เปลี่ยน Love is all around-ต้องลอง

โดย  Wattanasorn

เปลี่ยน Love is all around

ต้องลอง

“เหนื่อยไหมตะวัน นี่น้ำจ้ะ”

“นิดหน่อยน่ะ ขอบใจส้มเช้ง” ตะวันรับน้ำจากส้มเช้งมาดื่ม

“นิดหน่อยเหรอเนี่ย เหงื่อออกขนาดนี้ เดี๋ยวเอาผ้าเช็ดหน้าพราวไปซับ” พราวเปิดกระเป๋าหาผ้าเช็ดหน้า ตะวันจับมือหญิงสาวไว้

“ไม่เป็นไรหรอกพราว เดี๋ยวตะวันไปอาบน้ำเลยดีกว่า เหนียวไปทั้งตัวเลย กชไปเอารถใช่ไหม งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันนะ ไม่ต้องรอตะวันหรอก น่าจะนาน อยากสระผมด้วย”

สองสาวตอบตกลง ตะวันเลยเดินมาส่งสาวๆ ที่หน้ายิม รอจนทั้งหมดขึ้นรถเรียบร้อยตะวันถึงได้เดินกลับเข้าไปในยิม ไม่ทันเห็นใครบางคนที่ซุ่มมองอยู่ นกานท์มาทันเห็นหญิงสาวกับเพื่อนๆ ที่หน้ายิมพอดี ถือว่าจังหวะเขาดีเอามากๆ ที่เพื่อนของเธอกลับไปก่อน ทางจะได้สะดวก ทีนี้เขาก็แค่ ‘รอเวลา’

สามสิบห้านาทีผ่านไป ตะวันก็เดินมาที่รถ เปิดล็อครถได้ก็เข้ามานั่งประจำที่คนขับ คนซุ่มรอจังหวะทะยานเข้ามาเปิดประตูรถอีกฝั่งแล้วตามเข้ามานั่งข้างๆ ทันที

“นี่..นายเข้ามาทำไม ออกไปเดี๋ยวนี้เลย ออกไปจากรถฉัน!”

“ยังไม่ออก จนกว่าฉันจะคุยธุระกับเธอเสร็จ ถ้าเธอยอมคุยดีๆ ไม่นานฉันอาจจะไป” นกานท์กอดอกพูดโดยไม่สนใจเสียงแหวของหญิงสาว จมูกโด่งเผลอสูดดมกลิ่นหอมที่แผ่กระจายโดยรอบ ทั้งกลิ่นสบู่และยาสระผม ตาคมกวาดมองหญิงสาวตรงหน้า ดวงหน้าเล็กยามนี้เกลี้ยงเกลา ไม่มีแม้แต่แป้งเด็ก ผมที่ปล่อยสยายของเธอดูยุ่งเหยิงบางส่วนยังมีน้ำหยดลงมายังผ้าเช็ดผมที่พาดบ่าหญิงสาวอยู่

“นายมีอะไรก็พูดมา ฉันให้แค่ห้านาที”

นกานท์ยกยิ้มมุมปาก ขยับเข้าไปมองหน้าหญิงสาวใกล้ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ

“ฉันอยากรู้ว่าเธอวางแผนทั้งหมดนานไหม แล้วได้ซ้อมบ้างหรือเปล่า ทำไมมันถึงได้เนียนและดูเป็นมืออาชีพมาก ฉันชื่นชมนะ”

“นายพูดเรื่องอะไร ถ้ามันจะไร้สาระแบบนี้ ฉันลดเหลือสามนาที!” ตะวันเสมองนาฬิกาที่คอนโซลรถแล้วทำเป็นนิ่ง ทั้งที่รู้สึกตกใจอยู่เหมือนกันกับคำพูดของชายหนุ่ม ไหนจะท่าทางของเขาที่ทำเหมือนว่าเป็นต่อซะเต็มประดา ใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

“อย่ามาทำเป็นไก๋ จริงๆ เธอมันก็ขี้ขลาด! กล้าทำแต่ไม่กล้ารับ เรื่องที่คอยตามดูฉัน เรื่องเราเจอกันครั้งแรกที่ร้านอาหารนั่น ที่เธอแกล้งทำกระเป๋าหล่น เรื่องที่เธอจงใจยั่วฉัน แม้กระทั่งเรื่องที่เธอเตรียมการขั้นสุดท้ายในวันที่เธอนัดน้องนารา ฉันรู้ทุกอย่างหมดแล้ว!”

ตาที่เบิกกว้างของหญิงสาวตรงหน้าทำนกานท์สะใจไม่ใช่น้อย แต่ความนิ่งของเธอนี่สิที่เขาไม่ค่อยพอใจ ชายหนุ่มจึงจัดเพิ่ม

“มันจะสำเร็จอยู่แล้ว ทำไมเธอเปลี่ยนใจ ทำไมไม่มาหาฉันมาทำให้มันจบๆ ไป ฉันอยากจะรู้ฉากสุดท้ายนั่น เธอ Set ไว้ยังไง แค่ไหน” นกานท์ได้ทีดึงตะวันเข้ามาใกล้ เขารู้เธอกำลังตกใจ

“ทำไม! เงียบ ไม่พูด สงสัยใช่ไหม ว่าฉันรู้ได้ยังไง ก็เพื่อนรักของเธอนั่นไง นายคิ้วหนานั่น เขาบอกฉันหมดแล้ว แผนของพวกเธอ มันเกือบจะดีอยู่แล้วใช่ไหม ใช่สิ แต่พวกเธอมันอ่อนหัด! ไม่ยอมสืบให้ชัดเจน แผนถึงได้ล้มไม่เป็นท่า แต่ฉันจะให้โอกาสเธอนะ ให้เธอทำใหม่ แผนขั้นสุดท้ายนั่น อือ..ไม่เอาดีกว่า ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันทำให้ดีกว่า เพราะมันน่าจะดีกว่าที่เธอคิด!” ชายหนุ่มฉวยโอกาสที่หญิงสาวกำลังช็อค ดึงหน้าเธอเข้ามาจูบ เขาจูบลงบนปากของเธออย่างหนักหน่วง

หญิงสาวต้องชดใช้ที่บังอาจหาญกล้ามาหลอกคนอย่างเขา ขึ้นชื่อว่านกานท์ไม่มีวันยอมขาดทุน ต่อให้ต้องโดนซ้อมก็ถือว่าคุ้ม แถมยังกำไรที่ได้หักหาญน้ำใจเธอคืน จะได้ ‘หายกัน’

‘ไม่จริง ที่หมอนั่นพูดมันต้องไม่จริง แฮปต้องไม่ทำแบบนั้น ไม่มีทาง ฉันไม่เชื่อ นายโกหก นายมัน..’ กว่าจะรู้ตัวว่าโดนปล้นจูบ ตะวันก็ช็อคระลอกสอง แต่แค่ชั่วอึดใจหญิงสาวก็มีสติ มือทั้งสองข้างกำหมัดไว้แน่น โกรธแสนโกรธแต่เธอก็อดทน คนอย่างเธอก็ไม่มีวันยอมให้เขาเห็นว่าเธอเสียใจ เขาจะต้องเจ็บมากกว่าที่เธอเจ็บ!

“เป็นไงรสจูบของฉัน นิ่ง ถึงกับเคลิ้มเลยใช่ไหม ผิดคาดนะเนี่ย ฉันนึกว่าเธอจะชกฉันเสียอีก” นกานท์ถอนปากออกจากหญิงสาวแล้วยิ้มเยาะ

“สาบานว่าจูบแล้ว ทีนี้ตาฉันบ้างนะ”

เกินกว่านกานท์จะคาดคิด เมื่อตะวันจับต้นคอของเขากระชากเข้ามาหาแล้วกดปากลงบนปากเขารุนแรงพอๆ กัน เพียงแต่ว่าหญิงสาวใส่ลูกเล่นเพิ่มเติมเข้าไปอีกนิดหน่อย เล่นเอามือไม้ของชายหนุ่มเริ่มจะลามปามมาที่สองเนินอันเต่งตึง ทว่ายังไม่ทันได้คลึงก็โดนหญิงสาวจับไว้แล้วบิดกลับเต็มแรง

“โอ๊ยๆ หัก มือหักแล้ว” นกานท์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ปากทั้งคู่เลยแยกจากกันโดยอัตโนมัติ

“ฉันว่าที่เคลิ้มน่ะมันนายมากกว่า! เมื่อกี้ถือว่าฉันชดเชยให้ก็แล้วกัน กับสิ่งที่ผ่านมาที่ฉันทำกับนาย แล้วเลิกหาว่าฉันขี้ขลาด คนเราบางครั้งมันก็มีความจำเป็นต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ! ต่อไปนี้เราไม่มีอะไรติดค้างกัน จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมาเจอกันอีก จบกันแค่นี้ เข้าใจนะ!” ตะวันรีบลงจากรถ เดินตรงไปยังประตูรถฝั่งที่นกานท์นั่ง เปิดประตูได้ก็กระชากตัวชายหนุ่มลากลงมาจากรถ

“โอ๊ยๆๆ ทำอะไรกันขนาดนี้ ทำไมต้องลากด้วย ถลอกปอกเปิกหมดแล้ว ปล่อยนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้!”

เธอฟังเขาที่ไหน ยังคงลากถูลู่ถูกังเขาออกมาจากรถ กระแทกกับพื้นหินข้างล่าง แล้วยังลากไปต่ออีก

“สำหรับจูบเห่ยๆ ของนาย มันแย่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยจูบมา!”

หมัดรุ่นๆ ของตะวันชกเปรี้ยงเข้าที่เบ้าตาของนกานท์เต็มเต็ม! ก่อนที่เธอจะรีบเดินกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างเร็ว มือเธอสั่น ตัวเธอก็สั่น เอามือมาถูปากของตัวเองแรงๆ ถูๆๆ อยู่อย่างนั้น

‘นายมันแย่มาก นายมันเลวที่สุด ทำอย่างงี้ได้ยังไง ทำกับฉันอย่างงี้ได้ยังไง!’ ตะวันแทบจะกรีดร้อง หญิงสาวพยายามตั้งสติ แต่พอคิดไปถึงเพื่อนทรยศก็ปรี๊ดขึ้นมาอีก หมอนั่นคงเอาผู้หญิงมาล่ออีกตามเคย เห็นผู้หญิงสำคัญกว่าเพื่อนที่คบหากันมาเป็นสิบปีใช่ไหม ได้ งั้นก็เลิกคบ! เพื่อนที่ทำกับเพื่อนแบบนี้ ไม่สมควรเป็นเพื่อนกันอีกต่อไป ตะวันหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์ที่บ้าน

“ป้าใจคะ ให้คนเอากุญแจไปล็อคประตูรั้วด้านข้างด้วยค่ะ ใช่ค่ะ ประตูเล็กๆ ของหนูนั่นแหละ ไม่ต้องถามค่ะ หนูบอกให้ล็อคก็ต้องล็อค! แล้วรีบด้วยนะคะ อย่าให้หนูเห็นว่ามันยังไม่ถูกล็อคเมื่อหนูไปถึง ขอบคุณค่ะ”

ป้าใจถามเธอเยอะแยะ แต่เธอไม่อยากฟัง ไม่อยากตอบ รู้แต่ว่าเธอไม่อยากให้คนที่ไม่เห็นคุณค่าของเธอ ไม่เห็นคุณค่าความสัมพันธ์ที่มีต่อกันเป็นสิบๆ ปี มาข้องแวะข้องเกี่ยวกันอีกต่อไป!

นกานท์มองตามรถมินิม่วงขาวที่ลับหายไปแล้ว มือของชายหนุ่มกุมเบ้าตาที่ถูกกระทำ แม้ตาจะเจ็บแค่ไหนก็ยังไม่เท่ากับเจ็บใจ หญิงสาวไม่สะดุ้งสะเทือนสักนิดกับสิ่งที่เขาทำ อยากให้เธอเจ็บใจแต่กลายเป็นตัวเองที่ต้องมานั่งเจ็บใจอยู่อย่างนี้ แล้วยังคำพูดนั่นอีก ‘แย่ที่สุดเท่าที่เคยจูบมา’ พูดอย่างนี้แสดงว่าเคยจูบมาหลายคน แล้วอย่างเขานี่นะแย่ที่สุด มันจะเกินไปแล้ว อย่างนี้มันหยามกันเกินไป! นกานท์นั่งเอาเท้าถูหินที่พื้นไปมาระบายอารมณ์ ไม่มีอะไรติดค้างเหรอ จบกันแค่นี้เหรอ ฝันไปเถอะ! คนอย่างนกานท์ไม่มีวันยอม!

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว