‘ทำไงดี ฝนตกหนักขนาดนี้จะไปไหนได้’
ต้องเลือกระหว่างทางซ้าย ซึ่งต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร จะถึงคอนโดมิเนียมหรูของน้าสาว ปรีชญา บริพัตน์กายชล น้าสาววัย 43 ปีของเธอ หรือจะไปทางขวาอีก 10 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านของเธอซึ่งอยู่กับแม่เพียงลำพัง ใกล้หรือไกล มารียันก็ต้องเลือกหนทางที่ใกล้ ดูท่าฟ้าจะไม่เปิดทางให้เธอกลับถึงบ้านในตอนนี้
สาวน้อยวัยกระเตาะกางร่มที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยไปทางซ้าย เดินต่อไปถึงคอนโดมิเนียมหรูราคาแพงมาก น้าสาวของเธอเป็นเจ้าของห้องพักบนตึกสูงระฟ้านี้ ไม่สิ มันเป็นของน้าเขยของเธอต่างหาก สามีของน้าปรีชญาชื่อกาย บริพัตน์กายชล น้าเขยอายุน้อยกว่าน้าปรีชญา 4 ปี แต่งานนี้ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด หรืออย่างในหนังไทยที่ว่าฝ่ายหญิงอายุมากกว่าต้องเลี้ยงดูฝ่ายชายที่อายุน้อยกว่า เพราะน้าเขยวัย 39 เป็นผู้ชายต้นแบบที่ทุกคนควรจะเอาเยี่ยงอย่าง เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุเพียง 30 มีธุรกิจใหญ่โต มีบ้านหลังเบ้อเริ่ม งานอดิเรกคือการซื้อรถซูเปอร์คาร์ ที่ในขณะนี้มีในครอบครองไม่ต่ำกว่า 10 คัน
ที่สำคัญก็คือ น้ากายหล่อมาก หล่อกว่าดาราดังๆ ในยุคนี้หลายคนทีเดียว
เท้าบางๆ ก้าวไวขึ้นเมื่อห่าฝนยิ่งกระหน่ำกลืนทุกสิ่งไปต่อหน้าต่อตา ตกมานานกว่าชั่วโมงระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าตกติดต่อกันทั้งคืนมีหวังน้ำท่วมกรุงเทพฯ แน่แท้
มารียันถอนใจเอาลมหายใจอุ่นๆ ออกจากรูจมูก หนาวสั่นจนอยากจะกลายเป็นลูกหมาแล้วสะบัดขนพรืดๆ เธอหุบร่มแล้วขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่ต้องการ เธอเคยมาที่นี่แล้ว 3 หนกระมัง ทุกครั้งก็มากับแม่ เอาโน่นนี่นั่นมาให้น้าปรีชญา หวังว่าจะไม่แห้ว หวังว่าจะเจอน้าสาวจะได้ขอพักหลบฝนคลายหนาวสักหน่อย
เมื่อมาถึงห้องชุดสุดหรูหมายเลข 20321 สาวน้อยก็กดกริ่ง ทว่าไม่มีใครเปิดประตู สาวน้อยกดกริ่งเป็นครั้งที่สอง คราวนี้ก็ยังไม่มีใครเปิดประตู มารียันลองบิดลูกบิดเพียงนิดเดียวประตูหนาหนักก็เปิดกว้าง เธอก้าวเข้าไปด้วยรอยยิ้ม แต่แล้วสิ่งที่เห็นก็ทำให้รอยยิ้มของเธอหุบฉับ
‘กรี๊ดดดดดดดดดดดด’ เสียงของเธอดังลั่นอยู่ในอก มือบางตะปบปิดปากตัวเองกลั้นเสียงร้องไม่ให้ออกมาก
ภาพที่เห็น คือภาพของปรีชญาเปลือยเปล่ากึ่งนั่งกึ่งนอนอ้าซ่าอยู่บนโซฟาสีน้ำตาลไหม้ แขนทั้งสองข้างยกพาดไว้บนพนัก เต้านมขาวผ่องอยู่ในกำมือของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่น้าเขยของเธอ เต้านมอีกข้างถูกชายคนนั้นดูดดื่มอย่างตะกละตะกลามหิวโหย ทั้งคู่ไม่ได้ใส่ใจเธอเหมือนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอยืนนิ่งถูกสาปอยู่ตรงนี้
ต้นขาของน้าสาวตั้งชันแบะอ้าให้ผู้ชายคนนั้นกระเถิบตัวลงต่ำ แล้วสิ่งที่ทำให้มารียันต้องกลั้นหายใจกลัวแม้แต่เสียงลมหายใจของตัวเองก็คือ ริมฝีปากของผู้ชายคนนั้นกำลังกดลงแนบกลีบกุหลาบอันอุดมไปด้วยเส้นไหมสีน้ำตาลอ่อน
‘โอ้แม่เจ้า นี่มันอะไรกัน’
ลิ้นหนาๆ แผ่กว้างเลียกลีบกุหลาบของน้า ร่างของน้าเกร็งเครียดแล้วสั่นระริก
“โอ้ววว เสียวจังเลย ซี้ดดดด ร่องฉันสั่นไปหมดแล้วแพทริก อ๊า”
“ครางแบบนี้แสดงว่าสั่นสู้ ผัวคุณเอาเก่งแบบผมหรือเปล่าปรี”
“ซี้ดดดดด ม่ายเลย เขาสู้คุณไม่ได้สักนิดแพทริก อ๊ะ โอ้ววว”
กลีบกุหลาบของน้าปรีชญาทำเอามารียันแทบทรุด นี่เธอกำลังดูอะไร ฉากเซ็กส์ หรือหนังโป๊ สองคนนั่นกล้าทำแบบนี้ตอนกลางวันแสกๆ เชียวหรือ
โอว...ทำไมน้าปรีถึงกล้านอกใจน้ากาย ทั้งที่น้ากายหล่อกว่าผู้ชายหัวล้านใสปิ๊งคนนี้เยอะ
“อูยยย แพทริกคะ เอาปรีแรงๆ นะคะ เอาให้ปรีถลอกไปเลย ได้โปรด”
“ผมรู้ คุณชอบความรุนแรง ผัวคุณคงจืดชืดเป็นน้ำยาเย็นสินะปรี ไม่อยากเชื่อ ทั้งที่มันเด็กกว่าคุณหลายปี แต่สงสัยเรี่ยวแรงมันคงไม่มากพอจะมัดใจคุณได้เท่าผม”
“อย่าถามปรี เอาปรีสิคะแพทริก ปรีอยากกอดแก่นกายของคุณจะแย่แล้ว”
“ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะสะใจของผู้ชายชื่อฝรั่งหัวล้าน แต่พูดไทยชัดเจนคนนั้นทำให้คนที่ยืนค้างเหมือนถูกสาปรู้สึกตัว แล้วถอยหลังออกจากกรอบประตูนั้นก่อนค่อยๆ ปิดสนิท
มารียันยกมืออุดปากเบิกตากว้างโพลงเมื่อเธอหมุนกายไปชนกำแพงเลือดเนื้อสูงตระหง่าน น้าเขยของเธอนั่นเอง ทำให้เธอน้ำตาแทบร่วงอดสูใจกับความเส็งเคร็งของน้าสาว อับอายขายหน้าแทน ใครเลยจะคิดว่าผู้หญิงที่มีหน้าที่การงานดี แต่งงานกับเศรษฐีรูปหล่อจะคิดนอกใจสามีเล่นชู้ถึงในบ้าน
“มารียันงั้นรึ”