Uncontrolled Love เขยิบรักสัมผัสหัวใจ

บทนำ 8

"มึงเป็นอะไร กูเห็นมึงยืนนิ่งตรงนี้มาสักพักละ ผู้หญิงคนนั้น นุ่นใช่ไหม? เธอมาคุยอะไรกับมึง" ปัณณ์ ปัณณธร แฝดผู้น้องเดินเข้ามาเอ่ยถามเมื่อปุณณ์ยืนนิ่งอยู่ตรงนี้มาครู่ใหญ่ และด้วยรู้สึกคับคล้ายคับคลาใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น


ถึงแม้ทั้งคู่จะเป็นฝาแฝดกัน แต่ยิ่งโตทั้งคู่ก็ยิ่งมีนิสัยที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในเรื่องผู้หญิง ปุณณ์จะร้ายลึก มาดนิ่งแต่ฟาดเรียบมาตั้งแต่เรียนแค่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แต่ถ้าได้สนิทสนมด้วยแล้วจะได้เห็นเขาในอีกมุมหนึ่ง ใครๆ ก็บอกว่าเขานิสัยและบุคลิกเหมือนปู่ของเขา ส่วนปัณณ์จะสุขุม เยือกเย็น แฝงความดุดัน แต่ก็มีมุมทะเล้น อบอุ่นเฉกเช่นนิสัยเมื่อตอนเด็กๆ ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน เพื่อนๆ ตั้งฉายาให้เขาว่าเทพบุตรเนื้อทอง ผู้หญิงคนไหนก็แตะต้องไม่ได้ด้วยกลัวว่าเนื้อทองจะหลุด


"ปุณณ์ เฮ้ย! ไอปุณณ์ มึงได้ยินกูไหมเนี่ย" ปัณณ์เอ่ยเรียกคนที่สติหลุดลอย ก่อนจะยื่นมือไปจับไหล่พร้อมทั้งเขย่าเรียกสติ

"มึงว่าอะไรนะ"

"มึงเป็นอะไร นุ่นมาคุยอะไรกับมึง กูนึกว่าเลิกติดต่อกันไปตั้งแต่วันปัจฉิมละ ตกลงว่านุ่นมาคุยอะไรกับมึง"

"นุ่นบอกว่าเธอท้องกับกู"

"เฮ้ย! จริงดิ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะเว้ย"

"ก็ใช่ไง กูก็กำลังคิดอยู่นี่ไงว่าจะเอาไงต่อ"

"มึงมั่นใจว่านุ่นท้องกับมึงจริงๆ เท่าที่กูรู้นุ่นก็ใช่ย่อยนะเว้ย ฟาดมาเรียบเหมือนกัน"

"กูไม่รู้ แต่เรื่องแบบนี้มันก็พิสูจน์ได้อยู่แล้ว แต่ที่กูกังวลอยู่เนี่ยคือนุ่นบอกว่าจะไปทำแท้ง"

"ทำไมคิดแบบนี้วะ ใจแม่ง...เด็กมันไปรู้เรื่องอะไรด้วย ถึงคิดจะฆ่ากันเลย"

"เพราะคำว่าพลาดไง ความรักสนุกของกูเอง นุ่นบอกต้องการเงินหนึ่งล้านแลกกับเรื่องนี้จะเป็นความลับ แล้วจะไปเอาเด็กออก พรุ่งนี้บ่ายโมงจะมาฟังคำตอบ"

"แล้วมึงจะยอมทำตามที่นุ่นบอกหรอวะ"

"ไม่ ถ้าเด็กนั่นเป็นลูกกูจริง กูจะเลี้ยงเอง แต่จะทำยังไงให้นุ่นเก็บเด็กไว้"

"แล้วถ้าวันหนึ่งเด็กคนนั้นลืมตาดูโลก แล้วพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่ลูกมึง มึงจะทำยังไง กูว่ามึงควรบอกเรื่องนี้กับทุกคน เพื่อช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุด"

"กูนี่แม่ง ทำให้ทุกคนต้องผิดหวังเพราะคำว่าพลาดคำเดียว" ปุณณ์ยกสองมือขยุ้มผมด้วยความโมโหตัวเองที่ต้องทำให้คนในครอบครัวผิดหวังเพราะการกระทำที่ไม่รู้จักยับยั่งชั่งใจของตัวเอง จนสร้างปัญหาและภาระให้กับทุกคน



"ปุณณ์มีอะไรจะคุยกับทุกคนไหมลูก แม่เห็นปุณณ์นั่งมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที" ชะเอมเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของลูกชายหลังรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน โดยมีแทนไท พรพระพาย อาชิ ชะเอม บัว ธาม ปุณณ์ และปัณณ์

"เออ...ปุณณ์มีเรื่องจะบอกกับทุกคนครับ" ปุณณ์ทำท่าอึกอัก ปัณณ์บีบไหล่ของเขาเบาๆ อย่างให้กำลังใจก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกไป

"เราไปคุยกันที่ห้องนั่งเล่นกันดีกว่านะ" แทนไทเอ่ยขึ้นก่อนจะลุงขึ้นยืนเต็มความสูง เข้าไปประคองพรพระพายเดินนำทุกคนไปยังห้องนั่งเล่น


"ปุณณ์มีอะไรจะบอกกับทุกคนหรอลูก" พรพระพายเอ่ยถามเมื่อทุกคนเข้ามายังห้องนั่งเล่นกันครบทุกคนแล้ว


ปุณณ์ค่อยๆคลานเข่าเข้าไปนั่งแทบเท้าคนเป็นปู่เป็นย่าแล้วก้มกราบแทบเท้า ก่อนจะหันไปกระทำเช่นเดียวกันกับคนเป็นพ่อเป็นแม่ สร้างความประหลาดใจให้แกทุกคน แต่ก็เพียงไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความตกตะลึงเมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด


ปุณณ์มั่นใจไหมว่าเด็กในท้องเป็นลูกของปุณณ์จริงๆ" อาชิเอ่ยถามหลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด

"ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูดปุณณ์ก็ค่อนข้างมั่นใจครับคุณพ่อ"

"เรื่องจะใช่หรือไม่ใช่ ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะพี่อาชิในยุคสมัยที่เทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาแล้ว เราสามารถตรวจดีเอ็นได้ตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์" ชะเอมพูด

"คุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่าครับ ปุณณ์ขอโทษที่สร้างปัญหา ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง ปุณณ์ขอโทษครับ" ปุณณ์ก้มลงกราบแทบเท้าทุกคนอีกครั้ง

"ปุณณ์มาหาย่าลูก ปุณณ์ฟังย่านะ ไม่มีใครผิดหวังในตัวปุณณ์หรอกลูก คนเรามันผิดพลาดกันได้ แต่ต่อจากนี้ไปต่างหากที่ปุณณ์จะต้องใช้ความผิดพลาดครั้งนี้มาเป็นบทเรียนชีวิตของปุณณ์ที่จะไม่พลาดกับเรื่องแบบนี้อีก" พรพระพายลูบศีรษะของหลานชายที่ซบหน้ากับตักของเธอแผ่วเบาอย่างต้องการปลอบประโลม เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนไม่เคยเปลี่ยน

"ปุณณ์ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่นะลูก การที่เด็กคนหนึ่งจะเกิดมามันเป็นเรื่องที่น่ายินดี อย่าคิดว่าเขาเกิดมาเพราะความผิดพลาด ดีเสียอีกปู่กับย่าจะได้มีเหลนตัวเล็กๆ ช่วยให้คลายเหงา เพราะหลานๆก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว" แทนไทพูด

"มีลูกแซงหน้าพี่ได้ไงเนี่ย" บัวเอ่ยกระเซ้าน้องชาย

"เรามาช่วยกันหาทางออกกับเรื่องนี้ดีกว่า ในเมื่อผู้หญิงคนนั่นไม่ต้องการเก็บเด็กไว้" อาชิเอ่ยขึ้น

"ก็ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นต้องการเงิน เราก็แค่ยื่นข้อเสนอด้วยจำนวนเงินที่เยอะกว่าเพื่อให้เธอเก็บเด็กไว้" แทนไทเอ่ย

"พรุ่งนี่บ่ายใช่ไหมที่ต้องให้คำตอบ"

"ครับคุณพ่อ"

"พ่อจัดการเอง พรุ่งนี้บ่ายโมงเราจะไปคุยเรื่องนี้กับครอบครัวของผู้หญิงคนนั้น เราจะทำกันตามลำพังไม่ได้ แล้วต้องทำสัญญาให้เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เรื่องนี้ต้องทำอย่างรอบคอบ" ทุกคนเห็นด้วยกับสิ่งที่อาชิพูด


วันต่อมา


"ปุณณ์บอกคนอื่นด้วยหรอ" นุ่นเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจที่ปุณณ์มาพบเธอพร้อมกับปัณณ์

"ปุณณ์มีข้อเสนอ เราต้องคุยกัน"

"ข้อเสนออะไร ถ้าปุณณ์ไม่บอกนุ่นก็ไม่คุย"

"เธอจะได้เงินมากกว่าหนึ่งล้านแลกกับข้อเสนอบางอย่าง" พอได้ยินว่าจะได้เงินมากกว่าหนึ่งล้าน ดวงตาของนุ่นก็เบิกกว้างเป็นประกายด้วยความโลภ

"ก็ได้ แล้วเราจะไปคุยกันที่ไหน"

"บ้านของเธอ"

"ถ้าไปบ้านนุ่นพ่อแม่นุ่นก็ต้องรู้สิ"

"ใช่ แต่รับรองได้เลยว่ามันเป็นผลดีกับเธอและครอบครัวของเธอแน่นอน ถ้าเทียบกับจำนวนเงินที่ครอบครัวเธอจะได้"

".....ก็ได้" นุ่นคิดใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลง


"ใครมา?" นุ่นเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นรถตู้คันหรูจอดอยู่หน้าบ้านของเธอ แล้วยังมีบอดี้การ์ดยืนเฝ้าอยู่อีกสองคน ก่อนจะเดินนำปุณณ์กับปัณณ์เข้าไปในบ้าน


"มาแล้วหรอนังลูกตัวดี ทำเรื่องงามหน้าจนได้" ทันทีที่เข้ามาในบ้านน้ำเสียงกราดเกรี้ยวของวิภาดา แม่ของนุ่นก็ดังขึ้น นุ่นกวาดสายตามองแขกผู้มาเยือนทั้งหกคนคือแทนไท พรพระพาย อาชิ ชะเอม บัว และธาม

"มานั่งตรงนี้" เจนภพ พ่อของนุ่นเอ่ยบอกลูกสาว

"แม่ นุ่นเจ็บ" นุ่นร้องด้วยความเจ็บเมื่อโดนคนเป็นแม่หยิกเข้าที่แขนทันทีที่เธอนั่งลงข้างๆ

"เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา" อาชิเอ่ยขึ้น

"เชิญพูดมาได้เลย" เจนภพเอ่ย

"จากที่ผมพูดไปแล้วก่อนหน้า ในเมื่อลูกสาวของคุณหรือแม้แต่ตัวพวกคุณทั้งสองไม่ได้ต้องการเด็กในท้อง ทางเราจึงอยากจะยื่นข้อเสนอให้เก็บเด็กคนนี้ไว้ เพื่อแลกกับเงินจำนวนสิบล้านบาท" อาชิเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับยื่นข้อเสนอทันที

"สิบล้าน!" สามคนพ่อแม่ลูกตาโตเอ่ยออกมาพร้อมกันเมื่อได้ยินจำนวนเม็ดเงินที่จะได้ถ้ายอมรับข้อเสนอ เพราะเงินจำนวนนี้สามารถกอบกู้สถานะการธุรกิจของครอบครัวได้อย่างเหลือเฟือ

"ใช่ สิบล้านบาท เงินจำนวนนี้สามารถนำไปพยุงธุรกิจเต้นท์รถมือสองของคุณที่มีปัญหาอยู่ได้อย่างสบาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขของพวกเราเช่นกัน พวกคุณจะได้เงินจำนวนหนึ่งล้านบาทเมื่อพิสูจน์ได้ว่าเด็กคนนี้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของลูกชายผม" อาชิเอ่ย

"ลูกสาวของคุณต้องทำการเจาะน้ำคร่ำเพื่อตรวจดีเอ็นเอ ถ้าใช่ ลูกสาวของคุณต้องอุ้มท้องเด็กคนนี้จนกว่าจะคลอดออกมา วันนั้นพวกคุณจะได้รับเงินที่เหลือจำนวนเก้าล้านบาท แต่พวกคุณจะไม่มีสิทธิ์ในตัวของเด็กคนนี้นับตั้งแต่วินาทีที่คลอดออกมาเช่นกัน" ชะเอมเอ่ย

"ถ้าพวกคุณตกลง และยินยอมรับข้อเสนอ ก็แค่เซนต์สัญญาฉบับนี้ เพื่อความมั่นใจของพวกเราว่าพวกคุณจะไม่มาทวงสิทธิ์ในตัวของเด็กคนนี้ในภายหลัง" อาชิยื่นสัญญาไปต่อหน้าทุกคน

"แต่ครอบครัวของเราต้องทนอับอายไปอีกเจ็ดเดือนเลยนะ" วิภาดาเอ่ย

"พวกคุณจะไปอยู่ที่ใดก็ได้ในระหว่างที่ลูกสาวของคุณอุ้มท้อง เรื่องค่าใช้จ่ายทางเราจะเป็นคนจัดการเอง" อาชิตอบ


ทั้งสามคนมองหน้ากัน เพียงไม่นานก็ตัดสินใจทำตามข้อตกลงและยินยอมเซนต์สัญญาเพื่อแลกกับเงินสิบล้าน


................................

กดไลท์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน๊าาา


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว