EP : 35 จุดจบของหลินปิง
“หลบเร็วๆ” เสียงร้องภายในร้านเหล้าเอ่ยบอกเมื่อมีคนมาหาเรื่องกัน เรื่องเช่นนี้มีบ่อยจนพวกที่มาดื่มเหล้าที่นี่เห็นจนชินตา จนรู้ว่าควรหลบตรงไหนถึงจะมาดูการต่อสู้ได้ถนัดตา
“นั้นใช่ท่านหมอหญิงใช่หรือไม่” ชายคนนั้นเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อดูดีๆ
“ใช่ๆ ว่าทำไมถึงไปหาเรื่องพวกนั้นได้ละ” ชายอีกคนเอ่ยขึ้น
“ไม่รู้สิ แต่ว่าเหมือนข้าได้ยินคนพวกนั้นพูดว่าจะจับผู้หญิงคนหนึ่งไปแถมยังบอกว่าจะจัดการผู้หญิงคนนั้นก่อนจะส่งไปให้เจ้านายตัวเองน่ะ” ชายคนหนึ่งร้องบอกพลางมองไปที่เว่ยลู่เซียนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
ไม่คิดว่านางจะเก่งกาจถึงเพียงนี้ นึกว่าด้านวรยุทธ์นางจะต่ำกว่านี้เสียอีกเพราะเขามองดูระดับลมปราณของนางไม่ได้
“ถ้าให้ข้าเดามันคงต้องการท่านหมอหญิงเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นนางไม่โมโหขนาดนี้หรอก” ชายคนอีกคนเอ่ยบอกพลางมองเว่ยลู่เซียนที่กำลังซ้อมคนพวกนั้นเล่นโดยที่ไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายได้โต้กลับเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมพวกนอกกรีตอย่างพวกเจ้าถึงได้อ่อนแอนักนะ” เว่ยลู่เซียนเอ่ยขึ้นพร้อมกับกระทืบเท้าลงกับอกของชายที่เป็นหัวหน้ากลุ่มไปด้วย
“เจ้าอย่าเพิ่งตายไปละ เพราะข้าจะฝากหัวของมันไปให้เจ้านายของพวกเจ้า” เว่ยลู่เซียนเอ่ยบอกชายหนุ่มที่พยายามดันตัวขึ้นมาเพื่อจะคลานออกจากร้านเหล้าไป
ฉัวะ!!
เว่ยลู่เซียนกล่าวจบก็เอากระบี่ที่หลิ่วหมิงจื่อทำให้ออกมาจากแหวนมิติก่อนจะตวัดกระบี่เบาๆ หัวของหัวหน้ากลุ่มก็หลุดออกทันที
“เอาไป แล้วบอกมันด้วยว่าข้าจะไปหา” เว่ยลู่เซียนเตะหัวไปให้ชายหนุ่มคนนั้นก่อนจะเอ่ยบอก
“ขะ…ขอรับๆ” ชายคนนั้นเอ่ยบอกพลางคว้าหัวของอดีตหัวหน้าของตัวเองไปด้วยก่อนจะคลานออกจากร้านเหล้าไป
“เจ้าของร้านค่าเสียหายก็เก็บเอาจากพวกนี้นะ” เว่ยลู่เซียนเอ่ยบอกเดินไปอุ้มหลงเทียนก่อนจะเดินจากร้านไปทันที
“แล้วจะเก็บอย่างไรละเนี่ย” เจ้าของร้านเอ่ยบอกคนพวกนี้ก็ตายไปหมดแล้ว
“โธ่ เจ้าของร้าน แหวนมิติของพวกมันไงเล่า” ชายผู้เป็นลูกน้องเอ่ยบอกพลางส่ายหน้าไปมา
“ลู่เซียนน้องอยู่ไหน”
เสียงดังจากหินศิลาทำให้เว่ยลู่เซียนชะงักก่อนจะหยิบเอาหินศิลาออกมาแล้วตอบกลับอีกฝ่ายไปด้วย
“น้องเพิ่งออกจากร้านเหล้ามาเจ้าค่ะ” เว่ยลู่เซียนเอ่ยบอกพลางเดินไปตามถนนโบกมือไปมากลิ่นเหล้าที่ติดตัวมาก็หายไปทันที
“ห้ะ! อะไรนะ น้องไปที่นั่นทำไมกัน เดี๋ยวๆ ไม่ๆ น้องรอพี่ตรงนั้นนะ เดี๋ยวพี่ไปรับ” เว่ยเหลียนฉางร้องตะโกนอย่างตกใจเมื่อได้ยินว่าน้องสาวของตัวเองอยู่ร้านเหล้า แถมถ้าหากน้องสาวของเขาดื่มเมื่อไรที่นั่นคงมีเรื่องเป็นแน่ ขออย่าให้น้องสาวของเขาเมาก็พอ
“เจ้าค่ะๆ” เว่ยลู่เซียนเอ่ยตอบพลางเดินไปนั่งที่ก้อนฟางอัดที่วางเอาไว้แถวนี้พอดี
“เหล้ามันแรงกว่าที่คิดแฮะ” เว่ยลู่เซียนเอ่ยบอกพลางเอาโอสถชนิดหนึ่งออกมาดื่มเพื่อให้หายมึนหัว
“นายท่านเราจะไปหาพวกนั้นตอนไหนดีขอรับ” หลงเทียนร้องถามพลางใช้หัวถูกไถกับมือของเว่ยลู่เซียนไปด้วย
“หลังจากพี่ชายข้ากลับไปก่อน” เว่ยลู่เซียนเอ่ยบอกงานนี้นางจะลุยเดี่ยว
“ลู่เซียนน้องเป็นอะไรหรือไม่” เว่ยเหลียนฉางเอ่ยถามทันทีเมื่อเห็นหน้าของน้องสาวตัวเอง
“ไม่เจ้าค่ะ แล้วท่านพี่คนอื่นล่ะเจ้าคะไปไหน” เว่ยลู่เซียนเอ่ยถามพลางขมวดคิ้ว เพราะเพิ่งรู้ว่าหลงฉี่เงียบหายไปนานเกินไป หายไปไหนของเขากัน
“ไปจัดการเรื่องผู้หญิงคนนั้น” เว่ยเหลียนฉางเอ่ยบอกที่เขาไม่ได้ไปด้วยเพราะต้องอยู่ดูแลน้องของเขา
“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” เว่ยลู่เซียนเอ่ยตอบก่อนจะลุกขึ้นแล้วพากันกลับบ้านทันที
“ทีหลังถ้าเจ้าจะไปดื่มต้องมีคนไปด้วยรู้หรือไม่” เว่ยเหลียนฉางเอ่ยบอกเมื่อพากันกลับมาถึงบ้านแล้ว
“เจ้าค่ะ” เว่ยลู่เซียนเอ่ยตอบก่อนจะวางหลงเทียนกับโต๊ะ นางไม่ได้บอกอะไรในเรื่องที่เกิดขึ้นที่ร้านเหล้าที่แต่เดาอีกไม่นานคงมีข่าวลือเป็นแน่
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจให้บอกพี่รู้หรือไม่” เว่ยเหลียนฉางเอ่ยพลางคิดว่าใครมันทำให้น้องสาวของเขาต้องไปอยู่ร้านเหล้า คอยดูเถอะถ้ารู้เมื่อไรข้าจะไปจัดการมันเสียให้สาสม
“เจ้าค่ะ” เว่ยลู่เซียนได้แต่บอกกลับไปแค่นั้น
“น้องรักเจ้ากลับมาแล้วหรือ” เว่ยเฉินเทียนเอ่ยถามพลางเดินไปหาน้องสาวของเขาทันที
“เจ้าค่ะ แล้วเรื่องนั้นเรียบร้อยแล้วหรือเจ้าคะ” เว่ยลู่เซียนเอ่ยตอบก่อนจะถามถึงเรื่องของหลินปิงทันที
“เรียบร้อยแล้วล่ะ” เว่ยหมิงหย่งเอ่ยตอบพลางเดินไปอุ้มหลงเทียนอย่างอดไม่ได้
“แง๊ว!”
“เฮ้อ น่ารักเหมือนลู่เซียนจริงๆ” เว่ยหมิงหย่งมองหลงเทียนก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ไม่เหมือนสักนิดเจ้าค่ะ” เว่ยลู่เซียนมองหลงเทียนก่อนจะเอ่ยแย้งทันที
“แล้วสองคนนั้นไปไหน” เว่ยลู่เซียนที่เพิ่งนึกได้ว่าไม่เห็นสองคนนั้นก็เอ่ยถามทันที
“เห็นบอกว่ามีธุระ” เว่ยเซี่ยวป้อเอ่ยตอบพลางมองท่าทางของเว่ยลู่เซียนไปด้วย หวังว่าน้องสาวของเขาจะไม่คิดอะไรกับหลิ่วหมิงจื่อนะ
“พี่ว่าเราไปทานอาหารกันเถอะ” เว่ยเฉินเทียนเอ่ยบอกทันที
“เจ้าค่ะ” เว่ยลู่เซียนเอ่ยตอบพลางเดินเข้าไปในห้องโถงตามพี่ชายของนางไป
รุ่งเช้ามาถึงเว่ยลู่เซียนที่ลงมาแต่เช้าเนื่องจากดีใจนิดหน่อยเพราะหลงฉี่ที่หายไปนานบอกว่าตามหาดอกบัวสวรรค์เจอแล้วและบอกว่าทางที่จะไปเอาดอกบัวสวรรค์นั้นก็ใกล้กับพวกนอกกรีตพอดี
ส่วนข่าวต่อมาก็คือเรื่องของหลินปิงที่ตอนนี้ถูกขายให้เป็นหญิงขายบริการที่ซ่องในตลาดมืดแล้วและชายคนนั้นก็ถูกฆ่าไปแล้วหลังจากจัดการหลินปิงเสร็จ
และขาวต่อมาก็คือเรื่องของนางที่ไปมีเรื่องกับพวกนอกกรีตนั้นเอง ทำให้นางต้องคิดหาคำอธิบายกับพี่ชายของนางเอาไว้ก่อน
“ลู่เซียนบอกพี่มาให้หมดเลยนะว่าวันเมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เว่ยลู่เซียนมองเว่ยเซี่ยวป้อที่นั่งกอดอกมองมาที่หน้าอยู่ก็ได้แต่ยิ้มแห้งให้กับอีกฝ่าย พลางทำหน้าหงอยไปด้วย
“พวกนั้นจะจับข้าไป เอ่อ ไป ฮื่อ เรื่องเช่นนี้ข้าเป็นหญิงพูดไปมันจะไม่งามเจ้าค่ะ” เว่ยลู่เซียนเอ่ยบอกเพราะตรงนี้ยังมีอีกคนที่นางไม่นึกว่าจะเจอ
“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ” เว่ยเซี่ยวป้อยังคงถามเพราะเขาไม่รู้ว่าอะไรคือเรื่องไม่งาม
“โธ่ ท่านพี่ข้าบอกแล้วว่ามัน…ก็ได้เจ้าค่ะ พวกนั้นบอกว่าจะจับข้าไปทำเมียจากนั้นก็จะส่งตัวไปให้เจ้านายของพวกมัน ข้าได้ยินเข้าก็เลยโมโห เรื่องก็เป็นอย่างที่ท่านพี่ได้ยินมานั่นแหละเจ้าค่ะ” เว่ยลู่เซียนที่กำลังจะบ่ายเบี่ยงแต่พอเจอสายตาของพี่ชายของนางจ้องมาเช่นนั้นก็โกหกไม่ได้
ปัง!!
“บังอาจนัก!!” เว่ยเซี่ยวป้อที่ได้ยินดังนั้นก็ทุบฝ่ามือของตัวเองลงบนโต๊ะอย่างแรงจนมันหักครึ่งพลางลุกขึ้นยืนทันที
“ท่านพี่จะไปไหนหรือเจ้าคะ” เว่ยลู่เซียนเอ่ยถามพลางดึงแขนอีกฝ่ายเอาไว้ ไม่ได้เด็ดขาดนางจะไม่ยอมให้ท่านพี่ของนางไปเป็นแน่
“พี่จะไปฆ่ามัน” เว่ยเซี่ยวป้อเอ่ยบอกพลางดึงมือของน้องสาวตัวเองออกไปด้วยแต่ก็ทำไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้นขอรับทำไมถึงเสียงดัง” เว่ยเฉินเทียนเอ่ยถามทันที
“เจ้ามาก็ดีแล้ว เราจะไปฆ่าพวกนอกกรีตนั้นกัน” เว่ยเซี่ยวป้อหันไปบอกน้องชายตัวเองทันที
ซวยแล้ว
เว่ยลู่เซียนได้แต่คิดอยู่ในใจแผนที่นางวางเอาไว้พังไม่เป็นท่าแล้ว
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว