เมียแต่ง

บทที่15

ณ จุดที่ไกลออกไปเล็กน้อย


หลงเฟยแทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่


เขาเริ่มสงสัยว่ากำลังมีคนแอบสะกดรอยเขาอยู่ มาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว


ตอนแรกเขาก็คิดว่าเป็นฝีมือของหลงจ้านอู่ แต่ว่าพอเขาลองแกล้งทำเป็นบาดเจ็บสาหัส


ก็ไม่มีใครเข้ามาทำร้ายเลย ในใจก็รู้สึกแปลกใจว่า ที่จริงแล้วเป็นใครกันแน่?


แต่พอรู้ว่าเป็นสามสาวนิกายเฉาเทียน เขาก็ตกใจเล็กน้อย


“พวกนางมาที่นี่ด้วยเหรอ?”


“ทำไมถึงมาตามสะกดรอยเรานะ? หรือเพราะว่าเสน่ห์ของเรามันรุนแรงมาก จนทำให้พวกนางหลงรักเราอย่างถอนตัวไม่ขึ้น?”


หลงเฟยยิ้มแบบหล่อ ๆ แล้วตัดสินใจขว้างเนื้อกระต่ายที่ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่งลงไปที่พื้น แล้วตะโกนขึ้นมาว่า


“เจ้าคนชั่ว แกหนีข้าไม่พ้นหรอก!”


หลิวลั่วซีตกใจ “มีคนร้ายหรือ!”


เสี้ยวเถียนเถียนซึ่งไม่มีแรง ก็แค้นหลงเฟยมาก พูดว่า


“ข้าอุตส่าห์เฝ้าดูตั้งหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม ๆ ยังมาทำให้ตกใจเล่นอีก คอยดูนะถ้าจับได้แล้วละก็.....”


ยังไม่ทันที่นางจะพูดจบ เย่จินเยียนก็พูดแหย่ว่า


“เจ้านี่นะ พูดมาหลายรอบแล้ว เมื่อไหร่จะเริ่มลงมือสักทีล่ะ?”


“ไม่ใช่ซะหน่อย!”


เสี้ยวเถียนเถียนโกรธจนหายใจไม่ทัน พูดว่า “ข้าจะนำเจ้าซกมกนั่น มาให้ศิษย์พี่ต่างหาก”


“หยุดเถียงกันได้แล้ว รีบไปจับมาเร็ว อย่าลืมภารกิจของพวกเราสิ”


หลิวลั่วซีปฏิกิริยาฉับไว รีบมองไปรอบ ๆ ตัวอย่างระแวดระวัง


เมื่อพวกนางตามขึ้นไปบนเขาก็ไม่พบร่างของหลงเฟยแล้ว


“ศิษย์พี่ ข้าหิวเหลือเกิน” เสี้ยวเถียนเถียนพูดอย่างคนไม่มีแรง ทันใดนั้นก็กลิ่นหอม ๆ ลอยมาแตะที่จมูก


“หอมอะไรน่ะ อ๊ะ เนื้อย่าง!”


“ศิษย์พี่ ตรงนี้มีเนื้อกระต่ายย่างเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง”


จมูกของเสี้ยวเถียนเถียนตอนนี้รับรู้ไวเหมือนสุนัขเลยทีเดียว


“แสดงว่าเจ้าซกมกนั่นไปแล้ว”


“เสียเวลาจริง ๆ เลย”


เสี้ยวเถียนเถียนไม่รอช้า หยิบเนื้อย่างก้อนนั้นขึ้นมา กัดเข้าไปที่น่องกระต่ายในทันที


กัดไปได้หนึ่งคำก็มีแรงขึ้นมา “อร่อยมากเลย”


หลิวลั่วซีครุ่นคิดแล้วนึกในใจว่า “ถูกเขาจับได้แล้วเหรอ?”


..........


โดยปกติของตลอดทั้งวันนั้นสัตว์วิเศษจะมีไม่มาก แต่หลงเฟยก็ยังมุ่งมั่นในภารกิจอยู่


เมื่อถึงเวลากลางคืนความมืดก็เข้าคืบคลานปกคลุมทั่วป่า จะมีก็แต่เสียงคำรามดังขึ้นท่ามกลางความมืด


ในเวลาเดียวกันนั้นกลุ่มต่าง ๆ ที่อยู่ในป่าทึบต่างก็เคลื่อนไหวเช่นกัน


คืนนี้หลงเฟยไม่ได้ทำการล่าหมาป่าไฟเหมือนคืนก่อน แต่กลับหลบซ่อนคอยระแวดระวังอย่างยิ่งยวด


เขาต้องการที่จะรู้ว่า ใครเป็นคนลอบสังหารศิษย์ตระกูลหลง


จะเป็นคนที่หลงจ้านอู่ส่งมา? หรือว่าเป็นกลุ่มอื่น ๆ ในเมืองหั่วหลีกัน?


เพียงสองเค่อหลังจากนั้น


ไม่ไกลจากที่นั่น ก็มีเสียงฝีเท้ากำลังวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตดังออกมา “พวกมันเป็นใครกันนะ?”


“สวบ ๆๆๆ ......”


เสียงอะไรสักอย่างที่ตวัดไปมาอย่างรวดเร็วก็ดังขึ้น


“อ๊าก!”


“พี่หลงซาน รีบหนีเร็ว!”


“อ๊าก......อ๊าก....”


เสียงที่ดังออกมาทั้ง 3 นั้นช่างน่าเวทนานัก


ยังมีอีกคนที่กำลังวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาวิ่งใกล้เข้ามาตรงจุดที่หลงเฟยอยู่มากขึ้นทุกที


หลงเฟยเฝ้ารออย่างใจเย็น


“ตุบ!”


หลงซานสะดุดล้มลงไปที่พื้น ชั่วพริบตาเดียวนั้น ร่างเงาดำ ๆ สามร่างนั้นก็กระโจนลงมาแล้วเข้าล้อมทันที


หนึ่งในนั้นหัวเราะด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมว่า


“วิ่งหนีสิ หนีต่ออีกสิ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าแกจะหนีไปไหนพ้น!”


ทวนยาวในมือของหลงซานสั่น ตะโกนถามไปว่า “พวกแกเป็นใครกันแน่?”


เมื่อหนีไม่ได้ก็ต้องสู้!


ชายชุดดำก็หัวเราะแล้วตอบว่า “ก็เป็นคนที่ต้องการเอาชีวิตพวกเจ้าไง”


“นี่ก็คงเป็นเหตุผลของพวกเจ้าสินะ” หลงซานเข้าใจในทันที จึงใช้ทวนสวนแทงเข้าไป


ทวนที่มีแค่หนึ่งในตอนแรกกลับแยกออกมามากมาย


เขากระโดดขึ้นลอยกลางอากาศ ใช้ทวนแทงเข้าไปที่พวกมันทันที


“แทงฉับพลัน!!!”


ทวนแทงไปยังด้านหลังของชายชุดดำคนหนึ่ง มันไม่มีโอกาสป้องกันจากการโจมตีโดยตรงนั้นได้


“ฉึก!”


ทวนแทงไปถูกไหล่ซ้ายของชายชุดดำ ทว่าชายชุดดำคนนั้นก็คว้ากระบี่แทงสวนไปที่หว่างคิ้วของหลงซานทันที หลงซานตกใจจึงปล่อยทวนหลุดมือ


ในจังหวะนั้นเองชายชุดดำอีกสองคนก็ปล่อยกระบี่คนละเล่มแทงที่ไหล่ทั้งสองข้างของหลงซาน จนหลงซานลอยไปติดอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่


“นายท่านสั่งไว้ว่า ห้ามไว้ชีวิตศิษย์ที่เป็นสายเลือดของตระกูลหลง”


ระหว่างที่พูดนั้น หนึ่งในคนชุดดำก็หยิบขวดลักษณะพิเศษขึ้นมา


หลงซานสีหน้าของซีดเผือดจากการโจมตี เขาพยายามพูดออกมา ทว่าก็มีเพียงเสียงระโหยแผ่วเบา


“นักฆ่าของจวนตระกูลจูกัด!”


-โปรดติดตามบทต่อไป-

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว