True World โลกแท้จริง-ตอนที่ 17 ปรับความเข้าใจ

โดย  Blackest Fantasy

True World โลกแท้จริง

ตอนที่ 17 ปรับความเข้าใจ


" แล้วคำถามของเจ้าคือสิ่งใด ? " ตัวตนลึกลับเอ่ยถามหลังจากที่เล่านิทานปรัมปราจบ

นทีที่กำลังตกอยู่ในความงุนงงนั้นก็ไม่สามารถตอบได้ในทันที เขาไม่เข้าใจจุดประสงค์ของตัวตนตรงหน้านี้เลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้เรื่องราวที่ตัวตนตรงหน้าเล่าให้เขาฟังนั้น จะดูเหมือนประวัติศาสตร์ตั้งแต่ต้นกำเนิดของมนุษย์แค่จุดที่แตกต่างไปนั้นคือการที่เทพเจ้ามีตัวตนอยู่จริง

แต่พวกเขาก็ละทิ้งมนุษย์ไปในท้ายที่สุด ด้วยเหตุผลอันใดนทีก็ไม่สามารถทราบได้ นทีอยากจะถามออกไปเหลือเกินว่า ทำไมถึงตัวตนลึกลบตรงหน้านี้ถึงเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้เขาฟัง

" คุณ... " เสียงของนทีเอ่ยขึ้น เขากลับมาพูดได้ตามปกติแล้วและเหมือนเขากำลังจะเอ่ยถามคำถามที่เขามีเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น

' คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าคำถามที่เขาจะถามนั้นคือ ข้าเป็นเทพเจ้าใช่หรือไม่ ' ตัวตนลึกลับคาดคะเน

" คุณ...คุณคือผู้หญิงใช่ไหม ? "

" ........ "

" ........ "

บรรยากาศรอบ ๆ เริ่มหนักอึ้งอย่างไม่ทราบสาเหตุ ความเงียบงันที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนจะดำเนินไปอย่างไม่รู้จบ

" เจ้า...เจ้าพูดว่าอะไรนะ ? " หมอกสีดำสั่นไหวเล็กน้อย

" คุณคือผู้หญิงใช่ไหม ? " นทีทวนคำถามอีกครั้งอย่างหนักแน่น

" ฮะ ฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ! " หมอกควันสีดำนั้นกระเพื่อมไปมาตามจังหวะการหัวเราะของตัวตนลึกลับนั้น

" เจ้าสามารถถามสิ่งใดก็ได้ในจักรวาลนี้หากแต่เจ้าเลือกที่จะถามว่าข้าคือเพศเมียหรือไม่ ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า "

“ สุดท้ายแล้วเจ้าก็ยังเป็นมนุษย์ที่ตกอยู่ในอำนาจของราคะเยี่ยงนั้นสินะ ” ตัวตนลึกลับเอ่ยอย่างเย้ยหยัน

“ ฮืม...ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมแค่รู้สึกว่าหากคุณเป็นผู้หญิงแล้วล่ะก็ คุณคงเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก ฟังจากฝีเท้าของคุณล่ะก็นะ ” นทีตอบกลับอย่างอารมณ์ดี

สำหรับนทีแล้วทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมานั้นดูสับสนและไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลยสักนิด เขาเลยคิดว่ามันคือโลกหลังความตายหรือบางทีเขาอาจจะแค่ฝันไปแล้วอีกเดี๋ยวเขาก็คงตื่นขึ้น เพราะงั้นแล้วเขาเลยคิดว่าไม่ว่าเขาจะทำอะไรหรือจะถามคำถามที่ไร้สาระแค่ไหน มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเขาอยู่ดี

“ โอ้...นี่เจ้าคิดว่าทั้งหมดนี้คือความฝันอย่างงั้นรึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ตัวตนลึกลับกล่าวพลางหัวเราะ

“ งั้นนี่ก็ถือเป็นคำตอบของข้าก็แล้วกัน..”

เมื่อตัวตนลึกลับกล่าวจบม่านหมอกที่ปกคลุมนั้นค่อย ๆ สลายหายไป ปรากฏหญิงสาวที่งดงามที่สุดเท่าที่นทีเคยเห็นมาในชีวิตยืนอยู่ตรงหน้าเขา

ผมของเธอเป็นสีดำราวกับท้องฟ้าในยามค่ำคืนมันยาวสรวยไปจรดเอวของเธอ เธอสวมชุดเกราะสีดำสนิทที่แข็งแรงทว่าสง่างามซึ่งปกคลุมเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ผิวของเธองดงามราวกับแสงจันทร์และดวงตาของเธอก็สุกสกาวราวกับดวงดาว

เธอดูราวกับผู้หญิงที่พร้อมเผชิญหน้าทุกความท้าทายที่เข้ามาถึงแม้บรรยากาศรอบตัวของเธอจะแผ่ออร่าความลึกลับและน่ากลัว แต่ในความน่ากลัวก็ยังมีแสงอันอ่อนโยนและเห็นอกเห็นใจที่ส่องออกมาอย่างเจิดจ้าราวกับว่าจักรวาลได้อวยพรเธอด้วยปัญญาและความสง่างาม

“ ดูเหมือนว่าคำตอบของข้าจะถูกใจเจ้าไม่มากก็น้อยสินะ”

เสียงที่ออกจากริมฝีปากของเธอเป็นท่วงทำนองที่ไพเราะดั่งเสียงประสานของเหล่าเทพธิดา มันเติมเต็มหัวใจนทีด้วยความอบอุ่น ละลายความเศร้าและความสิ้นหวังที่แฝงอยู่ภายในตัวเขาอย่างหมดสิ้น เท่านั้นยังไม่พอ นทียังสัมผัสได้ถึงความหวังและความกล้าหาญอย่างที่เขาไม่เคยมีมาก่อน

“ คุณ...คุณคือคนที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยพบเจอมาทั้งชีวิต” น้ำเสียงเรียบราบแต่จริงจังของนทีนั้นออกมาจากภายใต้จิตก้นบึ้งของจิตใจ

“ นั่นไม่ทำให้เจ้าสามารถถามคำถามได้เพิ่มหรอกนะ...เอาล่ะเวลาของเราหมดลงแล้ว” เธอกล่าวขึ้นพร้อมจ้องมองมายังใบหน้าของนที

“ เจ้าจงจำสิ่งนี้ให้ขึ้นใจ เส้นทางเดียวที่เจ้าต้องเลือกนั้นคือ ‘การปกครอง’ เท่านั้น ห้ามเลือกเส้นทางอื่นอย่างเด็ดขาด! มิเช่นนั้นชีวิตที่สองที่ข้ามอบให้เจ้านี้ ข้าจะนำมันกลับคืนมาด้วยน้ำมือของข้าเอง! ” น้ำเสียงอันไพเราะแต่ทรงพลังอย่างมหาศาลกระทบเข้ากับร่างของนที

ราวกับว่ามันคือถ้อยคำที่ส่งเข้าไปในทุกอณูเซลล์ในร่างกายและจิตวิญญาณ นทีรับรู้เพียงแค่ว่าเขาจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้เท่านั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ทันใดนั้นเองสภาพแวดล้อมของนทีค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นดำมืดราวกับเขากำลังตกลงสู่ห้วงแห่งความมืดมิด หลังจากนั้นเพียงอึดใจเขาก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยพร่ำเรียกชื่อของเขา

“ ที...นที! ไอคนตัวเหม็น ฟื้นขึ้นมาสิ!” เสียงหวานใสตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างแตกตื่น

" อ๊าก! " นทีกู่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

หญิงสาวหัวชมพูนึกไปว่าชายหนุ่มตรงหน้าเธอนั้นแกล้งทำเป็นเจ็บปวด เพราะตั้งแต่ที่เธอให้เขาทานขนมปังนั้น สภาพร่างกายของเขาก็กลับมาเป็นปกติราวกับเกิดใหม่ แต่เมื่อผ่านไปสักพักนทีก็ยังแหกปากออกมาอย่างต่อเนื่องจนคนรอบข้างเริ่มหันมามอง

" หมอนั่นเสียสติไปแล้วหรือไง "

" ช่วยไม่ได้…ไม่ใช่ใครก็ตามที่ได้รับการเทเลพอร์ตมาที่นี่จะอยู่ในสภาพปกติเหมือนกันหมดเสียหน่อย "

" ก่อนหน้านี้ฉันเห็นหมอนั่นเหมือนคนใกล้ตาย..ถ้าไม่ใช่เทพธิดาคนนั้นช่วยเอาไว้ เขาคงไม่รอดหรอก.. "

" เหอะ! ก็แค่พวกเรียกร้องความสนใจ "

บรรดาผู้คนรอบข้างตอบสนองต่ออาการของของนทีไปต่าง ๆ นานา แต่ตัวเขานั้นไม่ได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้เลยเสียด้วยซ้ำ นทีกำลังเผชิญความเจ็บปวดแสนสาหัสราวกับทั่วทั้งร่างของเขาถูกเข็มเป็นหมื่นเป็นแสนเล่มทิ่มแทงมายังทุกอณูของร่างกายพร้อม ๆ กัน

ไลล่าที่อยู่ข้างกายนทีนั้น เธอไม่รู้จะทำเช่นไรกับนทีที่เป็นเช่นนี้ ทันใดนั้นเองก็มีเสียงสนทนาของหญิงสาวสองคนที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

" กันยา! ให้ฉันไปช่วยคนเจ็บเถอะ ฉันขอร้องล่ะน้า.. " เสียงอันเล็กกระจิดริดเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน

" พิม เธอรู้ได้ไงว่าคนที่ตะโกนนั้นเจ็บจริง เขาต้องเป็นพวกหลอกลวงแน่ ๆ " เสียงอันทุ้มลึกและแข็งกร้าวตอบกลับอย่างไม่ลดละ

" ก็ถ้าเราเจอกับพวกหลอกลวงล่ะก็ เธอก็จะจัดการให้ฉันไง ฮิ ฮิ " พิมหัวเราะคิกคัก

" ฮึ่ม! " กันยาพ่นลมหายใจออกมาอย่างยอมแพ้

เมื่อทั้งสองคนเดินมาถึงเขาก็เห็นชายหนุ่มที่มีผมยุ่งเหยิงสีดำหน้าของเขาซีดเผือดราวกับกำลังอยู่ในฝันร้ายที่ไม่สามารถตื่นขึ้นได้ เขานอนหนุนตักของหญิงสาวผมสีชมพู เธอดูเป็นห่วงเป็นใยเขาราวกับว่าเขานั้นคือแฟนหนุ่มของเธอ

' ว้า...ฉันก็อยากมีแฟนบ้างจังเลยน้า แต่ถ้าให้เลือกระหว่างแฟนกับคนไข้ล่ะก็ฉันขอรักษาคนไข้ดีกว่า ' พิมอมยิ้มกับภาพตรงหน้าแล้วเธอก็เดินตรงเข้าไปหานทีและไลล่า

" สวัสดีค่ะฉันชื่อพิมชนก ฉันเป็นอดีตพยาบาล ให้ฉันช่วยดูอาการเขาไหมคะ ? " พิมเอ่ยขึ้นอย่างเป็นมิตร

ไลล่าเงยหน้าขึ้นมาแล้วก็พบกับเจ้าของเสียงอันอ่อนโยน ตัวของเธอนั้นเล็กราวกับเด็กสาววัยมัธยม แต่บรรยากาศรอบตัวของเธอที่มีแต่ความอ่อนโยนนั้นทำให้ไลล่ารู้สึกอิ่มเอิบใจ ผมสีน้ำตาลที่เป็นลอนและดวงตาที่มีสีน้ำตาลอ่อนเช่นกันแต่สิ่งที่สะดุดตาไลล่าที่สุดคือเครื่องแบบที่เธอสวมใส่นั้นคือเครื่องแบบสีขาวของพยาบาล

' โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เขารับเด็กไปฝึกงานแล้วเหรอ ? ' ไลล่าคิดอย่างสับสน

" ถึงจะเห็นแบบนี้แต่ฉันอายุ 24 แล้วนะคะ.. " พิมเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ไลล่านั้นขนลุก

" แม้ว่าฉันจะเป็นแค่พยาบาลก็จริง แต่ฉันมีทักษะที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอยู่ค่ะ ถ้าคุณไม่รังเกียจล่ะก็ให้ฉันลองดูนะคะ " พิมกล่าวอย่างสุภาพ ความอ่อนโยนที่เธอแสดงออกมานั้นทำให้ไลล่าเผลอคิดไปว่าเด็กสาวตรงหน้าคือนางฟ้าที่มาจากสรวงสวรรค์

ก่อนที่ไลล่าจะทันได้ตอบอะไรนั้น หญิงสาวอีกคนก็เดินเข้ามายืนข้าง ๆ กับพิม

เมื่อไลล่าเงยหน้าขึ้นเธอก็ได้พบกับหญิงสาวอีกคนที่เธอต้องชะเง้อหน้ามองมากกว่าปกติ เธอสวมใส่สปอร์ตบราที่โชว์กล้ามหน้าท้องอันสวยงามออกมาอย่างไม่ปิดบัง ผมของเธอเป็นสีดำสั้นตัดกับดวงตาสีน้ำตาลคล้ายกันกับพิมแต่ดวงตาของเธอนั้นแตกต่างกันตรงที่มันให้ความรู้สึกที่ตรงข้ามกับพิมอย่างสิ้นเชิง หากพิมคือความอ่อนโยนเธอคนนี้ก็คือความแข็งกร้าว

" เจ้าเปี๊ยกนี่มีความสามารถที่รักษาได้จริง ฉันยืนยันได้ " กันยาเอ่ยขึ้น

เสียงทุ้มลึกของเธอนั้นทำให้ไลล่าสั่นกลัวเล็กน้อยแต่เธอก็พยักหน้าอนุญาตให้พิมนั้นลองดู เพราะชายหนุ่มที่ดิ้นไปดิ้นมาในตักของเธอนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าเขาใกล้จะเสียสติเต็มที

พิมเสกหนังสือเล่มหนึ่งออกมากจากความว่างเปล่า ที่หน้าของหนังสือเล่มนี้มีรูปไม้กางเขนประทับอยู่

" ฮีล ! " พิมเอ่ยขึ้น

ทันใดนั้นเองแสงสีเขียววูบวาบก็สว่างขึ้นที่หนังสือของเธอและแสงสีเขียวนั้นก็ค่อย ๆ สว่างวาบล้อมรอบตัวนทีเช่นกัน ผ่านไปชั่วครู่ นทีก็ค่อย ๆ สงบลง อาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนของเขานั้นบ่งบอกได้เลยว่าการรักษาของพิมนั้นได้ผล

" เวทมนตร์ของเธอนี่ เห็นกี่ครั้งก็รู้สึกมหัศจรรย์จริง ๆ นะ ฉันนึกว่าฉันเล่นเกมอยู่แหน่ะ " กันยาเอ่ยอย่างชื่นชม

" มันไม่ใช่เวทมนตร์นะ นี่คือพรที่พระเจ้าประทานมาให้คนที่โอบอ้อมอารีแบบฉันต่างหาก ฮิ ฮิ " พิมกล่าวพลางหัวเราะด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้มหลังจากรักษานทีได้สำเร็จ

" ขอบคุณพวกคุณมากเลยนะ ขอบคุณจริง ๆ " ไลล่ากล่าวพลางก้มหัวเล็กน้อย

" ไม่เป็นไรหรอก ที่ไหนมีคนป่วยที่่นั่นก็ต้องมีฉันคนนี้แหละ ฉันชื่อพิมชนกนะ เรียกสั้น ๆ ว่าพิมได้เลย " พิมแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง

" ส่วนเสาไฟฟ้าต้นนี้ชื่อ 'กันยา' น่ะ " พิมเอ่ยพลางเอานิ้วไปจิ้มกันยาแล้วเธอก็ทำเป็นตัวสั่นราวกับโดนไฟช็อต

ป๊าบ

ฝ่ามือพิฆาตแปะลงบนหัวของพิมชนกผมของเธอยุ่งเหยิงด้วยมือของกันยาที่ขยี้ไปมา

" แล้วเธอกับแฟนหนุ่มคนนี้ชื่ออะไรกันล่ะ ? " พิมเอ่ยถามขณะที่มือของเธอก็ยังสู้รบกับมืออันมหึมาที่จู่โจมหัวของเธออยู่

" ฟะ...แฟนหนุ่ม?! ฉันกับหมอนี่ไม่ได้เป็นอะไรกันนะ " ไลล่าเอ่ยด้วยเสียงที่ดังกว่าปกติด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

ทันใดนั้นเองไลล่าก็รู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเธออยู่ เธอหันซ้ายหันขวาก็พบว่ามีใครหลายคนกำลังมองมาที่พวกเขาด้วยความสนใจ แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าไม่ใช่สายตาของคนเหล่านี้ที่ทำให้เธอรู้สึกเช่นนั้นและเมื่อเธอก้มลงมองมายังชายหนุ่มบนตัก เธอก็สบสายตาเข้ากับดวงตาสีฟ้ามหาสมุทรที่จ้องมองไปยังใบหน้าของเธออย่างไม่ละสายตา

" นะ...นาย! ตื่นแล้วทำไมไม่เรียกกันล่ะ! " ไลล่ามองนทีด้วยสีหน้าบึ้งตึง

" นี่...เธอ..เธอก็ตายแล้วเหมือนกันเหรอ แล้วใครจะดูแลลอเรน่ากันล่ะ? " นทีเอ่ยขึ้นพร้อมขมวดคิ้ว

" ฉันยังไม่ตายย่ะ อย่ามาแช่งกันนะ ไม่ต้องเป็นห่วงพี่ลอเรน่าไปหรอก ฉันจะดูแลเธอเอง นายน่ะดูแลตัวเองให้ดีเถอะ! " ไลล่าแว้ดใส่เขา

ในตอนที่ไลล่าถูกวาร์ปมานั้นเธอก็พบชายหนุ่มคนนึงในสภาพที่เธอแทบจะจำไม่ได้ เธอกรีดร้องออกมาเมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มคนนั้น แต่เมื่อเธอตั้งสติแล้วสังเกตเขาอย่างถี่ถ้วนเธอก็พบว่าเขาคือ นที เธอไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าเขาต้องเผชิญอะไรมาถึงตกอยู่ในสภาพแบบนั้น แต่สิ่งแรกที่เธอตัดสินใจทำก็คือการนำขนมปังให้เขาทานเหมือนที่เขานั้นทำกับเธอในครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน

' ฉันไม่อยากจะนึกว่าถ้าคนที่มาเห็นสภาพนายในตอนนั้นเป็นพี่ลอเรน่าแทนฉันล่ะก็เ ธอจะเจ็บปวดขนาดไหน ' ไลล่าคิด

" ถ้าเธอยังไม่ตาย...งั้นก็หมายความว่าฉันก็ยังไม่ตาย ?! " นทีโพล่งขึ้นพร้อมดีดตัวขึ้นมาจากตักของไลล่า

นทีสำรวจตัวเองแล้วก็พบว่าสภาพของเขานั้นอยู่ในสภาพปกติไม่มีร่องรอยของบาดแผลใด ๆ ให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว แต่นทีไม่สามารถเข้าใจว่ามันเป็นไปได้อย่างไรเพราะสิ่งสุดท้ายที่เขาจำได้ก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นคือเขาถูกกรดกัดกร่อนจนเกือบจะตายไปแล้ว

" เธอ...เธอเป็นคนช่วยฉันไว้เหรอ ? " นทีหันมาหาไลล่า

" ก็ใช่น่ะสิ ในตอนแรกฉันให้นายกินขนมปังแล้วเหมือนนายก็จะหายดีแล้ว แต่อยู่ ๆ นายก็แหกปากร้องราวกับว่ามีใครจะฆ่านายอย่างงั้นแหละ ดีนะที่พยาบาลคนนี้เข้ามาช่วยนายไว้ ไม่งั้นฉันเองก็ไม่รู้ว่านายจะฟื้นขึ้นมาได้หรือเปล่า "

ไลล่าตอบพลางส่งสายตาขอบคุณไปให้พิมอีกครั้ง

ยังไม่ทันที่ไลล่าจะตั้งตัว เธอก็โดนชายหนุ่มตรงหน้าสวมกอดอย่างแนบแน่นอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ หน้าของเธอจากสีแดงระเรื่อก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงสดราวกับมะเขือเทศ เธอกำลังจะก่นด่าพร้อมผลักเข้าออกแต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น เมื่อเธอเห็นน้ำตาที่เริ่มไหลรินออกมาจากใบหน้าของนทีอย่างไม่อาจควบคุม

' เขาคงผ่านอะไรที่เลวร้ายมากมาสินะ.. ' ไลล่าคิดพร้อมค่อย ๆ นำมือไปลูบหลังนทีอย่างแผ่วเบา

' อ๊าาา! ช่างเป็นคู่ที่น่ารักอะไรขนาดนี้ ' พิมคิดพลางเขย่าแขนของกันยาไปมา

' น้ำตาลูกผู้ชายงั้นเหรอ... ' กันยาคิดพร้อมเอามือไปบังหน้าพิมแต่ก็โดนคมเล็บของเธอสวนกลับมา

' ไอหมอนั่น!! จะน่าอิจฉาเกินไปแล้ว!! ' ผู้ชายรอบ ๆ นั้นมีความคิดแบบเดียวกัน

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว