เพ่ยเอ๋อ ชายาแสนร้าย
โดย กุ้ยฮวา
โปรย
“นี่เป็นปิ่นปักผมมุกมรกตจากน้ำทะเลลึก มีตำนานเล่าขานกันว่าเหงือกสาวแห่งวังบาดาลเป็นคนเฝ้าทะนุถนอมไข่มุกเก้าเม็ดนี้มาเป็นระยะเวลาหลายพันปี และเม็ดสีแดงเม็ดหนึ่งนั้นเป็นตัวยาล้ำค่าหายาก ทั่วทั้งแผ่นดินนี้มีแค่ชิ้นนี้ชิ้นเดียว”
“ของล้ำค่าขนาดนี้ องค์ชายมอบให้หม่อมฉันได้อย่างไรเพคะ”
“มันคือตัวแทนคำสัญญาระหว่างเรา”
ลู่เพ่ยมองปิ่นมุกตรงหน้าอย่างลังเลเล็กน้อย ก่อนจะยอมรับไว้ “ในเมื่อองค์ชายมอบให้ หม่อมฉันก็จะรับไว้”
“จำไว้ ถ้าเจ้าถูกพิษหรือมีอันตรายถึงชีวิต กินมุกเลือดเม็ดนั้น แล้วเจ้าจะหายเป็นปกติ”
นางไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ทำไมนางจะไม่รู้ว่ามุกเม็ดมันวาวเลอค่าที่อยู่บนปิ่นนี้มีประโยชน์อะไรบ้าง แต่ก็นั่นแหละเรื่องนี้นางไม่มีความจำเป็นต้องบอกเขา ทำเพียงแบมือไปตรงหน้า เอียงคอมองแล้วกะพริบตาปริบๆ “ความจริงองค์ชายไม่ได้คิดจะมอบองครักษ์แล้วก็ปิ่นมุกเท่านั้น องค์ชายยังเหลืออีกสิ่งหนึ่งที่ต้องมอบให้หม่อมฉันไม่ใช่หรือเพคะ”
“ดูเหมือนเจ้าจะรู้หลายเรื่อง ข้าอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเป็นคนอื่นที่เจ้าไปขอร้องให้ช่วยเหลือ ข้าคงมีศัตรูที่ร้ายกาจยากจะรับมือ” ถึงจะโอดครวญออกมาเช่นนั้น แต่เฟยหลิงก็ยังหัวเราะอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับส่งขวดหยกสีชมพูให้ “นี่เป็นยาพิษขนานหนึ่งที่ข้าขอมาจากท่านตา เจ้ากินแล้วสามวันเจ็ดวันต่อจากนี้ เจ้าจะขี้เหร่ขึ้น แต่อย่าห่วงเลย ตอนนี้เจ้าก็ขี้เหร่อยู่แล้ว เพิ่มอีกหน่อยก็คงไม่เป็นไร”
“คำชมขององค์ชาย หม่อมฉันไม่กล้ารับจริงๆ เพคะ”
“เพ่ยเอ๋อร์ เมื่อเจ้าไม่ได้เป็นสาวงามแล้ว ชาตินี้คงไม่มีใครอยากแต่งให้เจ้าอีก”
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่เพคะ หม่อมฉันขอแค่มีทรัพย์สมบัติมากหน่อย มีคนคุ้มครองอีกสักหลายคน ต่อให้ไม่ได้แต่งงานไปชั่วชีวิตหม่อมฉันก็หาได้เสียใจไม่”
“มีแต่คนอยากเป็นพระสนมชายา เห็นทีคงมีแต่เจ้านี่แหละที่อยากอยู่คนเดียว”
“ตำหนักในของฝ่าบาทมีสาวงามหลายพันหลายหมื่นคน เว้นหม่อมฉันสักคนเถิดเพคะ”
“แล้วตำหนักของข้าเล่า”
ลู่เพ่ยอดสบสายตาคนพูดไม่ได้จริงๆ แม้ใจนางจะแกว่งไกวอย่างน่าประหลาดแต่สุดท้ายก็หลุบตาลง เผยให้อีกฝ่ายเห็นเพียงแพขนตาโค้งงอนไร้การตกแต่งใดๆ “องค์ชายเป็นเชื้อพระวงศ์ ในตำหนักขององค์ชายหาได้แตกต่างจากฝ่าบาทไม่ หม่อมฉันไม่...”
“เอาเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ข้าคงต้องกลับก่อน” เฟยหลิงเลือกตัดบท เขายังไม่ปรารถนาจะได้ยินคำปฏิเสธใดๆ จากสตรีนางนี้ สิ่งที่เขาต้องการคงเป็นเวลา เขาอยากให้เวลานางได้คิดมากหน่อย และตัวเขาเองก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วนเช่นกัน ตอนนี้จึงขยับตัวลุกขึ้นแล้วกดตัวนางลงบนเตียง ดึงรั้งผ้าห่มมาคลุมให้ “ดึกแล้ว เจ้าพักผ่อนเถอะ”
“เพคะ”
เห็นความว่าง่ายของนางแล้ว เฟยหลิงก็เดินออกไปหยุดอยู่ริมหน้าต่างพลางเอ่ยลอยๆ “ยาพิษนั่น ถ้าเจ้ากินแล้วเจ้าต้องอดทนกับความน่ารำคาญของมันสักหน่อย แต่รับรองว่านอกจากตาเฒ่าสารพัดพิษแล้ว บนโลกใบนี้จะไม่มีวันรักษาเจ้าได้”
“ทราบแล้วเพคะ”
เขาเงียบไปเผยให้เห็นเพียงแผ่นหลังที่ดูทรงพลังแล้วก็คล้ายมีความอ้างว้างปะปนบางส่วน “รอข้า...”
“ทุกเรื่องราวของตัวละครในเนื้อเรื่องเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ใดๆ และยังเป็นผลงานนิยายจีนเรื่องแรกของผู้เขียนด้วย ถ้าหากมีความผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ”
นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด ลอกเลียนแบบทำซ้ำ ดัดแปลง หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้
ในการเผยแพร่หรืออ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมายบัญญัติไว้ สูงสุด
ทั้งนี้เป็นเพียงการจินตนาการของผู้เขียนเพื่อความบันเทิงเท่านั้น รวมทั้ง ชื่อ สกุลตัวละครทุกตัวในเรื่องก็เป็นการสมมุติไม่ได้มีเจตนาร้ายแอบแฝงแต่อย่างใด