อุบายหมายจันทร์-13.ตะครุบเหยื่อ (1)

โดย  รสิตา เพียงพิณ

อุบายหมายจันทร์

13.ตะครุบเหยื่อ (1)

ตมิสารู้สึกราวตนกลายเป็นคนขี้หวาดระแวงไปแล้วหลังจากถูกจูบหวามของจามิกรเล่นงาน ทั้งเขายังทิ้งท้ายให้น่าคิดมากอีกด้วย ทำเอาหญิงสาวมาทำงานแบบคอยมองซ้ายมองขวาระวังหลังจนเคร่งเครียดเกินไป

แต่ไม่ใช่เพราะหวาดกลัวหรือรังเกียจชายหนุ่มเลยสักนิด มันเป็นเพราะเธอขัดเขินหนักเมื่อชิดใกล้ต่างหาก เธอหวั่นใจกับการถึงเนื้อถึงตัวอย่างรวดเร็วของเขา แน่นอนว่าลูกล่อลูกชนชายหนุ่มมีมาก ไม่ยากเลยหากจะทำให้เธอใจไหวโอนเอน

ทว่าวันจันทร์ทั้งวันนายหนุ่มไม่เข้าสำนักงาน วันอังคารก็ไร้วี่แววตั้งแต่เช้าหญิงสาวจึงพอโล่งใจกระทั่งเลิกงาน ตมิสาไปยืนรอรถกอล์ฟเช่นทุกวันที่สาวิตไม่ได้เข้ามา แต่ฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก แม้จะเห็นอยู่ว่าฝนใกล้ตก หากก็หวังให้ตนกลับถึงบ้านพักก่อนจึงออกมาทันทีไม่โอ้เอ้ กระนั้นก็ยังไม่ทัน

จุดที่รอรถมีหลังคาพอบังแดดฝนได้ แต่ฝนตกหนักและลมแรงอย่างนี้ถึงมีร่มก็ไม่ช่วยอะไรนัก ตมิสากอดกระเป๋าแนบอกมือหนึ่งถือร่ม พยายามไม่เบียดเข้าไปใต้หลังคากำบังเช่นคนอื่นเพราะเกรงใจ ขณะใจจดจ่อรอรถรับส่งก็มีรถคันโตขับผ่านไปเธอไม่ทันได้สนใจด้วยลมพัดดันร่มพอดีจึงต้องจับให้มั่น

เมื่อรถจอดลง แต่ละคนต่างก็หันมอง ตมิสาเองก็เช่นกัน แต่เมื่อรู้ว่าเป็นรถใครก็อึ้งไป เบิร์ดลงจากรถวิ่งตรงมายังเธอ

“คุณมิ้มขึ้นรถเถอะครับ”

“เอ่อ จะดีเหรอ”

เธอไม่กล้าหันมองรอบตัวเพราะรู้ว่าคนงานแถวนี้ต้องจ้องอย่างสนใจอยู่แล้ว

“มาเถอะครับ นายรออยู่”

ตมิสาจำต้องเดินตาม รั้งรอไปก็ราวเล่นตัว ในเมื่อคนอยากรู้อยากเห็นอยู่แล้ว เท่านี้คงกระฉ่อนไร่พรุ่งนี้แน่นอน

เบิร์ดเปิดประตูให้เธอที่เบาะหลัง ส่วนเขากลับไปขับรถเช่นเดิม

“ขอบคุณค่ะ”

หญิงสาวจำต้องขอบคุณนายของไร่ที่นั่งอยู่ด้านหน้าตน เขาหันกลับมายิ้มบางแบบที่ยากจะได้เห็น ตมิสาจึงนิ่งงันไป พอเบิร์ดขึ้นมาจามิกรก็บอกกับคนของตน

“ไปหน้าบ้านพักตมิสา”

“ครับนาย”

เธอไม่รู้ว่าวันที่จามิกรไม่เข้าสำนักงาน เบิร์ดเจอกับชายหนุ่มที่ไหน อาจจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปรอขับรถให้ตั้งแต่ที่บ้าน ส่วนตอนนี้ให้ไปบ้านพักเธอคงเพื่อส่งเธอก่อน แล้วค่อยไปบ้านนาย ส่วนเบิร์ดก็คงกลับมาบ้านพักพร้อมจอย เพราะอยู่ในละแวกเดียวกับเธอ ส่วนป้าอุ่นแม่ของเขานั้นอาศัยอยู่บ้านของจามิกร เนื่องจากเป็นคนสนิทคอยดูแลทุกอย่างภายในบ้านแทนแม่นายพรนภา

============

รถมาถึงหน้าบ้านพักตมิสาก็เอ่ยขอบคุณอีกครั้งแล้วลงจากรถ กางร่มตรงเข้าไปห้องของตน ได้ยินเสียงรถออกไปขณะกำลังพยายามควานหากุญแจในกระเป๋า พอไขกุญแจเปิดเข้าห้องไป กำลังจะปิดบานประตูก็ถูกดันออกกว้าง แล้วมีร่างสูงใหญ่แทรกเข้ามา

“นาย”

จามิกรปิดประตูตามหลัง ก้าวยาวมาหา ตมิสายังไม่ทันได้ถอยหลังก็ถูกรวบตัวเข้าไปกอด ร่างเล็กตัวแข็งเกร็งในทันใด

“อืม”

เสียงเข้มพึมพำในลำคอ ขณะกอดเธอจนแทบจมเข้าไปในอกกว้าง ใบหน้าคมเข้มก้มต่ำซุกจมูกลงมาข้างลำคอ ทำให้คนไม่ชินสะดุ้งเล็กน้อย

“นายคะ”

ตมิสาขยับตัวเพราะดูท่าทางแล้วเหมือนชายหนุ่มจะไม่ปล่อยตนโดยง่าย แล้วก็ได้ยินเสียงอีกฝ่ายถอนหายใจยาวก่อนเขาจะยินยอมผละออกแล้วเปลี่ยนมาจับไหล่เธอทั้งสองข้าง

“ผมปล่อยก่อนก็ได้ เสื้อผ้าคุณเปียกเยอะเลย ไปเปลี่ยนก่อน ผมจะรอ”

แม้อยากถามว่ารอทำไมแต่ก็กลัวคำตอบจึงจำใจพยักหน้ารับ นั่นทำให้จามิกรปล่อยมือจากไหล่เธอ ตมิสารีบเดินไปยังตู้เสื้อทันทีเพราะอย่างน้อยก็ห่างจากเจ้าของร่างสูงใหญ่ ยังมึนงงอยู่ที่เขาตามเธอเข้ามาในห้อง แล้วเสียงรถที่ได้ยินเป็นเบิร์ดขับออกไปคนเดียวหรือ

เมื่อได้เสื้อผ้าตามต้องการร่างเล็กก็ผลุบเข้าห้องน้ำโดยไม่หันไปทางชายหนุ่มแม้แต่น้อย กลับออกมาก็เห็นร่างสูงใหญ่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าต่างมองออกไปด้านนอก

“ฝนยังตกหนักอยู่เลย”

จามิกรหันมาพูดกับเธอราวชวนคุย แต่ตมิสาไม่มีอารมณ์คุยเรื่องดินฟ้าอากาศกับเขา

“เอ่อ นายเข้ามา...มีธุระอะไรคะ”

เธอพยายามนึกหาคำพูดเพื่อถาม และไม่ได้ขยับออกจากหน้าประตูห้องน้ำ ระวังไว้ก่อนหากมีอะไรจะได้หลบเข้าห้องน้ำได้ทัน

“อยากอยู่ตามลำพังกับคุณ”

คำบอกตรงแสนตรงทำเอาตมิสากะพริบตาปริบๆ ตีสีหน้าไม่ถูกว่าควรแสดงออกไปอย่างไร

“ที่สำนักงานคุณคงไม่มีสมาธิถ้าผมไปหาในห้อง แล้วก็เป็นเวลาทำงาน คิดว่าปล่อยให้คุณทำงานไปดีกว่า แล้วผมจะหาเวลาของเราสองคนหลังเลิกงานหรือไม่ก็วันหยุดของคุณ”

จามิกรพูดพลางเดินกลับมาตรงกลางห้อง หากเจ้าของร่างเล็กยังยืนนิ่งไม่ขยับ

“ฉันต้องกลับบ้านน่ะค่ะ”

คิ้วเข้มขยับสูงขึ้น

“ทุกอาทิตย์เหรอ”

“ค่ะ”

ตมิสาไม่กล้าบอกว่า ไม่ใช่แค่ให้กลับทุกอาทิตย์ แต่พี่ชายไม่อยากให้เธอทำงานที่นี่ด้วย เกิดเรื่องจูบกะทันหันในวันนั้นเธอก็ยิ่งไม่สบายใจ ต้องพยายามเก็บเงียบ ปกปิดความคิดสับสนในใจตัวเอง ทำตัวให้เป็นปกติเวลาอยู่ต่อหน้าบิดาและพี่ชาย หากยังไม่วายถูกรสลินกัด

‘แหม ดูใจลอยนะจ๊ะมิ้ม มีคนให้คิดถึงอยู่ที่ไร่หรือเปล่า’

เธอตาขวางใส่คนหาเรื่อง แต่ดันเดาได้แม่น กัดฟันพูดเสียงเข้มใส่

‘ไม่ใช่ธุระของเธอ’

พูดไปแล้วบิดาก็ต้องปรามอีกเช่นเคย ถ้าไม่เกรงใจพ่อตมิสาคงพูดกลางโต๊ะอาหารตอนเช้าวันอาทิตย์ไปแล้วว่า ‘ขอตัว กินไม่ลง’ แต่ก็ยั้งตัวเองไว้

“อ้อ ว่าจะถามคุณ เห็นรถที่มารับคุณวันเสาร์ เป็นคนละคันกับที่มาส่งวันจันทร์บ่อยๆ”

“เมื่อวันเสาร์พี่ชายมารับน่ะค่ะ ปกติจะเป็นคนที่บ้านที่ทำงานกับพ่อ”

เธอเลี่ยงที่จะพูดไปว่าเป็นการ์ดของบิดา มีบางครั้งที่ตมิสามาถึงสำนักงานพร้อมกับจามิกร เขาจึงเห็นรถจากบ้านของเธอ พี่ชายกับพ่อของเธอให้วสันต์ซึ่งเป็นเพื่อนกับพี่ชาย โตมาด้วยกันมาดูแลรับส่งเธอแทน เพราะชยุตม์ไม่ค่อยสะดวก เขาต้องไปโรงเรียนในวันจันทร์ วันเสาร์ชายหนุ่มก็นัดนักกีฬาฝึกซ้อมตอนบ่าย แต่ช่วงนี้ใกล้สอบจึงหยุดไปให้เด็กได้อ่านหนังสือ ทำให้พี่ชายมีเวลามารับเธอด้วยตัวเอง

จามิกรตาวาววับขึ้นแวบหนึ่งแต่ด้วยความที่อยู่ห่างกันตมิสาจึงไม่สังเกตเห็น ก่อนใบหน้าคมเข้มจะระบายยิ้มบางที่นานครั้งจะเห็น

“วันหลังแนะนำให้ผมรู้จักบ้างสิ”

“เอ่อ...ค่ะ”

เธอรับคำอย่างไม่แน่ใจนัก แม้ชายหนุ่มจะบอกว่าอยากรู้จักพี่ชายเธอ แต่มุมปากเขากลับยกขึ้นราวกับเยาะอย่างนั้น หากหญิงสาวก็คิดว่าตนอาจมองผิดไป

“ว่าแต่เสื้อคุณ...ไม่ชื้นเหรอคะ”

“นั่นสิ หรือผมจะถอดผึ่งสักหน่อยดีล่ะ”

มือบางสองข้างรีบยกขึ้นจะห้าม แต่พูดไม่ออก เพราะมันก็เหมือนเธอใจดำ หากจะให้ชายหนุ่มมาถอดเสื้ออยู่ในห้องเธอก็ไม่ได้ ที่พูดถึงเสื้อเพราะอยากเข้าเรื่องถามว่าเขาจะกลับบ้านอย่างไร

“หึ...ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น ผมอยู่ได้”

ร่างสูงใหญ่เป็นฝ่ายเดินมาหาเธอ ราวกับเขาแน่ใจแล้วว่าอย่างไรเธอก็จะไม่ออกจากมุมหน้าห้องน้ำ และตอนนี้ก็ยากที่ตมิสาจะขยับหนีไปไหนได้แล้ว ใบหน้าหล่อเข้มก้มลงมามองในระยะใกล้พร้อมปลายนิ้วเชยคางเธอขึ้น

“ดูสิ หน้าซีดหมดแล้ว”

จามิกรจับปลายคางมนสั่นไปมาราวยั่วล้อ

“กลัวผมจะทำอะไรคุณเหรอเด็กน้อย มากลัวตอนนี้มันก็สายไปแล้ว”

ยิ่งเห็นปากอิ่มเผยอ ตากลมโตหวานขยายขึ้นเกือบสองเท่าเขาก็ยิ่งกระตุกยิ้ม

“ยังไงแกะน้อยอย่างคุณก็หนีผู้ล่าอย่างผมไม่พ้นหรอก”

ร่างเล็กผงะ เซจนหลังปะทะกับประตูห้องน้ำ เสียงเข้มดุของจามิกรดูกระด้าง แววตาคู่คมขุ่นขวางน่ากลัว


=========

นึกว่าใจดีมาส่ง อะไรกันเนี่ยคุณจา ^-^"

*สอบถามเพื่อนๆ ค่ะ สนใจ ‘อุบายหมายจันทร์’ แบบเล่มกันไหมเอ่ย

เรื่องนี้ค่อนข้างยาว เผื่อมีคนอยากอ่านแบบเล่มน่ะค่ะ ถ้ามีคนสนใจไรต์จะเปิดพรีค่ะ ยังไงคอมเมนต์บอกกันได้นะคะ

หรือแจ้งข้อความในเพจก็ได้ค่า

อ่านเพื่อการตัดสินใจไปก่อนได้ค่ะ ไรต์จะเก็บข้อมูลสักพักถึงจะสรุป ตีพิมพ์หรือไม่ขึ้นอยู่กับทุกคนค่า

แต่อีบุ๊กจะออกมาก่อนฉบับเล่มถ้ามีการตีพิมพ์นะคะ

เฟซบุ๊กเพจ รสิตา เพียงพิณ มาเมาท์ มาคุยนิยายกันได้จ้า

https://twitter.com/rasitawriter

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว