เราเศษหนึ่งส่วนสอง-# 14 "..." เธอดูอยู่

โดย  HoneyToastHT

เราเศษหนึ่งส่วนสอง

# 14 "..." เธอดูอยู่

ช่วงนี้ห้องทั้งห้องกำลังตื่นเต้นยินดีปรีดา เนื่องจากอาทิตย์หน้ากำลังจะมีงานกีฬาชนช้าง-บ้านสิงห์ จัดกันสามวัน เป็นงานใหญ่มากที่ทุกคนรอคอย

"ก้อย แกเป็นอะไร ทำไมหน้าบึ้งขนาดนี้" เกี้ยวถามเพื่อนรักที่หน้าตาบอกบุญไม่รับอยู่

"เกี้ยว ฉันดูตัวโย่ง ดูไม่ดีมากๆ เลยใช่รึเปล่า" ก้อยถามด้วยแววตาเศร้าๆ เมื่อก่อนก้อยเคยตัวเตี้ยกว่าเธอ แต่หลายปีมานี้ก้อยสูงขึ้น สูงขึ้นไม่หยุด ตอนนี้หนึ่งร้อยเจ็ดสิบสี่แล้ว ผู้หญิงในห้องไม่มีใครสูงกว่าก้อย ในโรงเรียนก็ไม่มี ขณะที่คุยกันเพื่อนชาวกอสซิปก็มาร่วมวงด้วย

"ก้อย แกมันหุ่นนางแบบ ขายาวสวย ดีจะตาย" เพื่อนสาวสองคนหนึ่งพูด

"ใช่ๆ บุคลิกแกก็ดี หลังไม่ค่อม เหลือแต่ความมั่นใจเท่านั้นแหละ" ชาวกอสซิปคนอื่นสนับสนุน

"จริงๆ เหรอ" ก้อยยังไม่มั่นใจ

"จริง!!!" ทุกคนช่วยกันยืนยัน เกี้ยวนิ่งใช้ความคิด แล้วก็พูดกับทุกคน

"ก้อย เพื่อนๆ คืองี้ เรื่องนี้ฉันคิดมาสักพักแล้ว มีอะไรบางอย่างที่ฉันอยากทำ แต่ต้องขอความร่วมมือกับทุกคน พวกแกจะเอาด้วยไหม" แล้วเธอก็เล่าแผนการณ์ ทุกคนเบิกตากว้างร้องกรี๊ดๆ จนตัวสั่นพอถึงเวลาพักกลางวัน…

เอาอีกแล้ว! เหตุการณ์เดิมๆ พี่ดาวอุกกาบาตพร้อมสองสหายเดินตรงเข้ามาที่โต๊ะพวกเธอ

"ว่าไงจ๊ะเด็กๆ วันนี้ไม่เล่นขายขนมหม้อข้าวหม้อแกงกันเหรอ แต่ก็นะ บางคนหน้าตาธรรมด๊า ธรรมดา แถมบางคนก็ยังตัวโย่งขนาดนี้ ลูกค้าเห็นก็คงจะกลัวหนีเตลิดเปิดเปิง" พูดเสร็จพี่แกก็หันไปหัวเราะคิกคักกัน

"แหม คุณพี่ขา ยังไงก็ช่วยรักษาสภาพหน้าแก่ๆ ของพี่เอาไว้ด้วยนะคะ เดี๋ยวจะโดนกระชากตำแหน่งนางงามบ้านสิงห์ที่ไปโกงเขามาได้" เพื่อนสาวสองโต้กลับ ดูสิ! ฝั่งนั้นโกรธมากเลย

"พวกเธอแค่สิบห้า จะมารู้เรื่องอะไรของพวกพี่ละจ๊ะ เอาเวลาไปท่องสูตรคูณดีกว่านะ พวกเด็กกะโปโล" พี่ดาวแสยะยิ้มพูด แล้วเดินสะบัดก้นไป

"ฉันล่ะหมั่นใส้จริงจริ๊ง ยัยเกี้ยว ยัยก้อย เรื่องที่เราร่วมมือกัน ฉันขอสู้ตาย!" เพื่อนสาวสองบอก

"ใช่ๆ ๆ!!!" ชาวกอสซิปที่เหลือ

อืม ได้! ตอนนี้กลุ่มเพื่อนเธอ รวมเธอด้วยก็หกคนพอดี แบ่งงานกันทำ ต้องสำเร็จแน่นอน

"พรุ่งนี้แปดโมงเช้าที่บ้านเค้านะ! เราจะลุยกันแล้ว" เกี้ยวบอกเพื่อนๆ ทุกคน

"โอเค!!!"

และแล้วก็ถึงเวลานัด ที่บ้านของเกี้ยวตอนนี้ เพื่อนบางคนกำลังนั่งคุกเข่า บางคนนั่งพับเพียบอ้อนแม่แก้วอยู่

"แม่จ๋า หนูอยากจะทำกับเพื่อนๆ นะจ๊ะแม่ นะแม่แก้ว" เธออ้อนเสียงหวาน

"เฮ้อ จะทันหรือลูก นี่ก็ใกล้แล้ว" แม่แก้วถาม

"ทันจ้ะ ทัน!" เพื่อนเธอประสานเสียง แม่แก้วชั่งใจ

"เอ้า ก็ได้!"

"เย่!!!"

การใหญ่ที่พวกเราจะทำกันก็คือ ลงชิงตำแหน่งนางงามชนช้าง-บ้านสิงห์ ซึ่งพี่ดาวอุกกาบาตได้ตำแหน่งควบมาสองปีซ้อนแล้ว ปีนี้พี่แกก็ลงอีกไม่ยอมปล่อยตำแหน่งให้หลุดมือจริงๆ

ตอนนี้เกี้ยวกับเพื่อนๆ กำลังแบ่งงานกันทำ กำลังเร่งมืออย่างหนัก เพื่อนสาวสองกับชาวกอสซิป ดูแลเรื่องเมคอัพ ขัดสีฉวีวรรณ ส่วนเธอกับแม่ดูแลเรื่องเสื้อผ้า และคนที่จะลงประกวด ก็คือ ยัยก้อย! จุ๊ๆ เรื่องนี้เป็นความลับ แม้แต่โซ่เธอก็ไม่บอก เขางอนตุ๊บป่องไปหลายวันแล้ว

"เกี้ยว เราจะลองเครื่องสำอางค์กัน แต่ว่าที่มีมันไม่พอ แกว่าเราเอาไงดี?" เสียงเพื่อนสาวสองถาม

"ซื้อ!" เธอตอบแบบไม่ต้องคิด แล้วเดินไปหยิบสมุดบัญชี ดู ๆ แล้วน่าจะพอ

"นี่แกจะเอาเงินเก็บมาใช้รึไง" ก้อยถาม

"ใช่!" เธอทำงานฝีมือลงขายในเว็บบ้างบางครั้ง ถ้ามีเวลา

"เกี้ยว จะดีเหรอแก" ก้อยเสียงอ่อย ๆ

"ดี! เราตกลงกันแล้วนะ เราต้องลองทุ่มสุดตัว ถ้าชนะเงินรางวัลก็เอามาทดแทนส่วนนี้ได้ แต่ถ้าไม่ชนะก็ไม่เสียใจ ไม่เป็นไรเลย" เพื่อนเธอยังลังเล

"โอกาสไม่ได้มีผ่านมาบ่อยๆ นะยัยก้อย เราต้องคว้าไว้!"

"ได้ พวกฉันเอาด้วย!!!" ก้อยกับเพื่อนทุกคนประสานเสียงพร้อมกัน

"เอาด้วยอะไรกันเหรอ" เฮือก! โซ่มา พี่เอก็มาด้วย

"ว่าไงล่ะ กำลังทำอะไรกัน" โซ่ถามอีกรอบ ส่วนพี่เอกลับยืนมองยัยก้อยนิ่งๆ สองคนนี้ทะเลาะอะไรกันรึเปล่าเนี่ย!

"โซ่ โซ่มาได้ไง ไม่ซ้อมเหรอ" เธอเฉไฉ

"เมื่อกี้ฉันถามว่าอะไรเกี้ยว" ดุจริงวุ่ย นึกออกแล้ว!

"โซ่ โซ่ว่างใช่ไหม หนูกับเพื่อนอยากซื้อของ พาหนูไปหน่อย" พลีส เธออ้อนเขาด้วยลักยิ้มท่าไม้ตาย และ…

"ได้ กี่คนล่ะ" เย่! สำเร็จ

"หนูไม่ไป มีเพื่อนหนูห้าคนนี้" เธอชี้ไปที่ก้อยกับเพื่อนชาวกอสซิป

"ไอ้เอ เอ็งเอารถยนต์มาก็ช่วยสงเคราะห์เด็กมันหน่อยดิ๊"

"เออ!" พี่เอไม่ปฏิเสธ เย่!

พอพวกนั้นไปซื้อของกัน ก็เหลือแค่เธอกับโซ่สองคน

"ตัวเล็ก เธอกำลังแอบทำอะไรลับหลังฉันอยู่รึเปล่า บอกมานะ!" โซ่เดินเข้ามา แล้วยกตัวเธอขึ้นให้ระดับหน้าเธอพอดีกับหน้าเขา

"หนูเปล่า โซ่ ปล่อยหนูลงนะ"

"ม่าย เธอโกหก มีแน่ๆ! ช่วงนี้เธอเอาแต่สุมหัวกับแก๊งลูกเป็ดของเธอ ไม่ยอมไปกับฉัน!"

"หนูก็อยากอยู่กับเพื่อนบ้าง โซ่ โซ่กินข้าวมายัง"

"อย่าเปลี่ยนเรื่อง!" คิกๆ เธอหัวเราะ

"หนูจะกินข้าวๆ อุ้มหนูไปหน่อยเร้ว" นี่แน่ะ! อยากอุ้มเธอดีนัก จะให้อุ้มจนเมื่อยเลย

"โซ่ ที่งานกีฬา เขาให้โซ่ทำอะไรเหรอ" เธอถามระหว่างที่เขาอุ้มเธอไปโต๊ะกินข้าว

"ขี่รถมอไซค์ไต่ถังโชว์"

"ฮ่าฮ่า! จริงอะ แล้วโซ่จะทำป้ะ"

"ไม่ทำ!"

"คิกๆ ละ... แล้วเขาเปลี่ยนให้โซ่ไปทำอะไร"

"แต่งตัวเป็นพระยาอะไรไม่รู้ นั่งเสลี่ยง"

"ฮ่าฮ่าฮ่า!" เธอนึกภาพตาม เห็นเขานั่งหน้าบึ้งอยู่บนเสลี่ยง ก็ขำจนกรามค้างไปเลย คนอย่างโซ่เคยอยู่นิ่งๆ เป็นซะที่ไหน

"แล้วเธอล่ะ เขาให้ทำอะไร" โซ่ถามกลับ

"วันแรกก็ถือพาน เดินขบวนทั่วๆ ไป หนูไม่ได้ลงกีฬาอะไรเลย แต่หนูลงกีฬาพื้นบ้านวันที่สอง วันที่สามหนูจะไปดูงานประกวด!" นี่แหละไฮไลท์!

"อืม อย่าให้รู้นะเกี้ยว ว่าให้เบอร์ใครซี้ซั้ว" เขากัดฟันพูด

"หนูไม่มีโทรศัพท์สักหน่อย!" เขาลืมรึไง เธอไม่อยากซื้อ ไม่รู้จะโทรหาใคร ก้อยก็เจอกันที่โรงเรียน ส่วนโซ่ก็เจอเขาเกือบทุกวัน

"ตอนนี้มีแล้ว" จู่ๆ เขาก็วางตัวเธอลง แล้วเอาอะไรไม่รู้มาสวมคอเธอ เธองง มี? มีอะไร เธอเลยก้มลงไปดู ฮะ!

"โซ่ โซ่ให้หนูเหรอ"

"ให้คนอื่นมั้ง"

"แต่มันเป็นสีชมพู สายห้อยก็แมวเหมียวน้อยด้วย! หนูชอบเหมียวน้อย!" เธอรู้คำตอบดีเลยเข้าไปกอดโซ่อย่างแรง แล้วเอาหน้าถูๆ ไถๆ กับอกเขา

“อยากได้อยู่ใช่ไหมตัวเล็ก”

"เปล่า หนูไม่ได้อยากได้โทรศัพท์" พอเธอพูดจบปุ๊บ เขาก็หน้าบึ้งทันที ฮ่าฮ่าฮ่า!

