Love Status : รัก..แบบไหน?

Love Status : รัก..แบบไหน ?  |  EP. 4

โอ๊ยยยยยยยยยยย..!!

แล้วจะเอาหน้าไปไว้หนายไอ้ดรี๊มมม~

.

.

.

การที่ผมได้เจอกับไอ้พี่ควอตซ์กลางต้องประชุมใหญ่หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานตั้งหลายปี มันก็น่าตกใจอยู่หรอกครับ แต่การที่ผมเผลอหลุดปากปล่อยน้อง ‘เชี่ย!’ ให้ออกมาวิ่งเล่นท่ามกลางพี่ๆในออฟฟิตที่พึ่งรู้จักกันได้แค่วินาทีเดียวนั้น แม่งงง..มันก็สุดแสนจะเป็นการกระทำที่ปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อเลยจริงๆ

แล้วแบบนี้จะให้ผมเอาหน้าไปไว้ที่น้ายยย..>//<“

#นั่งทึ้งหัวตัวเองไปจนผมฟู T^T//

.

.

“มึงก็เอาหน้ามึงไว้ที่เดิมนั่นแหละ..” ไอ้ก็อตพูดขึ้นขณะรวบช้อนส้อมวางลงบนจานข้าวเที่ยงของมัน

แอร็กกก.. สงสัยจะคิดดังเกินไป ไม่ก็คงเป็นเพราะหน้าตาที่ดูแบกโลกทั้งใบของผมมันชัดเจนจนปิดไม่มิดแน่ๆ.. = =“

“โถ่โว้ยยยย..ก็กูตกใจนี่หว่า แล้วปากกูก็แม่งงง~” พูดไปก็ตีปากตัวเองไป T^T

“ฮ่าๆๆๆ.. เออกูรู้.. แต่กูว่าไม่น่าจะมีใครเค้าถืออะไรมึงหรอกมั้ง? ออกจะฮาดีนะเว้ย.. กูก็เห็นพวกพี่เค้าหัวเราะให้มึงกันทั้งนั้นอ่ะ แถมยังดังลั่นห้องประชุมอีกต่างหาก” เอ่อ..ขอบใจนะที่ปลอบกู

แต่มันใช่มั้ยห๊าาา!!!

เฮ้ออออ~ #ถอนหายใจเฮือกใหญ่

ถึงจะยอมรับว่าสิ่งที่ไอ้ก็อตพูดมาจะเป็นไปตามนั้นก็เหอะ แต่ใครจะไปโอเครกันล่ะวะ.. โห้ยยยย.. เพราะหลังจากที่พวกผมออกจากห้องประชุมนั้นมา สาบานเลยว่าถ้าได้เจอเข้ากับพี่พนักงานคนไหนแล้วพวกเค้าไม่หัวเราะใส่ผมล่ะก็ ผมยินดีให้ถีบได้แบบฟรีๆเลยจริงๆครับ T^T

แถมมมม..ตอนนี้ชื่อเสียงของพวกผมยังกลายเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งบริษัทไม่ใช่แค่เฉพาะแผนกโปรดักชั่น หรือแค่เฉพาะคนในห้องประชุมนั้นอีกแล้ว พูดละก็อยากมุดหัวอยู่ใต้โต๊ะในโรงอาหารพนักงานนี่ซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยจริงๆ ไม่อยากกินคงกินข้าวมันแล้ววว~ T^T

.

.

.

“ว่าแต่..นี่มึงเห็นหน้าพี่ควอตซ์รึเปล่าวะ..?” ไอ้ก็อตพูดพลางดูดโกโก้ปั่นจากแก้วใหญ่ๆของมันไปด้วย

“มึงคิดว่ากูหลุดปากไปขนาดนั้น กูไม่เห็นเลยมั้ง..?” ยังจะถามกูอี๊กกก.. = =“

“กูหมายถึง.. มึงเห็นสีหน้าตอนที่พี่เค้ามองมึงรึเปล่าต่างหาก” มันเริ่มจ้องเขม็งมาที่ผม

“ไม่รู้~ กูไม่ทันมอง” กูตกใจอยู่เว้ยยย..!

“กูว่า.. เค้าก็ดูอึ้งๆเหมือนกันนะ..ตอนที่เห็นมึงอ่ะ” ไอ้ก็อตพูด แถมทำหน้าจริงจังอีกด้วย แต่เดี๋ยวก่อน..มึงควรเป็นห่วงกูเซ่..!!

“เหรอวะ..?” แต่จะว่าไป..พอลองนึกย้อนกลับไปตอนนั้น ผมก็เห็นแม่งทำหน้านิ่งๆ หล่อๆ ไม่ได้แสดงท่าทางห่าอะไรเลยนี่หว่า = =?

“มึงว่าคราวนี้มึงจะได้เคลียร์กับพี่เค้าสักทีรึเปล่าวะ?”

“ถ้าแม่งจะคุยกับกูอ่ะนะ” หักนิ้ววอมรอวันเคลียร์เลยครับ

“เอาหน่า.. พี่เค้าก็เป็นตั้งหัวหน้าแผนกนะมึง แถมมึงกับกูก็ยังต้องฝึกงานแผนกพี่เค้าอีกตั้ง 2 เดือน กูว่า..เดี๋ยวมึงก็ได้คุยเองแหละ” ไอ้ก็อตทำท่าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง

“หัวหน้า.. แผนก.. เชี่ยยยะะะะะ..!!!” แล้ววว..สองมือของผมยกขึ้นทึ้งหัวตัวเองต่ออีกคร้างงง.. โว้ยยยยยยยยย.. นี่ผมเปลี่ยนท่าหักนิ้วเอาเรื่องเมื่อกี้เป็นแบกโลกอีกรอบได้ในนาทีเดียวเลยเหรอวะเนี่ยะ~ *[]*//

.

.

.

จริงด้วย!!

ไอ้พี่ควอตซ์มันเป็นหัวหน้าแผนกโปรดักชั่นที่ผมต้องฝึกงานนี่นา ~*0*//

ผมก็พึ่งรู้เรื่องนี้ตอนอยู่ในห้องประชุมนั้นเหมือนกัน แม้ว่าสภาพของผมในตอนนั้นออกจะหูอื้อไปสักหน่อยก็เถอะ คงเป็นผลพวงจากการเห็นหน้าไอ้พี่ควอตซ์ไปจังๆในช่วงเวลาที่ไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ยังพอได้ยินอะไรเทือกนี้อยู่บ้างล่ะนะ.. T^T

แล้วถ้าจำไม่ผิด.. ผมได้ยินว่ามีพี่อาร์ต พี่ที่ผมเคยรู้จักตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยฯปี 1 ก็มาทำงานที่นี่ และนั่งอยู่ในห้องประชุมนั้นด้วยเหมือนกัน ใช่ครับ พี่อาร์ตแกก็อยู่แก๊งค์เดียวกับไอ้พี่ควอต์ตั้งแต่สมัยเรียนยันตอนนี้นี่แหละครับ

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นโว้ยยย..!!

เพราะประเด็นตอนนี้มันอยู่ที่อำนาจในการเซ็นต์ให้ผ่านหรือไม่ผ่านฝึกงานของผม ดันตกไปอยู่ในเงื้อมมือของไอ้พี่ควอตซ์มันซะแล้วน่ะเซ่..!!! ยิ่งคิด.. ความฉิบหายที่ผมได้ทำไปในห้องประชุมก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเป็นยกกำลังกี่เท่าต่อกี่เท่าแล้วก็ไม่รู้เนี่ยะ~ *[]*”

ซวยโคตรๆเลยแบบนี้ วันนี้วันเดียวผมโดน Kill ไปกี่รอบแล้วห๊าาา~ แอร็กกก.. ตายไปเกิดจุดเซฟไม่ทันแล้วครับ.. T^T//

.

.

.

“มึงเป็นไรอีกเนี่ยะ..”

“โอ~โอ้ยยย~ แล้วแบบนี้กูจะผ่านฝึกงานเหรอวะ กูพึ่งหลุดร้องเชี่ยใส่หน้าแม่งไปเนี่ยะ.. มึงว่ากูไปขอเปลี่ยนที่ฝึกงานกับอาจารย์ตอนนี้จะทันมั้ยวะ?”

“ใจเย็นมึง แต่ที่แน่ๆ..ย้ายที่ฝึกงานไม่น่าทันแล้วว่ะ ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ก็อตหัวเราะร่าเลยครับ ผิดกับผมที่ตอนนี้ทั้งทึ้งหัวตัวเองไป คุยกับตัวเองไป หาทางออกให้ตัวเองไป..

ชะตากรรมเกรดฝึกงานของผม แม่งตกไปอยู่ในเงื้อมมือของไอ้พี่ควอตซ์มันอย่างสมบูรณ์แบบซะแล้ววว.. T^T

.

.

.

.

.

“ไงพวกมึง~”

เสียงชายร่างสูงตัวขาวแต่งตัวเรียบร้อยสะอาดตาเดินเข้ามาทักพวกผม พร้อมกับนั่งลงพิงพนักเก้าอี้สีแดงสดตัวที่ว่างอยู่ระหว่างผมกับไอ้ก็อต

“เฮ้ยยย.. หวัดดีพี่อาร์ต” ไอ้ก็อตร้องตอบ พลางลุกขึ้นต้อนรับผู้มาใหม่อย่างกระตือรือร้น

พี่อาร์ต เป็นพี่ที่คณะไอทีของพวกผมครับ เรารู้จักกันตอนที่พวกผมอยู่ปี 1 แต่ตอนนั้นพี่เค้าอยู่ปี 4 แล้วล่ะ .. อย่างที่บอกว่าพี่แกก็เป็นเพื่อนแก๊งค์เดียวกับไอ้พี่ควอตซ์นั่นแหละครับ แต่แม่งงง..นิสัยไม่เหมือนกันเลยสักนิดเดียวจริงๆ

พี่อาร์ตแกออกจะเป็นคุณชาย เรียนก็เก่ง เรียบร้อย พูดจาดี หล่อ สูง ขาว หุ่นนักกีฬา หน้าตาไปทางญี่ปุ่นนิดๆ อดีตเดือนมหาลัยฯอันเป็นที่หมายปองของสาวๆทั้งคณะอีกต่างหาก หรือจะว่าทั้งมหาลัยฯทุกชั้นปีเลยดีกว่านะ ก็เวลาไปไหนมาไหนเป็นต้องเห็นสาวๆตามกรี๊ดดด..กันให้ตรึมทุกทีเลย แถมพอว่างจากการเรียนเมื่อไหร่ พี่อาร์ตแกยังไปเป็นนายแบบโฆษณาอีกด้วยครับ แบบนี้เรียกว่าโคตรจะฮอตของฮอตเลยล่ะผมว่า..

เหมือนจะจำได้ลางๆตอนแนะนำตัวในห้องประชุม พี่อาร์ตแกบอกว่าทำงานอยู่แผนกแอนิเมชั่นที่อยู่ข้างๆแผนกโปรดักชั่นของพวกผมนะครับ.. *0*//

“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน หล่อขึ้นนะมึงอ่ะ”

“ของมันแน่อยู่แล้ววะพี่.. ไม่คิดว่าจะได้เจอพี่นะเนี่ยะ ช่วงนี้เห็นพี่แต่ในรูป”

จริงๆผมว่าแค่ไอ้ก็อต ผู้เป็นหน้าเป็นตาให้มหาลัยฯในปีผมมานั่งแดกข้าวในชุดนักศึกษาขาวสะอาดโอโม่พลัสแบบนี้ แม่งงง.. ก็โคตรจะโดดเด่นในโรงอาหารพนักงานยามเที่ยงวันจะตายห่าอยู่ละ แต่ตอนนี้ดันมีพี่อาร์ตมานั่งที่โต๊ะของพวกผมอีก เรียกว่ายิ่ง ของยิ่ง..เป็นเป้าสายตาเข้าไปใหญ่~

ตัดภาพมาที่ผม = =//

ยังคงเอามือทึ้งหัวตัวเองต่อไปเรื่อยๆ แถมดูเหมือนเป็นส่วนเกินของโต๊ะนี้ยังไงไม่รู้ ยอมรับว่าหล่อสู้สองคนนี้ไม่ได้จริงๆ แบบนี้กูก็กลายเป็นตัวประกอบแถว 3 แถว 4 ไปเลยน่ะเซ่~!!!

ถ้าจะขนาดนี้ กูขอเฟดหายตัวไปเลยได้มั้ยวะ~ T^T

.

.

“จริงๆมีไอ้พีร์อีกคนนะเว้ยที่ทำที่นี่.. แต่วันนี้มันติดงานข้างนอกว่ะ ว่าแต่พวกมึงเหอะ พึ่งฝึกงานวันแรกก็เอาเรื่องเลยนะ ฮ่าๆๆๆ” พี่อาร์ตพูด

“โฮ่..ไอ้ดรีมคนเดียวเหอะพี่ ผมนี่เรียบๆ.. พี่พีร์ก็ทำที่นี่ด้วยเหรอพี่ ดีใจว่ะไม่ได้เจอพวกพี่ตั้งนาน พวกพี่แม่งโคตรจะเป็นเรย์ไอเท่มของคณะเราเลยอ่ะ อย่างกับตัวละครพิเศษ”

“ฮ่าๆ.. มึงนี่ก็เวอร์ กูให้ไอ้ควอตซ์แม่งเป็นคนเดียวพอ..”

อันนี้ผมเห็นด้วยกับไอ้ก็อตเลยครับว่ายังไงพี่อาร์ตแกก็โคตรจะเป็นเรย์ไอเท่มด้วยเหมือนกัน แต่แปลกตรงที่ถึงพี่อาร์ตแกจะเพอร์เฟคแค่ไหน พี่แกก็มักจะคิดว่าตัวเองสู้อดีตเทพมหาลัยอย่างไอ้พี่ควอตซ์ไม่ได้อยู่ดี.. แม้ว่าในสายตาผมก็.. เอ่อ.. ยอมรับก็ได้วะ ที่คิดว่าไอ้พี่ควอตซ์มันก็หล่อกว่าพี่อาร์ตจริงๆ แต่หล่อแล้วช่วยกูป่ะประเด็น พี่อาร์ตแม่งใจดีกว่าเยอะเลยล่ะครับ!

ถึงตอนนี้เวลาจะผ่านมานานแล้ว ทรงผมพี่อาร์ตแกจะดูเปลี่ยนไปบ้างตามยุคสมัย แต่ถ้าให้ลองวัดจากเรทติ้งตอนอยู่มหาลัยฯระหว่างไอ้พี่ควอตซ์กับพี่อาร์ต ผมว่าก็สูสีอยู่นะครับ กินกันไม่ลงจริงๆ ยิ่งดูจากสายตาของบรรดาพนักงานสาวที่กำลังพุ่งเป้ามาโต๊ะผมในตอนนี้ด้วยแล้วล่ะก็ ผมว่าพี่อาร์ตแกก็ดูจะเป็นที่นิยมอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ.. แบบนี้เรียกว่าฮอตไม่ตกเลยสินะ

.

.

“ไอ้ดรีมมันเป็นเชี่ยไรเนี่ยะ.. อาการหนักนะกูว่า”

“สติหลุดไปแล้วมั้ง..? ไอ้ดรีม พี่อาร์ตเว้ยมึง”

“หวาดดีพี่อาร์ตตต~ โหยยย~ คิดถึงว่ะพี่” ผมพูดเสียงยานครางออกไปพร้อมยกมื้อไหว้พี่อาร์ตไปด้วย

“จูนก่อนมั้ยวะ ฮ่าๆๆๆ..มึงนี่ตลกเหมือนเดิมเลยเนอะ ไม่ต้องคิดมาก กูบอกคนอื่นๆไปละว่าพวกมึงเป็นน้องคณะพวกกู เค้าไม่ถือสาอะไรพวกมึงหรอก มีแต่จะคิดว่าเป็นเรื่องตลกกันทั้งนั้นแหละ แต่ตอนนี้มึงแม่งโคตรจะกลายเป็นตัวฮาในออฟฟิตกูไปแล้วเนี่ยะ ฮ่าๆๆๆ~”

“ผมขอเบิกปี๊บได้มั้ยพี่..”

“กูว่าไม่ทันละมั้ง..?” พี่อาร์ตสวน

“ผมก็ว่างั้นแหละพี่” ไอ้ก็อตเสริม

“สัสสส..” ผมพูดไปทางไอ้ก็อตทันที = =“

“ฮ่าๆๆ” พี่อาร์ตหัวเราะออกมาหน่อยๆก่อนจะพูดต่อ “เออ..กูเห็นว่าพี่ๆแผนกมึงต้องออกไปเจอลูกค้าช่วงบ่ายกัน งั้น..เดี๋ยววันนี้กูเป็นพี่เลี้ยงให้พวกมึงเองละกัน”

“จริงเหรอพี่” ผมพูดออกมาแทบจะในทันที

ก็พอคิดว่าจะต้องกลับไปเจอไอ้พี่ควอตซ์มันอีกทีหลังกินข้าวเสร็จ ผมก็ไม่รู้จะทำตัวยังไงเหมือนกันนี่นา ถึงหลายปีที่ผ่านมาจะอยากเจอกับไอ้พี่ควอตซ์มันแบบจังๆเพื่อเคลียร์เรื่องที่คาใจก็เหอะ แต่ตอนนี้ผมขอตัวไปพักตั้งหลักสักแป๊บละกันครับ..

“แต่เดี๋ยวกูต้องไปประชุมต่ออีกหน่อยว่ะ พวกมึงก็ลองเดินดูรอบๆออฟฟิตให้ทั่วก่อนแล้วกัน พวกมึงจะได้รู้ว่าตรงไหนมีอะไรบ้างด้วย เสร็จแล้วค่อยกลับมาหากู เดี๋ยวกูเอาพวกชิ้นงานเก่าๆที่ออฟฟิตทำให้พวกมึงดู พวกมึงจะได้รู้แนวด้วยไง” พี่อาร์ตบอก

“ได้ครับพี่” ไอ้ก็อตร้องตอบกลับไป

“แล้วก็แดกข้าวซะ แม่งเขี่ยอยู่นั่นแหละไอ้ดรีม ฮ่าๆๆๆ” พี่อาร์ตพูดก่อนลุกเดินจากไป

.

.

.

.

.

หลังมื้อเที่ยงผมกับไอ้ก็อตก็พากันเดินดูรอบๆบริษัทครับ .. จากเหตุการณ์ที่ผมวิ่งหน้าตั้งมาในช่วงเช้าตั้งแต่จุดจอดของพี่วินมอไซย์ฯจนไม่ทันได้มองอะไรนั้น.. ตอนนี้ก็เริ่มจะเห็นรายละเอียดรายทางมากขึ้นบ้างแล้วล่ะครับ

โชคดีจริงๆที่ระหว่างทางเจอพี่คิมเบอรี่ที่กำลังพักหลังทานมื้อเที่ยงเสร็จพอดี พี่เค้าเลยช่วยแนะนำการกินการอยู่ในบริษัทนี้ให้ผมกับไอ้ก็อตได้เยอะแยะเลยทีเดียว แถมยังพาไปแนะนำกับพี่ๆที่แผนกอื่นๆได้รู้จักกันเพิ่มเติมอีกด้วย.. แหง๋ล่ะว่าผมต้องโดนพี่ๆพนักงานแซววีรกรรมเมื่อกี้ซะไม่เหลือชิ้นดี.. T^T//

แต่พี่ๆพนักงานที่นี่เค้าก็น่ารักครับ ยิ้มแย้ม และดูเป็นมิตรกับพวกผมทั้งคู่มากๆเลย แถมดูท่าทางแล้วพี่ๆพนักงานสาวๆเค้าจะเอ็นดูไอ้ก็อตอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะผ่านแผนกไหนๆ มันเป็นต้องได้ขนมติดไม้ติดมือมาตลอดทางเลยล่ะครับ โคตรจะอิจฉาเลยอ่ะ..

ส่วนผมน่ะเหรอ.. ก็พอจะได้มาอยู่เหมือนกันล่ะนะ แต่ติดที่ว่าทำไมถึงได้จากพี่พนักงานผู้ชายแทนกันล่ะวะเนี่ยะ.. = =?

.

.

.

จากที่ฟังพี่คิมเบอรี่พูด ผมก็พึ่งรู้ว่าบริษัทใหญ่ๆนี่จริงๆไม่ได้มีแค่บริษัทเดียวนะครับ เค้ามีบริษัทย่อยในเครืออีกเป็นโขยงเลยเหมือนกัน โดยบริษัทในเครือเหล่านี้ก็เหมือนกับทีมๆหนึ่งที่จะคอยทำงานช่วยเหลือบริษัทใหญ่ให้ทำงานได้ มีการแบ่งสายงานดูแลกันอย่างชัดเจนกว่าแผนก

อย่างปีที่แล้วพี่คิมเบอรี่ก็บอกว่าแผนกออนไลน์ก็พึ่งแยกออกไปเป็นบริษัทในเครือด้วยเหมือนกัน เพราะการทำงานบวกกับตัวเนื้องานที่มันมีสเกลใหญ่มากขึ้น จากเดิมที่เป็นแค่แผนกๆหนึ่ง ตอนนี้เลยต้องปรับเปลี่ยนการบริหารงานเป็นในรูปแบบบริษัทในเครือแทน ก็เพื่อจะได้ทำงานได้ง่ายกว่าเดิม มากกว่าเดิมอะไรแบบนั้น.. แต่เอาจริงๆผมก็ไม่ค่อยเข้าใจงานด้านบริหารเท่าไหร่หรอกครับ เอ่อออ.. ออกจะมึนซะด้วยซ้ำไป~

.

.

.

“เจอชั้นแล้วไม่คิดจะทักหน่อยรึไง” #ผมกับไอ้ก็อตหันซ้ายหันขวามองหาต้นเสียงเลิกลั่ก ขณะที่พวกผมเดินอยู่ตามทางเดินพร้อมกับพี่คิมเบอรี่

“เอ่อ..หวะ หวัดดีครับ” ไอ้ก็อตและผม รีบยกมือไหว้ผู้หญิงคนนึงที่เดินสวนออกมาจากตรอกเล็กๆของแผนกบัญชีแทบจะในทันที

เธอสวมชุดยาวตรง ดูพลิ้วๆแผ่ๆแบบแปลกพิกล สีชุดเข้มของเธอตัดกับสีผิวที่ออกจะดูซีดๆ ผมสั้นของเธอก็ดูเฉี่ยวสุดๆ ไว้ข้างหน้ายาวแล้วปัดปลายผมหน้าไปด้านข้างอีกด้วย เธอยืนมองพวกผมจากตรอกนั้นพร้อมกับเด็กนักศึกษาผู้หญิงอีกคนนึงที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมดูจากป้ายห้อยคอแล้วเธอก็น่าจะเป็นนักศึษาที่มาฝึกงานที่นี่เหมือนกัน

ว่าแต่..นี่พวกเค้าโผล่กันมาตอนไหนวะเนี่ยะ.. หรือแม่งจะหายตัวได้ *0*//

.

.

“สวัสดีค่ะพี่ดาด้า .. นี่น้องก็อต น้องดรีม เด็กฝึกงานแผนกโปรดักชั่นค่ะ” พี่คิมเบอรี่ร้องบอกพร้อมกับแนะนำพวกผมให้พี่เขาได้รู้จัก ผมกับไอ้ก็อตรีบยกมือไหว้กันอีกรอบ

“รู้ละ..พวกนี้สินะที่จะมาฝึกงานแผนกคุณควอตซ์” คุณควอตซ์? โอ้โห.. นี่เรียกไอ้พี่ควอตซ์ว่าคุณด้วยเหรอเนี่ยะ..??

เธอพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้พวกผมอีกครั้งก่อนหยุดยืนกอดอกมองพวกผมแบบหัวจรดเท้า เอ่อออ.. ดูแล้วพี่เค้าท่าทางจะอยู่ในภาวะหงุดหงิดแบบสุดๆ หรือไม่.. ก็คงโกรธเคืองใครสักคนอยู่ล่ะมั้ง..?

แล้วพี่แกไปโกรธใครมาวะ.. อยู่ๆก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาเลยแฮะ.. >//<

.

.

“คำพูดคำจาแบบนั้นถ้ามาได้ฝึกงานที่แผนกชั้น ชั้นจะไม่ให้พวกเธอผ่านฝึกงานตั้งแต่วันนี้เลย”

.

.

เฮือกกกกกกกกก~ #รู้สึกเหมือนโดนถีบ

นั่นง่ะ.. กูว่าแล้ววว~ มันต้องมีบ้างแหละที่ไม่คิดว่าสิ่งที่กูทำมันดูตลกน่ะไอ้ก็อต ฮือออ~ ชีวิตหนอ.. พี่ท่านเล่นพูดออกมาแบบนี้ อาการขุ่นเคืองที่พี่ท่านแสดงออกมาคงหมายถึงตัวผมแน่นอนไม่ต้องสงสัยกันแล้วล่ะครับ.. T^T//

“ผม..ขอโทษครับ” ผมรีบยกมือไหว้ขอโทษเป็นการยกใหญ่อีกครั้ง

“อย่าริทำกิริยาแบบนั้นกับคุณควอตซ์อีกล่ะ ชั้นรู้ว่าพวกเธออาจสนิทสนมกันมาก่อน แต่ตอนนี้คุณควอตซ์เค้าอาจไม่อยากสนิทสนมกับพวกเธออีกก็ได้” เธอพูดอีกครั้งด้วยเสียงจิกกัดขั้นสุดจนผมรับรู้ได้เลยล่ะครับ ทำไมดูน่ากลัวได้ขนาดนี้นะ..

“ผมขอโทษจริงๆครับ”

.

.

.

หลังจากการสนทนาสั้นๆนี้สิ้นสุดลง พี่เขากับเด็กฝึกงานที่ท่าทางเรียบร้อยคนนั้นก็เดินจากพวกผมไป ทิ้งความงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เอาไว้ให้กับพวกผม .. ผมกับไอ้ก็อตหันมามองหน้ากันไปมา .. นี่ผมโดนดุตั้งแต่วันแรกเลยใช่มั้ยเนี่ยะ..? ไอ้ก็อตเอามือมาตบไหล่ผมเบาๆเป็นเชิงปลอบใจก่อนผมจะพยักหน้าตอบกลับไป ไม่เป็นราย.. กูโอเค~ T^T

“ยังไงก็ระวังเจ๊แกไว้หน่อยแล้วกัน” พี่คิมเบอรี่บอกทันทีที่เห็นพี่คนเมื่อกี้กับเด็กฝึกงานของเธอเดินหายไปตรงหัวมุมสุดทางเดิน

“เอ่อออ.. พี่เค้าเป็นใครเหรอครับ” ไอ้ก็อตถาม

“พี่เค้าชื่อพี่ดาด้าน่ะจ่ะ เป็นหัวหน้าแผนกบัญชีที่ดุมากกกก..เลยล่ะ แต่จริงๆเค้าก็ดีนะ.. ดีมากแค่กับเฉพาะคุณแพร์รี่แฟนคุณควอตซ์เท่านั้นแหละ” พี่คิมเบอรี่ตอบ

“หะ..ใครนะพี่?” ไอ้ก็อตร้องถาม ทำเอาผมสะดุ้งต้องหันไปมอง

“พี่ดาด้าจ่ะ..”

“มะ..ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึง..พี่บอกว่าใครเป็นแฟนพี่ควอตซ์นะครับ” ไอ้ก็อตถามซ้ำ

“อ๋อ..คุณแพร์รี่ แฟนคุณควอตซ์” ไอ้ก็อตหันหน้ามามองผม เอ..แฟนไอ้พี่ควอตซ์งั้นเหรอวะ?

“เอ่อออ..แพร์รี่ ที่เค้าเป็นนักแสดงใช่มั้ยครับ?” ผมลองถามพี่คิมเบอรี่ออกไปบ้าง

“ใช่จ่ะ..คนนั้นแหละ นี่พวกเธอก็รู้จักเค้าเหรอ?” พี่คิมเบอรี่ตอบกลับมา พร้อมกับมองพวกผมที่ตอนนี้กำลังเหว๋อกันอีกครั้งทั้งคู่~!!

เชี่ยยยยยยยยยยะะะะะะะะะ~ *[]*//

แล้วผมจะไม่รู้จักได้ยังไงล่ะครับ ก็คนที่ทำให้ผมกับไอ้พี่ควอตซ์ต้องมาโกรธกันแบบนี้ ก็เพราะเรื่องของเธอคนนี้นี่แหละ..!!!

.

.

.

.

.

เย็นวันนั้นหลังจากศึกษางานเก่าๆที่ผ่านมาของบริษัทเสร็จ พี่อาร์ตแกก็พาพวกผมมาเลี้ยงมื้อเย็นที่ห้างฯในละแวกออฟฟิตที่มีธีมเป็นสนามบินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง พี่แกบอกว่าต้องเลี้ยงฉลองกันหน่อยเพราะเป็นวันดีที่พวกผมได้มาเจอแกอีกครั้ง ผมนี่โคตรดีใจเลยครับ นานๆทีจะได้กินของฟรี.. เย้ย..ไม่ใช่โว๊ย.. เอาใหม่.. นานๆทีจะได้เจอพี่ที่รู้จักกันดีต่างหาก ตั้งหลายปีเลยนะที่ไม่ได้เจอกับพี่อาร์ต เป็นบุญแค่ไหนแล้วที่พี่แกยังจำพวกผมได้ ยังเอ็นดูพวกผมอยู่เนี่ยะ.. ^^//

“ไม่ได้แดกข้าวพร้อมพวกมึงแบบนี้มานาน คิดถึงตอนเรียนเลยว่ะ ตอนนั้นพวกมึงนี่แม่งตัวติดกับพวกกูน่าดู” พี่อาร์ตพูดหลังจากพวกเราเช็คบิลกันเสร็จ แล้วเดินออกมายืนคุยกันอยู่หน้าร้านกำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน

“อย่าเหมารวมผมดิพี่..ไอ้ดรีมคนเดียวต่างหาก” ไอ้ก็อตโบกมืดปัดไปมา

“เออออ~” กูคนเดียวก็ได้ ยอมรับว่าตอนนั้นผมตัวติดไอ้พี่ควอตซ์จริงๆน่านแหละครับ ก็โคตรจะนับถือแม่งเลยไง แต่ตอนนี้นี่สิ..ตรงกันข้ามขั้นสุด!

“เออ..ไอ้ดรีม ถูกถามมึงหน่อยสิ กูก็ไม่รู้นะว่าทำไมมึงกับไอ้ควอตซ์ถึงไม่คุยกัน.. มันก็ไม่ยอมบอกกู แล้วตอนนี้มึงยังเคืองอะไรมันอยู่รึเปล่า?” พี่อาร์ตถาม

“ผมเนี่ยะนะ..?”

“ก็มึงนั่นแหละ จะใครอีกวะ?”

“ผมว่าพี่เค้านั่นแหละที่เคืองผมอ่ะ ผมก็อยากเคลียร์ เคยโทรหาไปก่อนแล้วด้วย แต่แม่งก็ไม่รับสายผม จะให้ผมทำไงวะพี่” พอพูดเรื่องนี้แล้วก็เริ่มหงุดหงิดอีกรอบละ

“มึงโทรหาไอ้ควอตซ์มันตอนไหนวะ?” พี่อาร์ตถาม

“ก็.. จำได้ว่าช่วงปิดเทอมก่อนงานเลี้ยงส่งรุ่นพวกพี่อ่ะ.. งานวันนั้นผมก็ไปด้วยนะ กะว่าจะคุยแต่พี่เค้าแม่งก็ไม่มา”

ผมจำได้ว่างานวันนั้นมันเป็นงานมีทติ้งฯเลี้ยงส่งรุ่นพี่ที่จบปีการศึกษา มีธีมให้แต่งตัวเป็นนักกีฬากันด้วยนะครับ ส่วนผมที่เป็นน้องปีหนึ่งของคณะก็ต้องไปช่วยงานตามระเบียบ เรียกว่าไปเป็นกำลังพลคนขนของ รันงานอะไรแบบนั้นนั่นแหละ ตอนนั้น..ผมนี่มองหาไอ้พี่ควอตซ์ตลอดทั้งงานซะจนเมื่อยคอเลยล่ะ รอไปสิว่าเมื่อไหร่แม่งจะมา แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นแม้แต่เงา.. แถมมันยันยังโพสสเตตัสบอกว่า "ไม่มาคงดีกว่า" อีกด้วยนะ..แม่งงง = =“

“เหอะ.. มันคงตอบมึงหรอก นี่มึงไม่รู้เหรอว่าตอนนั้นไอ้ควอตซ์มันไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว”

“หาาา~”

“ไม่ต้องหาเลย ไม่ใช่ว่ามึงโทรไปแล้วมันไม่รับอยู่คนเดียวหรอกนะ ของพวกกูมันก็ไม่รับเหมือนกัน”

“อ้าววว~” ไม่ใช่ผมเท่านั้นที่เหว๋อ ดูเหมือนไอ้ก็อตมันร่วมเหว๋อไปกับผมด้วยเหมือนกัน

“มึงก็เลยไม่คุยกับมันมาตั้ง 3 ปีจนถึงตอนนี้งั้นดิ?”

“ก็นับตั้งแต่วันนั้นแหละพี่ ผมก็เลยต้องมานั่งฟังไอ้ดรีมมันบ่นอึดอัดที่ไม่ได้เคลียร์อะไรของแม่งทุกวันแทน” ไอ้ก็อต..มึงจะขายกูออกมาแบบนี้ไม่ด้ายยย.. T^T

“แล้วมึงจะเอายังไงไอ้ดรีม” พี่อาร์ตหันมาถามผม

“ไม่รู้ว่ะพี่.. ผมก็อยากเคลียร์ แต่ผมว่าพี่เค้าคงเหม็นขี้หน้าผมไปแล้วล่ะมั้ง?” ผมว่า ถึงมันจะไปเรียนต่อ แต่อย่างน้อยถ้าไอ้พี่ควอตซ์แม่งจะอยากจะคุยกับผมอยู่บ้าง มันก็น่าจะติดต่อกันสักนิดก็ยังดี ส่งข้อความมาก็ได้ แต่นี่เล่นหายไปแบบนั้น ลบเฟรนตัดการติดต่อผมแบบนี้ ไอ้พี่ควอตซ์คงโกรธผมจริงๆแหละ แล้วมันอาจเป็นความผิดผมที่ทำให้เค้าพาลไม่อยากคุยกับคนอื่นๆไปด้วยก็ได้..

“หงอยเลยมึง.. เอาเหอะ.. กูรู้ว่าเมื่อตอนเที่ยงมึงไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แผนกกูก็อยากได้คนมาช่วยด้วยเหมือนกัน ถ้ามึงยังรู้สึกอึดอัดกับไอ้ควอตซ์มัน.. งั้น.. มึงย้ายมาฝึกงานแผนกกูแทนมั้ยล่ะ?” พี่อาร์ตถามผม

เชดดดดดด.. สวรรค์โปรด >//<

“มึงก็เอาไอ้ก็อตไปสิ!” เสียงผู้ชายคนนึงพูดขึ้นมาจากด้านหลังจนทำเอาผมต้องหันกลับไปมอง แต่ก็หันได้แค่ครึ่งเดียวก็ชนเข้ากับแผ่นอกของคนตัวสูงที่มายืนประชิดซะงั้น อืมมมม.. ถ้ามึงจะเล่นยืนเบียดกูซะขนาดนี้อ่ะนะ ผมเลยเงยหน้ามองแม่ง..

.

หะ!

.

เอ๊ะ!

.

ดะ..เดี๋ยวก๊อนนนนนนน..!!

ไอ้พี่ควอตซ์.. นี่มึงมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงห๊าาาาาาาาาา ~ *0*//

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว