รักหนอ...รักร้าย (พีเรียด)-4.เป็นผู้ดีมันยาก ไม่อยากเป็น (1)

โดย  รสิตา เพียงพิณ

รักหนอ...รักร้าย (พีเรียด)

4.เป็นผู้ดีมันยาก ไม่อยากเป็น (1)

น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงปัญหาของตัวเองเต็มไปด้วยความเข้มแข็งพอๆกับท่าทีเย็นชามันช่างดูขัดตากับรูปร่างหน้าตาสวยๆของหล่อน

จิณณ์นึกถึงนวลปรางมาตลอดทางที่ขับรถกลับเข้าตัวอำเภออีกครั้ง

บ้านไม้ของหล่อนก็น่ารักดี เล็กๆแต่ตกแต่งอย่างมีสไตส์สมกับที่สามีที่ตายไปแล้วเป็นคนออกแบบ

เขามีหัวทางศิลปะ น่าเสียดายที่ด่วนจบชีวิตลง

น่าเสียดายกว่านั้นที่ทิ้งเมียสวยๆกับลูกสาวหน้าตาน่าเอ็นดูให้เผชิญโลกตามลำพัง

กระทั่ง ที่ดินที่เป็นที่ตั้งของบ้านก็ไม่ใช่ของหล่อน

ค่าเช่ากับสัญญาที่ต่อกันปีต่อปีกับเจ้าของที่เป็นชาวบ้านแถวนั้น โดยไม่รู้ว่าวันไหนเจ้าของอาจนึกอยากขายเพราะราคาที่ดินแพงขึ้นทุกวันดีกว่าเก็บค่าเช่าถูกๆเป็นรายปี

ดูเหมือนรอบตัวนวลปรางจะเต็มไปด้วยปัญหา

เสียงโทรศัพท์มือถือของจิณณ์ดังขึ้น เขาเหลือบมองหน้าจอแล้วก็นึกขำ พัลลภกดโทรศัพท์ถึงจิณณ์ ทันทีที่รถของเขาวิ่งเข้าตัวอำเภอ

เหมือนกะเวลาถูก

“ไงว่ะ ห่วงคนไข้หรือหวงแม่เด็กนั่นกันแน่ ถึงต้องโทร.มาเช็ค”

“ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง” เสียงทางปลายสายตอบกลับ

“กลัวนายจะอยู่โยงที่นั่น ไม่ยอมกลับลงมาต่างหาก”

จิณณ์หัวเราะ

“นายเล่นมองคุณปรางตาไม่กะพริบ โชคดีที่เขาละลายไม่ได้”

“เออซิว่ะ สวยไปทั้งตัวอย่างนั้น” จิณณ์ยอมรับอย่างไม่ปิดบัง

เขาไม่เห็นว่า จะผิดแปลกตรงไหนที่จะแสดงความถูกใจผู้หญิงสวยๆอย่างนวลปราง

หากพัลลภไม่มีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน ป่านนี้นวลปรางอาจตกเป็นเมียหมอไปแล้วก็ได้

“อย่ายุ่งกับเธอเลย” พัลลภปราม

“ทำไม มีเจ้าของหรือ”

“เปล่า แต่ฉันสงสารเธอกับลูก”

เขาพูดตรงๆเพราะรู้จักนิสัยเพลย์บอยอย่างจิณณ์ดี “สาวๆในเมืองที่พร้อมเป็นของเล่นให้นายดาหน้าเข้ามาเยอะแยะ ปล่อยคุณปรางไว้คน”

“นายไม่คิดว่า ฉันจะจริงจังกับช้างเผือกในป่า”

“ไม่มีทาง” พัลลภยืนกราน

“เฮ้อ นายลภเอ๊ย” จิณณ์ถอนหายใจ “นายดูไม่ออกหรือไง อย่างคุณปรางของนายมีหัวใจเสียที่ไหนกันเล่า ต่อให้ฉันตามจีบหล่อนก็ไม่มีทางเล่นด้วย”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี”

“แต่ฉันสนคนไม่มีหัวใจแบบนี้หวะ” จิณณ์บอกเพื่อน

พัลลภร้องเสียงหลง เขาไม่เข้าใจความคิดของจิณณ์เสียเลย “ตกลงนายจะเอายังไงแน่”

“ก็ ฉันชอบผู้หญิงคนนี้”

“แล้วไง”

“เด็กนั่นต้องใช้เงินรักษาตัวเยอะเท่าไหร่ว่ะ” จิณณ์เปลี่ยนเรื่อง

“ถ้านายหมายถึงหนูแป้งร่ำ...” พัลลภบอกจำนวนเงินที่มีตัวเลขถึงเจ็ดหลัก

“อย่าบอกว่า นายคิดจะบริจาค”

“ฉันดูเป็นเศรษฐีใจบุญขนาดนั้นเชียวหรือว่ะ” จิณณ์หัวเราะ

“กับเด็กสาวๆ”

“แต่คราวนี้ อยากใจดีกับพวกแม่หม้ายเนื้อหอมดูบ้าง”

“นายจะให้เงินหนูแป้งร่ำผ่าตัดงั้นหรือ” พัลลภถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ

“หืม” จิณณ์รับ “แต่มีข้อแลกเปลี่ยน” เขาร่ายแผนการของตัวให้เพื่อนรักรับรู้

“ทีแรกฉันก็คิดจะจ้างผู้หญิงสักคนมาเป็นเมียหลอกๆเพื่อตบตาแม่ จะได้ล้มเลิกความคิดที่จะคลุมถุงชนฉันกับนายจุณเสียที”

“ความคิดนั่นก็เข้าท่าดีนี่”

“แต่ไม่รู้จะไปจ้างผู้หญิงคนไหนที่ไว้ใจได้ ไม่คิดแบล๊คเมล์ฉันทีหลัง”

“ก็บรรดาสาวๆที่นายไปหว่านเสน่ห์ไว้”

“บอกตรงๆฉันกลัวแม่พวกนั้นไม่ยอมออกไปจากชีวิตฉัน หลังจากแผนการทุกอย่างจบลงแล้ว”

พัลลภค่อยๆเริ่มเข้าใจความคิดของจิณณ์

“นายก็เลยเลือกคุณปราง”

“ใช่”

“แล้วแน่ใจได้ไงว่า คุณปรางจะไม่แบล็คเมล์นายทีหลัง” พัลลภถาม

“ก็บอกแล้วไง ผู้หญิงคนนั้นมีหัวใจเสียที่ไหน” จิณณ์แน่ใจ นอกจากลูกสาวแล้วหล่อนไม่มีความคิดเรื่องอื่นใดอีก

“ไม่งั้นหน้าตาสวยๆอย่างหล่อน ไม่แบกภาระไว้อีรุงตุงนังโดยไม่คิดหาใครมาช่วย”

“ฉันกลัวคุณปรางจะด่าเปิงออกมาก็เท่านั้นถ้านายไม่เสนอความคิดพวกนี้เข้า เหมือนจ้างเขามาเป็นเมียชั่วคราวเลยนะนั่น”

พัลลภแสดงความคิดเห็น เขาเชื่อว่านวลปรางต้องการเงินมารักษาลูกสาวก็จริงอยู่ แต่วิธีการของจิณณ์ก็ดูสุ่มเสี่ยงอย่างมาก

ผู้หญิงคนไหนสามารถทำตัวเป็นหินผาไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเมื่อได้อยู่ใกล้จิณณ์ก็เก่งเต็มที

แล้วเขาไม่เชื่อว่า จะมีด้วยซ้ำ

“ใครว่าเขาจะด่าฉันเล่า” จิณณ์หัวเราะอย่างมีเลศนัย

“นายหมายความว่าไง”

“หมอพัลลภต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายเจรจา”

“เฮ้ย” เขาร้องเสียงหลง “ไม่นะโว้ย เสียจรรยาบรรณหมด”

“เอาน่า มาถึงขั้นนี้แล้ว” จิณณ์ขู่ “หรืออยากให้ฉันลากตัวนายจุณไปแต่งงาน”

“ทำยังงั้นน้องชายนายเองต่างหาก จะรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น นายก็รู้จุณเป็นยังไง”

“เออรู้” เขายอมรับ “แต่เวลาหน้ามืดตามัว ก็ไม่สนล่ะว่ะ ดีกว่าตัวฉันเองต้องไปตกนรก”

“นี่หมายความว่า ฉันต้องยอมทำตามคำสั่งนาย” พัลลภคราง

“ไม่ใช่คำสั่ง แต่เป็นคำขอร้องต่างหาก” จิณณ์ชักแม่น้ำทั้งห้า “เท่ากับนายช่วยให้ฉันกับแฟนนายไม่ต้องถูกคลุมถุงชน แล้วยังช่วยให้นวลปรางมีเงินรักษาตัวลูกสาว”

เขาชี้ให้เพื่อนเห็นแต่ข้อดี

“งานนี้มีแต่ได้กับได้ เสียหายตรงไหนว่ะ”


นวลปรางรู้ดีว่า จิณณ์จะเป็นฝ่ายได้เปรียบที่สุดในเรื่องนี้ ถ้าหากว่าหล่อนยอมรับข้อเสนอของเขา

ในเมื่อเขาเป็นผู้ชาย

หล่อนจึงไม่เชื่อเลยที่ หมอพัลลภบอกหล่อน

แต่งงานแค่ในนามเท่านั้น ในทางพฤตินัยปรางจะไม่มีอะไรเสียหาย

คุณหมอมองโลกในแง่ดีจังค่ะ

พัลลภหน้าเสีย ใบหน้าร้อนผ่าวชาวูบด้วยความละอายใจ กว่าจะไปพบนวลปรางเพื่อพูดคุยถึงข้อเสนอของจิณณ์ เขาต้องชั่งใจอยู่หลายวัน

กระทั่งสบโอกาสเข้าเมื่อผ่านไปอีกไม่ถึงสองวัน เด็กหญิงแป้งร่ำล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล

ปรางอยากให้ลูกผ่าตัด หล่อนเปรยทั้งน้ำตา ทั้งที่ปกตินวลปรางจะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น หล่อนเข้มแข็งกว่าที่พัลลภคาดเดาไว้มาก

คราวนี้หญิงสาวคงถึงขีดของความอดทนด้วยความสงสารลูก

นั่นล่ะ พัลลภจึงตัดสินใจยื่นข้อเสนอของจิณณ์

ผิดคาด!

นวลปรางไม่ได้โวยวายหรือเกรี้ยวกราดหาว่า หมอพัลลภกับเพื่อนของเขาดูถูกหล่อน

ตรงข้าม!

หล่อนนิ่งไปครู่ใหญ่ราวครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนถามกลับ

ปรางจะต้องเล่นละครหลอกว่าเป็นเมียเขานานแค่ไหนคะ

ก็..เอ่อ นายจิณณ์เขาต้องการเวลาสักหกเดือน เพื่อให้แม่ของเขาเชื่อ

หกเดือน นวลปรางเอ่ยทวน แล้วระหว่างนั้นยายแป้งต้องได้รับการผ่าตัดรักษาตัวจนหายใช่ไหมคะ

เห็นว่า ถ้าเธอต้องการ เขาจะหาครูดีๆมาสอนหนังสือให้ยายแป้งด้วย เผื่อว่าลูกของเธอยังไม่แข็งแรงพอที่จะไปโรงเรียน

ปรางต้องการคุยรายละเอียดกับคุณจิณณ์

พัลลภรู้สึกตกใจเล็กน้อย

ไม่คิดว่าทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยอย่างง่ายดาย แล้วเขาก็ไม่เห็นด้วยซ้ำว่า นวลปรางจะมีท่าทีสนใจอยากรู้เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับจิณณ์อย่างหญิงสาวที่สนใจชายหนุ่มที่ตนกำลังจะแต่งงานด้วย

จริงสินะ...ในเมื่อทุกอย่างเป็นเพียงฉากละครที่ถูกจัดขึ้นเท่านั้น

ผมจะเรียกเขาออกมาพบคุณ นายจิณณ์ยังอยู่บ้านพักที่เชียงใหม่

พัลลภโทร.ตามจิณณ์ขึ้นมาในทันที

เขาใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงบึ่งรถมาจากตัวเมืองเชียงใหม่ขึ้นมาพบนวลปรางที่โรงพยาบาลของหมอพัลลภ

เมื่อรู้ว่านวลปรางสนใจข้อเสนอของเขาที่จะจ้างให้เป็นเมียแต่ง

บอกแล้ว ยายนั่นต้องการเงินไปรักษาลูก อีไม่สนใจที่มาที่ไปหรอกน่า

จิณณ์บอกอย่างผู้ชนะ

ระวังเถอะ พูดดีไป นายนั่นล่ะที่จะรักเธอเข้าให้จริงๆสักวัน

จิณณ์หัวเราะ กับคำขู่ของพัลลภ

นายไม่คิดว่า แม่นั่นจะเป็นฝ่ายรักฉันขึ้นมาข้างเดียวหรือไง

พัลลภถอนหายใจ

ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนเกิดหวั่นไหวก็คงไม่ดีทั้งนั้น เพราะรู้ดีว่าแม่ของจิณณ์ไม่มีทางยอมรับสะใภ้ที่ไร้ศักดินาอย่างนวลปราง ไม่มีชาติเชื้อวงศ์ตระกูล ไม่มีฐานะทรัพย์สินเงินทอง

หนำซ้ำ ยังเป็นแม่หม้ายลูกติด

ที่สำคัญ เพลย์บอยอย่างจิณณ์จะรู้จักรักใครจริงจังนานสักเท่าไหร่

หรือกระทั่งนวลปรางเองก็เถอะ หล่อนไม่มีหัวใจอย่างที่จิณณ์ค่อนจะทำให้เพื่อนรักของเขาต้องเป็นฝ่ายเจ็บปวดถ้าหลงรักเจ้าหล่อนขึ้นมา

พัลลภส่ายหน้าไปมาพร้อมถอนหายใจหนักหน่วง ขณะมองจิณณ์เดินเข้าไปพูดคุยกับนวลปรางที่นั่งรออยู่ตรงเก้าอี้ใต้ร่มไม้บริเวณสวนสาธารณะของโรงพยาบาล

ฉันต้องการให้คุณทำสัญญาระหว่างเรา เพียงหกเดือนที่ฉันต้องเป็นเมียแต่งของคุณ

นวลปรางบอกจิณณ์ด้วยแววตาเย็นชา หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนทั้งคู่กำลังตกลงทำธุรกิจ

คุณจะไม่ถามเหตุผลที่มาที่ไป หรือไม่ก็...

หมอลภบอกฉันหมดแล้ว หล่อนตัดบท ที่ฉันตกลงทำตามเงื่อนไขของคุณก็เพราะต้องการเงินไปรักษาแป้งร่ำ

หืม จิณณ์พยักหน้ารับ ผมก็พอจะรู้คุณคงไม่ได้คิดจะชอบผมขึ้นมาหรอกนะ

หล่อนสบตาเขาแน่วแน่ ก่อนบอกทั้งตัวเองและเขาไปด้วยพร้อมกัน แน่นอน นวลปรางยืนกราน ไม่มีวันที่ฉันจะชอบผู้ชายอย่างคุณหรอกนะ

จิณณ์ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ผมก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เขาพูด

จะว่าไป... สายตาเจ้าชู้มองหล่อนทั้งตัวอย่างสื่อความหมาย ผมก็ถูกใจคุณอยู่ เขาไม่กลัวหล่อนโกรธสักนิด

ถือว่าตัวเองเป็นต่อ อย่างน้อยในตอนนี้เขาคือคนที่นำข้อเสนอที่ดีมามอบให้หล่อน

จำนวนเงินที่หล่อนจะไม่มีวันหาได้อีกแล้วในระยะเวลาเพียงแค่หกเดือน นอกจากหล่อนจะใช้มันรักษาลูกสาวแล้วยังเผื่อเหลือให้หล่อนใช้เป็นทุนทำมาหากินด้วยซ้ำ

แต่ไม่คิดจะแต่งงานกับคุณจริงๆหรอกนะ จิณณ์บอกหล่อน ผมยังอยากใช้ชีวิตโสด ไม่อยากมีพันธะ

ข้อนั้นฉันรู้อยู่แล้ว เห็นคุณครั้งแรกฉันก็ดูออกหล่อนมองเขาอย่างคนรู้ทัน และจิณณ์เชื่อว่า แววตาที่มองเขาไม่ได้สื่อความหมายพิเศษใดเลย

คุณมันเสือผู้หญิง

แล้วทำไมยังคิดมาทำตามข้อเสนอของผม ไม่กลัวหรือไง

เงิน

คำตอบสั้น ชัดเจน ไม่ต้องอธิบายความใดให้ยืดยาวอีก

คุณร่างสัญญาระหว่างเรา ฉันพร้อมจะเซ็นทุกเมื่อ รวมทั้งระบุเงื่อนไขในการจ่ายเงินด้วย ฉันต้องการพาแป้งร่ำไปรักษาตัวโดยเร็วที่สุด ฉันขอร้องให้หมอลภช่วยจัดการเรื่องโรงพยาบาลในกรุงเทพฯไว้แล้ว

หืม รวดเร็วดีนี่ เขาชมหล่อน

แน่นอน นวลปรางเชิดหน้ามองเขา ฉันต้องการนับหนึ่งให้เร็วที่สุด จะได้ครบหกเดือนแล้วธุรกิจระหว่างเราจะได้จบลง


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว