EP : 23 ช่างทำอาวุธ
“เราจะไปที่โรงประมูลกันเลยใช่หรือไม่ขอรับ” หลิ่วหมิงจื่อเอ่ยถามหลังจากที่เงียบมานาน
“อืม” เว่ยลู่เซียนเอ่ยตอบก่อนจะพากันเดินไปที่โรงประมูลกันทันที
เว่ยลู่เซียนเมื่อเดินไปถึงโรงประมูลก็ส่งบัตรเชิญสีทองให้กับหญิงสาวที่เดินมาต้อนรับพวกนางทันที
“เชิญท่านหมอตามข้ามาเลยเจ้าค่ะ” เมื่อหญิงสาวเห็นบัตรเชิญสีทองก็มีสีหน้ายิ้มแย้มขึ้นมาทันที ก่อนจะกล่าวบอกทั้งสามด้วยท่าทีนอบน้อมอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งสามเดินเข้าไปด้านในก่อนจะขึ้นไปชั้นบนสุด ซึ่งเป็นห้องพิเศษที่มีเพียงสิบห้องเท่านั้น
“พวกท่านจะสั่งอาหารหรือไม่เจ้าคะ” หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อพาทั้งสามมาถึงห้องแล้ว
“อืม จริงสิ ฝากบอกเจ้าของโรงประมูลด้วยว่าสนใจโอสถทะลวงเซียนหรือไม่” เว่ยลู่เซียนบอกเพราะโอสถชนิดนี้ไม่จำเป็นสำหรับนางแล้ว
อีกอย่างที่ตระกูลของนางนั้นอยู่ในระดับเซียนกันหมดแล้วด้วย
“ได้เจ้าค่ะ แล้วท่านต้องการอาหารอะไรบ้างเจ้าคะ” หญิงสาวรับปาก ก่อนจะเอ่ยถามทั้งสาม
“อยากทานอะไรก็สั่ง” เว่ยลู่เซียนเอ่ยบอกเมื่อเห็นสายตาของหลิ่วหมิงจื่อที่มองเมนูอาหารด้วยตาเป็นประกาย
“เอาอาหารที่ขึ้นชื่อของโรงประมูลมาทั้งหมดเลยขอรับ แล้วก็น้ำชาหนึ่งกาขอรับ” หลิ่วหมิงจื่อเอ่ยบอก
“รอสักครู่เจ้าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนจะเดินออกจากห้องไปทันที
“ขออนุญาตขอรับท่านหมอ”
“เข้ามาสิ” เมื่อได้ยินเสียงด้านนอกเว่ยลู่เซียนก็กล่าวบอกทันที
ชายวัยกลางคนสองคนเดินเข้ามาในห้องทันทีเมื่อได้รับอนุญาต
“พวกเรายินดีอย่างยิ่งที่ท่านหมอต้องการจะนำโอสถทะลวงเซียนลงประมูลกับทางโรงประมูลของพวกข้า นี่คือสัญญาขอรับ” ชายวัยกลางคนเอ่ยบอกพลางส่งหนังสือสัญญาให้กับหญิงสาวไปด้วย
“อืม ข้าลงประมูลสามขวด” เว่ยลู่เซียนกล่าวบอกอันที่จริงยังมีอยู่อีกมากแต่ทยอยเอามาประมูลจะดีกว่าปล่อยของไปที่เดียวมันจะทำให้ราคาตกลง
“ขอรับ เนื่องจากความบริสุทธิ์เต็มสิบทางเราจะให้เริ่มต้นการประมูลที่ขวดละหนึ่งแสนเหรียญทองขอรับ” ชายวัยกลางคนอีกคนเอ่ยบอกอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมากเพื่อที่จะไม่ให้หญิงสาวรู้สึกไม่พอใจ
“อืม เป็นการตัดสินใจที่ดี” เว่ยลู่เซียนกล่าวเพราะการที่จะทำโอสถทะลวงเซียนได้นั้นส่วนประกอบมันหายากทั้งนั้นสำหรับคนอื่นแต่ยกเว้นสำหรับนางที่หามันได้มาอย่างง่ายดาย
แต่มันก็คุ้มเมื่อเรามาอยู่ในระดับเซียนได้ เพราะถ้ามาอยู่ในระดับเซียนใบหน้าของเราจะถูกหยุดเอาไว้นะช่วงนั้นอีกด้วย ไม่มีอะไรที่มันจะคุ้มกับสิ่งที่ต้องเสียเงินไปมากมายกว่านี้อีกแล้ว
ไม่มีหญิงสาวคนไหนที่จะไม่อยากดูดีตลอดเวลาหรอกนะ การที่เรามีใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นถือว่าดีอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงอย่างเราๆ ขนาดท่านแม่ของนางยังเหมือนหญิงอายุสิบปีต้นๆ เลย
“งั้นพวกข้าขอตัวก่อนนะขอรับ ถ้าท่านหมออยากได้อะไรเป็นพิเศษบอกนางได้เลยขอรับ พวกข้าจะกันเอาไว้ให้” ชายวัยกลางคนกล่าวบอกยิ้มๆ เนื่องจากได้ของดีมา
งานนี้โรงประมูลของเขาได้เดือดแน่ สงสัยต้องไปปล่อยข่าวก่อน
“วันนี้ใครที่มาที่นี่ถือว่าโชคดีมากๆ เลยเจ้าค่ะ เพราะว่าวันนี้เรามีของดีๆ มากมายให้ทุกท่านมาประมูลกันที่นี่ และของสิ่งแรกที่จะนำมาประมูลนั้นก็คือดาบเพลิงแสงระดับราชันย์ขั้นปลาย ในราคาสี่หมื่นเหรียญทองขอรับ”
“ห้าหมื่นเหรียญทอง”
“หกหมื่นเหรียญทอง”
“แปดหมื่นเหรียญทอง”
เว่ยลู่เซียนนั่งจิบน้ำชาไปพลางมองเบื้องล่างไปด้วยสายตาเรียบนิ่ง หลงฉี่บอกว่ามีของดีอยู่ มันคือดอกบัวสวรรค์อายุยี่สิบปีบอกว่าถ้าหากนางประมูลมาได้นั้นหลงฉี่สามารถหาต้นกำเนิดของดอกบัวสวรรค์อื่นๆ ได้อีกด้วย มันทำให้นางรู้สึกได้กลิ่นเงินลอยมาอย่างไรก็ไม่รู้
“เจ้าไม่สนใจสิ่งใดเลยหรือ” ชายชรากล่าวถามเมื่อเห็นหญิงสาวยังคงนิ่งไม่มีท่าทีจะร่วมประมูลด้วย
“ยังไม่มีอะไรน่าสนใจเจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบพลางมองชายชราที่ปั่นหัวคนพวกนั้นด้วยการปั่นราคาให้ของประมูลสูงขึ้นอีก
จนบางครั้งนางก็แอบคิดว่าชายชราอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงประมูลแห่งนี้ก็ได้เห็นช่วยปั่นราคาให้โรงประมูลทุกครั้ง
“คนพวกนี้มีเงินเยอะจริงๆ หรือว่าข้าจะเอาอาวุธของข้ามาขายบ้างดีนะ” หลิ่วหมิงจื่อกล่าวพลางนั่งทานอาหารไปด้วย
“ร้อนเงินหรือไง” เว่ยลู่เซียนเอ่ยถามนางลืมไปเลยว่าหลิ่วหมิงจื่อถูกชายชราขูดรีดเงินไปเกือบหมดถุง
“ตอนนี้ข้ายังถังแตกไม่แน่ถ้าเอาอาวุธของข้าออกมาประมูลข้าอาจจะเป็นคนรวยขึ้นมาทันทีก็ได้ นี่ข้าจะเอาอาวุธระดับเซียนขั้นต้นและก็ระดับจักรพรรดิขั้นกลางลงประมูลด้วยจะได้หรือไม่” หลิ่วหมิงจื่อเอ่ยกับเว่ยลู่เซียนพลางหันไปถามหญิงสาวที่ยืนอยู่มุมห้องอย่างเงียบๆ
“ได้เจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าไปตามนายท่านมาให้นะเจ้าคะ” หญิงสาวตอบก่อนจะเอ่ยบอกอีกฝ่ายแล้วเดินออกไปทันทีอย่างรีบเร่ง
“ขออนุญาตขอรับ”
ยังไม่ทันที่จะหายใจเข้าปอดดีก็มีเสียงร้องอยู่หน้าประตูห้องเสียแล้ว ฟังจากน้ำเสียงดูก็รู้เลยว่ารีบมาขนาดไหน
“เข้ามาสิๆ” หลิ่วหมิงจื่อกล่าวพลางเอาดาบสายฟ้าและดาบวารีของตัวเองออกมาทันที
อย่าถามว่าเขาได้มาจากไหน มันคือของที่เขาเป็นคนสร้างขึ้นมาเองกับมือ สิ่งที่เขาถนัดที่สุดก็คือการสร้างอาวุธนั่นเอง
“นั้นชื่อของเจ้านี่” ชายชราเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นชื่อที่ปอกของดาบทั้งสอง
“อ่า ข้ายังไม่ได้บอกพวกท่านสินะ พอดีข้าเป็นช่างทำอาวุธน่ะ” หลิ่วหมิงจื่อเอ่ยบอก แต่ไม่ได้บอกไปทั้งหมด ปอกดาบนี้เขาคงให้ไม่ได้นั้นเป็นเพราะว่าหากคนพวกนั้นอยู่ที่นี่คงรับรู้ถึงตัวตนของเขาเป็นแน่
“เอ่อนี่สัญญาขอรับ ดาบสายฟ้าระดับเซียนขั้นต้นเล่มละเก้าหมื่นเหรียญทองขอรับส่วนดาบวารีระดับจักรพรรดิขั้นกลางข้าให้เจ็ดหมื่นเหรียญทองขอรับ” ชายวัยกลางคนเอ่ยบอกพลางคิดว่าวันนี้เขาโชคดีเกินไปแล้ว
“ตกลง” หลิ่วหมิงจื่อเมื่ออ่านสัญญาพลางฟังอีกฝ่ายกล่าวบอกตัวเองไปด้วย ก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับลงชื่อของตัวเองไปด้วย
“งั้นข้าขอตัวก่อนนะขอรับ” ชายวัยกลางคนเอ่ยบอกพร้อมกับเก็บดาบทั้งสองเอาไว้ในแหวนมิติอย่างดี
พลางรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ปอกดาบมาด้วย ถ้าได้มาคงได้ขึ้นราคาให้อีกฝ่ายไปด้วย เพียงเห็นแค่ปอกดาบก็ทำให้ดูดีขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ
“สงสัยเจ้าคงต้องย้ายออกจากบ้านของข้าได้แล้วสินะ” เว่ยลู่เซียนกล่าวขึ้นอย่างอดไม่ได้ เมื่ออีกฝ่ายดูจะมีเงินขึ้นมาแล้ว
“อะไรกัน ท่านหาเรื่องไล่ข้าออกจากบ้านอยู่เรื่อยเลย” หลิ่วหมิงจื่ออดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น
“ถ้าเจ้าทำอาวุธให้ข้าสักชิ้นสองชิ้นข้าจะให้เจ้าอยู่ด้วยก็แล้วกัน” เว่ยลู่เซียนกล่าวยิ้มๆ พลางคิดว่าอยากถือกระบี่สักเล่มสองเล่ม อันที่จริงถือไปงั้นแหละ ไม่ได้จะเอาไปสู้กับใครหรอก
“สำหรับท่านหมอลู่เซียนร้อยชิ้นข้าก็ทำให้ได้ขอรับ” หลิ่วหมิงจื่อรีบเอ่ยบอกทันทีเพราะกลัวอีกฝ่ายไล่ออกจากบ้าน
“ห้ามคืนคำเล่า” เว่ยลู่เซียนเอ่ยขึ้นพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ทันทีเมื่ออีกฝ่ายกล่าวออกมาเช่นนั้น
“เอ่อ ได้อยู่แล้วขอรับ” หลิ่วหมิงจื่อเอ่ยตอบพลางแอบปาดเหงื่อไปด้วย ไม่น่าพูดออกไปเลย
เขาคงต้องออกไปหาส่วนประกอบและขอพื้นที่นางสร้างที่เอาไว้สำหรับสร้างอาวุธแล้วล่ะ
“เจ้ามันเจ้าเล่ห์กว่าที่ข้าคิดเสียอีก” ชายชรากล่าวขึ้นอย่างอดไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีของเว่ยลู่เซียน
ท่านตาก็ไม่น่าจะต่างจากข้าเท่าไรหรอก” เว่ยลู่เซียนตอบกลับอีกฝ่ายที่ว่านาง
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่