รู้ตัวอีกทีวาฬน้อยผู้นี้ก็กลายเป็นที่รักของเหล่ามนุษย์แล้ว-บทที่ 48  เข้านอนกับพี่ชายลี่เฉิง

โดย  OfficeOnlybook

รู้ตัวอีกทีวาฬน้อยผู้นี้ก็กลายเป็นที่รักของเหล่ามนุษย์แล้ว

บทที่ 48  เข้านอนกับพี่ชายลี่เฉิง

บทที่ 48 เข้านอนกับพี่ชายลี่เฉิง


เจียงหลิงยังไม่เชื่อจึงรีบโทรหาแม่ของเธอทันที


เมื่อคุณย่าเจียงถูกถามถึงเรื่องหลานสาวคนโต จู่ ๆ เธอก็เงียบไป


หัวใจของเจียงหลิงหนักอึ้งไปตามกัน จึงต้องใช้เวลาสักพักในการเรียบเรียงคำพูดออกมา


“ทำไมแม่ปิดบังฉันมาตลอดเลย?”


คุณย่าเจียงถอนหายใจ “พูดผ่านทางโทรศัพท์แค่เพียงไม่กี่คำคงไม่เข้าใจ เธอหาเวลากลับมาสักหน่อย แล้วแม่จะเล่าให้เธอฟังอย่างละเอียด”


“ได้ค่ะ!” เจียงหลิงวางสายด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง


เยี่ยนผิงเห็นสีหน้าของเธอดูแย่มากจึงคิดต่อว่าหากการแต่งงานของตระกูลเจียงและตระกูลหนานยกเลิกแล้ว ตระกูลเจียงจะประสบปัญหาและตระกูลเยี่ยนของพวกเขาก็จะขาดคนช่วยเช่นกัน


ฉินเหนือ หนานใต้ หมายถึงตระกูลฉินอยู่ทางตอนเหนือของเมืองหลวง และตระกูลหนานอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้


หากตระกูลเยี่ยนต้องการแซงหน้าตระกูลฉินอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะต้องสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลหนาน และการแต่งงานถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด


แต่ลูก ๆ ของตระกูลเยี่ยนยังเด็กและมีเพียงตระกูลของภรรยาเท่านั้นที่มีสัญญาแต่งงานกับตระกูลหนาน


ตอนนี้เขาคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว… เยี่ยนผิงจ้องมองโต๊ะน้ำชาด้วยสายตาเคร่งเครียด


เจียงหลิงยังไม่ค่อยวางใจ “เยี่ยนผิง การสืบตัวตนของฉินอิงอิง ไม่พบปัญหาจริง ๆ เหรอ?”


เยี่ยนผิงส่ายหน้า “การสืบมาถึงตอนนี้แสดงให้เห็นว่า เธอเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกทิ้งไว้บนเกาะฝูโจว และบังเอิญถูก ผอ. ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเอินเคอในเมืองหลวงรับตัวไป”


เจียงหลิงจิตใจสับสนวุ่นวาย เมื่อนึกถึงลูกสาวที่ร้องไห้เสียงดังและพูดว่าฉินอิงอิงเป็นปีศาจ แววตาของเธอก็ฉายแววดุร้าย


“ฉันจะขึ้นไปดูเสี่ยวหรู จะเก็บของสักหน่อยและกลับไปบ้านคุณแม่”


ในเวลานั้นคุณย่าเยี่ยนที่นั่งพักสายตาอยู่บนโซฟาไม่ไกล รอให้เจียงหลิงขึ้นไปชั้นบน จากนั้นเธอจึงเดินไปข้าง ๆ และพูดกับลูกชาย


“การแต่งงานระหว่างตระกูลเจียงและตระกูลหนานถูกยกเลิก?”


เยี่ยนผิงส่ายหน้า “ตอนนี้ยัง ถึงแม้ว่าเจียงอินอินจะตายไปแล้ว แต่คุณชายตระกูลหนานยังพอมีหวังเพราะตระกูลเจียงไม่ได้มีทายาทผู้หญิงเพียงเดียว”


คุณย่าเยี่ยนถอนหายใจด้วยความโล่งอก “อย่างนั้นก็ดี เราต้องหาวิธีทำให้การแต่งงานครั้งนี้มีความมั่นคง! เพราะการแต่งงานระหว่างตระกูลเจียงและตระกูลหนาน เราถึงยอมให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในตระกูล”


ไม่อย่างนั้นตระกูลเล็ก ๆ อย่างตระกูลเจียงจะปีนต้นไม้ใหญ่ของตระกูลเยี่ยนได้อย่างไร?


คุณย่าเยี่ยนขมวดคิ้วและบ่นกับลูกชาย “เรื่องที่เขาวงกตคืนนั้น ฉันรู้สึกว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติ เพราะมีเรื่องเกิดขึ้นกับชิงหลิน เสียวจื่อ และหมิงเยว่แต่ลูกของเธอทั้งสองกลับปลอดภัย”


ไม่พูดยังดีกว่า เพราะเมื่อพูดถึงขึ้นมาเยี่ยนผิงจึงรู้สึกข้องใจเหมือนกัน


ถ้าหากไม่พูดถึงหลานสาวและหมิงเยว่ ลูกชายคนเล็กก็ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากเจียงหลิง


“คุณแม่ครับ บางอย่างที่คุณแม่พูดผมก็พอทราบและจะลองหาเวลาถามเธอดู”


คุณย่าเยี่ยนยิ้มอย่างเย็นชา “เธอไม่มีทางยอมรับผิด! ไม่ใช่ลูกของตนเองแล้วจะทุกข์ใจได้อย่างไร? นอกจากชิงหลินแล้ว ลูกก็น่าจะรู้อยู่ว่าพ่อแม่ของเสียวจื่อเป็นอย่างไรตอนพวกเขายังมีชีวิตอยู่”


แม้ว่าคุณย่าเยี่ยนจะให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว แต่เยี่ยนเสียวจื่อก็เป็นหลานสาวแท้ ๆ ของเธอเช่นกัน


เด็กอายุสามขวบที่พ่อกับแม่ไม่อยู่แล้ว เธอและชายชราก็ไม่มีกำลังเพียงพอที่จะเลี้ยงดู ดังนั้นจึงต้องพึ่งพาอาของเธอ


ลูกชายยุ่งทุกวันจนเท้าไม่แตะพื้นเลย ส่วนลูกสะใภ้ออกไปทำสปาหรือไม่ก็เที่ยวเตร่ทุกวัน… เสียวจื่อผอมมากจนหนังหุ้มกระดูก


เสื้อผ้าบางและชุดไม่พอดีกับตัว


ยิ่งคิดคุณย่าเยี่ยนก็ยิ่งโกรธจึงอดไม่ได้ที่จะตำหนิลูกชาย


“ทำไมลูกถึงไม่นึกถึงชื่อเสียงของตนเองและตระกูลเยี่ยนเลย? ใจดำกับหลานสาวแท้ ๆ มาก!”


หลังจากที่เจียงหลิงปลอบลูกสาว เธอก็ออกมาจากห้องและได้ยินคำพูดของแม่สามีพอดี


หน้าตาของเธอบูดบึ้งด้วยความโกรธ



ในคฤหาสน์เยว่หัว หลังจากที่ฉินอิงอิงล้างหน้าบ้วนปากเสร็จก็นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงใหญ่นุ่มอย่างสบายใจ


เธอทำกิจกรรมมากมายในโรงเรียนอนุบาล โดยเฉพาะการเตะต่อยในช่วงบ่าย ดังนั้นหลังจากทานอาหารเย็นแล้ว เยี่ยนลี่เฉิงจึงไม่ชักช้า ขอให้ป้าหวงช่วยพาเธอไปอาบน้ำชั้นบนและปล่อยให้เธอพักผ่อน


เพราะกลัวว่าน้องสาวจะนอนตกเตียงเหมือนช่วงกลางวัน เยี่ยนลี่เฉิงจึงเอาหมอนกั้นไว้ทั้งสองข้าง


แต่เมื่อคิดดูแล้วอิงอิงน้อยก็ไม่เคยนอนตกเตียง อาจเป็นเพราะเตียงในห้องพักผ่อนของโรงเรียนเล็กเกินไป


เมื่อฉินอี้หานเข้ามาจึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับการกระทำของลี่เฉิง


“กลัวอิงอิงน้อยตกลงมาเหรอ?”


ถึงแม้ว่าจะมีพรหมหนา ๆ ปูอยู่บนพื้น แต่ถ้าตกลงมาคงเจ็บน่าดู


เยี่ยนลี่เฉิงพูดถึงเรื่องที่อิงอิงน้อยตกจากเตียงเมื่อตอนกลางวัน ฉินอี้หานพยักหน้าและกั้นหมอนเพิ่มอีก


พวกเขาเพิ่งจะกั้นเสร็จ เมื่อทั้งสองเตรียมจะหันหลังกลับออกไปก็ได้ยินเสียงดัง ‘ตุ้บ’


เสียงสะอื้นของเด็กน้อย ฉินอี้หานจึงเข้าไปอุ้มอิงอิงน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน


“อิงอิงน้อย เจ็บเหรอ”


ฉินอิงอิงที่กำลังยังคงหลับตาและยังไม่ตื่นดี


แม้ว่าเธอจะยังไม่ตื่นแต่ก็ส่งเสียงสะอื้นและขมวดคิ้วเล็ก ๆ อย่างไม่รู้ตัว ดูเหมือนกับกำลังเสียใจ


แต่ยังไม่จบ หลังจากนั้นเธอยังพูดด้วยเสียงเล็ก ๆ ว่า “พี่ชายลี่เฉิง”


ฉินอี้หานแอบน้อยใจ “...”


ให้คุณพ่ออุ้มไม่ดีเหรอ?


เยี่ยนลี่เฉิงยิ้ม “อาจเป็นเพราะเมื่อตอนกลางวันผมเป็นคนอุ้มอิงอิงน้อยนอนที่โรงเรียน เธอคงคิดว่ายังอยู่ที่โรงเรียน”


ฉินอี้หานก็รู้สึกเช่นนั้น เมื่อเห็นอิงอิงน้อยขมวดคิ้วเรียกลี่เฉิง เขาจึงทำได้เพียงส่งเด็กน้อยไปในอ้อมแขนของลี่เฉิง


เมื่อฉินอิงอิงอยู่ในอ้อมแขนของพี่ชายเธอก็หยุดสะอื้นทันที คิ้วที่ขมวดเป็นปมคลายออก


ฉินอี้หานทั้งงอนและตลกไปในคราวเดียวกัน “คิดถึงแต่พี่ชายลี่เฉิง ไม่คิดถึงคุณพ่อแล้วเหรอ?”


ฉินอิงอิงรู้สึกเหมือนกับได้ยินเสียงของพ่อในความฝัน เธอง่วงมาก แต่เธอพยายามยกเปลือกตาขึ้นมองและเธอก็เห็นพ่อจริง ๆ


“คุณพ่อ~”


เสียงที่น่ารักนุ่มนวลดังขึ้น ทำให้ฉินอี้หานใจละลายเมื่อได้ฟัง


เขาลูบ ๆ ศีรษะของลูกสาวตัวน้อยและเอ่ยกล่อมเบา ๆ “อิงอิงน้อยเด็กดี นอนเถอะ คุณพ่ออยู่นี่”


ฉินอิงอิงส่งเสียงอู้อี้เบา ๆ และซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของลี่เฉิง เมื่อพบตำแหน่งที่สบายแล้วก็หลับไป


ฉินอี้หานไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ใบหน้าของเยี่ยนลี่เฉิงเต็มไปด้วยความอดทนและเข้าใจ


ฉินอี้หานมองไปที่ลี่เฉิงที่สงบและสุขุม เมื่อเห็นรอยยิ้มอันอ่อนโยนจากใบหน้าของเขาจึงปลาบปลื้มใจ


เด็กคนนี้มีรอยยิ้มที่ค่อนข้างจริงใจ


รอจนกว่าจะได้พบเยี่ยนเหอในอีกโลกหนึ่ง เขาคงจะยิ้มได้อย่างสง่างาม


“อุ้มอิงอิงน้อยไปนอนที่ห้องของนายเถอะ” เขาตบไหล่ของลี่เฉิง


เยี่ยนลี่เฉิงพยักหน้า “อาฉินก็อย่านอนดึกนะครับ”


“อารู้แล้ว”


ฉินอี้หานไปห้องหนังสือของตนเอง ส่วนเยี่ยนลี่เฉิงกลับไปที่ห้องของเขาพร้อมกับอิงอิงน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่ในมุมมืด


ผนังห้องนอนของอิงอิงน้อยเป็นรูปเจ้าหญิงสีชมพู ต่างจากห้องนอนของเขาที่มีลายเส้นสีฟ้านุ่มนวลและหรูหรา


ผ้าปูที่นอนบนเตียงก็เป็นสีฟ้านุ่มสบายเช่นกัน


เยี่ยนลี่เฉิงวางอิงอิงน้อยลงและเตรียมที่จะไปล้างหน้าบ้วนปาก


เมื่อหันกลับมาก็พบว่าอิงอิงน้อยกลิ้งตกข้างเตียงอีกแล้ว เขาตกใจมากจึงรีบวิ่งกลับไปอย่างรวดเร็ว


อิงอิงน้อยคว้าแขนของพี่ชายราวกับเป็นปลาหมึกยักษ์และไม่ยอมปล่อย


เยี่ยนลี่เฉิงมองดูแขนอวบอ้วนเล็ก ๆ ของอิงอิงน้อย จากนั้นก็มองไปยังใบหน้าสีชมพูและอ่อนโยนของเธอ เขาลังเลที่จะดึงมือออก


ไม่ล้างหน้าบ้วนปากแล้วก็ได้ คืนนี้กัดฟันทนเอาก็แล้วกัน


ถ้าฉินอี้หานรู้เรื่องนี้ เขาคงจะตกใจอย่างมาก


จริง ๆ แล้วลี่เฉิงก็รักสะอาดพอ ๆ กับเขาเลย…


รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว