เราเศษหนึ่งส่วนสอง-# 16 ‘คิดจะเลี้ยงเด็ก ต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกาย’

โดย  HoneyToastHT

เราเศษหนึ่งส่วนสอง

# 16 ‘คิดจะเลี้ยงเด็ก ต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกาย’

งานกีฬาชนช้าง-บ้านสิงห์วันที่สอง ตอนนี้มีอาจารย์ของทั้งสองโรงเรียนกำลังประกาศข่าวสารให้บรรดานักเรียนทั้งหลายฟังอยู่ เด็กที่เข้างานปีนี้เยอะมากกว่าทุกปี ปกติปีที่แล้วมีแอบไม่มาบ้าง ป่วยบ้าง หนีเที่ยวบ้าง หนีเล่นเกมส์บ้าง แต่ปีนี้กวาดตามองดูรวมๆ แล้วทั้งสองโรงเรียนไม่น่าต่ำกว่าพันคน

“นักเรียนทั้งหลาย การแข่งขันขอให้ทุกคนมีน้ำใจนักกีฬา เล่นกันแบบเป็นมิตร และตอนนี้ก็ได้เวลาเช็คชื่อแล้ว เพื่อนใครที่ยังไม่มา ให้รีบตามมาด่วนๆ มีผลต่อคะแนนจิตพิสัยนะทุกๆ คน! ขอย้ำอีกครั้ง มีผลต่อคะแนนจิตพิสัย!!! ให้รีบตามเพื่อนมา!!!” แหม ตั้งใจฟังกันดีจริงๆ อาจารย์ทั้งสองคนคิด พวกเขานี่ก็เป็นที่รักและเคารพของนักเรียนเหมือนกันนะ

ขณะที่ครูสองคนกำลังรู้สึกภูมิอกภูมิใจอยู่นั้น ฟ้าก็ร้องตอนกลางวัน! ดังจนไมค์พวกเขาสองคนเกือบหลุดจากมือ

บรื้น!!! บรื้น!!! เฟี้ยว! ฮึ่ม! ฮึ่ม!!! ครืน!!!

เสียงเครื่องยนต์คำรามดังกึกก้องจนทุกคนสะดุ้งสุดตัว แล้วต่างก็พากันหันไปมองทางรั้วประตูด้านหน้า ที่คิดว่าเป็นที่มาของต้นเสียง ยังมองไม่เห็น 'ไอ้สิ่งที่คำรามลั่นนั่น’ แต่แล้ว…

ผาง!!! เฟี้ยว! บรื้น!!!

เสี้ยววินาทีเท่านั้นมันก็พุ่งตัวผ่านรั้วประตูเข้ามา สีดำ!!! คันใหญ่!!! แม้แต่ยามก็โบกไม่ทัน เร็วอย่างกับจรวด! และทันทีที่มันพุ่งเข้ามา นักเรียนก็หลุดจากการควบคุมของพวกอาจารย์ทั้งสองคนทันที

กรี๊ด!!! โห่!!!

“นักเรียนทั้งหลาย! ขอให้อยู่ในความ...”

“กรี๊ด!!! โห่!!!” แม้แต่ลำโพงตัวใหญ่ แถมไมค์อีกสองตัว ก็ยังไม่สามารถสู้เสียงนักเรียนเรือนพันได้ ส่วน 'ไอ้ตัวต้นเหตุ' นั่น ตอนนี้มันกำลังจะเคลื่อนตัวผ่านลูกระนาด จังหวะนี้แหละ! เป็นโอกาสของพวกครูอย่างเขาสองคนที่จะดึงความสนใจนักเรียนกลับมาได้! แต่แล้ว…

บรื้น!!! เฟี้ยว!!! ครืน!!!

ไอ้สองล้อสีดำคันนั้นมันกระโดดข้ามผ่านลูกระนาดทีเดียวสามลูก! ไม่มีการชะลอใดๆ และเสียงนักเรียนก็… กรี๊ด!!! โห่!!!

ครูอย่างพวกเขารู้ทันที โอกาสได้หมดสิ้นลงแล้ว คงต้องรอเวลาที่ไอ้ยักษ์ใหญ่สีดำนั่นหยุดคำรามร้องอย่างเดียวเท่านั้น

เกี้ยวกำลังจะตายแล้ว ช็อคตาย! โซ่นะโซ่ เคยบอกแล้วใช่ไหมว่ายังไม่อยากไปเยี่ยมยมบาล! เค้ายังอยากดูซีรีส์อยู่นะ! ฮื่อ! เธอไม่กล้ามองอะไรเลย ไม่กล้าบอกให้เขาหยุดด้วย เดี๋ยวเขาแกล้งขับเร็วขึ้นอีก เธอทำได้แค่เพียงเกาะเอวด้านหลังเขาแน่นเหมือนลูกลิงในสารคดีตอนเย็น

ฟิ้ว!! แง! เขาทำอะไร ทำไมรถมันลอยๆ ลาก่อนพี่คิมจ๋า! เอาไว้ชาติหน้าน้องจะขอติดตามพี่อีกครั้ง

"นี่"

"..."

"เกี้ยว"

"..."

"ตัวเล็ก!"

"แง!!!" เธอตะเบ็งเสียง หลับหูหลับตาแหกปากร้องไห้ทันที

"เฮ้ยตัวเล็ก! เป็นอะไร" เขาเขย่าตัวเธอเบาๆ

"โซ่ โซ่ ถึงหนูจะตายแล้ว หนูก็ดีใจที่โซ่มาด้วยนะ แง!" เธอหลับหูหลับตาเอื้อมมือไปดึงคอเสื้อเขาเข้ามากอด

"ตัวเล็ก เรายังไม่ตาย"

"ฮึกๆ โกหก เมื่อกี้ร่างหนูมันลอยละลิ่วไปแล้ว"

"เรายังไม่ตายจริงๆ" เขาพูดพร้อมเอาหน้าเขาแนบหน้าเธอ

"อุ่นไหม" จะ... จริงด้วย

"อะ... อุ่น" เธอตอบเขาสติเริ่มกลับมาแล้ว

"ทีนี้ก็ลงมาได้แล้ว" เขาบอกแล้วอุ้มเธอลงมาเลย เหมือนตอนนั่งซ้อนท้ายจักรยานเขาตอนอนุบาลสอง

จากนั้นความจริงก็กระแทกใส่หน้าเธอเต็มๆ!

รถของพวกเราจอดได้สักพักแล้ว โซ่ถอดหมวกตัวเองแล้วก็ของเธอออกให้ เพราะเธอนั่งเอ๋ออยู่ วันนี้เขาใส่กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม พอถอดแจ็คเก็ตหนังออก ก็เหลือแค่เสื้อยืดสีขาว และสวมรองเท้าผ้าใบ เขาแต่งตัวเหมือนเธอเปี๊ยบเลย แค่รองเท้าผ้าใบของเขาสีดำ ส่วนเธอสีขาวเท่านั้น

“นักเรียนสองคนนั้น! ลงจากรถมอไซค์แล้วก็รีบมาเข้าแถวเช็คชื่อกับเพื่อนๆ เดี๋ยวนี้!” เสียงอาจารย์ประกาศจากหน้าเวที เธอหันขวับไปมอง

เฮือก!!! สายตาพันกว่าคู่กำลังจ้องพวกเราสองคนอยู่ สะ... แสดงว่าเมื่อกี้พวกเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด! มีคาถาย้อนเวลาหรือไม่ เธอจะท่องเดี๋ยวนี้!

ขณะที่สาวน้อยคนหนึ่งกำลังช็อคอยู่ แต่ชายหนุ่มอีกคนกลับชอบอกชอบใจ

เป็นเช้าที่ดีเป็นบ้า! เขาได้ซิ่งรถโดยมียัยตัวเล็กซ้อนท้ายสักที ฮ่าฮ่าฮ่า! เขาวางแผนเอาไว้นานแล้ว ที่จริงก็ไม่ได้ขับเร็วอะไร เมื่อก่อนตอนที่ขี่ไปรับเธอกลับบ้านหลังจากซ้อมเสร็จ เขาขับเร็วกว่านี้ตั้งเยอะ จุ๊ๆ เรื่องนี้บอกตัวเล็กของเขาไม่ได้เด็ดขาด

"โซ่ โซ่ปล่อยมือนะ" ยัยตัวเล็กทำหน้ามุ่ย กระซิบกระซาบบอกเขา

"อา ราย" เขาก็แค่เอามือวางบนบ่าเธอ แล้วพาไปเข้าแถวด้วยกันแค่นั้น

"อาจารย์ห้องปกครองมองอยู่นะ!"

"ดี"

"แง"

"ก็ได้ๆ ยุ่งจริงวุ่ย" เขาเอามือออก แล้วหันมาจับชายเสื้อเธอแทน เอาสิ! จะเอาเขาไปฆ่าไปแกงที่ไหนก็เชิญ

ตอนนี้เกี้ยวกำลังจะเดินไปเข้าแถวท่ามกลางสายตาคนนับพัน

โซ่เล่นบ้าอะไรเนี่ย! แถมเขายังมาจอดรถผิดฝั่งอีก ดันมาจอดแถวฝั่งของโรงเรียนชนช้างซะได้ เธอหันหน้าไปหรี่ตามองเขา

"จงใจใช่มะ"

"..." เขาไม่ตอบแต่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

แปลก! เธอคิดว่าต้องพยายามเบียดคนอื่นเพื่อไปให้ถึงแถวของเธอซะอีก แต่พอเธอกับโซ่ขอทางเดินเข้าไป คนก็แหวกออก เปิดทางให้แต่โดยดี แถมมีเสียงกระซิบกระซาบกัน เบามากเลยจ้ะ เธอได้ยินหมดเลยเนี่ย!

“เธอๆ ดูสิ พี่โซ่จับเสื้อเด็กนั่นด้วย”

“ใครอะ? หน้าตาก็งั้นๆ แต่พี่โซ่เดินตามได้ไง”

“ก็แค่น่ารักนิดๆ หน่อยๆ คิดจะจับโซ่เหรอ”

“น้องผู้หญิงโคตรน่ารัก เสียดายโดนไอ้โซ่งาบไปละ”

“น่าตาจิ้มลิ้มชะมัด อิจฉามันว่ะ”

"โซ่ ถึงแถวโซ่แล้ว" เธอหันไปบอกเขา ส่วนแถวเธอต้องเดินต่อ

"ไอ้กบ! เช็คชื่อให้ข้าด้วย" เขาหันไปตะโกนบอกพี่กบ แล้วทำท่าจะเดินตามเธอต่อ

"โซ่ โซ่จะไปไหน"

"เธอจะไปไหนล่ะ"

"หนูจะไปเข้าแถว"

"ไปสิ" เธอเดินไปได้สองก้าว เขาก็ยังเดินตามมา

เธอหยุดเดินแล้วหันไปมองเขา สีหน้าเขาดูมุ่งมั่นจริงจังมาก บนหน้าผากเขาเหมือนมีคำว่า 'วิญญาณอาฆาตอย่างข้า จะติดตามเจ้าไปทุกชาติภพ' เฮ้อ ช่างเถอะ ปล่อยเขาละกัน ไหนๆ คนก็เห็นหมดละ เขาดื้อขนาดนี้ คะแนนนิยมตก ไม่มีสาวๆ มากรี๊ดก็อย่ามาโทษเธอก็แล้วกัน

เหตุการณ์ตอนเช้าผ่านไปได้ด้วยดี เธอเช็คชื่อทันโดยมีโซ่ยืนโดดเด่นเป็นเสาไฟอยู่ในดงเด็ก ม.ต้น และตอนนี้ในที่สุดก็ถึงเวลาของกีฬาพื้นบ้านแล้ว ซึ่งจะแข่งกันเป็นหมู่คณะ วันนี้เราสามารถแต่งตัวฟรีสไตล์ได้ ชุดสวยเลิศเลอเพอร์เฟคแบบไหนก็มีหมด โดยเฉพาะพี่ๆ ม.ปลาย ขนตางอนเช้ง แต่งหน้าจัดเต็ม แต่เธอกับสหายชาวกอสซิปต้องลงเล่นกีฬา จะใส่ส้นสูงลงแข่งวิ่งเปรี้ยวคงไม่ดี เฮ้อ... เธอคิดว่าจะรอดแล้วซะอีก

"ไงจ๊ะน้องเกี้ยว น้องก้อย ยังแต่งตัวได้เด็กกะโปโลเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ" ทำไมกันนะ พี่ดาวอุกกาบาตชอบพุ่งชนเธอกับเพื่อนซะเหลือเกิน พวกเราไม่ใช่ดวงจันทร์ซะหน่อย

"ชุดพี่สวยดีนะคะ" เธอตอบกลับไป พี่แกใส่ชุดเดรสสีขาวผ้าชีฟอง ประดับลูกไม้หลายชั้นทำผมทรงบาร์บี้ สวยมากจริง แต่ฮัลโหล! นี่หน้าร้อน

"ขอบใจจ้ะ ว่าแต่น้องก้อยจ๊ะ ใส่เสื้อตัวนี้แล้วเหมือนเสาไฟฟ้ายิ่งกว่าเดิมอีกนะจ๊ะเนี่ย"

วันนี้ก้อยใส่เสื้อสีส้มอ่อน มันขับผิวก้อยดีมาก พี่ดาวแกอิจฉามากกว่า

"เหรอคะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหนูหรอกค่ะ เอาเวลาไปห่วงตำแหน่งสาวงามของพี่ดีกว่านะ เพราะว่า…" ก้อยแกล้งเหลือบตาไปมองนางงามตัวเต็งของชนช้าง ที่วันนี้เธอใส่ชุดสวยเปรี้ยวสีขาวเหมือนกัน แล้วพูดต่อ

"ระวัง" ก้อยพูดแค่นี้ แต่พี่ดาวดูไม่พอใจมาก พี่แกเชิดหน้าหันหลังกลับทันทีแบบไม่มองอะไรเลย

ปึ้ง!!! โครม!!! กรี๊ด!!!

"เดินยังไงไม่ดูตาม้าตาเรือฮะ!" พี่ดาวตวาดแว้ดขึ้นมาทันที ตัวเองไม่ดูเองต่างหากยังจะว่าคนอื่น

"โทษที" เป็นโซ่!

"ซะ... โซ่! มะ... ไม่เป็นไรจ้ะ" พี่ดาวพูดพร้อมยื่นแขนให้โซ่ช่วยดึงด้วยแววตาอ้อนวอน มุมปากยิ้มน้อยๆ เหมือนกำลังเขินอาย และเพราะเสียงกรี๊ดของพี่แกดังมาก คนเลยเริ่มมามุงดูกันแล้ว

"มือไม่ว่าง ลุกเองก็แล้วกัน" เขาบอกแค่นั้นแล้วเดินผ่านพี่ดาวมาทันที

เธอเห็นพี่ดาวหน้าเสียไปเลย แล้วชุดสวยที่พี่แกภาคภูมิใจก็มีรอยเปื้อนน้ำแดงเป็นวงๆ เธอจะไม่ทำร้ายใครสาบานได้ เพราะวันนี้ได้เห็นจะจะกับตาเลยว่า 'เวรกรรมมีจริง'!

"ตัวเล็กน้ำหกหมดแล้ว" โซ่บอกเมื่อเดินมาถึงตัวเธอ

เธอกระดิกนิ้วให้เขาก้มลงมาฟัง เขาทำตาม

"หนูจะหอมโซ่หนึ่งที เพราะโซ่ทำตัวน่ารัก แต่ติดไว้ก่อนนะ ตอนนี้คนเยอะ"

"ได้ อย่าเบี้ยวละ ระวังมีดอกเบี้ย"

"อือ หนูไม่เบี้ยวแน่ แต่ว่าเสื้อโซ่เปียกเหมือนกัน"

"ไม่เป็นไร ไม่ต้องใช้ละ" พูดเสร็จเขาก็ถอดเสื้อให้เธอถือไว้ แล้ววิ่งลงสนามพร้อมๆ กับเสียงประกาศที่ดังขึ้น

“เอาละครับๆ! เวลานี้ ใครเก่งใครกล้าเชิญมาประลอง!!! ขอตัวแทนชายฝั่งละสามสิบคน ขอชายล่ำๆ กล้ามใหญ่ๆ มาชน มาชักเย่อกัน!!!! อย่าช้านะครับเดี๋ยวเต็ม โซ่ องค์ราชสิงห์กับชด องค์คชสารเป็นพ่อทีม พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย!!! เร่เข้ามาๆ!!!"

จากนั้นเสียงกรี๊ดก็ดังลั่น ทุกคนแห่เข้ามาดูกันจนแทบไม่มีที่ยืน ดีนะที่เธอกับเพื่อนชาวกอสซิปมาก่อน เลยได้ยืนดูแบบใกล้ชิดติดขอบสนาม

“เอาล่ะครับ!!! ตอนนี้คนครบแล้ว อู๊ย! หล่อล่ำกล้ามเป็นมัดๆ แทบจะทุกคนเลยคร้าบ!” พิธีกรพูดน้ำลายแตกฟอง ส่วนในสนามผู้เล่นก็กำลังฉะฝีปากกันอย่างเมามัน

"มึงไหวแน่เหรอวะไอ้โซ่! เห็นเอาแต่เดินตามถือน้ำ ถือขนมให้น้องเกี้ยวต้อยๆ" ชดลอยหน้าลอยตาถามศัตรูฝั่งตรงข้าม

"เออ! ก็ดีกว่าเมิงแหละ มีใครยอมให้เดินตามถือน้ำ ถือขนมให้ยัง!" โซ่ตอกกลับ ทำแมะ! เดินตามยัยตัวเล็กมีความสุขจะตาย ตอนแรกนี่เขากะจะไม่ทำอะไรเลยนะ แต่เธอบอกว่าจะลงแข่งกีฬาพื้นบ้าน เขาเลยต้องลงมาประกาศศักดาให้ยัยลักยิ้มดูเป็นขวัญตาสักหน่อย

"ฮึ! คนอย่างไอ้ชด ไม่เดินตามผู้หญิงโว้ย! ระดับนี้มีแต่ผู้หญิงเดินตาม" ยังๆ ไอ้ชดมันยังไม่หยุด เขากำลังจะอ้าปากตอกกลับ

"พวกเมิงสองคนช่วยเลิกเถียงกันซะทีได้ไหม นู่น! กรรมการเป่านกหวีดแล้วโว้ย!" ไอ้เอตะโกนบอก แก๊งสี่สหายของเขาก็ลงด้วย มาสิวะ! มาเจอกันหน่อยไอ้ชด!

ส่วนข้างสนามทุกคนต่างก็เชียร์เต็มที่ เกี้ยวกับสหายชาวกอสซิปก็เหมือนกัน

"กรี๊ด! เกี้ยว พี่โซ่ของแกจะล้มไหม ตัวเอนขนาดนั้น" ก้อยตะโกน

"พี่โซ่ขาสู้ๆ บ้านสิงห์สู้ๆ" สหายชาวกอสซิป

“ฮึ่ย!!! เล่!!! ฮุ่ย!!! เอ้า!!! ฮึ่ย!!! เล่!!! ฮุ่ย!!!” บ้านสิงห์

“หนึ่ง!!! สอง!!! ฮุ่ย!!! เอ้า!!! หนึ่ง!!! สอง!!! ฮุ่ย!!!” ชนช้าง

ผู้ชายวัยคึกคะนองที่ถอดเสื้อทั้งหกสิบคนกำลังตะโกนเสียงดังลั่น และแสดงความป่าเถื่อนออกมา ส่วนผู้ชมก็ส่งเสียงกรี๊ดเชียร์เป็นระยะๆ เห็นแล้วขนลุก! เล่นอะไรกันโหดขนาดนี้

“ย้าก!!!”

“อ้าก!!!”

ปรี๊ด!!! กรี๊ด!!! โห่!!!

“ในที่สุดก็ได้ผู้ชนะละคร้าบผม!!!”


เวลาพักครึ่ง มีใครคนหนึ่งนั่งหน้าบึ้งบอกบุญไม่รับอยู่

"โซ่ โซ่อย่าเสียใจไปเลยนะ" ยัยตัวเล็กยืนตบไหล่ ปลอบใจเขา

"ฮ่าฮ่าฮ่า! กูว่าแล้วไอ้โซ่ คิดจะเลี้ยงเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายนะโว้ย!" ไอ้ชด เดี๋ยวๆ ฝากไว้ก่อนเถอะ

"เออ เกมหน้ายังมีๆ" เสียงไอ้เท่ง

"เอ็งจะโมโหไปไย แพ้เห็นๆ ตั้งแต่ลงสนามแล้ว นู่น! ฝั่งนู้นมันนักกีฬารักบี้เลยนะเว้ย" ไอ้เอ

"เอาน่าๆ คิดจะเลี้ยงเด็กก็หมั่นตรวจเช็คร่างกายละกัน" ไอ้กบบอกแล้วขำ

"ฮึ! ฮึ! เริ่มจากออกแรงซ้อมพวกเอ็งก่อนก็แล้วกัน! อย่าหนีนะว้อย!" เจ็บใจชะมัด กะจะแสดงบารมีให้ยัยตัวเล็กดู แต่ดันมาแพ้! แถมยัยตัวเล็กยังหัวเราะเยาะเขาตอนที่ล้มหน้าคะมำเมื่อกี้นี้ด้วย ฮืม! ฝากไว้ก่อนเถอะ คนอย่างเขา 'บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ!'

คราวนี้ถึงตาเกี้ยวกับสหายชาวกอสซิปบ้างแล้ว เกมที่จะเล่นทุกคนต่างก็คุ้นเคยกันดี ‘วิ่งเปรี้ยวกระสอบปุ๋ย’ สมาชิกสิบคน ฝั่งเธอมีผู้หญิงแปดคน เพื่อนสาวสองสองคน บังเอิญมากฝั่งนู้นก็เหมือนกัน

"ก้อย แง! ฉันตื่นเต้นอะ ทำไมคนเยอะขนานนี้" เยอะจริงๆ นะ เมื่อกี้คนที่ดูชักเย่อว่าเยอะแล้วตอนนี้เยอะกว่าอีก

"ฉันว่าเพราะแกนั่นแหละ เห็นฝั่งนู้นไหม" ก้อยชี้ให้ดูผู้หญิงสวยๆ หุ่นนักกีฬาคนหนึ่ง

"นั่นน่ะ นักวอลเล่ย์บอลโรงเรียนชนช้าง เขาเล็งพี่โซ่ตั้งนานแล้ว แต่ดันโดนแกปาดหน้าไป"

"จริงง่ะ"

"จริง!"

"เค้าจะสู้!"

"แกต้องสู้อยู่แล้วล่ะ เล่นเปิดตัวซะขนาดนี้ คนเขารู้กันทั่วหมดแล้ว เมื่อเช้าก็เล่นเอาพวกฉันใจหายใจคว่ำหมด"

"นี่ยัยก้อย ยัยเกี้ยวเตรียมตัวเร้ว! จะถึงตาพวกแกแล้ว!"

ปรี๊ด!!! กรรมการเป่าเริ่มการแข่งขัน

"เกี้ยวน้อยสู้ๆ! เฮ้ย! ไอ้โซ่เอ็งก็ช่วยเชียร์หน่อยสิวะ!" ไอ้กบร้องบอก

"ไม่เชียร์ เดี๋ยวชนะ" เขาบอกพวกมัน เขาแพ้มานะ! อยากมีเพื่อนแพ้ด้วยกัน

"เออ! เอ็งไม่ต้องเชียร์ เดี๋ยวพวกข้าเชียร์เอง พร้อมกับแฟนคลับเกี้ยวน้อย"

“เกี้ยวสู้ๆ! เกี้ยวสู้ๆ! คร้าบ”

“น่ารักฉุดๆ เลย! สู้ๆ คร้าบ”

"ไงล่ะ เฝ้าไว้ให้ดีๆ เหอะ เกี้ยวน้อยของเราทั้งน่ารัก น่าเอ็นดูขนาดนั้น ผิวก็... เออๆ ไม่พูดละ" กบคิดในใจ ดูมันสิ! ตาขวางซะ กะเพื่อนกะฝูงก็ไม่เว้น

โซ่นั่งมองยัยตัวเล็กในสนามต่อ ตอนนี้ถึงตาเธอแล้ว ยัยตัวเล็กของเขาเม้มปากแน่น เห็นลักยิ้มผลุบๆ โผล่ๆ หน้าตาดูตั้งอกตั้งใจมาก แก้มก็แดงเพราะอากาศร้อน เธอลงไปอยู่ในกระสอบ แล้วก็...กระดึ๊บๆ ๆ ไปที่เส้นชัยทีละนิดๆ ช้าอย่างกับเต่า! ช้าขนาดนี้ยังกล้าลงไปแข่งอีกนะ! แล้วยัยตัวเล็กก็สะดุดล้มครั้งหนึ่งกลางทาง เธอลุกขึ้นมาปัดมือแล้วเสยผมถัดหู ตอนเด็กๆ เวลาเธอล้มก็มักจะทำท่านี้เลย เฮ้อ... น่ารักว่ะ! ทนไม่ไหวละ เขาหันไปบอกสามสหายข้างๆ

"พวกเอ็งพูดตามข้า รับรองมีพลิกล็อค!" ช่วยไม่ได้นะยัยตัวเล็ก ช้าขนาดนั้นเดี๋ยวแพ้ร้องไห้ขี้มูกโปร่งกันพอดี


ในสนามเกี้ยวกำลังตั้งอกตั้งใจกระดึ๊บๆ ไปอ้อมเสา เพื่อพาตัวเองพร้อมกระสอบไปเข้าเส้นชัย แต่แล้ว

"ก๊อตซิลล่าน้อยสู้ๆ ๆ!!!"

เฮือก! แง!!! โซ่แน่ๆ เธอไม่มีเวลาหันไปมอง แต่รู้ว่าใช่แน่! เรียกเธอแบบนี้ ก็มีเขาแค่คนเดียว!

"ก๊อตซิลล่าน้อย พวกเราเชียร์อยู่นะ สู้ๆ!!!"

เธอไม่คิดอะไรแล้วรีบอัพเกรดใส่เกียร์จิงโจ้กระโดดไปข้างหน้าทันที พร้อมงัดวิชายิมนาสติกขั้นพื้นฐานสมัยปฐมมาใช้ แง! โซ่! เธอต้องรีบเข้าเส้นชัย แล้วไปอุดปากเขาให้จงได้!



By HoneyToastHT.

อย่าลืมกดถูกใจเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยน้า ^ ^ รักมากๆ เลย

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว