โปรยปราย
“คืนนี้นอนด้วยสิ”
“...”
พริ้มเพราถอยหลังกรูเข้ามาในห้อง เมื่อคนหน้าห้องดันและสอดตัวเองเข้ามาจนได้ เธอยืนอึ้งอยู่เป็นนาที ในขณะที่บุญพยัคฆาถอดเสื้อออก ปลดเข็มขัด ดึงกางเกงยีนลงและสลัดไว้กับพื้น ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียว
“ทำไมไม่ไปนอนห้องตัวเองคะ”
“ห้องโน้นไม่มีเพรา ผมอยากนอนกับเมีย” ก้าวไม่ถึงสองก้าวเขาก็ถึงตัวพริ้มเพรา จับไหล่เธอไว้แล้วตะโบมจูบไปเรื่อย แน่นอนว่าเขาเดาปฏิกิริยาของเธอออก พริ้มเพราต้องขัดขืน เบี่ยงหลบและไม่ยอมให้เขาถูกเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ อยู่แล้ว
“อย่าค่ะ”
“ถ้าไม่โกรธ ก็ต้องไม่ขัดขืนผมสิ”
“มันดึกแล้ว” เกิดความรู้สึกวูบวาบตอนที่เสื้อนอนของเธอถูกดึงออก แล้วมือสากก็เลื่อนไล้ไปตามเนื้อตัวเธออย่างเคยชิน นานพอสมควรแล้วที่เธอห่างหายจากสัมผัสนี้ของบุญพยัคฆา เราต่างเข้าใจว่าต่างฝ่ายต่างเหนื่อยจากงานในแต่ละวันที่ต้องรับผิดชอบขนาดไหน
“ผมจะทำเร็วๆ”
เชื่อหรือไม่ล่ะว่าขนาดพริ้มเพราทำให้เขาไม่พอใจตั้งหลายเรื่อง แต่พอได้มาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ เขากลับต้องการเธอมาก ไม่ว่าพริ้มเพราจะยินยอมพร้อมใจ ทำตัวน่ารักน่าชัง ร่ายเสน่ห์หญิงอย่างล้นเหลือ หรือแม้แต่ตอนนี้ที่ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลาที่ถูกเขาสัมผัส
“คืนนี้ผมเสียไปเยอะ อารมณ์ไม่ค่อยดี”
ความหมายของบุญพยัคฆาคือ สำหรับคืนนี้เธอเป็นได้แค่ตัวเอนเตอร์เทนให้ความสุขกับเขา เพื่อช่วยให้เขาลืมเรื่องที่ทำให้อารมณ์เสียไป
“ทำไมตอนออกจากบ่อน ไม่แวะซ่องมาด้วยเลยล่ะคะ จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนถึงเพรา”
“เสียเงินที่บ่อนแล้วจะต้องไปเสียที่ซ่องอีกทำไม ยังไงที่บ้านก็มีเพราทั้งคน...”