ณ จุดที่ไกลออกไปเล็กน้อย
หลงเฟยแทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
เขาเริ่มสงสัยว่ากำลังมีคนแอบสะกดรอยเขาอยู่ มาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ตอนแรกเขาก็คิดว่าเป็นฝีมือของหลงจ้านอู่ แต่ว่าพอเขาลองแกล้งทำเป็นบาดเจ็บสาหัส
ก็ไม่มีใครเข้ามาทำร้ายเลย ในใจก็รู้สึกแปลกใจว่า ที่จริงแล้วเป็นใครกันแน่?
แต่พอรู้ว่าเป็นสามสาวนิกายเฉาเทียน เขาก็ตกใจเล็กน้อย
“พวกนางมาที่นี่ด้วยเหรอ?”
“ทำไมถึงมาตามสะกดรอยเรานะ? หรือเพราะว่าเสน่ห์ของเรามันรุนแรงมาก จนทำให้พวกนางหลงรักเราอย่างถอนตัวไม่ขึ้น?”
หลงเฟยยิ้มแบบหล่อ ๆ แล้วตัดสินใจขว้างเนื้อกระต่ายที่ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่งลงไปที่พื้น แล้วตะโกนขึ้นมาว่า
“เจ้าคนชั่ว แกหนีข้าไม่พ้นหรอก!”
หลิวลั่วซีตกใจ “มีคนร้ายหรือ!”
เสี้ยวเถียนเถียนซึ่งไม่มีแรง ก็แค้นหลงเฟยมาก พูดว่า
“ข้าอุตส่าห์เฝ้าดูตั้งหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม ๆ ยังมาทำให้ตกใจเล่นอีก คอยดูนะถ้าจับได้แล้วละก็.....”
ยังไม่ทันที่นางจะพูดจบ เย่จินเยียนก็พูดแหย่ว่า
“เจ้านี่นะ พูดมาหลายรอบแล้ว เมื่อไหร่จะเริ่มลงมือสักทีล่ะ?”
“ไม่ใช่ซะหน่อย!”
เสี้ยวเถียนเถียนโกรธจนหายใจไม่ทัน พูดว่า “ข้าจะนำเจ้าซกมกนั่น มาให้ศิษย์พี่ต่างหาก”
“หยุดเถียงกันได้แล้ว รีบไปจับมาเร็ว อย่าลืมภารกิจของพวกเราสิ”
หลิวลั่วซีปฏิกิริยาฉับไว รีบมองไปรอบ ๆ ตัวอย่างระแวดระวัง
เมื่อพวกนางตามขึ้นไปบนเขาก็ไม่พบร่างของหลงเฟยแล้ว
“ศิษย์พี่ ข้าหิวเหลือเกิน” เสี้ยวเถียนเถียนพูดอย่างคนไม่มีแรง ทันใดนั้นก็กลิ่นหอม ๆ ลอยมาแตะที่จมูก
“หอมอะไรน่ะ อ๊ะ เนื้อย่าง!”
“ศิษย์พี่ ตรงนี้มีเนื้อกระต่ายย่างเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง”
จมูกของเสี้ยวเถียนเถียนตอนนี้รับรู้ไวเหมือนสุนัขเลยทีเดียว
“แสดงว่าเจ้าซกมกนั่นไปแล้ว”
“เสียเวลาจริง ๆ เลย”
เสี้ยวเถียนเถียนไม่รอช้า หยิบเนื้อย่างก้อนนั้นขึ้นมา กัดเข้าไปที่น่องกระต่ายในทันที
กัดไปได้หนึ่งคำก็มีแรงขึ้นมา “อร่อยมากเลย”
หลิวลั่วซีครุ่นคิดแล้วนึกในใจว่า “ถูกเขาจับได้แล้วเหรอ?”
..........
โดยปกติของตลอดทั้งวันนั้นสัตว์วิเศษจะมีไม่มาก แต่หลงเฟยก็ยังมุ่งมั่นในภารกิจอยู่
เมื่อถึงเวลากลางคืนความมืดก็เข้าคืบคลานปกคลุมทั่วป่า จะมีก็แต่เสียงคำรามดังขึ้นท่ามกลางความมืด
ในเวลาเดียวกันนั้นกลุ่มต่าง ๆ ที่อยู่ในป่าทึบต่างก็เคลื่อนไหวเช่นกัน
คืนนี้หลงเฟยไม่ได้ทำการล่าหมาป่าไฟเหมือนคืนก่อน แต่กลับหลบซ่อนคอยระแวดระวังอย่างยิ่งยวด
เขาต้องการที่จะรู้ว่า ใครเป็นคนลอบสังหารศิษย์ตระกูลหลง
จะเป็นคนที่หลงจ้านอู่ส่งมา? หรือว่าเป็นกลุ่มอื่น ๆ ในเมืองหั่วหลีกัน?
เพียงสองเค่อหลังจากนั้น
ไม่ไกลจากที่นั่น ก็มีเสียงฝีเท้ากำลังวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตดังออกมา “พวกมันเป็นใครกันนะ?”
“สวบ ๆๆๆ ......”
เสียงอะไรสักอย่างที่ตวัดไปมาอย่างรวดเร็วก็ดังขึ้น
“อ๊าก!”
“พี่หลงซาน รีบหนีเร็ว!”
“อ๊าก......อ๊าก....”
เสียงที่ดังออกมาทั้ง 3 นั้นช่างน่าเวทนานัก
ยังมีอีกคนที่กำลังวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาวิ่งใกล้เข้ามาตรงจุดที่หลงเฟยอยู่มากขึ้นทุกที
หลงเฟยเฝ้ารออย่างใจเย็น
“ตุบ!”
หลงซานสะดุดล้มลงไปที่พื้น ชั่วพริบตาเดียวนั้น ร่างเงาดำ ๆ สามร่างนั้นก็กระโจนลงมาแล้วเข้าล้อมทันที
หนึ่งในนั้นหัวเราะด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมว่า
“วิ่งหนีสิ หนีต่ออีกสิ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าแกจะหนีไปไหนพ้น!”
ทวนยาวในมือของหลงซานสั่น ตะโกนถามไปว่า “พวกแกเป็นใครกันแน่?”
เมื่อหนีไม่ได้ก็ต้องสู้!
ชายชุดดำก็หัวเราะแล้วตอบว่า “ก็เป็นคนที่ต้องการเอาชีวิตพวกเจ้าไง”
“นี่ก็คงเป็นเหตุผลของพวกเจ้าสินะ” หลงซานเข้าใจในทันที จึงใช้ทวนสวนแทงเข้าไป
ทวนที่มีแค่หนึ่งในตอนแรกกลับแยกออกมามากมาย
เขากระโดดขึ้นลอยกลางอากาศ ใช้ทวนแทงเข้าไปที่พวกมันทันที
“แทงฉับพลัน!!!”
ทวนแทงไปยังด้านหลังของชายชุดดำคนหนึ่ง มันไม่มีโอกาสป้องกันจากการโจมตีโดยตรงนั้นได้
“ฉึก!”
ทวนแทงไปถูกไหล่ซ้ายของชายชุดดำ ทว่าชายชุดดำคนนั้นก็คว้ากระบี่แทงสวนไปที่หว่างคิ้วของหลงซานทันที หลงซานตกใจจึงปล่อยทวนหลุดมือ
ในจังหวะนั้นเองชายชุดดำอีกสองคนก็ปล่อยกระบี่คนละเล่มแทงที่ไหล่ทั้งสองข้างของหลงซาน จนหลงซานลอยไปติดอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่
“นายท่านสั่งไว้ว่า ห้ามไว้ชีวิตศิษย์ที่เป็นสายเลือดของตระกูลหลง”
ระหว่างที่พูดนั้น หนึ่งในคนชุดดำก็หยิบขวดลักษณะพิเศษขึ้นมา
หลงซานสีหน้าของซีดเผือดจากการโจมตี เขาพยายามพูดออกมา ทว่าก็มีเพียงเสียงระโหยแผ่วเบา
“นักฆ่าของจวนตระกูลจูกัด!”
-โปรดติดตามบทต่อไป-
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว