รุ่งเช้าวันใหม่ร่างบางขยับกายพร้อมกับเปิดเปลือกตา อาการเมาค้างยังคงสะสม หญิงสาวชันกายมือยกขึ้นกุมขมับแน่นดวงตาเรียวสวยกวาดมองไปรอบๆ เมื่อรู้สติได้เต็มที่ รินณดานิ่งงันเมื่อห้องที่เธออยู่ในเวลานี้ไม่ใช่ห้องของตนเอง รีบลุกยืนสีหน้าตระหนก
“ตื่นแล้วเหรอ?”ยศราชย์เอ่ยทักพลางกอดอกพิงประตู
หญิงสาวหันควับมองผู้มาเยือนแววตาไหววูบ ทำไมเขาถึงยืนอยู่ตรงนั้นแล้วเธออยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!”เธอถามเขาเสียงเขียว
“ฉันเป็นคนพาเธอมาเอง”
“หมายความว่ายังไง แกทำอะไรฉัน!”รินณดาถามเสียงสั่นน้ำตารื้น
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มออกมามองคนตัวเล็กแสดงอาการตระหนก มิหนำซ้ำยังกล่าวหาเขาหน้าตาเฉย แทนที่เธอจะก้มลงมองตัวเองซะบ้า งดันปักใจว่าเขาคงทำเรื่องไม่ดีอย่างเดียว
“ก้มมองตัวเองหรือยังรินณดา ถ้าฉันทำอะไรเธอสภาพเธอจะเป็นอย่างนั้นเหรอ?”ชายหนุ่มเลิ่กคิ้วเป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายดูตนเอง
เธอรีบก้มลงมองตัวเองเมื่อเห็นสภาพเหมือนค่ำคืนที่เริ่มทำงาน ความรู้สึกอับอายเริ่มแผ่ซ่านขึ้นมาทันใด ใครจะนึกว่าเขาจะไม่ทำอะไรเห็นจ้องจะกินเธอท่าเดียวตั้งแต่ในห้องทำงานเวันนั้น แต่ว่า... ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยไม่เข้าใจ หากเขาไม่คิดจะทำอะไรทำไมไม่ส่งเธอกลับบ้าน
“ถ้าคุณไม่คิดจะทำอะไร ทำไมไม่ส่งฉันกลับบ้านล่ะคะ”
“ฉันเป็นคนรับใช้เธอหรือยังไงรินณดา”คนถูกถามส่งเสียงติดรำคาญ
“นี่คุณ! ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย ทำไมคุณต้องเอาตัวฉันมาที่นี่ ทำไมไม่ให้ฉันอยู่ที่ผับเจ๊มินนี่เขาจัดการได้”รินณดาขึ้นเสียงสูง อธิบายความคิดตนเอง
“ไม่ต้องมาถามอะไรแล้ว ฉันจะให้คนไปส่งที่บ้านพอใจไหม”
ริมฝีปากบางเม้มแน่นด้วยความไม่พอใจ ก่เหลือบมองหานาฬิกาอยากรู้ว่ากี่โมงแล้ว เพราะเป็นห่วงแม่ที่โรงพยาบาล ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง แต่เมื่อตรวจสอบอย่างถ้วนถี่ห้องนี้ไม่มีแม้แต่นาฬิกาปลุกสักเรือน
“นี่คุณ... ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”
คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ยกท่อนแขนขึ้นพร้อมเลิ่กเสื้อเชิ้ตออกเพื่อดูเวลา รินณดาจ้องมองท่าทางของเขา ยิ่งมองเธอยิ่งรู้สึกว่าเขาดูดีไม่น้อยเลยทีเดียว ท่าทางภูมิฐานบวกกับหน้าตาคมเข้มคงมีสาวๆ สวยๆ มากหน้าหลายตามาติดพันไม่น้อย
“เกือบเที่ยงแล้ว ทำไมเหรอ?”
“จะเที่ยงแล้วเหรอ!”เธอร้องลั่นออกมา
หญิงสาวรีบคว้ากระเป๋าตนเอง ต้องรีบไปโรงพยาบาลแล้วป่านนี้แม่คงรอแย่ ทำไมถึงได้นอนจนตื่นสายขนาดนี้
“จะไปไหน”เจ้าของห้องถาม แล้วสบตาคนตัวเล็ก
“ไปโรงพยาบาล!”คนถูกถามตอบกลับเสียงห้วน
“เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอกขอบคุณ”
รินณดารีบใส่รองเท้า เอื้อมมือหมายจะเปิดประตู แต่ท่อนแขนถูกเขาคว้าไว้ คนกำลังใส่รองเท้าส้นสูงยังยืนไม่ถนัดเลยเซไปปะทะกับแผงอกแกร่งเข้าพอดี
“อุ้ย”หญิงสาวร้องออกมาเมื่อถูกเขาโอบเอวไว้เพื่อไม่ให้ล้ม
มือบางยกดันแผงอก ใบหน้าห่างกันแค่คืบ เธอรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นรินรดใบหน้า
“ปล่อยฉันคุณยศราชย์”คนถูกกอด บอกเสียงแข็ง
“ก็บอกแล้วไงว่าจะไปส่ง”
“ไม่ต้อง เราสองคนไม่ควรเจอหน้ากันอีก”
“ถ้าไม่ให้ไปส่ง จะไม่ปล่อยไปไหนทั้งนั้น!”เขาขู่
“นี่คุณ! มันจะมากไปแล้วนะ”หญิงสาวแหวเขาด้วยความไม่พอใจ
“ก็ตามใจถ้าไม่ให้ไปส่งจะกอดอยู่แบบนี้ อยากเสียเปรียบก็เชิญเลย...”
คนถูกขัดใจเม้มริมฝีปาก ทำไมต้องยืนยันจะไปส่งด้วย ปกติเห็นเกลียดขี้หน้าเธอยิ่งกว่าอะไร
“ก็ได้ ฉันยอมแล้ว”
เขายอมคลายอ้อมกอด คนตัวเล็กหน้างอไม่พอใจต่อการกระทำของอีกฝ่ายกระแทกส้นเท้าเดินหนีจากห้อง อยากส่งก็เชิญเธอไม่สนอะไรทั้งนั้น ต้องการถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ชายหนุ่มคว้าเรียวแขนไว้เสียก่อนเพราะสำรวจการแต่งกายเธอแล้ว มันขัดใจจนน่าหงุดหงิด
“รินณดาเธอจะไปยั่วหมอที่โรงพยาบาลหรือไง?”
“อะไรของคุณ!”เธอถามเสียงขุ่น ยิ่งเห็นเขายิ้มเยาะยิ่งน่าโมโห ปากคอก็เลาะร้ายเสียเหลือเกิน
“แต่งตัวแบบนี้ไปโรงพยาบาลจะไปหาสามีเป็นหมอหรือไง แม่เธอเห็นไม่ช็อกตายหรือยังไงกัน”
เธอแทบะกางเล็บข่วนหน้าเขาเสียจริง ถ้าไม่ติดว่าเขากำลังไปส่ง และอีกเหตุผลคือเธอไม่เคยชนะเขาได้สักที รินณดารีบก้มลงมองตัวเอง ลืมเสียสนิทว่าตนเองอยู่ในชุดอะไรและไม่ควรจะไปหาแม่ในสภาพเช่นนี้
“คุณไปส่งฉันที่บ้านก่อนได้ไหม?”
“นี่! ให้มันน้อยๆ หน่อย ฉันไม่ใช่คนขับรถเธอนะรินณดา”
“แล้วฉันจะไปโรงพยาบาลชุดนี้ได้ยังไงกันเล่า”
คนตัวใหญ่ส่ายหัวโคลงตัดสินใจพาหญิงสาวขึ้นรถ เคลื่อนออกจากลานจอดแล้วขับหาร้านเสื้อผ้า พอถึงจอดหน้าร้าน รินณดานั่งรอเขาด้วยความแปลกใจ ยศราชย์กลับมาพร้อมถุงในมือแล้วโยนใส่ให้เธอ
“อะไร”
“เสื้อผ้าใส่ซะ”เขาบอก แล้วสตาร์ทรถเคลื่อนออก
“หาห้องน้ำให้ฉันหน่อยสิ”
“ไปใส่ที่เบาะหลัง อย่าเรื่องมาก!”
“จะบ้าหรือไงใครจะทำ!”
“รินณดาอย่าเรื่องมากรถฉันติดฟิล์มไม่มีใครเห็นหรอก”ชายหนุ่มหันหน้ามาบอกแล้วสนใจถนนต่อ
“คนอื่นไม่เห็นแต่คุณเห็น!”
“ฉันเห็นจะเป็นไรไหนก็เคยเห็นแล้ว อีกอย่างฉันไม่พิศวาสจะดูเธอให้เสียลูกตาหรอกนะ”
หญิงสาวกัดฟันแน่นกลั้นใจข้ามมาที่เบาะหลัง อารมณ์โกรธทำให้เธอใจกล้าที่จะทำตามความต้องการของเขา ไม่อยากดูเธอใช่ไหม มือบางจัดการปลดชุดเดรสออกจนเหลือเพียงชั้นในสองชิ้น ยศราชย์ขบกรามแน่นเมื่อมองผ่านกระจกถึงกับพูดไม่ออก คิดผิดจริงๆ ที่ตัดสินใจให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเบาะหลังแค่อยากจะแกล้งแต่ตัวเองดันหัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก
เธอจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเสร็จแม้จะแปลกใจที่ชุดที่เขาซื้อมาเธอใส่ได้พอดีก็ตาม ร่างบางรีบข้ามมานั่งประจำที่ตนเองเหลือบมองเขาเล็กน้อย เห็นตีหน้าเคร่งขรึมจึงหันมองวิวด้านนอกแทน เมื่อกี้ยังเห็นอารมณ์ปกติอยู่ ตอนนี้ทำไมถึงได้เปลี่ยนไปเธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว