“นิ่ม”
เสียงเรียกชื่อที่ดังมาจากด้านหลังก็ทำให้หญิงสาวชะงักความคิด หยุดเดินแล้วหันไปมองก็พบว่าเป็นไทธัญนั่นเอง
“มาทำอะไรครับ”
“แม่ไม่สบายค่ะ”
อ้อ ชายหนุ่มรับคำเบาๆ เมื่อไปตามเฝ้าหญิงสาวที่คณะแล้วแต่ไม่พบ เลยถามเอากับสุริวิภา ขานั้นไม่ค่อยอยากจะบอก แล้วยังแสดงท่าทีหึงหวงเขาอีกด้วย ทั้งๆที่นอนคุยกันแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นเรื่องของความพอใจและผลประโยชน์ เขาจ่ายไปไม่น้อยให้สุริวิภาเพื่อสอบถามเรื่องราวของปราณปริยา
สุริวิภาบอกว่ามารดาของปราณปริยาไม่สบายนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ห้องไหน ชั้นอะไร ไทธัญจึงตามมาเฝ้าแล้วก็หวังอยู่ไม่น้อยว่าจะได้เจอ
ไม่ผิดหวังจริงๆที่เฝ้ารออยู่อย่างใจเย็นจนเจอกับหญิงสาว
“พี่ไปส่งนะ” บอกด้วยท่าทีกระตือรือร้น
“ค่ะ” เธอยิ้มรับแล้วตอบตกลงในน้ำใจของอีกฝ่ายแต่โดยดี
นั่งรถกันมาเงียบๆครู่หนึ่ง ไทธัญเอ่ยขึ้น
“นิ่มเลิกงานแล้ว พี่มารอรับกลับนะครับ”
เธอยิ้มให้ชายรุ่นพี่ไม่ว่าอะไรแล้วไปยังหลังร้านเพื่อเตรียมตัวเข้างานในลำดับต่อมา วันนี้คนค่อนข้างเยอะเนื่องจากเป็นวันศุกร์สิ้นเดือน ที่เหล่าบรรดาขาเที่ยวที่เป็นมนุษย์เงินเดือนกว่าครึ่งกระเป๋าหนาพอจะจับจ่ายในการเที่ยวหาความสุขยามราตรีกาลเช่นนี้
ขณะเดินกลับไปด้านหลังร้านก็ให้ได้ยินเสียงเรียกชื่อของตนเอง
“นิ่ม”
พร้อมกับมีมือมาแตะลงตรงบ่า เสียงเรียกนั่นเป็นของสุริวิภาเอง พอเห็นว่าเป็นเพื่อนก็ยิ้มรับ ไม่ทันเอ่ยปากถามสาวสวยกว่าเอ่ยขึ้นก่อน
“แวะมากับพวกพี่ๆน่ะ พี่ต้าก็มาด้วยนะ”
ปราณปริยาทำเพียงยิ้มไม่ว่าอะไร สุริวิภารีบว่าต่อ
“พี่ต้านั่งอยู่โต๊ะตรงนู้นแน่ะ ภาเห็นตอนเดินไปห้องน้ำเลยแวะทักแก” สุริวิภาว่าจบเบียดไหล่ตนเองกับไหล่ของเธอบอกยิ้มๆ “สงสัยรู้ว่านิ่มทำงานที่นี่หรือเปล่า แกเลยมา”
ปราณปริยายิ้มไม่ว่าอะไรดุจเดิมเพราะสุริวิภามักล้อเลียนเธอเสมอ เวลาที่เธอสนิทกับต่างเพศ
อย่างพี่ต้านี่เป็นรุ่นพี่ต่างคณะกับเธออีกคน ชายหนุ่มเป็นประธานชมรมแบตมินตันที่เธอสมัครเข้าร่วมตอนปีหนึ่ง แถมยังได้เรียนวิชาภาษาต่างประเทศที่เป็นวิชาเลือกเสรีด้วยกันอีก ได้คุยกันแล้วก็ดูเหมือนจะสนิทสนมกัน แต่แท้ที่จริงทั้งคู่ไม่ได้คิดอะไรกันมากกว่านั้น จึงเดินเข้าไปทักทายเสียหน่อยเมื่อชายรุ่นพี่มองมาที่เธอพอดี
ภาพที่ปราณปริยายืนคุยหัวร่อต่อกระซิกกับชายร่างสูงมาดแมน เพราะเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย ทำเอาไทธัญต้องยกแก้วดื่มหนักยิ่งขึ้น ไทธัญไม่ได้นั่งรอในรถ วันนี้นึกครึ้มใจเลยเลือกนั่งรอในร้านแล้วก็ดื่มไปไม่กี่แก้วเท่านั้น โชคร้ายชะมัดที่ดันมาเจอสุริวิภาในนี้ด้วย เจ้าหล่อนเข้ามานั่งเก้าอี้ติดกับเขาแล้วตอนนี้
“ยัยนิ่มปลื้มพี่ต้าจะตาย”
เสียงกระซิบข้างหูนั่นยิ่งทำให้ไทธัญเดือดพล่าน ชายหนุ่มปรายตามองแวบหนึ่งแต่ทำเฉยเสีย
“นี่ถ้าสองคนนั่นตกลงคบกันนะ ภาว่าคนแถวนี้ต้องอกแตกตายแน่ๆเลย”
“ก็คงเหมือนกับที่นิ่มรู้ว่ามีเพื่อนแบบเธอคงอกแตกเหมือนกัน”
ไทธัญว่าจบยกเหล้าดื่มอย่างไม่ให้ราคาหญิงสาวข้างๆ
“พูดแบบนี้หมายความว่าไงคะพี่ธัญ”
แม้จะถามกลับด้วยน้ำเสียงติดฉุนนิดๆ แต่มือไม้กลับยกไปแตะต้นแขนของไทธัญอย่างต้องการแสดงความเป็นเจ้าของให้สาวคนอื่นๆในนั้นได้รู้ ไทธัญปัดมือออกทันที ว่าเสียหาย
“เมาแล้วอย่ามาเลื้อยแถวนี้”
สุริวิภาที่ก็ดื่มมาไม่น้อยหัวเราะยั่ว เข้ามากระซิบข้างหู
“พูดกับเมียแบบนี้ได้ไงคะพี่ธัญ”
“ใครเมีย เธอหรือไง” ชายหนุ่มเอียงตัวออกอย่างรังเกียจ แท้จริงกลัวว่าปราณปริยาจะเข้ามาเห็นความสนิทสนมจนเกินไปที่สุริวิภาแสดงนี่ต่างหาก
คราวนี้ไทธัญหันมามองหน้าสุริวิภาเต็มๆก่อนว่า
“ถ้าเอาแค่ไม่กี่ทีเป็นเมีย พี่คงมีเมียทั้งมหาลัยแล้วล่ะน้องหนู”
สุริวิภาชะงักก่อนเค้นเสียงเรียกอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ
“พี่ธัญ!”
ไทธัญลุกหนีไปอีกทางแล้ว จะตามก็พอดีเพื่อนที่โต๊ะเดินมาหา เนื่องจากมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งให้ความสนใจในตัวของเธอ สุริวิภาเองต้องคว้าเงินไว้ก่อนเพื่อความอยู่รอดในเมืองใหญ่แบบนี้จึงตัดใจผละไปอีกทาง
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว