน ไม่กิน ไม่กินหรอก!


“พี่ลี่เฉิง อิงอิงกินอิ่มแล้ว อยากนอน!”


เธอก็ง่วงจริง ๆ นั้นแหละ


ฉินอี้หานเห็นว่าลูกสาวสุดที่รักง่วงจริง ๆ จึงได้แต่ปล่อยให้เยี่ยนลี่เฉิงพาเธอขึ้นชั้นบนไปก่อน


ก่อนหน้านี้ลูกสาวแก้วตาดวงใจกินเยอะจนน่าตกตะลึง แต่สักพักก็กลับมากินน้อยจนน่าตกใจ อาการแบบนี้แปลว่าเธอมีสุขภาพดีจริงเหรอ?


คุณพ่อจอมบื้อจิตใจว้าวุ่นไปหมด


“ป้าหวง พรุ่งนี้เช้าทำโจ๊กทะเลตามปริมาณอาหารที่อิงอิงน้อยกินตามปกตินะครับ! เพิ่มซาลาเปาไข่ปูกับเสี่ยวหลงเปาด้วย!”


“ค่ะ คุณท่าน”



ตอนเช้า ฉินอิงอิงยังคงอดทนต่อไป


แต่ไปถึงโรงเรียนได้ไม่นานก็หิวจนตาลาย เธอมองเห็นหม่าฮ่าวกับพี่ลู่ฉีมีหลายร่างขึ้นมาซะอย่างนั้น

การลดปริมาณอาหารลงอย่างรวดเร็วมีผลข้างเคียงมากเกินไปจริง ๆ


สถานการณ์แบบนี้คล้ายกับตอนที่เธอเพิ่งกลายเป็นลูกมนุษย์ครั้งแรก


แต่ถ้าไม่ถูกเสียงน่ารำคาญมาก่อกวน ฉินอิงอิงก็รู้สึกว่าการอดอาหารของเธอคุ้มค่าอยู่


หม่าฮ่าวกับลู่ฉีถามด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล “อิงอิงน้อย เป็นอะไรไป?”


ฉินอิงอิงหรี่ตาโต ๆ ลง ดูไร้เรี่ยวแรงผิดปกติ


“ง่วงสินะ!”


อิงอิงน่าจะหลับไม่เต็มอิ่ม ต้องหลับให้สนิทสิถึงจะมีชีวิตชีวา!


ฉินอิงอิงนั่งลงแล้วจู่ ๆ ก็มองพี่ลู่ฉีอย่างพิจารณา “พี่ลู่ฉี พี่ดีขึ้นแล้วจริง ๆ”


ลู่ฉียิ้มอย่างเหนียมอาย “อื้ม ฉันดีขึ้นแล้วจริง ๆ นั่นแหละ อีกเดี๋ยวต้องไปเรียนแล้ว”


“งั้นพี่ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีจะวิ่งแบบนั้นอีกไม่ได้” ฉินอิงอิงกำชับด้วยเสียงเล็ก ๆ “วันนั้นฉันตกใจหมดเลย”


ลู่ฉีพยักหน้ารัว “ฉันจะจำไว้! อิงอิงน้อย ต่อไปฉันจะไม่ทำให้เธอเป็นห่วงแล้ว จะไม่ทำให้ตกใจแล้วด้วย”


เหมือนที่พ่อกับแม่พูด เขาจำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน


หม่าฮ่าวโน้มตัวมาใกล้ ๆ เกาท้ายทอยด้วยความผิดหวังและกระอักกระอ่วน


“อิงอิงน้อย ครูไม่ให้เอาคากิตุ๋นน้ำแดงกับขาไก่ย่างมาแล้ว”


ฉินอิงอิงเกือบคิดว่าหม่าฮ่าวจะเอาคากิตุ๋นน้ำแดงมาให้เธออีก เธอกลัวว่ามื้อเที่ยงกินอิ่มมากไปจะนอนไม่หลับ กำลังคิดจะปฏิเสธอยู่เลย


ผลคือเกิดเรื่องไม่คาดคิด


ฉินอิงอิงยิ้มตาหยีแล้วเอ่ยปลอบเพื่อนของตน “ไม่เป็นไร ๆ ตอนนี้ฉันลดน้ำหนักอยู่พอดี”


“ลดน้ำหนัก?” หม่าฮ่าวหน้าเหวอ “ลดน้ำหนักคืออะไร?”


ฉินอิงอิงไม่รู้จะเริ่มอธิบายตรงไหน “...”


เธอลืมไป อายุโดยเฉลี่ยของพวกเขาคือสี่ขวบโดยประมาณ เพื่อนของเธอยังไม่เข้าใจคำ ๆ นี้


“ลดน้ำหนักก็คือกินเยอะไม่ได้ กินเยอะแล้วจะมีเนื้อเยอะ”


เธอต้องกินให้น้อยลง โดยเฉพาะเนื้อ จะได้ผอมเร็ว ๆ!


ในโลกของวาฬเพชฌฆาต วาฬที่ไร้ความสามารถจะได้กินเนื้อน้อยเลยตัวผอมเป็นธรรมดา


หม่าฮ่าวตกใจ


กินเนื้อไม่ได้?


งั้นจะกินอะไร?


ผักเหรอ?


เขาไม่เอาด้วยหรอก!


ปกติขอแค่แม่ของหม่าฮ่าวพูดว่าเขาต้องกินเนื้อให้น้อยลงและกินผักเยอะขึ้น เด็กชายก็จะร้องไห้เสียงดังอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้เขากลับใจเย็นมากเพราะเห็นว่าเพื่อนมีท่าทีจริงจัง


อิงอิงน้อยอายุน้อยกว่าเขายังทำได้เลย ทำไมเขาจะทำไม่ได้?


เขาก็ทำได้!


ดังนั้นตอนมื้อเที่ยง ครูหลี่จึงเห็นว่าหม่าฮ่าวกินน้อยลง แถมยังแทบไม่แตะเนื้อเลย


“หม่าฮ่าว เธอไม่ค่อยสบายเหรอ”


หม่าฮ่าวอยากจะร้องไห้ เขาทนไม่ไหวแล้ว


“ครูหลี่ ผมไม่สบายท้องเลย”


ครูหลี่ยังไม่ทันถามถึงเหตุผลก็ได้ยินนักเรียนใช้น้ำเสียงสะอื้นไห้พูดอธิบาย


“ท้องของผมอยากกินเนื้อ แต่ผมไม่อนุญาต มันก็เลยทรมาน”


ครูหลี่ขำพรืดออกมา เด็กช่างไร้เดียงสาและน่ารักซะจริง


เธอถามหม่าฮ่าวอย่างอ่อนโยน “ทำไมเธอไม่อนุญาตให้ตัวเองกินล่ะ?”


หม่าฮ่าวนึกถึงเพื่อนของตนทันที “เพราะอิงอิงน้อยบอกว่าจะกินน้อย โดยเฉพาะเนื้อยิ่งต้องลดปริมาณ ยิ่งลดเนื้อยิ่งผอมได้เร็ว!”


ครูหลี่ทั้งแปลกใจทั้งเอ็นดู “…”


นี่คือการลดน้ำหนักเหรอ?


ทำไมอิงอิงน้อยถึงได้รู้อะไรเยอะขนาดนั้น?


ที่สำคัญคือนักเรียนหม่าฮ่าวก็พยายามลดไปพร้อมกับเพื่อนด้วย นี่เป็นเรื่องที่เธอคาดไม่ถึงจริง ๆ


มิตรภาพและโลกของเด็ก ๆ มหัศจรรย์ขนาดนี้เลยสินะ


สุดท้ายหม่าฮ่าวก็กินอาหารพวกนั้นจนหมด เพราะครูหลี่บอกว่าเขาจะกินทิ้งกินขว้างไม่ได้


แต่เด็กชายก็ไม่ได้เติมข้าว อาหารกลางวันมื้อนี้น้อยกว่าอาหารที่เขากินปกติถึงสามเท่า



หลังจากนอนกลางวันและตื่นขึ้นมาเองตามธรรมชาติ ฉินอิงอิงก็รู้สึกปลอดโปร่ง


ถ้าไม่หิวมาก ลูกวาฬน้อยคงจะมีความสุขมากกว่านี้


ฉินอิงอิงสูดลมหายใจเข้าไป ไม่นึกเลยว่าตรงหน้าจะเป็นคากิน้ำแดงหนึ่งน่อง


น้ำลายไหลออกมาจากปากเล็ก ๆ ราวกับควบคุมไม่ได้ ฉินอิงอิงรีบร้อนเอามืออ้วน ๆ ปิดปาก


เมื่อเห็นการกระทำที่น่ารักมากเต็มสองตา เยี่ยนลี่เฉิงก็รู้สึกเอ็นดูอย่างถึงที่สุด


“อย่าใจร้ายกับตัวเองนักเลย ถึงจะกินน้อยก็กินน้อยลงในคราวเดียวไม่ได้หรอก ใช่ไหมล่ะ?”


ฉินอิงอิงเงยหน้ามองพี่ชายผู้ให้อาหารตาปริบ


เขารักและเอ็นดูเธอเหมือนเหล่าพี่ชายวาฬเพชฌฆาตเลย


เจ้าตัวเล็กวางมือลงและเม้มปาก


“งั้น… งั้นหลังจากนอนกลางวัน กินคากิน้ำแดงหนึ่งน่องทุกวันได้ไหมคะ?”


เยี่ยนลี่เฉิงลูบหัวเล็ก ๆ ของคนถาม “ทำไมจู่ ๆ อิงอิงถึงกินน้อยขนาดนี้ล่ะ? กินเยอะเกินไปแล้วจะนอนไม่หลับเหรอ”


ฉินอิงอิงคิดไม่ถึงเลยว่าพี่ชายจะฉลาดขนาดนี้ ไม่นึกเลยว่าเขาจะเดาถูก


“อื้ม!”


เยี่ยนลี่เฉิงนึกถึงคำพูดที่ฉินอิงอิงเคยพูดออกมาตอนนอนกลางวัน


‘พี่ลี่เฉิง อิงอิงไม่ไป อิงอิงจะนอน อิงอิงง่วงมาก แต่มีคนกวน!’


เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เยี่ยนลี่เฉิงก็ปล่อยให้อิงอิงน้อยกินคากิและถามเธออย่างค่อยเป็นค่อยไป


“เพราะอิงอิงน้อยกินอิ่ม เวลาหลับเลยมีคนมากวนทำให้นอนไม่พอเหรอ”


ฉินอิงอิงนิ่งไป


เธอลืมเคี้ยวคากิที่อยู่ในปาก


เกิดอะไรขึ้น!


ในเมื่อพี่ชายผู้ให้อาหารเดาถูก งั้นเธอก็บอกเขาได้สิว่าเสียงนั่นมันน่ารำคาญมากแค่ไหน


แต่พอเธออ้าปากก็พบว่าตนพูดอะไรที่เกี่ยวข้องกับเสียงในหัวไม่ได้เลยแม้แต่คำเดียว


“แงงง!”


“แงงง!”



เยี่ยนลี่เฉิงมองออกว่าน้องสาวตัวน้อยเป็นกังวลมากจึงรีบร้อนปลอบเธอ


“ไม่เป็นไร ๆ อิงอิงน้อยไม่ต้องพูดหรอก แค่พี่ลี่เฉิงรู้เหตุผลว่าทำไมจู่ ๆ อิงอิงน้อยถึงกินน้อยลงก็พอแล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญเลย”


“แต่การจะกินอาหารในปริมาณน้อยลงจำเป็นต้องทำทีละขั้นตอน ไม่ลดอาหารมากเกินไปหรือน้อยเกินไปในทันที เพราะอาจทำให้ปวดท้องได้ง่าย”


ฉินอิงอิงกะพริบตาโต ๆ ลูกวาฬน้อยรู้สึกว่าพี่ชายลี่เฉิงใจดีกับเธอมากจริง ๆ


“อื้ม!” เธอกินคากิไปหนึ่งคำและยื่นคากิป้อนให้ถึงปากของพี่ชาย “พี่ลี่เฉิงก็กินด้วยสิ!”


สีหน้าท่าทางเจ้าตัวเล็กเหมือนกำลังพูดว่า ‘ถ้าพี่ไม่กิน อิงอิงก็ไม่กินแล้ว!’ ช่วยไม่ได้ คนเป็นพี่ชายยิ้มอย่างรักใคร่เอ็นดูและกัดคากิคำเล็ก ๆ ไปหนึ่งคำ


ฉินอิงอิงมีความสุขและแทะคากิต่อไป


หลังจากที่อิงอิงน้อยไปเรียน เยี่ยนลี่เฉิงที่กลับถึงห้องเรียนแล้วเอาแต่คิดถึงเรื่องของเธออยู่ในหัว


เหมือนว่านี่ไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์เลยสักอย่าง


กินอิ่มแล้วจะฝันงั้นเหรอ? แถมคนในฝันยังส่งเสียงดังจนเธอนอนไม่หลับอีก?


ปกติถ้ากินอิ่ม คนเรามักจะนอนหลับสนิทตลอดคืนด้วยซ้ำ


นี่มันเพราะอะไรกัน?


เขาคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ จิตใจจึงวอกแวกไม่มีสมาธิ เด็กชายฟังครูสอนพลางค้นหาข้อมูลทางโทรศัพท์มือถือของเขาไปด้วย


ผลการค้นหาส่วนใหญ่ที่พบเกี่ยวข้องกับนิสัยการกิน กรณีของอิงอิงน้อยเป็นการกินมากเกินไป แต่เธอก็ไม่มีปัญหาอื่น ๆ นอกจากฝันและนอนไม่หลับ เยี่ยนลี่เฉิงรู้สึกว่าอาการของฉินอิงอิงต่างจากคนอื่น ๆ


ส่วนสาเหตุเพราะอะไร ตอนนี้ยังไม่รู้แน่ชัด


รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว