ณ เทือกเขาซุนซืออันไกลโพ้น ดินแดนเหยียบเมฆาสูงส่งเทียมเมฆ ทิวเขาสลับซับซ้อนทอดตัวเป็นแนวยาว ทัศนียภาพโดยรอบงดงามกระจ่างตาดุจแดนเซียน บนยอดเขาด้านทิศใต้มีอารามไร้ชื่อแห่งหนึ่งตั้งอยู่
ขณะนั้นเป็นยามจื่อ (23.00-24.59) แล้ว หลังจากที่สามเณรน้อยฉินเกอสวดมนต์ เคาะปลาไม้เสร็จเรียบร้อย ก็กำลังเตรียมจะนั่งสมาธิบำเพ็ญตนตามวิถี
หากแต่ค่ำคืนนี้แปลกไปกว่าทุกวันฉินเกอไม่อาจสงบใจอยู่ได้ ความร้อนรุ่มอย่างหาสาเหตุมิได้ก่อกวนจิตใจของเขาเป็นระลอก
สามเณรน้อยตัดสินใจเดินออกไปนอกเรือนพัก คิดจะเดินจงกรมเพื่อรับพลังจากฟ้าดินสักครู่ แต่ทันทีที่เดินออกมาถึงลานกว้างด้านข้าง
ฉินเกอเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เขาเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้าซึ่งดารดาษไปด้วยดวงดารานับพัน สามเณรน้อยมีความรู้ด้านโหราศาสตร์ซึ่งเล่าเรียนมาจากปรมาจารย์ไป๋มู่ เจ้าอารามอยู่ไม่น้อย
เมื่อมองไปจึงสังเกตเห็นความผิดปกติได้ทันที ปรากฎการณ์นั้นทำให้เขาเผลอหลั่งเหงื่อเย็นโดยไม่รู้ตัว
‘ดาวแห่งราชวงศ์อับแสง ดาวบริวารอ่อนแอ’
สิ่งที่เห็นนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่!