อุบายหมายจันทร์-20.เหยื่อเนื้อหวาน (2)

โดย  รสิตา เพียงพิณ

อุบายหมายจันทร์

20.เหยื่อเนื้อหวาน (2)

“พี่วิตขอให้นายเข้าไปเซ็นงบเบิกจ่ายเดือนหน้าภายในวันนี้ครับ”

“เออ”

ใบหน้าหล่อคมเข้มมีสีหน้าหงุดหงิดขณะเดินตรวจคนงานฉีดอาหารเสริมทางใบให้กับต้นองุ่น เขาฟังจากสาวิตมาหลายรอบแล้วเพราะตั้งแต่ต้นอาทิตย์มายังไม่ได้เข้าไปสำนักงานสักวัน เขากินข้าวกลางวันที่โรงอาหารกับเบิร์ด เป็นเรื่องปกติที่อีกฝ่ายมักจะต้องเตือนหลังจากเซ็นเอกสารค้างไว้หลายงานแล้วเขายังไม่เซ็นอนุมัติต่อ หากต้องลงงานในไร่ติดกันหลายวัน

จามิกรชอบงานในไร่ แม้แต่ปลูกต้นไม้ดอกไม้ตัดแต่งต้นไม้ในไร่เขาก็เป็นคนดูแลเอง ส่วนงานดูแลต้อนรับนักท่องเที่ยวกับผู้เข้าพักให้สาวิตเป็นคนจัดการ หากไม่ใช่คนในไร่น้อยคนที่เขาเดินผ่านจะรู้ว่าจามิกรคือเจ้าของไร่ แถมเวลาต้องออกงานหรือออกร้านต่างๆ เขาก็ยังให้สาวิตไปกับมารดาของตนมากกว่าจะไปเองเพราะไม่ชอบการปั้นหน้าเข้าหากัน

“ใกล้เที่ยงแล้วผมว่านายไปเลยดีไหมครับ ผมจะโทรไปบอกแม่ให้คนเอาข้าวไปส่งที่สำนักงาน”

“วะไอ้นี่ แกพูดเรื่องนี้กับฉันตั้งแต่เห็นหน้าตอนเช้าแล้วนะ ฉันไม่ได้ความจำเสื่อม”

“ผมแค่เสนอ”

เบิร์ดบอกเสียงอุบอิบ หน้าแหยเมื่อถูกดุ แต่ไม่ได้กลัวเพราะเขามักจะถูกดุหรือเตะจากนายบ่อยๆ อยู่แล้ว

“จริงๆ ผมคิดว่านายน่าจะกินข้าวที่สำนักงานทุกวันนะครับ ผมเองยังอยากไปกินที่นั่นเลย”

“ทำไม”

จามิกรยอมเดินกลับไปยังรถขณะถามอย่างแปลกใจ

“ก็เห็นหน้าหวานๆ ของคุณบัญชีคนสวยทุกวัน เจริญอาหารดีออกนี่ครับนาย”

เบิร์ดทำท่าเคลิ้มพร้อมพูด ทว่าคนเป็นนายชะงักกึกก่อนเอ่ย

“ก็เอาสิ”

คำบอกของนายหนุ่มทำเอาลูกน้องคนสนิทอึ้งไปเลยเพราะคิดว่าตนอาจถูกด่าเสียอีก

“เอ่อ โธ่นาย ผมก็แค่เปรียบเปรย”

“นึกว่าชอบเขาจริงๆ เสียอีก”

“ก็ชอบครับ”

คิ้วเข้มของจามิกรขยับสูงขึ้นเบิร์ดจึงรีบโบกไม้โบกมือ

“ผมหมายถึง คนสวยๆ ใครก็ชอบมองน่ะนาย”

ชายหนุ่มยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนักกับคำพูดของลูกน้อง เขาถามย้ำหลังจากปลดล็อกรถ

“ตกลงจะไปกินข้าวด้วยกันไหม”

เบิร์ดส่ายหน้าหวือ แม้เจ้านายจะไม่ถือและกินข้าวกับเขาที่โรงอาหารก็บ่อย แต่เขาไม่อยากทำตัวเสมอนาย อยากเป็นคนงานในไร่ธรรมดาเหมือนคนอื่น ไม่ได้ต้องการอภิสิทธิ์ใดๆ และเขาก็แค่ชวนคุยให้นายหนุ่มของตนคลายอารมณ์ขุ่นเพียงเท่านั้น

จามิกรรู้ว่าทั่วทั้งไร่เขาพูดถึงบัญชีคนใหม่ ผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้าก็อยากเห็น ส่วนผู้หญิงก็ซุบซิบกัน ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจเท่าไรนักเพราะมารดาของเขาเองก็ไม่ได้ซักไซ้หรือเอ่ยถามอย่างสงสัย แม้ป้าอุ่นจะมาที่สำนักงานบ่อยขึ้นราวจับผิดแต่ท่านก็คุยกับตมิสาปกติ ทว่าคนที่ออกตัวแรงว่าไม่ถูกชะตากับหญิงสาวกลับเป็นน้องสาวของเขา

หากเจ้าตัวก็ไม่เคยหลุดว่าเพราะอะไรถึงไม่ชอบตมิสา

=========

สุนัขตัวน้อยปอมเมอเรเนียนที่ถูกผูกเอาไว้ตรงพื้นหน้าชานระเบียงเล็กๆ ของสำนักงานนั่งเงียบหงอยเหงา ตมิสาออกมายืดเส้นยืดสายหลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จมันก็หันมองแล้วลุกขึ้นจะเดินตาม ทว่าเธอชะงักมันก็ชะงัก

ไม่ใช่ไม่ชอบ เธออยากอุ้มมัน เล่นกับมันอยู่หรอก แต่เพราะแพ้ขนไม่มีหน้ากากใส่ หญิงสาวจึงไม่ได้ลูบหรือแตะต้องทั้งที่มันออกจะน่ารัก อย่างเจ้าแมกซ์สุนัขของพี่ชาย เธอก็ใส่หน้ากากขณะที่มันอยู่ใกล้หรือเข้ามาเล่นด้วย แต่มันค่อนข้างตัวโตกระโจนหรือตะกุยทีเธอต้องอาบน้ำใหม่หลังจากนั้นเลยทีเดียว

ร่างเล็กยืนกอดอกมองจ้องตากับลูกหมาตัวน้อยด้วยความสงสาร เพราะคิดว่ามันคงเหงา เด็กที่มาส่งอาหารให้นายของไร่เอามันมาด้วยแล้วฝากไว้ก่อนทั้งคู่จะขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปข้างนอก บอกว่าจะไปซื้อของไม่นานแล้วจะรีบกลับมา

ตมิสาสังเกตเห็นว่าจุดที่หมาน้อยนั่งอยู่นั้นใกล้ส่วนที่มีแถวมดเดินเป็นทางยาว เธอกลัวว่ามันจะขยับไปตรงจุดนั้นจนถูกมดกัดจึงมองหาส่วนที่จะผูกใหม่ ทว่าเมื่อโน้มไปใกล้มันก็ลุกขึ้นเห่าเบาๆ หญิงสาวไม่คิดอะไรมากหากก็พูดกับมัน

“ไม่ต้องกลัว พี่จะพาย้ายที่นิดเดียว”

เจ้าตัวเล็กนิ่งไปราวคุยรู้เรื่อง ตมิสากลั้นหายใจพยายามเอื้อมไปแก้ปมเชือกจูงของมันที่ราวระเบียงส่วนล่าง มันก็เดินหนีไปจุดที่มีมด ทำเอาเธอตกใจผวาเข้าไปใกล้ มันเองก็ตกใจเธอเช่นกันเพราะไม่คุ้นเคย เห่าเธอเสียงดังขึ้นทั้งกระโจนหนี ปมเชือกคลายออกแล้วทำให้สุนัขตัวน้อยวิ่งหลุดไปจากอาคารสำนักงาน

“เดี๋ยว...อย่าไป”

ตมิสารีบก้าวตามมันโดยเร็ว ตัวมันเองก็คงกลัวคิดว่าเธอไล่กวด

“ตัวเล็ก อย่าไป...เฮ้ย!”

รถคันโตกำลังแล่นเข้ามาส่วนหน้าสำนักงาน ตมิสารีบผวาพรวดกระโดดไล่สุนัขตัวน้อย มันก็ยิ่งกระโจนไปมากกว่าเดิม ร่างของหญิงสาวทิ้งตัวล้มลงไปมือคว้าร่างน้อยจับมาแนบอก

เอ๋งๆ แง่ม!

“โอ๊ย...”

เอี๊ยด!!

เสียงรถเบรกกะทันหันเมื่ออยู่ๆ ร่างเล็กบอบบางก็โผล่พรวดมาขวางหน้ารถเขาในระยะสองสามเมตรก่อนจะล้มลงไป

ร่างสูงใหญ่ของจามิกรลงจากรถด้วยความโมโห เขามั่นใจว่าไม่ได้ชนคน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงหาเรื่องตายทั้งที่เพิ่งรอดจากอันตรายมาแค่สองเดือน

“กระโดดพรวดมาหารถแบบนี้ ไม่อยากทำงานที่นี่แล้วหรือไง...”

เสียงเข้มเงียบลงเมื่อเห็นว่ามีสุนัขตัวน้อยในอกหญิงสาว ขณะที่เจ้าตัวก็เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสีหน้าไม่ดีนัก รีมฝีปากอิ่มสีหวานถูกเม้มเอาไว้ แต่ที่ทำให้เขาสะดุดใจมากกว่าคือเจ้าตัวเล็กมันงับแขนเธออยู่

“มันกัดคุณเหรอ”

จามิกรคุกเข่าลงข้างหนึ่งทันที พร้อมกับยื่นมือไปจับสุนัขของน้องสาวตนเองมาจากอีกฝ่าย

“แกมานี่ เจ้าลิตเติ้ล”

มันเองก็จำเสียงเขาได้เช่นกัน จึงปล่อยแขนหญิงสาวแล้วส่ายหางดุ๊กดิ๊กกระโดดมาหาเขาพร้อมเห่าอย่างดีใจ ชายหนุ่มอุ้มสุนัขตัวน้อยด้วยแขนข้างหนึ่ง ส่วนมือหนาอีกข้างยื่นไปจับแขนหญิงสาวดู เห็นเลือดซิบจากคมเขี้ยวเล็กคิ้วเข้มก็ขมวด พลางถอนหายใจอย่างขัดใจ

“ทำไมเจ้านี่วิ่งพล่านแบบนี้ แล้วมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“น้องเขามาเอาฝากไว้แป๊บนึงน่ะค่ะ ออกไปซื้อของ แต่ฉันเห็นว่ามันอยู่ใกล้ๆ มด ก็เลยจะย้ายที่ให้น่ะค่ะ มันก็เลยหลุด”

“มันฉีดยาแล้ว แต่ผมว่ายังไงคุณก็ไปฉีดยากันไว้ด้วยดีกว่า”

จามิกรพยายามระงับความรู้สึกขุ่นใจเอาไว้ ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาอยากดุทั้งสุนัขทั้งคนถูกกัดที่ไม่ระวังจนมันหลุด ทำเอาเขาเกือบจะเหยียบมัน หรือไม่ก็ชนเธอไปแล้ว

ชายหนุ่มช่วยรั้งร่างเล็กบอบบางให้ลุกขึ้น ขณะที่อีกฝ่ายพึมพำ

“ขอบคุณค่ะ”

“เดี๋ยวผมจะ...”

“ฮัดเช้ย!!”

คนพูดชะงักไปเมื่อถูกจามใส่ ทั้งสุนัขตัวน้อยก็ดิ้นเห่าขู่หญิงสาวกลับไปอย่างไม่ยอม เขาต้องพยายามจับมันเอาไว้

ตมิสามองหน้าเจ้านายของตนแล้วหน้าแหยรู้สึกผิด ทว่ายังไม่ทันเอ่ยอะไรก็จามซ้ำอีก

“ฮัดเช้ย...”

เธอรีบหันหน้าหนีแล้วถอยกรูดออกจากอีกฝ่าย จะยกมือปิดปากก็ไม่ได้เพราะเพิ่งจับสุนัขไป

“ขอโทษค่ะ ฉันแพ้...ขน...ฮัดเช้ย! ขนมัน...”

เธอพูดไปจามไปน้ำหูน้ำตาไหล คันจมูกสุดๆ เหลือบมองชายหนุ่มแวบหนึ่ง แล้วก้มหน้างุดอย่างกลัวความผิด เพราะใบหน้าคมคายนั้นนิ่งทว่าก็ดูดุทีเดียว แถมเจ้าตัวน้อยที่เขาอุ้มก็ทั้งเห่าและขู่เธอไม่หยุด

“ฉันขอไปล้างมือกับแขนนะคะ”

พูดแล้วเธอก็รีบเลี่ยงไป ขณะได้ยินเสียงเข้มดังตามมา

“เสร็จแล้วรีบออกมาด้วย คุณต้องไปทำแผลแล้วก็ฉีดยา”

ตมิสาไม่ได้ตอบเพราะเธอจามออกมาอีก เท้าเล็กขยับเร็วๆ เพราะไม่อยากให้เจ้านายขุ่นเคือง หากก็ยังแว่วเสียงเข้มดุเบาๆ

“แกก็เงียบได้แล้วลิตเติ้ล”


=========

อยากดุทั้งคนทั้งหมา แต่ก็น่ารักทั้งคนทั้งหมาด้วยใช่ไหมคุณจา ^-^

เฟซบุ๊กเพจ รสิตา เพียงพิณ มาเมาท์ มาคุยนิยายกันได้จ้า

https://twitter.com/rasitawriter

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว