ข้าคือสุดยอดของจักรวาล -บทที่ 7 ชีวิตและพลังงาน

โดย  NNewnovel

ข้าคือสุดยอดของจักรวาล

บทที่ 7 ชีวิตและพลังงาน

บทที่ 7

ชีวิตและพลังงาน


สำหรับชีวิตและพลังงานของการดำรงอยู่ การดูดซึมและการใช้พลังงาน เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตต่อไป หากไม่มีพลังงานชีวิตจะหยุดเพียงดับสิ้น แต่มันจะหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง


ดูเหมือนว่าเวลาที่ผ่านไปนั้นจะไม่ส่งผลอะไรกับเขาเลย มีแต่เพียงกระบวนการของพลังงานที่มีอยู่และหายไปในจักรวาลอันกว้างใหญ่ การสำรวจและการกระจายตัวออกพลังงานแห่งดวงดาว ชีวิตในแต่ละดวงดาวคืออารยธรรมแห่งหนึ่ง ยิ่ง อารยธรรมนั้นมีระดับการแพร่ขยายมากเท่าไหร่ ระดับของ อารยธรรมก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น


การใช้ทรัพยากรและพลังงานของโลกเป็นเพียง อารยธรรมลำดับที่สอง มีสาเหตุหลักหลายประการสำหรับความล้าหลังของอารยธรรมนี้ ที่สำคัญที่สุดคือการขาดพลังงานหมุนเวียนของดาวเคราะห์ การพัฒนาและการใช้ประโยชน์ ไหนจะเรื่องความขัดแย้งของเผ่าพันธุ์เดียวกันอีก


พลังของเนบิวลาเป็นพลังสำคัญสำหรับอารยธรรมขั้นสูงของสิ่งมีชีวิต อารยธรรมของสิ่งชีวิตทั้งหมดในจักรวาลนี้ไม่สามารถเป็นไปได้เลยถ้าหากขาดพลังงานนี้


พลังจากเนบิวลามีเพียงสองชนิด หนึ่งคือการก่อตัวตามธรรมชาติของพลังงานจากดาวเคราะห์ เมื่อพลังงานของดาวดวงหนึ่งมีความแข็งแกร่งมากพอพลังงานจะถูกสะสมโดยอัตโนมัติ หลังจากถึงปริมาตรหนึ่งแล้วพลังของเนบิวลาจะยึดติดกับวัตถุอื่น ๆ เพื่อรอการกระตุ้นและพัฒนาโดยสิ่งมีชีวิตบางอย่าง


อย่างไรก็ตามดาวที่มีพลังงานสูงนั้นหายากมาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับสิ่งมีชีวิตที่จะเปิดใช้งานพลังนั้น และพัฒนาไปสู่อารยธรรมลำดับต่อไป เนบิวลาที่เข้าข่ายนั้นมีน้อยมาก


ดาวเคราะห์ส่วนมากนั้นสามารถรวบรวมพลังงานบางชนิดในเนบิวลาได้ ซึ่งมันก็เหมือนภาชนะชนิดหนึ่ง มันสามารถเก็บรวบรวมพลังได้ แต่ด้วยข้อจำกัดของมวลและขนาดแล้วมันเป็นไปได้ยากมากที่จะบรรลุจุดประสงค์นั้น


แต่เมื่อเทียบกับโลกแล้วมันยังห่างไกลจากความเป็นไปนั้นมาก ที่ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งจะสามารถสร้างเนบิวลาได้ เนื่องจากโลกเป็นดาวเคราะห์ที่มีพลังงานต่ำมาก แม้ว่าพลังงานทั้งหมดของโลกจะถูกรวบรวมเข้าด้วยกันแล้ว แต่ก็ไม่มีพลังงานต้นกำเนิดของเนบิวลามากนัก ยิ่งไปกว่านั้นมนุษย์ยังไม่สามารถสร้างภาชนะสะสมดังกล่าวได้ด้วยเทคโนโลยีในตอนนี้


พูดง่าย ๆ คือถ้าปริมาตรพลังงานที่ 10,000 หน่วย จะเปลี่ยนเป็นพลังของเนบิวลาโดยอัตโนมัติ แต่สิ่งประดิษฐ์ของสิ่งมีชีวิตสามารถกักเก็บและดูดซับพลังงานได้แค่ 1,000 หน่วย ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุเป้าหมาย อย่างไรก็ตามพลังของเนบิวลาสามารถกักเก็บและดูดซับได้โดยตรง


สิ่งมีชีวิตและเทคโนโลยีบนโลกไม่เพียงพอที่จะรวบรวมพลังของเนบิวลาแม้แต่หน่วยเล็ก ๆ ด้วยซ้ำ ซึ่งทำให้อารยธรรมสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดบนโลก เป็นเพียงระดับที่สองเท่านั้น


อารยธรรมแบ่งออกเป็นเก้าระดับ อารยธรรมชั้นสูงขึ้นไปนั้น จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับอารยธรรมระดับต่ำกว่าเพราะจะไม่ช่วยให้เกิดความก้าวหน้าในกลุ่มอารยธรรมนั้น ๆ อย่างไรก็ตามถ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้วก็จะยิ่งมีความเสี่ยงที่จะก้าวหน้าต่อไปหลังจากนั้นได้ยาก สำหรับอารยธรรมทุกระดับแล้วทุกความก้าวหน้าในแต่ละครั้งมีโอกาสที่จะล้มเหลว


หลังจากความล้มเหลวแล้ว จะมีผลลัพธ์หลายอย่างที่ร้ายแรงที่สุดคือ "กระจายตัวของเนบิวลา"


หลี่หมิงได้เรียนรู้จากข้อมูลของเขาว่าในคืนที่มีฝนดาวตกนั้น สิ่งที่อ่อนนุ่มที่ตกลงมาจากท้องฟ้าคือสิ่งมีชีวิตของอารยธรรมขั้นสูงบางชนิดที่ล้มเหลวในไต่เต้าขึ้นสู่อารยธรรมลำดับต่อไป ซึ่งนำไปสู่การแตกของกลุ่มเมฆและชิ้นส่วนที่แตกหักของเนบิวลาก็ตกลงมาสู่พื้นโลก


ชิ้นส่วนเนบิวลาที่แตกสลายจะนำพาจิตสำนึกของสิ่งมีชีวิตจากอารยธรรมขั้นสูงนั้นมาด้วย และส่วนหนึ่งของพลังแห่งเนบิวลานั้นได้ล่องลอยไปในจักรวาลจนกว่าพลังของเนบิวลาจะหมดลง จิตสำนึกของชีวิตนั้นจะหายไปอย่างสมบูรณ์

หากชิ้นส่วนเนบิวลาที่แตกสลายพร้อมกับจิตสำนึกแห่งชีวิตดั้งเดิม มันสามารถมาเข้าไปในร่างกายของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น สามารถเกิดใหม่ได้หลังจากที่สิ่งมีชีวิตได้รับพลังงานระดับกลางเข้าไป


แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้สองประการ หนึ่งคือการได้พบกับอารยธรรมระดับสูงและชิ้นส่วนเนบิวลานั้นจะถูกกลืนเข้าไปโดยตรงและพลังของเนบิวลาจะถูกดูดซับเข้าไปทำให้ชิ้นส่วนเนบิวลาและจิตสำนึกในนั้นหายไปทันที แต่อีกด้านหนึ่งมันจิตสำนึกสามารถรวมตัวเข้ากับรหัสพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตที่เป็นร่างต้น ทำให้จิตวิญญาณทั้งสองสามารถอยู่ร่วมกันได้ในภาวะกึ่งอาศัย


ชิ้นส่วนเนบิวลาที่หลี่หมิงกลืนไปนั้นเป็นชิ้นส่วนเนบิวลาของอารยธรรมขั้นสูงของโลกต่างดาวที่มีสติสัมปชัญญะโดยไม่ต้องสงสัยเลย ผ่านคำพูดที่บันทึกไว้ในชิ้นส่วนความทรงจำเหล่านั้น หลี่หมิงรู้ว่าสิ่งมีชีวิตในอารยธรรมต่างดาวนี้เรียกถูกว่า [แฮร์ริส] หลังจากเข้าสู่ร่างกายของหลี่หมิงแล้วจะมีเนบิวลามีเพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ และพลังของเนบิวลานี้ถูกดูดซับโดย หลี่หมิงไปแล้ว ซึ่งนำไปสู่ความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ของ หลี่หมิง จากสิ่งมีชีวิตอารยธรรมลำดับที่สอง เขาจึงกลายเป็นสิ่งมีชีวิตจากอารยธรรมระดับสามเลยทันที


หลี่หมิงซึ่งไม่ได้ดูดซับพลังของเนบิวลาไปเท่านั้น สติสัมปชัญญะของอีกฝ่ายไม่ได้ถูกกลืนเข้าไปด้วยดังนั้นมันจึงกลายเป็นการอยู่ร่วมกันแทน


หลี่หมิงที่ก้าวสู่อารยธรรมลำดับสาม ความเร็วในการรับรู้ พลัง ขีดจำกัด จึงสูงเกินกว่าที่มนุษย์จะเอื้อมถึง!


แม้ระดับอารยธรรมสูงขึ้นแล้ว แต่มันก็จำเป็นต้องเปิดใช้งานใหม่อีกครั้ง เมื่อพลังงานที่ได้รับจากภายนอกถึงขีดจำกัดของร่างกายแล้ว เขาสามารถเปิดใช้งานระดับขั้นสูงขึ้นได้เช่นกัน


เท่าที่เกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกระตุ้นพลังงานที่โดยง่าย ทุกครั้งมนุษย์ต้องการโดยพลังงานเพียงน้อยนิดจากอาหาร หลี่หมิงยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการพลังงานนั้นได้หลังจากกินขนมหวานไปมากมาย ด้วยการเพิ่มพลังของเนบิวลาในร่างกายของเขา อย่างไรก็ตามหลี่หมิงประสบความสำเร็จในการปลุกชีวิตของอารยธรรมลำดับที่สามออกมา หลังจากได้รับพลังงานของกระแสไฟฟ้าในห้างสรรพสินค้าโดยตรง


และอีกชีวิตหนึ่งในร่างกายของหลี่หมิงก็ตื่นขึ้น นั่นคือ ‘แฮร์ริส’


หลังจากจัดเรียงข้อมูลแล้ว หลี่หมิงได้เรียนรู้ว่านอกจากแฮร์ริสแล้วยังมีเนบิวลาที่แตกสลายของอารยธรรมขั้นสูงอื่น ๆ อีกกว่าโหลได้ ที่ลงจอดบนพื้นโลกในเวลาเดียวกัน แม้ว่าเนบิวลาเหล่านี้จะมาพร้อมกับแฮร์ริส แต่ก็เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกมันเป็นชิ้นส่วนของเนบิวลาจาก อารยธรรมขั้นสูง ตราบใดที่พวกมันไม่ถูกพบและดูดซึมพลังเนบิวลา ก็จะมีเพียงหลี่หมิงและแฮร์ริสเท่านั้นที่สามารถก้าวไปข้างหน้าต่อไปได้


สิ่งนี้ทำให้ลี่หมิงเข้าใจความจริงบางอย่างของธรรมชาติ อุกกาบาตที่พาดผ่านพื้นโลกนั้นอาจไม่ใช่อุกกาบาตทั้งหมด แต่อาจเป็นชิ้นส่วนของเนบิวลาแบบเดียวกับที่เขาได้รับเช่นกัน


แน่นอนว่าหลังจากเนบิวลาที่แตกออกเป็นชิ้นนั้น ส่วนใหญ่มักจะจะตกลงสู่ดาวเคราะห์ที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตและตายไป แม้ว่าเนบิวลาจะตกลงสู่ดาวเคราะห์ที่มีชีวิตเฉกเช่นโลก แต่มันก็ไม่อาจไม่ประสบความสำเร็จในการฝังตัวเข้าไปคล้ายปรสิต เนื่องจากการเลือกโฮสต์มีความสำคัญอย่างยิ่ง ถ้ามันไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นสัตว์อื่น ๆ มันจะอันตรายมาก โดยพื้นฐานแล้วไม่ต่างจากการหายไปอย่างช้า ๆ


สำหรับแฮร์ริสและหลี่หมิงแล้วพวกเขาต่างก็โชคดีทั้งคู่ ในฐานะมนุษย์แล้ว หลี่หมิงเป็นโฮสต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก แฮร์ริสมอบพลังแห่งเนบิวลาให้หลี่หมิงซึ่งทำให้เขาก้าวไปสู่อารยธรรมที่สูงกว่ามนุษย์


นอกจากนี้ยังมีข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับโลกเพราะสำหรับชีวิตของอารยธรรมขั้นสูง ไม่สามารถผูกมิตรกับโลกได้ แฮร์ริสเข้าใจความสัมพันธ์อันดุเดือดระหว่างโลกและชีวิตของ อารยธรรมที่สูงได้ เขารู้ผ่านโทรศัพท์มือถือของหลี่หมิง


การที่ได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมสูงที่สุดในโลกมนุษย์นั้น แฮร์ริสอาจโชคดีมากเพราะหลังจากที่เศษเนบิวลาตกลงสู่พื้นโลกเขาต้องหาร่างต้นใหม่อย่างรวดเร็วเพื่อรักษาจิตสำนึกเอาไว้


ตามธรรมชาติแล้วเราโชคดีมากที่สามารถแสดงสติสัมปชัญญะในระดับสูงสุดของชีวิตบนโลกใบนี้


ยิ่งไปกว่านั้นพลังงานของโลกนั้นหายากมากซึ่งไม่เหมาะสำหรับชีวิตของอารยธรรมระดับสูงแบบนั้น เนื่องจากชีวิตของอารยธรรมระดับสูงต้องการแหล่งพลังงานที่เพียงพอ ซึ่งยากที่จะพบเจอบนโลก


ท้ายที่สุดมี "ก๊าซพิษ" บนโลกมากมายนั้นคือออกซิเจน ชีวิตทุกชนิดไม่สามารถหลีกหนีจากการเกิดออกซิเดชัน ความชรา และความตายได้ ในอารยธรรมที่สูงขึ้นสิ่งมีชีวิตขึ้นอยู่กับพลังงานขั้นสูงขึ้นเป็นหลัก


แต่บนโลกแม้ว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับออกซิเจน พวกเขาก็ต้องยอมรับการออกซิเดชั่นหรือก็คือการเสื่อมถอยของร่างกายเช่นกัน


เมื่อเทียบกับข้อมูลที่ยุ่งเหยิงในสมองของเขาแล้ว ที่พูดมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของภูเขาน้ำแข็งที่หลี่หมิงเย็บเข้าด้วยกันสำเร็จ อย่างไรก็ตามมันก็เพียงพอที่ทำให้หลี่หมิงหายสงสัย แต่ข้อมูลหลายที่ไกลออกไปนั้นยังคงซับซ้อนเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจ สำหรับเนื้อหาที่เขาแยกออกมาแล้ว หลี่หมิงยังต้องยุ่งมาตลอดทั้งวัน และเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อตีความ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเขาอ่านมันออกมาถูกต้องหรือไม่ก็ด้วย


ยิ่งไปกว่านั้นหลี่หมิงยังต้องเฝ้าดูสิ่งที่เขาบันทึกซ้ำ ๆ หลาย ๆ รอบ โดยธรรมชาติแล้วหลี่หมิงจะต้องตรวจสอบว่าเนื้อหานั้นเป็นจริงหรือไม่ซึ่งจะกินเวลามากไปกว่านั้นอีก


“ อารยธรรมระดับสาม?” หลี่หมิงเงยหน้าขึ้นและพูดกับตัวเองในความเงียบ


หลี่หมิงวางกองกระดาษหนาในมือลงมาที่หน้าต่างและมองไปที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนด้านนอก ทันใดนั้นหลี่หมิงก็ยิ้ม


เขากลับเข้าไปในห้องนอนของเขา เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เป็นทางการและหยิบโทรศัพท์มือถือของเขา ขึ้นมา หลี่หมิงวางแผนที่จะออกไปเดินเล่น เพื่อตรวจสอบความแข็งแกร่งจากพลังของอารยธรรมสามระดับ


อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา หน้าจอของโทรศัพท์มือถือก็เปิดขึ้นและกระดิ่งก็ดังขึ้น มันเป็นโทรศัพท์


บันทึกการโทร: เหมิง เหลียนยี่


เธอคือเพื่อนร่วมงานหญิงจากบริษัทเก่าของหลี่หมิง และเป็นเพื่อนคนเดียวของเขา สาเหตุที่เขาสามารถเป็นเพื่อนกับเธอได้ส่วนใหญ่เป็นเพราะงานอดิเรกทั่วไปของเธอก็เรื่องเกี่ยวกับดาราศาสตร์เช่นกัน


ทั้งสองคนเป็นผู้ชื่นชอบในดาราศาสตร์ นอกเหนือจากงานของพวกเขาแล้ว หัวข้ออื่น ๆ ระหว่างพวกเขายังเกี่ยวกับจักรวาลอันกว้างใหญ่และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว อย่างไรก็ตามไม่มีการติดต่อระหว่างกันมากนักนอกเหนือจากนี่ พวกเขามักจะแจ้งกันให้ทราบเมื่อมีฝนดาวตกหรือดาวตกและปรากฏการณ์ท้องฟ้า

หลี่หมิงพูดผ่านโทรศัพท์และมีเสียงมาจากฝั่งตรงข้ามทันที: "หลี่หมิง นายอยู่ที่ไหนแล้วหน่ะ"


เสียงที่ช้า ๆ และนุ่มนวลดังขึ้น แม้จะไม่ให้ความรู้สึกเหมือนดื่มแต่มันก็คุ้นเคย


“ถ้าว่าง ๆ ก็มาดื่มกันหน่อย ข้างบริษัทเก่าของนายหน่ะ” เท่าที่เขาฟังผ่านโทรศัพท์ เขาก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะเมาแอลกอฮอล์อยู่ แต่ก่อนที่หลี่หมิงจะตอบ อีกฝ่ายวางสายไปแล้ว


หลี่หมิงมองไปที่โทรศัพท์มือถือที่วางสายไป และลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไป? หรือไม่ไปดี? เธอมีแฟนอยู่แล้วไม่ใช่หรอ. ทำไมเธอถึงอยากพบเขาล่ะ? แม้ว่าเขาจะรู้จักเธอ แต่เขาก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับเธอขนาดนั้นหนิ?



รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว