เมื่อสาวน้อยข้างบ้านที่เขาเอ็นดูมาตั้งแต่เธอห้าขวบช่างน่ารักน่าใคร่เกินห้ามใจ พี่ชายข้างบ้านอย่างเขาจะปล่อยเธอไปมีสายตามองหนุ่มที่ไหนได้ยังไง ถึงใครจะว่าเลี้ยงต้อย เตาะเด็ก ช่างประไร ความรักมันจุกอกออกขนาดนี้ เลยต้องหาวิธีรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัว...
ฝนห่าใหญ่ผ่านไปแล้ว เหลือความเปียกชุ่มทิ้งไว้ทั่วทั้งบริเวณ และ
เม็ดฝนที่มองไม่เห็นชัดผ่านความมืดยังคงทิ้งตัวโปรยปรายอยู่เหนือกระต๊อบไม้ไผ่หลังคาหญ้าแฝก สายน้ำที่หยาดไหลรินลงมาตามชายคา สายน้ำยาวบ้างสั้นบ้าง แต่มีความงามยามสะท้อนแสงตะเกียงน้ำมันก๊าด
ทว่า... ฝนฟ้าไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เธอกลัว เธอชอบสายฝน สายลม แสงแดด
แต่มัดกล้ามเนื้อคร้ามแดดของลำแขนใหญ่ที่สอดเข้ามารัดตรงเอวกับหน้าท้องแบนเรียบนี่สิ เรียกเสียงหัวใจเธอเต้นระทึกก้องหู
“อย่ามาทำเป็นอารมณ์พาไปกับเค้านะ”
“เค้าไหนกัน... แล้วไอ้อารมณ์พาไปนี่มันยังไง หืม...” เสียงห้าวของเจ้าของลำแขนเย้าเสียงทุ้มพร่า คล้ายว่าแค่ลำแขนแกร่งยังสร้างความหวั่นไหวระทึกใจให้สาวเจ้าไม่พอ ร่างหนาใหญ่บึกบึนเพราะออกกำลังทำงานเป็นนิจขยับเข้าชิด แผ่นอกแข็งกระด้างติดแผ่นหลังบาง กระชับลำแขน แถมซุกหน้าระคายเคราลงข้างแก้มนิ่ม
“ก็... ก็... ฝนตก อากาศเย็นๆ ชวนเหงาๆ คนอกหักอย่างเฮียก็คงเข้าโหมดเปล่าเปลี่ยวเดียวดายคิดถึงคนรักที่เข้าหอกับคนอื่นคืนนี้ไง ปล่อยเค้าเลยนะ”
คนรู้ดีเสียงสั่น ปากได้รูปกระตุกยิ้ม
“ไม่อยากรู้เหรอ เวลาอารมณ์พาไปมันเป็นยังไง”
สาวน้อยสะดุ้ง ดันหน้าคมออกห่าง เบี่ยงบ่ายส่ายหน้าหลบเลี่ยงหนีคนฉวยโอกาสที่คอยกดปลายจมูกดมดอมผิวหน้า