“ไปทางนั้นเร็ว! พวกมันอยู่ตรงนั้น!” เสียงทุ้มตะโกนก้องเพื่อบอกกล่าวแก่คนอื่นๆ ที่กำลังตามหลังมา ในขณะที่ตัวเขาเองนั่งอยู่บนหลังม้าตัวใหญ่แล้วเร่งควบด้วยความรีบร้อน
เสียงฝีเท้าของม้า...เสียงตะโกนดังโหวกเหวกไปทั่วทั้งผืนไร่ตรงส่วนที่ปลูกแก้วมังกร กลุ่มคนสองกลุ่มกำลังไล่ล่าห้ำหั่นกันอย่างไม่ยอมลดละในช่วงเวลาโพล้เพล้เต็มทีของวันหนึ่งในฤดูร้อน
ชายฉกรรจ์สี่ห้าคนใช้รถกระบะในการบุกรุกที่ดินเพื่อก่อเหตุร้าย และกำลังหนีสุดชีวิตให้พ้นจากอานาเขตของ อัศเวทย์...ชายหนุ่มเจ้าของไร่ที่ไหวตัวทันและยกกำลังพลตามหลังมาติดๆ เครื่องยนต์จากกลไกที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่ได้ช่วยให้ผู้บุกรุกขับเคลื่อนไปได้เร็วกว่าสัตว์พาหนะอย่างม้าที่กำลังโตเต็มไวได้ บวกกับพื้นที่ซึ่งผู้เป็นเจ้าของย่อมจะได้เปรียบเหนือกว่า
“คุณแทน! ผมไม่เห็นเนื้อทองแล้ว ลูกสาวผมหายไปไหน!” ม้าหนุ่มตัวสีขาวมีคนงานวัยกลางคนควบคู่ขึ้นมาแล้วตะโกนถามผู้เป็นนายด้วยความกังวล
“คงอยู่ในรถ...พี่ปราชพาลูกน้องสักสองสามคนไปอีกทางแล้วดักหน้าพวกมันไว้จะง่ายกว่า นี่ก็ใกล้มืดเต็มที ขืนปล่อยให้พวกมันหนีพ้นเขตเราได้จะยุ่งกันไปใหญ่” ชายหนุ่มร่างสูงกำยำภายใต้เสื้อผ้าชุดทำงานบอกกับหัวหน้าคนงาน แล้วใช้แส้ตีม้าของตนให้เร่งฝีเท้านำหน้าห่างทุกคนไปด้วยความรวดเร็ว
“ไอ้ก้อง! ไอ้เกริก! ไอ้ชัยตามกูมา!” ปราชหรือณปราชหันไปเรียกลูกน้องที่เหลือแล้วควบม้าเปลี่ยนเส้นทาง ลัดเลาะไปตามร่องสวนแก้วมังกรที่ขยายกิ่งก้านพันรอบเสาหลักยึดให้ต้นไม้ได้เกาะเกี่ยว หัวใจของผู้เป็นพ่อร้อนรุ่มยิ่งกว่าถูกสุมไฟ เมื่อลูกสาวคนเดียวถูกโจรที่เข้ามาขโมยของจับไปเป็นตัวประกัน
“เนื้อทองลูกพ่อ...อย่าเป็นอะไรนะลูก”
แรงกระแทกในยามรถแล่นไปด้วยความเร็วสูงทำให้ร่างเล็กถูกเหวี่ยงโคลงเคลง หล่อนรู้สึกปวดหนึบตรงขมับและเคลื่อนเหียนเต็มที แต่เด็กน้อยก็จำต้องอดทนไม่โวยวายเพราะความกลัวสุดหัวใจ สองมือเล็กถูกมัดรวบไว้ด้วยด้านหน้าด้วยเชือกนอนงอตัวอยู่ตรงเบาะหลังโดยมีผู้ชายร่างใหญ่นั่งคุมเชิงอยู่ อีกคนที่นั่งเบาะหน้าข้างๆ คนขับ แต่ข้างหลังกระบะยังมีอีกสี่ห้าคนด้วยกัน
“นั่งนิ่งๆ สิวะเดี๋ยวกูจับโยนลงจากรถซะนี่” เสียงของชายร่างใหญ่ข้างๆ ขู่ เด็กสาววัยแปดขวบที่ขดตัวงอหลังติดเบาะอยู่ตรงมุมน้ำตาไหลเป็นทาง ไม่กล้ามองหน้าเจ้าของน้ำเสียงอันโหดเหี้ยมนั้นเท่าไหร่นัก
“ใกล้จะพ้นเขตไร่ไอ้แทนแล้ว...อีหนูนี่ถือว่าเป็นของแถมก็แล้วกัน” คนขับหัวเราะร่วน พลางเอียงหน้าใช้หางตามองหล่อนด้วยความกักขฬะ ตัวประกันสั่นงก...ความรู้สึกของหล่อนคงเกินกว่าคำว่าหวาดกลัวไปหลายขุม
“เอาจริงๆ กูก็ไม่อยากโยนมันลงไปตายบนถนนหรอกว่ะ...มึงดูสิโตมาท่าจะสวย เอาไปขายชายแดนน่าจะได้หลายบาท“
“...” น้ำเสียงสองพวกมัน แววตากักขฬะ ยิ่งทำให้เด็กสาวตัวสั่นด้วยความกลัว ตั้งแต่แรกพบตัวหล่อนแล้วจับมา พวกโจรถ่อยไม่มีความรู้สึกเมตตาอาทรดั่งเช่นที่ปุตุชนควรมีแม้แต่น้อย เหมือนกับสัตว์ที่ไร้ซึ่งจิตสำนึก หากพ้นอานาเขตนี้ไปและไม่มีใครตามมาทัน เท่ากับว่าหล่อนอาจไม่รอดเงื้อมมือมัจจุราชต่ำช้าเหล่านี้ได้เลย...