"แต่หนูชอบของที่โซ่ซื้อให้ ชอบมากๆ เลย" เธอเงยหน้า เขย่งเท้าหอมเขาเป็นการขอบคุณ แต่ถึงแค่ปลายคางเขาเท่านั้น สูงเกินไปแล้วนะ!


เช้าวันแรกงานชนช้าง-บ้านสิงห์...

โซ่ต้องแหกตาตื่นมาทำเรื่องบ้าบออะไรก็ไม่รู้! ถ้าไม่มีเรื่องคะแนนจิตพิสัยที่เขาพลาดมาหลายรอบแล้ว ครั้งนี้เขาไม่ทำหรอก

"โซ่จ๊ะๆ เดี๋ยวเราเอาน้ำให้น้า"

"โซ่จ๊ะๆ หิวไหมเราเอาขนมมาให้"

"โซ่จ๊ะๆ แซนวิชจ้ะ เราเอามาเผื่อ"

"โซ่จ๊ะๆ...." จะเรียกอะไรกันนักกันหนาวะนี่! ง่วงโว้ย!!

จากนั้นเขาก็หลับตางีบ อยากทำอะไรก็เชิญ! เมื่อวานก่อนเขายังมีความสุขอยู่เลย วันนี้ต้องมาตกนรกซะละ คิดถึงยัยตัวเล็กที่ขอบคุณเขาอย่างอ่อนหวาน แล้วก็นั่งเล่นโทรศัพท์ใหม่ซบอยู่ที่อกเขา โอ๊ย! โคตรคุ้ม ไม่รู้ป่านนี้ยัยตัวเล็กกำลังทำอะไรอยู่ มุมปากเขาโค้งขึ้นน้อยๆ

“แก เขายิ้มให้ฉันด้วยอะ อ๊าย หล่อ”

“ยิ้มให้ฉันต่างหาก”

“ฉัน...”

เสียงใครมันพึมพำวะ หนวกหู!


ฝั่งห้องแต่งตัวของตัวประกอบทั้งหลายก็กำลังวุ่นวาย การแต่งหน้าจะแบ่งสัดส่วนกันเพื่อความรวดเร็ว คนที่ถือพาน หรือเดินขบวนทั่วๆ ไป ไม่ต้องแต่งตัวมากก็อยู่ห้องหนึ่ง ระดับพระนาง นั่งช้าง นั่งเสลี่ยงก็อีกห้องหนึ่ง

"นี่อีเจ๊! แกพอได้ละ ขืนแต่งมากกว่านี้ นางได้เด่นเกินบรรดาท้าวเจ้าจอมบนเสลี่ยงแน่"

"นี่ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะยะ! แค่ลงลองพื้นบางๆ ปัดแก้มนิดหน่อย มาสคาร่ากับคิ้วยังไม่ได้ปัดเลยด้วยซ้ำ"

"เออ นั่นแหละ ตัดจบด้วยการทาปากสีชมพูพีชไปเลย แค่นี้ก็เอาอยู่ละ" เจ๊คนที่แต่งหน้าถอนหายใจ แล้วทำตาม พอทาปากให้หญิงสาวตรงหน้าเสร็จ คุณเจ๊ก็มองแล้วอึ้งอีกรอบ

"หนู นี่หนูจ๊ะ"

"เกี้ยวค่ะ" เธอบอกชื่อตัวเองออกไป

"หนูเกี้ยว หนูควรจะไปอยู่อีกห้องหนึ่งนะ เจ๊จะบอกอะไรให้เผื่อหนูยังไม่รู้ตัว ผิวหนูดีมาก นวลขาวสว่างกระจ่างใสเต่งตึงดูอมชมพู คิ้วก็เข้ม ขนตานี่ย้าวยาว ไม่ต้องปัดมาสคาร่า ไม่ต้องติดขนตาปลอมเลย หนูสูงเท่าไหร่จ๊ะ"

"หนึ่งร้อยหกสิบแปดค่ะ" เจ๊แกปรบมือ

"ยอดเยี่ยม! ถ้าใส่ส้นสูงห้านิ้ว หนูจะดูสูงโปร่งร่างระหง หนูอกเป็นอก เอวเป็นเอวขนาดนี้ เสียดายที่ชุดหนูวันนี้เป็นแค่เกาะอกสีชมพูพีชเรียบๆ ส่วนเครื่องประดับก็มีแค่สร้อยคออุบะระย้าที่ร้อยจากดอกมะลิเท่านั้น" เจ๊คนแต่งหน้าคิด ‘ขนาดมีแค่นี้ ยัยหนูนี่ก็ข่มบรรดาคนอื่นๆ ไปมากแล้ว’

"หนูชอบชุดนี้มากค่ะ" เกี้ยวคิดในใจ 'ทำไมเธอต้องไปลงชื่อ แล้วประกวดแข่งกับคนตั้งมากมายเพื่อนั่งบนเสลี่ยงด้วย เธอเดินเองก็ได้ ได้เดินกับเพื่อนๆ สนุกออก!’

"เริ่มจัดขบวนกันแล้วๆ!!! ขอให้ทุกๆ คนไปรวมตัวกันที่ประตูสาม!!!"

ในที่สุดก็ได้ฤกษ์สักที สิ้นเสียงประกาศคนก็ทยอยออกไปรวมตัวกัน เพื่อนที่ถือพานดอกไม้คู่กับเธอหันมากระซิบกระซาบอย่างตื่นเต้น

"เกี้ยว นี่เธอ เธอรู้ปะ เราได้เดินนำขบวนขององค์ราชสิงห์ด้วยแหละ"

ราชสิงห์คือ ขบวนใหญ่ที่ถูกจับตามองมากที่สุด มันเต็มไปด้วยบรรดาพระนางผู้นั่งเสลี่ยง โดดเด่นเป็นสง่า อันที่จริงองค์ราชสิงห์มีแค่คนเดียว แต่คนที่แต่งเป็นองค์ท้าวเจ้าจอมมีถึงสี่คน แถมหนึ่งในนั้นยังได้นั่งคู่กับตัวเอกที่แต่งตัวเป็นองค์ราชสิงห์ด้วย

"เหรอ ก็ดีนะ เราก็โปรยดอกมะลิไปเพลินๆ โปรยผิดจังหวะก็ไม่มีใครสนใจด้วย" เกี้ยวบอกเพื่อนร่วมชะตากรรม

"ม่ายช่าย! ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงน้าน! ฉันหมายถึง เราจะได้เดินนำหน้าองค์ราชสิงห์ต่างหาก เธอรู้ไหมปีนี้ใครได้แต่ง ลอยลำแบบไร้คู่แข่งเลยแหละเธอ"

"บอกมาเถอะจ้า ไม่รู้ๆ"

"แหม ตกข่าวจริงนะ ก็พี่โซ่สุดหล่อขวัญใจแม่ยกน่ะสิ"

จริงเหมือนคู่โปรยมะลิเธอบอก เธอเห็นโซ่แล้ว เขาโดดเด่นมาก พวกเธอมายืนรอจัดขบวนกันเสร็จก่อนนานแล้ว รอแค่พวกพระนางตัวเอก พอพวกเขาออกมาก็เหมือนทุกครั้ง

กรี๊ด! กรี๊ด!! กรี๊ด!!! ดังสนั่น จนคนคุมขบวนต้องประกาศใส่ไมค์ให้อยู่ในความสงบ

วันนี้โซ่คือ องค์ราชสิงห์ การแต่งองค์ทรงเครื่องของเขาไม่มีอะไรซับซ้อน นุ่งผ้าโจงกระเบนปล่อยชายสีทองเหลือบแดง มีลายโบราณที่ดูประณีตงดงามมาก การจับจีบดูไม่ซับซ้อน แต่คนที่จะแต่งตัวให้เขาได้ ต้องมีฝีมือไม่ธรรมดาแน่นอน ส่วนเครื่องประดับ เขาสวมชฎาแบบของกษัตริย์สมัยก่อน มีพาหุรัด รัดกล้ามแขนแน่นๆ ของเขาทั้งสองข้าง สวมสร้อยสังวาล กำไลข้อมือ ทั้งหมดเป็นสีทองเหลืองอร่าม ที่สำคัญเขาไม่ใส่เสื้อ โชว์ซิกแพคให้คนได้เห็นเต็มๆ ตา

"กรี๊ด! เธอดูสิเกี้ยว! ซิกแพคกับเส้นเลือดที่กล้ามแขนพี่โซ่ เห็นแล้วจะเป็นลม"

"..." เธอดูอยู่

"แล้วเธอดูผิวของเขา สีทองแทนน่าลูบไล้ขนาดน้าน!"

"..." เห็นแล้ว

"เฮ้อ คนที่ขึ้นเสลี่ยงคู่เขาก็เป็นพี่ดาวจนได้ รู้ป้ะ รายนั้นสละทิ้งตำแหน่งดรัมเมเยอร์ แล้วกระโดดขึ้นเสลี่ยงพี่โซ่แบบไม่ลังเลเลย ได้ข่าวว่าใช้เส้นด้วยนะ"

อืม เธอมองดูพี่ดาวที่ได้นั่งคู่กับโซ่ "ชุดเขาดูสวยมากนะ"

"จะไม่สวยได้ยังไงล่ะ ได้ข่าวว่าจ้างช่างจากนครหลวงมาตัดให้พิเศษเลยนะเธอ สงสัยคิดจะตกพี่โซ่ให้ได้ นู่น! พวกข้างหลังก็เป้าหมายเดียวกัน จ้องกันซะแทบจะเปิดศึกกันบนเสลี่ยงอยู่แล้ว!"

เธอมองตาม แล้วโซ่ก็หันมาเห็นเธอพอดี เธอแอบส่งยิ้มโบกมือให้เขาน้อยๆ แต่เขาสะบัดหน้าหนี หันไปยกคันธนูสีทองอันใหญ่ขึ้นโพสท่า แล้วขึ้นไปนั่งคู่กับพี่ดาวที่ยิ้มหวานหยดย้อยอยู่บนเสลี่ยงทันที

เธอก้มหน้าลง ช่างเถอะ...

พอขบวนเริ่มเคลื่อนตัว มีคนมามุงดูเต็มสองข้างทาง ทั้งส่งเสียงกรี๊ด ทั้งโห่ร้อง ขบวนจะมุ่งหน้าไปที่ลานกีฬาใหญ่กลางเมือง มันถูกจัดไว้เป็นพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ โรงเรียนชนช้างก็จะไปเจอกันที่นั่นหลังจากที่ทั้งสองโรงเรียนเดินโชว์ให้ประชาชนทั่วไป และผู้ปกครองชมกันแล้ว ระยะทางไม่มาก เกือบกิโลครึ่งเท่านั้น

เธอตั้งอกตั้งใจโปรยดอกไม้ไปเรื่อยๆ เบื่อๆ ก็แกล้งแอบปาใส่เด็กน้อยตัวเล็กๆ สามสี่คนข้างทางเล่น พวกเขาหัวเราะเอิ๊กอ๊ากจนเธอยิ้มตาม ตอนนี้รู้สึกว่าส้นสูงห้านิ้วกำลังกัดเท้าเธออย่างเมามัน นี่แหละน้า ที่เขาว่าเคราะห์กรรมของคนสวย

บรรยากาศข้างทางช่างครึกครื้น แต่บนเสลี่ยงกลับมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งหน้าบึ้ง ผิดกลับหญิงสาวอีกคนที่ยิ้มหวานหยดย้อยไม่ยอมหยุด

"โซ่"

"..."

"โซ่จ๊ะ!"

"อืม ว่า?" หนวกหูจริง! เขากำลังมองยัยตัวเล็กอย่างตั้งอกตั้งใจอยู่นะ

"ช่วยยิ้มให้กล้องตัวนั้นหน่อยได้ไหมจ๊ะ" ดาวชี้ให้ดูกล้องตัวใหญ่ เพราะเธอรู้อะไรบางอย่างมานะสิ

"ไม่ล่ะ เมื่อย" โซ่บอกสั้นๆ แล้วไม่สนใจคนข้างตัวอีก แต่จู่ๆ เธอก็เซมาโดนตัวเขา เขามองเธอนิ่งๆ ลุกไปสิวะ รอแป๊บนึงเธอไม่ยอมลุก เขาเลยใช้มือจับแขนเธอดันตัวออกไป

"โอ๊ย โทษทีจ้ะ พอดีตื่นเช้ามาก เลยมึนๆ หัวน่ะ"

"..." ช่างสิ มาบอกเขาทำไมวะ! โซ่คิดแล้วหันไปสนใจตัวเล็กของเขาต่อ

อืม กล้า กล้ามาก! นั่นมันชุดบ้าชุดบออะไร! ไหนบอกถือพานทั่วๆ ไป เกาะอก โชว์ไหล่ โชว์แขนซะขนาดนั้น! ทั่วไปตรงไหนฮะ!

ผ่านไปได้ไม่นาน ช่วงเวลาที่หลายคนรอคอยก็มาถึง 'ช้าง! ปะทะ สิงห์!' อีกฝั่งขี่ช้างมา ขบวนยิ่งใหญ่งดงามอลังการไม่แพ้บ้านสิงห์เลย ทั้งสองขบวนตีคู่กันเดินเข้าสนาม มีเสียงกลองรัวดังสนั่น เสียงผู้คนโห่ร้องก้องสนาม หลายคนแอบขนลุก ไม่มีใครยอมแพ้ใครเลย เสียงโฆษกสนามดังขึ้น บนอัฒจันทร์เต็มไปด้วยผู้หลักผู้ใหญ่ ทั้งนายอำเภอ ทั้งผู้ว่า ต่างก็มาเป็นประธานในพิธีด้วย

ระหว่างที่รอประธานให้โอวาท นางตัวเล็กๆ อย่างเกี้ยวที่ต้องใส่ส้นสูงเดินมาตั้งเกือบสองกิโลก็มีเวลาให้หยุดพักหายใจหายคอ หลายคนกินน้ำ เช็ดเหงื่อ ถ่ายรูปเล่นกัน ไม่มีใครสนใจหรอก เพราะสายตาทุกคน นู่น! มองแต่องค์ราชสิงห์ประกบด้วยองค์ท้าวเจ้าจอม กับองค์คชสารที่รายล้อมด้วยนางสนม ซึ่งมีมากกว่าด้านนี้ซะอีก! ฝั่งนู้นตั้งเจ็ดคน!

เกี้ยวเมื่อยๆ เลยแอบยืนพักขา บิดขี้เกียจไปทีสองทีแต่แล้ว...

"น้องครับๆ พี่ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหม"

"กับหนูเหรอคะ" เธอเป็นนางเล็กๆ นะ พี่เก็บแบตไว้ถ่ายกับองค์เท้าเจ้าจอมบรรดานางสนมดีกว่าไหม

"ใช่กับน้องนั่นแหละ"

"โอเคค่ะ แต่ต้องถ่ายกับเพื่อนหนูด้วยนะ เราเป็นเซ็ตคู่" ยังไม่ทันที่เขาจะตอบอะไร ก็มีขวดน้ำที่ไหนไม่รู้ลอยมา มันกระแทกโดนหัวพี่ผู้ชายคนนั้น แล้วดูเหมือนว่าฝามันจะปิดไม่สนิท น้ำเลยกระฉอกมาโดนหน้าอกเธอ น้ำเปียกเป็นวงกว้าง

เธอมองกลับไปยังทิศที่ขวดน้ำลอยมา อืม... อยู่ๆ ก็อยากร้องไห้

"ขอโทษนะคะพี่ หนูถ่ายกับพี่ด้วยไม่ได้แล้ว" เขาทำหน้างงๆ เหมือนกันแล้วเดินจากไป เธอหันกลับไปทำหน้าที่ตัวเองต่อ อยากให้เสร็จๆ ไปสักที เธออยากจะกลับไปเปลี่ยนชุดแล้ว




By HoneyToastHT.

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว