ยอดดวงใจรพี-9.ผัวหนุ่มเมียสาว (1)

โดย  รสิตา เพียงพิณ

ยอดดวงใจรพี

9.ผัวหนุ่มเมียสาว (1)

บทที่30

อิ๋งไถ่นั้นในอดีตเป็นหมอหนุ่มผู้มีอนาคตไกล ในช่วงจังหวะที่ชีวิตของเขากำลังรุ่งโรจน์ในหน้าที่การงานอย่างสูงสุด กลับถูกใส่ร้ายป้ายสีกล่าวหาว่าเขาทำให้ผู้ป่วยคนหนึ่งต้องตายด้วยวิธีการรักษาที่แปลกประหลาดที่ไม่เคยมีบันทึกในตำราแพทย์เล่มใดมาก่อน
เหตุร้ายในครั้งนั้นทำให้ชีวิตของเขาตกต่ำดับวูบต้องถูกจองจำอยู่ในคุกมืดอยู่นานหลายปี พอพ้นโทษจึงเร้นกายหนีขึ้นไปอยู่บนเขาสูงไม่ข้องเกี่ยวกับผู้ใดและไม่รับรักษาให้ใครอีก
แต่เพราะอี้เหวินนั้นเป็นสหายเก่าและเคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาก่อน เมื่อถูกบุตรชายของสหายขอ ร้องเขาจึงยอมลงเขามาช่วยอย่างเสียไม่ได้
รุ่งเช้าวันต่อมาเขาจึงลงมือทำ การตรวจรักษาให้อี้เหวินแต่เช้าหลังจากพิจารณาดูจนรอบคอบจึงยืนยันออกมาได้ว่าอาการป่วยไข้ของสหายเก่าในครั้งนี้หาใช่เกิดจากโรคร้ายทั่วๆ แต่เกิดจากการถูกพิษเก้าบุพผา

พิษชนิดนี้แท้จริงไม่ร้ายแรง ทว่า ร่างกายของอี้เหวินได้รับเข้าไปอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาหนึ่งจึงส่งผลให้อวัยวะภายในปอดเกิดการอักเสบและติดเชื้อลุกลามอย่างรุนแรง ความหวังที่จะรักษาให้หายได้นั้นดูเลือนลางริบหรี่

เว่ยหยวนได้รับฟังแล้วก็เพ่งเล็งความผิดไปที่ฮูหยินเยี่ยผิงผู้เป็นมารดาเลี้ยง ว่านางเป็นผู้ลงมือวาง ยาพิษบิดาของตน เพื่อหวังปูทางให้จวี้หลิงบุตรชายของนางได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลควบคุมกิจการการค้าทั้งหมด
ชนวนเหตุชี้ชัดนี้มีความเป็นไปได้สูงเกี่ยวโยงกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อปีก่อน ซ้ำยังมีเรื่องที่จวี้หลิงมาพูดจาข่มขู่ภรรยาของเขาอยู่หลายครั้ง

หลังจากตรึกตรองไล่เรียงเรื่องราวต่างๆจนแน่ใจ เขาจึงสั่งให้บ่าวรับใช้นำตัวของฮูหยินเยี่ยผิงมา สอบสวน แล้วให้ค้นเรือนของนางโดยละเอียดเพื่อหาหลักฐาน แต่ทว่ากลับไม่พบพิรุธเงื่อนงำแต่อย่างใด ส่วนฮูหยินเยี่ยผิงก็ร้องห่มร้อง ไห้ปฏิเสธเสียงแข็งไม่ยอมรับท่าเดียว

ถึงจะขาดหลักฐานแต่เว่ยหยวนก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าฮูหยินเยี่ยผิงเป็นผู้บริสุทธ์ เพราะนอกจากพวกนางสองแม่ลูกแล้วในเรือนนี้ก็ไม่มีใครอีก เนื่องจากการที่บิดาจะโดนวางยาพิษจากคนภายนอกนั้นไม่มีความเป็นไปได้เลย เขาจึงออกคำสั่งให้กักขังนางเอาไว้ในห้องลับที่มีไว้ใช้สำหรับลงโทษผู้กระทำผิดประจำตระกูลหวังให้นางตื่นกลัวแล้วจะได้คลายความลับออกมา

ใครจะคาดคิดว่าฮูหยินเยี่ยผิงจะผูกคอตายเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง เคราะห์ดีที่บ่าวรับใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูได้ยินเสียงโครมครามจากการที่นางเตะโต๊ะ เก้าอี้จนล้มในขณะที่กำลังปีนขึ้นไปแขวนคอบนขื่อใต้หลังคา จึงเข้าไปช่วยชีวิตนางเอาไว้ได้ แต่ด้วยอายุที่มากพอควรจึงทำให้นางล้มป่วยจนลุกเดินไม่ได้

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับมาร ดาจวี้หลิงถึงได้รู้ว่าพี่ชายแกล้งโง่ เพื่อจะจับผิดพวกตน เขาโกรธแค้นเว่ยหยวนมากที่กล่าวหาว่ามารดาของเขาเป็นผู้วางยาพิษบิดา จนทำ ให้ท่านเสียใจถึงขั้นคิดจะปลิดชีพตนเองเพื่อล้างมลทิน เขาจึงเตรียมแผนโต้ตอบชำระแค้นครั้งยิ่งใหญ่
เขารู้ว่าพี่ชายกำลังออกตามหาเซวียนมู่คนขับรถม้าที่หายสาบสูญไป จึงปล่อยข่าวลือว่าเซวียนมู่ปรา กฎตัวอยู่ที่อำเภอกว่างจงแต่งงานมีครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น

เมื่อเว่ยหยวนได้ทราบข่าวลือนี้เขาจึงเร่งออกเดินทางไปกับต้าฟู้โดยทันที โดยกำชับให้อาฉู่คอยดูแลนางอย่างใกล้ชิดเช่นเคย

วันที่สองหลังจากสามีออกเดินทางเซียงเซียงก็ได้จดหมายลับที่อาฉู่บอกว่าฟางอี้ถิงให้คนนำส่งมาให้
ข้อความเขียนลงเอาไว้ว่ามีเรื่องด่วนที่จะปรึกษา อยากให้นางออกไปพบที่โรงเตี๊ยมปาจื่อสุดถนนเซ่อเมิ่งในยามห้ายของคืนนี้(21.00น)

เซียงเซียงเห็นว่าฟางอี้ถิงคงอยากจะเจรจาเรื่องปัญหารักสามเศร้าที่เห็นว่าพี่ซู่หลานยังคงวนเวียนมาพบกับตนอยู่บ่อยๆ จึงตั้งใจที่จะไปอธิบายกับพี่สาวถิงให้เข้าใจว่าตนกับพี่ซู่หลานนั้นมิได้มีความสัมพันธ์กันดั่งคนรักอีกแล้ว

เซียงเซียงกับอาฉู่ขึ้นไปบนชั้นสองของโรงเตี๊ยมตามที่ระบุเอาไว้ในจดหมาย เมื่อเข้ามาในห้องกลับพบว่าฟางอี้ถิงยังมาไม่ถึง
อาฉู่เห็นว่าผู้เป็นนายทานมื้อเย็นไปเพียงเล็กน้อยก็เกรงว่านางจะหิวจึงอาสาลงไปสั่งของว่างมาให้
"นายหญิง ท่านรออยู่ที่นี่ก่อนนะเจ้าคะ ข้าจะลงไปสั่งอาหารและเครื่องดื่มมาให้"

"ไม่เป็นไรหรอกอาฉู่ข้าไม่รู้สึกหิว" เซียงเซียงปฏิเสธ ตอนนี้จิตใจของนางมัวแต่จดจ่อรอฟางอี้ถิงที่นานแล้วก็ยังมาไม่ถึงจึงไม่อยากที่จะกินอะไร

"นายหญิงเมื่อตอนเย็นท่านทานอาหารไปไม่กี่คำเอง หากคุณชายใหญ่รู้เข้าจะต้องดุข้าแน่ อย่าปฏิเสธเลยนะเจ้าคะ"

"อืม เช่นนั้นเจ้ารีบไปรีบมาเถอะ!

"เจ้าค่ะ"

เมื่อถูกเซ้าซี้เซียงเซียงเห็นว่าสาวใช้อยากเอาอกเอาใจตนจึงไม่ได้ขัดอีกนางจึงนั่งรออยู่ในห้องนั้น
คล้อยหลังอาฉู่ไปประมานครึ่ง เค่อ(7-8นาที) ร่างสูงใหญ่ของบุรุษที่คุ้นเคยก็เปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง นางจึงรีบผุดลุกขึ้นยืนส่งเสียงถามด้วยความแปลกใจ
"พี่ซู่ เหตุใดท่านถึงมาที่นี่ พี่สาวถิงก็นัดให้ท่านมาพบด้วยหรือเจ้าคะ?

ซู่หลานทำหน้างุนงงระคนสงสัย เอ่ยโต้ตอบไปตามจริง "หมายความเช่นไร ก็เจ้าเป็นคนที่นัดหมายให้ข้ามาพบเองไม่ใช่หรือ?

หัวใจของนางตกไปกองที่ข้อเท้ารู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล สมองประมวลผลอย่างหนักหน่วง แล้วโพล่งขึ้นสีหน้าและน้ำเสียงแตกตื่น "พี่ซู่ ข้าคิดว่ามีคนล่อลวงให้พวกเรามาที่นี่!

"รีบไป!
เขาก็รู้สึกผิดสังเกตุไม่ต่างจากนางพยักหน้ารับอย่างเข้าใจแล้ววิ่งนำไปที่ประตูทางออก แต่กลับพบว่ามันถูกล็อกเอาไว้จากด้านนอก

เซียงเซียงตกใจจนหน้าถอดสี เหงื่อเย็นไหลเต็มแผ่นหลังของนางจิตใจเป็นกังวลระส่ำระส่าย
"พี่ซู่ พวกเราจะทำเช่นไรดีเจ้าคะ?

"ข้าจะพังมันออกไปเอง เจ้าถอยออกไปก่อน"

เขาพูดจบก็เตรียมจะเงื้อเท้าขึ้นถีบประตู ฉับพลันควันสีขาวกลุ่มใหญ่ก็พวยพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของเขา ทำให้ต้องผงะถอยหลังออกมาหลายก้าว ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้เขาเผลอสูดดมควันนั้นเข้าปอดไปเฮือกใหญ่ เมื่อตั้งสติได้จึงรีบร้องเตือนอดีตคนรัก
"เซียงเอ๋อร์ รีบปิดจมูกเร็วเข้า!

ทว่าไม่ทันเสียแล้วกว่าเซียงเซียงจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ดมควันนี้เข้าไปบ้างเเล้ว
ซู่หลานรีบโผไปหานาง ในจัง หวะนี้สมองของเขาเริ่มเบลอมึนงงจะหลับเสียให้ได้ รีบสั่นศรีษะเรียกสติอย่างแรงแต่ก็ไร้ผล ยืนโงนเงนเพียงครู่เดียวก็ทรุดเข่าลงดั่งคนสิ้นแรง

เซียงเซียงตกใจจนทำอะไรถูกควันนั่นทำให้นางรู้สึกง่วงงุนอย่างรุนแรง หนังตาหนักอึ้งสมองมึนงงโหวงเหวง แม้จะอ้าปากพูดก็ยังทำไม่ได้ สองเข่าอ่อนเปลี้ยจนพยุงร่างเอาไว้ไม่ไหว นางนั่งลงข้างซู่หลาน ก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างไร้สติสองตามืดบอดลงเฉียบพลันไม่รับรู้สิ่งใดอีก

ซู่หลานพยายามจะเขย่านางให้ตื่นแต่ก็เหมือนกับสะกิดเบา ๆ เสียมากกว่า ด้วยเขาไม่มีเรี่ยวแรงแม้ แต่จะกัดฟัน สุดท้ายก็หมดสติล้มลงนอนทอดกายเคียงข้างนาง

รุ่งเช้าดวงอาทิตย์โผล่พ้นจากขอบฟ้าทอแสงสีทองเจิดจ้าให้ความสว่างไสวขับไล่ความมืดมิดของราตรี
เซียงเซียงได้ยินเสียงอื้ออึงฟังไม่ได้ศัพย์ดังก้องในหัว นางจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองหาต้นเสียงนั้น
ทันทีที่ดวงตาเปิดขึ้นก็กวาดมองรอบกาย สมองเริ่มทำงานประ เมินภาพที่เห็นตรงหน้า พอเห็นทุกอย่างชัดเจนหัวใจก็แทบจะหยุดเต้นด้วยความตกใจหวาดผวาสุด ขีด รีบตลบผ้าห่มคลุมร่างขยับไปนั่งจนชิดขอบเตียง เนื้อตัวสั่นเทาราวกับนกน้อยหวาดเกาฑัน แม้จะเอ่ยปากพูดฟันยังกระทบกันจนพูดออกมาฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง
"กะ กะ เกิดอะ อะอะไรขึ้น!
นางพูดด้วยน้ำเสียงสั่นระริกเมื่อเห็นอาฉู่และผู้คนชายหญิงร่วมสิบคนยืนมุงส่งเสียงวิพากวิจารย์ชี้ไม้ชี้มือมาที่นาง ข้างกายของนางก็มีพี่ซู่หลานนอนเปลือยอกหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ ส่วนตัวของนางนั้นเสื้อผ้าหลุดรุ่ยจนเห็นเนินอกโผล่พ้นเอื้ยมสีแดงสด

อาฉู่เห็นผู้เป็นนายตื่นลืมตาขึ้นมาก็ส่งเสียงต่อว่านางเสียงดังน้ำตาไหลพรากแววตาตำหนิแข็งกร้าวราวกับเจ็บแค้น
"นายหญิง ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไรกันเจ้าคะ ท่านกล้านัดพบชายชู้มาร่วมหลับนอนระเริงรักกันที่นี่ ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะกล้าทำร้ายจิตใจคุณชายใหญ่เช่นนี้!

"อาฉู่ ข้า ข้าไม่ได้ทำนะ ฟังข้าก่อน นี่มันเรื่องเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ทำจริงๆ! เซียงเซียงถูกเข้าใจผิดใหญ่โตก็รีบโบกไม้โบกมืออธิบายเสียงระรัว

ซู่หลานได้ยินเสียงถกเถียงดังลั่นจึงลืมตางัวเงียตื่นขึ้นมา เขารู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิดจนต้องยกมือขึ้นกุม เมื่อเห็นผู้คนรายล้อมรอบตัวจึงหันไปมองเซียงเซียงที่นั่งร้องไห้จนเนื้อตัวหอบโยนก็เข้าใจแล้วว่าเมื่อคืนมันเกิดแผนชั่วร้ายอะไรขึ้น เขารีบชันตัวขึ้นนั่งตวาดลั่นพร้อมโบกมือไล่เสียงเฉียบ
"ออกไปกันให้หมด สิ่งที่พวกเจ้าเห็นมันเป็นเพียงแค่เรื่องเข้าใจผิด ออกไปสิ ข้าบอกให้ออกไปอย่างไรเล่า!

"เข้าใจผิดงั้นรึ หลักฐานเต็มสองตาของพวกเรา ยังกล้าพูดว่าเข้าใจผิด จริงไหมพวกเรา! สตรีนางหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดเอ่ยสัพยอก อีกคนหนึ่งก็ส่งเสียงเออออเห็นด้วย

"ใช่ๆๆๆ พวกเราล้วนเห็นกันหมดพวกเขาลอบเล่นชู้กัน!

ซู่หลานกัดฟันกรอดยกมือขึ้นเงื้อหมัดตะคอกด้วยน้ำเสียงดุดันแววตาฉายแววสังหารก้าวเท้าพุ่งลงจากเตียงหมายตีคน
"ข้าบอกให้ออกไป แล้วอย่าได้พากันพูดอะไรมั่วซั่วเด็ดขาด!

ได้ผลสิ้นเสียงของเขาชาวบ้านนับสิบต่างพากันวิ่งกรูหนีตายออกไปทันที มีเพียงอาฉู่ที่ยืนกอดอกสี หน้าหยามเหยียดไม่หวั่นเกรง
"นายหญิง ท่านกลับไปที่บ้านบิดาของท่านก่อนเถอะ เอาไว้วันนี้คุณชายใหญ่กลับมาข้าจะรายงานเขาเองตามจริง! นางพูดเพียงเท่านี้ก็หันหลังแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

ซู่หลานรีบก้มหยิบเสื้อผ้าที่กระ จัดกระจายบนพื้นขึ้นมาสวมใส่เมื่อคืนเขาจำได้ว่าลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วรอบหนึ่งกำลังจะชันตัวลุกนั่งก็ได้กลิ่นควันกลิ่นเดิมแล้วหมดสติไปอีกครั้ง
แสดงว่าผู้ที่ลงมือวางแผนมาเป็นอย่างดีไม่เว้นช่องให้เหยื่อหลุดรอดไปได้ สวมเสื้อผ้าเสร็จแล้วเขาจึงหันมาปลอบโยนอดีตคนรักน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะกัดฟันน้ำเสียงโหดเหี้ยมในประโยคสุดท้าย
"เซียงเอ๋อร์เจ้าไม่ต้องกลัว ไม่ว่าใครหน้าไหนที่มันกล้าทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้กับพวกเรา....ข้าจะสังหารพวกมันอย่างไร้ปราณี!

"พี่ซู่ ข้า ข้าไม่รู้จะทำเช่นไรดีเจ้าค่ะ ข้าอับอายเสียจนไม่อยากจะหายใจอีกต่อไปแล้ว ฮือๆๆๆ!
เซียงเซียงร้องไห้สะอึกอื้นน้ำเสียงแหบพร่าน่าเวทนา เรื่องทั้ง หมดที่เกิดขึ้นมันร้ายแรงเสียจนนางทำใจไม่ได้
ต่อให้พูดจนคอแตกหรือสาบานต่อหน้าเง็กเซียนฮ่องเต้ใครกันจะเชื่อ รู้สึกหมดอาลัยตายอยากในชีวิตทุกข์ทรมารเสียยิ่งกว่าถูกนาบด้วยแท่งเหล็กร้อนๆ นี่น่ะหรือที่เขาเรียกกันว่าตายทั้งเป็น
ผู้อื่นร้อยพันนางหาได้ใส่ใจให้ความสำคัญ แต่เว่ยหยวนสามีของนางล่ะ จากนี้ไปนางจะกล้ามองหน้าเขาได้อีกหรือ

ซู่หลานรู้ว่าเซียงเอ๋อร์เป็นทุกข์เพียงใด แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งร้องไห้ฟูมฟาย ต้องเร่งหาวิธีแก้ไขอย่างเร่งด่วน เขาสบถสาบานในใจว่าหากจับได้ว่าใครมันกล้าทำเรื่องสาระเลวชาติชั่วเช่นนี้เขาจะตามเข่นฆ่าอาฆาตพวกมันให้ดับสูญ เลือดต้องล้างด้วยเลือด
"เซียงเอ๋อร์เจ้าอย่าวิตกกังวลจนไร้สติ เรื่องนี้เป็นแผนการณ์ของคนชั่วที่จะเล่นงานพวกเรา เจ้าลองเล่ามาสิว่าระยะหลังมานี่เจ้ามีเรื่องบาด หมางหรือขัดแย้งกับผู้ใดบ้าง พี่จะได้หาทางแก้ไข พวกมันจะต้องได้รับผลกรรมที่ก่อไว้อย่างแน่นอน!
แวบหนึ่งเขาก็นึกถึงฟางอี้ถิงขึ้นมาเพราะชื่อของนางถูกแอบอ้างทำให้การนัดพบนี้เกิดขึ้น แต่ก็ยังงุนงงไม่เข้าใจว่านางจะทำเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใดเพราะมันไม่เกิดประโยชน์ต่อนางเลย หากว่าจะใส่ร้ายเซียงเซียงก็ต้องหาชายใจกล้าสักคนที่ไม่ ใช่เขา

เซียงเซียงหยุดร้องแล้วตั้งสตินางจะต้องไม่วู่วามแล้วผ่านมันไปให้ได้ "เจ้าค่ะพี่ซู่ ข้าจะพยายามตั้งสติให้มั่น พี่ต้องช่วยล้างมลทินให้ข้าให้ได้นะเจ้าคะ! นางเอ่ยน้ำเสียงอ้อนวอนแววตาหม่นหมองตรมเศร้า

"พี่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้ารอดพ้นจากเคราะห์กรรมครั้งนี้น้องสาวที่รักของข้า"
ซู่หลานรับปากยืนยันหนักแน่นจะไม่ยอมให้ คนใจทรามที่ทำร้ายหญิงที่เขารักสุดหัวใจต้องลอยนวลไปอย่างสงบสุขโดยเด็ดขาด

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว