Dear Murderer จดหมายถึงนายฆาตกร-Chapter 3: จุดเชื่อมโยง

โดย  YoungYoung

Dear Murderer จดหมายถึงนายฆาตกร

Chapter 3: จุดเชื่อมโยง

ลดากึ่งหลับกึ่งตื่น เธอรู้สึกได้ว่าเธอคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก ลมหายใจของเธอแผ่วเบาลงทุกที เธอยังมีเรื่องที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำอีกมากมาย

ป่านนี้ไม่รู้ชายคนรักของเธอจะร้อนรน ออกค้นหาเธอจนทั่วบ้างหรือเปล่า ? หากเธอรอดกลับไปได้แล้วเขารู้ว่าเธอเหลือขาเพียงข้างเดียว เขาจะยังรักเธออยู่หรือไม่ ?

ลดาเพิ่งเริ่มตัดสินใจคบหากับชายหนุ่มได้เพียงแค่อาทิตย์กว่า ๆ เขาคงจะตัดสินใจทิ้งเธอไปอย่างง่ายดายหากเขาได้รับเธอกลับไปในสภาพที่ไม่สมบูรณ์แบบเช่นนี้

ในขณะที่เธอกำลังคิดถึงภาพชายคนรักอยู่ในห้วงสำนึกนั้น พลันเสียงฝีเท้าหนักก็ดังขึ้นมา เสียงน้ำหนักเท้าที่เธอคุ้นชิน เพราะในช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมานี้ เสียงนั้นเป็นเพียงเสียงเดียวที่เธอได้ยิน

“ตึก... ตึก... ตึก...”

เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แต่วันนี้เสียงผิดแผกไปเล็กน้อยเพราะดูเหมือนจะมีเสียงลากสิ่งของบางอย่างมาด้วย

“ครืด....”

เสียงลากสิ่งของตามหลังเสียงฝีเท้าหนักแน่น ใกล้เข้ามาทุกขณะ สักครู่ประตูห้องก็เปิดออก ลดาปรือตามองไปเบื้องหน้า

เช่นเคย... เธอไม่เห็นอะไรเด่นชัดนักเนื่องจากแสงในห้องสลัวเหลือเกิน

ร่างใหญ่ลากของเข้ามา เหมือนจะเป็นของที่ไม่หนักมากนัก แต่มีขนาดใหญ่ เมื่อสายตาของลดาปรับเข้ากับแสงที่ลอดเข้ามาทางประตูได้ เปลือกตาที่เผยอขึ้นน้อย ๆ ก็เปิดโอกาสให้หญิงสาวมองเห็นของสิ่งนั้นได้อย่างเลือนราง

...ถังน้ำขนาดใหญ่... ใหญ่กว่าตัวของลดาเสียอีก...



ร้อยชั่งเดินนำหน้าแขกทั้งสองคนของเธอไปยังลิฟต์ส่วนตัว อิงฟ้าเดินตามหญิงสาวไปเหมือนคุ้นชินเส้นทาง คมกริบมองก็พอดูออกว่าอิงฟ้าน่าจะเคยทำงานร่วมกับร้อยชั่งมาหลายครั้งแล้ว

“ลิฟต์ตัวนี้เป็นลิฟต์สำหรับใช้ไปห้องเพนท์เฮ้าส์ไม่ใช่หรือครับ ?” คมกริบถามขึ้นอย่างแปลกใจ ในขณะที่ร้อยชั่งกำลังแตะบัตรให้ลิฟต์ทำงาน หญิงสาวกดหมายเลขชั้น ‘9’ ซ้ำกัน 3 ครั้ง จากนั้นตามด้วย ‘2’ และ ‘3’ ไม่เหมือนเป็นการกดเลขชั้น เหมือนเป็นการกดรหัสลับเสียมากกว่า

“อ้อ... สำนักงานของเราอยู่ชั้นพิเศษ คนข้างนอกแทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มีสำนักงานของ Finding M อยู่ เลยใช้ลิฟต์ร่วมกับเพนท์เฮ้าส์ได้น่ะค่ะ” ร้อยชั่งตอบยิ้ม ๆ เหมือนภูมิใจในสถานที่ทำงานของตน

คมกริบรับฟังด้วยความทึ่งเล็กน้อย เพนท์เฮ้าส์ที่คอนโดแห่งนี้ราคามิใช่น้อย ใช่ว่าใครจะเป็นเจ้าของครอบครองได้ หากมีชั้นพิเศษอยู่จริง ค่าเช่าสำนักงานก็น่าจะราคาไม่เบา Finindg M เป็นองค์กรแบบไหนกันแน่ ? ชายหนุ่มอดสงสัยไม่ได้

ไม่นานนักประตูลิฟต์ก็เปิดออก คมกริบมองเข้าไปในห้องอย่างตกตะลึง ห้องสี่เหลี่ยมขนาดกว้างใหญ่ ซึ่งตัวเขาคิดว่าน่าจะเป็นห้องใต้ดิน เพราะภายในห้องไม่มีหน้าต่างให้แสงสว่างเลยซักบาน ห้องมีความกว้างกว่าร้อยตารางเมตรเห็นจะได้ มีเครื่องมือครบครันอยู่ในห้อง รวมถึงมุมสันทนาการที่มีอุปกรณ์กีฬาอยู่ด้วย ช่างเป็นสำนักงานที่แปลกใหม่เสียจริง

“เชน ! พี่กาย ! พวกตำรวจมาถึงแล้ว !” ร้อยชั่งตะโกนบอกชายหนุ่มสองคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะประชุม ชายร่างกำยำ หุ่นเหมือนหมี กำลังสาละวนกับกองเอกสาร ส่วนเด็กหนุ่มหน้าตาดีแต่ซีดเซียวก็กำลังขะมักเขม้นอยู่กับคอมพิวเตอร์แลปทอปเบื้องหน้า

เมื่อได้ยินเสียงหญิงสาว ทั้งสองหนุ่มก็หยุดมือสิ่งที่กำลังทำอยู่ หันหน้าไปมองคมกริบและอิงฟ้าพร้อมกัน

“ไม่เจอกันนานเลยนะพี่อิง !” เช่นชนกทักทายอิงฟ้า ส่วนกายพยักหน้าให้เป็นการทักทาย อิงฟ้าโบกมือน้อย ๆ ตอบเป็นการทักทายจากเบื้องหลังของคมกริบ

“นี่สารวัตรคมกริบ เลิศอิทธิพล สารวัตรสืบสวนคนใหม่ที่เพิ่งมารับตำแหน่งที่สถานี SS” ร้อยชั่งแนะนำ

“สวัสดีครับสารวัตร” เช่นชนกเอ่ยทักทาย กายยกมือโบกขึ้นเล็กน้อยเป็นการทักทาย

“สวัสดีครับคุณ... ?” คมกริบเอ่ยทักทายแล้วทิ้งท้ายเสียงสูงเหมือนจะถามชื่อ

“ผู้ชายตัวใหญ่ชื่อพี่กายค่ะ เป็นเหมือนสายสืบลับของทีมเรา ส่วนเด็กผู้ชายคนนั้นชื่อเช่นชนก เรียกเชนก็ได้ค่ะ เป็นน้องชายฉัน และแฮกเกอร์ของทีมเรา ส่วนฉัน... เมื่อกี้ลืมแนะนำตัวไปเลย... ฉันชื่อร้อยชั่งค่ะ เป็นหัวหน้าทีม Finding M” ร้อยชั่งแนะนำทุกคนในทีม

“พวกคุณมีกันอยู่แค่ 3 คน ? !” คมกริบถามอย่างตกใจ เขาคิดว่า Finding M ที่ผู้กำกับแนะนำมาจะเป็นองค์กรใหญ่โตกว่านี้เสียอีก

“แค่ 3 คนก็มากเกินพอแล้วค่ะ” ร้อยชั่งกล่าว รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปากของหญิงสาว

ร้อยชั่งเดินนำหน้าคมกริบและอิงฟ้าไปยังโต๊ะประชุม หญิงสาวเปิดจอจอสมาร์ทบอร์ดขึ้นมาทันที บนจอจอสมาร์ทบอร์ดมีข้อมูลที่พิมพ์ไว้ทั้งหมดล่วงหน้าปรากฏอยู่

“นาวสาวลดา สุกสังข์ อายุ 26 ปี พนักงานธุรการธรรมดา ๆ คนหนึ่งได้หายตัวไปรวมวันนี้ก็วันที่ 8 แล้ว เธอพักอาศัยอยู่คนเดียวในคอนโดเล็ก ๆ แห่งหนึ่งใกล้สถานีรถไฟฟ้า คาดว่าเวลาที่หายตัวไปคือช่วง 6 โมงเย็น ถึงหนึ่งทุ่ม เนื่องจากมีเพื่อนติดต่อเธอไปช่วง 6 โมงเย็น และเธอยังส่งข้อความกลับมาอยู่ แต่สัญญาณมือถือของเธอจับได้ครั้งสุดท้ายห่างจากคอนโด 200 เมตร ตอนหนึ่งทุ่มสองนาที ตรงบริเวณนั้นเมื่อเข้าไปตรวจดูแล้วมีรอยเท้าของผู้หญิงที่คาดว่าเป็นของลดา และรอยเท้าของผู้ชายค่อนข้างใหญ่อยู่ จากนั้นมีรอยล้อรถยนต์ปะปนวุ่นวายไปหมด ทำให้ทางตำรวจไม่สามารถวิเคราะห์ออกมาได้ว่าหญิงสาวถูกลักพาตัวไปด้วยรถอะไร รุ่งเช้าวันถัดมาแฟนหนุ่มของเธอติดต่อเธอไม่ได้ แถมไปหาที่ทำงานก็ไม่เจอ ไปตามที่คอนโดก็ไม่เจอ รอจนตกเย็นก็ยังติดต่อไม่ได้จึงตัดสินใจแจ้งตำรวจ กล้องวงจรปิดจับภาพเธอครั้งสุดท้ายได้ตอนเดินออกจากสถานีรถไฟฟ้าใกล้คอนโด” ร้อยชั่งเลื่อนข้อมูลในจอจอสมาร์ทบอร์ดไปเรื่อย ๆ คมกริบนั่งฟังอยู่ก็ยกเอกสารที่ให้อิงฟ้านำมาจากโรงพักวางไว้บนโต๊ะประชุม แล้วดันไปทางร้อยชั่ง

“นี่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับคดีของทางตำรวจ” ชายหนุ่มกล่าว

ร้อยชั่งหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดูเร็ว ๆ แล้วถอนหายใจ

“เฮ้อ ! ข้อมูลพวกนี้ช่วยอะไรเราได้ไม่มากจริง ๆ ค่ะ ทีนี้มาดูข้อมูลของทางเราบ้าง...” ร้อยชั่งกล่าวพร้อมเลื่อนจอสมาร์ทบอร์ดไปยังหน้าถัดไป

“นี่เป็นข้อมูลทางแอปพลิเคชั่นส่งข้อความยืนยันว่าลดาได้เริ่มคบหากับแฟนเมื่อประมาณหนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้านี้...” ร้อยชั่งอธิบาย

“นี่มันผิดกฎหมายนะคุณ ! คุณไปเอาข้อความนี้มาได้อย่างไร ? !” คมกริบถามอย่างตกใจ

“เรายังไม่ได้เริ่มแฮกข้อมูลจนกว่าทางตำรวจจะติดต่อมาขอคำปรึกษานะคะ อย่าลืมว่าพวกคุณเป็นคนมาขอคำปรึกษาก่อน” ร้อยชั่งกล่าว คมกริบจึงนิ่งเงียบเสีย อิงฟ้าสะกิดคมกริบเบา ๆ

“เชื่อใจ Finding M เถอะค่ะ สารวัตร พวกเขาทำเรื่องพวกนี้จนชินแล้ว” อิงฟ้ากระซิบบอกแผ่วเบา

“”ต่อนะคะ... ตรงนี้เป็นจุดสำคัญ เราพยายามจะหาว่าลดาและเหยื่ออีกสองคนที่หายตัวไปก่อนหน้านี้มีจุดเชื่อมโยงกันอย่างไร ทั้งสามคนทำงานคนละที่ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่... ก่อนหน้าที่ทุกคนจะหายตัวไป ทุกคนมีสิ่งที่เหมือนกันคือ... พวกเขาเพิ่งเริ่มคบหากับแฟนหนุ่มคนใหม่...” ร้อยชั่งกล่าว

คมกริบได้ฟังก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เขาหาจุดเชื่อมโยงของคดีคนหายทั้ง 3 คนมาเนิ่นนาน แต่กลับไม่เคยคิดถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้เลย

“ที่สำคัญ จากข้อมูลที่พี่กายไปสอบถามคนรอบข้างของหญิงสาวทั้งสามคนปรากฏว่าแฟนของทุกคนอยู่ในฐานะที่ดี ในขณะที่หญิงสาวทั้งสามเป็นคนฐานะค่อนข้างยากจน พูดง่าย ๆ ก็คือทุกคนมองว่าพวกเธอคือซินเดอเรลล่านั่นเอง” ร้อยชั่งสรุป

“ตอนนี้เราพอจะสันนิษฐานได้แล้วว่าหญิงสาวทั้งสามคนมีจุดเชื่อมโยงตรงไหน ทีนี้เราต้องมาดูกันแล้วว่าใครทำให้พวกเธอหายไป” ร้อยชั่งกล่าวต่อแล้วเลื่อนจอสมาร์ทบอร์ดไปยังหน้าต่อไป

“นี่คือบุคคลต้องสงสัยทั้งหมดที่เราสืบทราบมาได้ ลักษณะของคนร้ายต้องเป็นคนร่างกายกำยำพอควร ถึงจะลักพาตัวหญิงสาวร่างบางทั้งสามคนได้โดยไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือลากถู ฉะนั้นเราจะโฟกัสไปที่ชายร่างใหญ่ ลดา เหยื่อที่สูญหายรายล่าสุดสูง 168 หนัก 53 กิโลกรัม ชายที่ลักพาตัวเธอได้ต้องมีขนาดตัวสูงใหญ่กว่าเธอพอประมาณ ฉะนั้นคนร้ายต้องสูงประมาณ 180 ขึ้นไป ร่างใหญ่หนา... ที่สำคัญต้องเคยเจอเหยื่อทั้ง 3 คนมาก่อน หรือมีวิธีรู้ทางใดทางหนึ่งว่าเหยื่อเพิ่งมีแฟนใหม่” ร้อยชั่งกล่าวพลางชี้ไปที่จอสมาร์ทบอร์ด

“จากเมื่อคืนถึงตอนนี้เราตัดผู้ต้องสงสัยเหลือเพียงแค่ 50 คน ตอนนี้ทั้งทางฝ่ายตำรวจและ Finding M ต้องตัดตัวเลือกให้เหลือน้อยกว่านั้น และค้นหาว่าลดาอยู่ที่ไหนด้วย เพราะตอนนี้เธอก็อาจจะยังมีชีวิตอยู่” ร้อยชั่งพูดกึ่งออกคำสั่ง

“แต่ตอนนี้เราควรพักเบรกกันก่อนไหม ?” คมกริบยกนาฬิกาขึ้นมาดู เห็นเวลาล่วงไปเกือบเที่ยงแล้วจึงกล่าวขึ้น

“ในเวลาแค่เดือนครึ่ง มีเหยื่อหายไปแล้ว 3 ราย เฉลี่ย 1 รายทุก 15 วัน ลดาหายไปแล้ว 8 วัน คุณคิดว่าตอนนี้คนร้ายกำลังจะเล็งเหยื่อรายใหม่อยู่หรือเปล่าคะ ? ทุกนาทีที่คุณยังหาตัวลดาไม่เจอ นั่นก็หมายความว่าโอกาสรอดชีวิตของเธอมีน้อยลงไปทุกที... คุณยังอยากจะพักอีกไหมคะ ?” ร้อยชั่งตั้งคำถาม แต่สีหน้ากลับไม่เคร่งเครียด แถมมีรอยยิ้มเหยาะหยันผุดขึ้นที่มุมปากอีก

คมกริบจ้องหญิงสาวอย่างหมั่นไส้แต่ก็ไม่ว่ากระไร หยิบเอกสารเกี่ยวกับคนร้ายเบื้องหน้ามาพลิกดูทีละแผ่นแทน

“พี่ชั่ง ! ผมจับสัญญาณมือถือของลดาได้ !” เช่นชนกตะโกนบอกพี่สาว

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว