บ่วงราคะ NC25++-บทที่ 6 ใครคือตัวหลอก 20%

โดย  อัญจรี / ซ้อ 5

บ่วงราคะ NC25++

บทที่ 6 ใครคือตัวหลอก 20%

หลังรับประทานของหวานเรียบร้อย ตะวันก็เดินไปกระซิบป้าใจให้ช่วยเตรียมห้องซ้อม หญิงสูงวัยเอามือทาบอก

“อีกแล้วเหรอคะคุณหนู คราวนี้ใครล่ะคะ อย่าบอกว่าเป็นพ่อหนุ่มรูปหล่อนั่นล่ะ อย่าเลยนะคะ สงสารเธอ”

“อะไรกันคะป้า กังวลเกินเหตุ ก็แค่ออกกำลังหลังอาหารนิดๆ หน่อยๆ” ตะวันกำหมัดชกเข้าใส่ฝ่ามือตัวเองหนักๆ หลายครั้งอย่างหมั่นเขี้ยว

“เดี๋ยวเธอกลับบ้านไม่ได้คุณหนูจะเดือดร้อนนะคะ แล้วจะหาว่าป้าไม่เตือน”

ป้าใจเดินงอนไปแล้ว ที่จริงตะวันก็ไม่ได้อยากจะทำอะไรแบบนี้ แค่เตรียมเผื่อไว้ ถ้าแขกหนุ่มเจ้าปัญหาไม่จ้องหาเรื่องจะไปบ้านเธอก็จบ แต่ถ้ามันตรงกันข้ามก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน ชกหมัดอยู่เพลินๆ เสียงใสๆ ของนาราก็ดังมาจากด้านหลัง

“พี่ตะวันค๊า อยู่ไหนเอ่ย อ้าว อยู่นี่เอง ทำไมมายืนข้างนอกนี่ล่ะคะ”

“คือ นี่ก็เริ่มมืดแล้ว พี่ว่าจะกลับบ้านน่ะจ้ะ ร้อนแล้วก็อยากอาบน้ำเต็มที ยังไงเจอกันที่มหาวิทยาลัยน๊า พี่ไปล่ะ” โบกมือให้นาราแล้วตะวันก็รีบเดินหมายจะไปที่รั้วข้างบ้าน นกานท์ซึ่งซุ่มรออยู่กระโดดเข้ามาขวาง

“เดี๋ยวสิ บ้านก็อยู่ติดกันแค่นี้ ไม่คิดจะชวนเพื่อนใหม่ไปบ้านบ้างหรือยังไง”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย” ตะวันกอดอกกระดิกเท้าพูดกับคนที่จู่ๆ ก็โผล่มาอย่างกับผี ก็นึกอยู่แล้ว หมอนี่มันจอมหาเรื่อง

“ก็ฉันอยากจะไปบ้านเธอ มีอะไรไหม” นกานท์กอดอกเลียนแบบ แถมยื่นหน้าเข้าไปใกล้

“ฉันไม่ให้ไป นายจะทำไม” ตะวันไหวไหล่ ในใจคิดว่านี่คือการเตือนครั้งสุดท้าย ถ้าเขายังเอาแต่แหลมมาแบบนี้เธอจะไม่เกรงใจ

“พี่แฮปคะ คือ พวกพี่เขาทำอะไรกันคะ เหมือนจะคุยกันอยู่แต่ไม่เห็นจะได้ยินเสียง”

นาราที่ยืนดูอยู่ห่างๆ หันมาพูดกับแฮปแบบงงๆ แต่แฮปไม่งง เห็นหน้าตัวเล็กของเขาก็รู้เลยว่ากำลังโกรธมาก และนกานท์เองท่าจะแย่ในอนาคตอันใกล้

“ไม่ทำไมหรอก ก็แค่..” นกานท์กระซิบตะวันแล้วป้องปากตะโกนไปทางนารา “พี่ตะวันชวนไปเที่ยวบ้านแน่ะ ไปไหม”

“จริงเหรอคะ ไปสิคะ นาราอยากไป พี่แฮปไปด้วยกันนะคะ” นารายิ้มดีใจรีบดึงแขนแฮปเดินไปหาตะวัน

นกานท์ยิ้มให้ตะวันอย่างเป็นต่อ ‘เธอพลาดแล้วยัยทอมบอย!’

‘เล่นแบบนี้เลยเหรอพ่อกาชีกอ! เจ้าเล่ห์นักนะ ฉลาดนักใช่ไหม ได้! ฉันพยายามแล้วนะ นายหาเรื่องเอง ช่วยไม่ได้แล้วคราวนี้ อยากไปนัก ได้ จัดให้!’ ตะวันหัวเราะโหมดโหดในใจ หักนิ้วมือตัวเองดังกรอบๆ แกรบๆ แล้วหันมาตอบนาราเสียงหวาน

“จริ๊ง ไปกันได้เลยจ้า บ้านพี่และบ้านพี่แฮปยินดีต้อนรับน้องนาราเสมอ” ตะวันยิ้มหวานตรงไปหานารา ดึงหญิงสาวออกมาจากเพื่อนชาย พาเดินห่างออกไปแล้วกระซิบ

“น้องนาราขับรถเป็นหรือเปล่าจ๊ะ มีใบขับขี่ไหม”

“เป็นค่ะพี่ตะวัน ใบขับขี่ก็มี พี่ตะวันถามทำไมคะ”

“ดีมาก ไม่ใช่อะไร เผื่อพี่ชายนาราเค้าเกิดง่วงหรือเมื่อยจะได้ผลัดกันขับได้ไง พี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง แค่นี้แหละไม่มีอะไร เอ้า แฮป มาพาน้องนาราไปก่อนนะ นำไปก่อนเลย พาไปทัวร์ได้เลย ห้องไหนก็ได้ ยกเว้นห้องซ้อมนะ วันนี้เค้าจะใช้ และยังไม่อยากให้น้องนาราเห็น เข้าใจนะพ่อความสุข”

ส่งนาราถึงมือแฮป ตะวันก็กระซิบกระซาบกำชับกำชาเรื่องสำคัญกับเพื่อนรัก ต้องกันนาราออกไปก่อนถึงจะลงมือลงไม้ได้สะดวก ตะวันสลัดกระดูกบริเวณต้นคอเล็กน้อยพอกรุบกริบ

“โอเค ว่าแต่ว่าเบาๆ หน่อยนะตะวัน พี่เขาก็ออกจะตัวเล็กแค่นี้ ยังไงก็เห็นแก่น้องนาราหน่อย” แฮปกระซิบกระซาบตอบอย่างเป็นกังวล

รอจนเพื่อนรักพาแขกสาวเดินนำไปไกลพอสมควร ตะวันก็หันมาเผชิญหน้ากับตัวปัญหา เดินวนสำรวจรอบตัว

“ทำเป็นเล่นตัวไปงั้น จริงๆ ก็อยากให้ฉันไปบ้านเธอล่ะสิ แผนสูงเหมือนกันนะเนี่ย ทำไม เดินวนรอบตัวฉันแบบนี้เริ่มสนใจฉันแล้วใช่ไหม ก็นึกอยู่แล้ว ผู้หญิงคนไหนก็สนใจฉันทั้งนั้น” นกานท์หัวเราะเพิ่มเสน่ห์

ขำไปเถอะ ขำไป นายจะหัวเราะได้อีกแค่ไม่นาน! “อยากไปบ้านฉันมากใช่ไหม นายน่ะ”

“ก็ไม่เท่าไหร่ แค่จะตามไปดูแลยัยนารา ก็เท่านั้น” คนตอบยักไหล่

“ก็คือจะไปนั่นแหละ เอางี้ ถ้านายจะไป ฉันคิดว่า..เรามาเล่นอะไรสนุกๆ เป็นการวอร์มร่างกายนิดๆ หน่อยๆ หลังอาหารกันดีกว่า เอาแบบถึงเนื้อถึงตัวกันหน่อย นายคิดว่าไง” นิ้วเรียวของตะวันไต่เบาๆ ไปตามลำแขนแขกหนุ่ม

นกานท์คลี่ยิ้มพอใจ ในที่สุดหญิงสาวก็เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยากอยู่ใกล้เขาจะแย่ เพียงแต่ฟอร์มและลูกเล่นเธอเยอะกว่าคนอื่นๆ ก็เท่านั้น ชายหนุ่มคว้ามือหญิงสาวกะจะเอามาจูบ แต่ขึ้นมายังไม่ทันถึงคางก็แข็งอยู่อย่างนั้น ออกแรงดึงเท่าไหร่ก็ไม่ขยับ

‘น้อยหน่อยพ่อ! พอเล่นด้วยล่ะเอาใหญ่ ตกลงแรงมีแค่นี้สินะ แค่มือฉันยังดึงไม่ขึ้น! นายตายแน่แน่!’ ตะวันบิดมือกลับแค่นิดเดียวนกานท์ถึงกับร้องเสียงหลง รีบสลัดมือบรรเทาความเจ็บ

“ว่าไง!” ตะวันยิ้มเยาะแล้วถามในสิ่งที่ยังไม่ได้คำตอบ

“เอาสิ เธอชอบใช่ไหมแบบถึงเนื้อถึงตัว เดี๋ยวฉันจัดให้ ว่าแต่เธอจะดึงมือออกทำไม ก็ชอบไม่ใช่เหรอแบบนี้” นกานท์เริ่มงงกับพฤติกรรมชักเข้าชักออกของผู้หญิงตรงหน้า เดี๋ยวจับเดี๋ยวดึงออก เอาไงกันแน่

“ก็ตรงนี้มันไม่ใช่ที่ รอไปให้ถึงที่ก่อนแล้วค่อยจัดหนักก็ยังไม่สายนี่คะ เอ๊า ตามมาสิ ยืนบื้ออยู่ทำไม” ตะวันยิ้มเหยียด รีบเดินนำไปที่รั้วด้านข้าง

“ทำไมไปตรงนั้นล่ะ”

คนเดินตามถามอย่างงงๆ สักพักก็หายงง เมื่อเห็นว่ารั้วบ้านของตะวันกับแฮปมีประตูเล็กๆ เชื่อมอยู่ ประตูที่ไม่ได้ใส่กลอน ไม่มีล็อกประตูใดๆ พวกเขาสามารถไปมาหาสู่กันได้ตลอดเวลา อย่างกับบ้านพี่บ้านน้อง สองคนคงสนิทกันน่าดู นกานท์คิดก่อนจะมุดประตูตามเข้าไป

ในห้องดนตรี นาราปรบมือรัวเมื่อแฮปเป่าแซกโซโฟนโชว์จบไปหนึ่งเพลง เสียงแซกโซโฟนของแฮบช่างหวานทุ้ม ท่าทางขณะโชว์ก็ดูเท่จนหญิงสาวแอบปลื้ม

“พี่แฮปเก่งจังเลยค่ะ เป่าแซกโซโฟนได้ด้วย ยากไหมคะ” เธอลุกขึ้นมาลองจับแซกโซโฟนของเขาและลองยกดู

“ไม่ยากครับ แค่รู้จักวิธีใช้ลม น้องนาราจะลองดูไหม แต่ เอ่อ อย่าดีกว่า คือมันเลอะปากพี่แล้ว พี่ลืมไป” แฮปเอามือลูบศีรษะตัวเองแล้วหัวเราะแก้เก้อ

“แหม นาราไม่ได้รังเกียจอะไรขนาดนั้น แค่..เอาผ้าเช็ดหน่อยก็ดี” นาราหัวเราะผสมโรง

‘ยิ่งอยู่ใกล้ๆ ยิ่งน่ารัก เป็นกันเอง ไม่หยิ่ง ไม่ถือตัวเลย’ แฮปรับแซกโซโฟนคืนมาจากนารา มองเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“แต่นาราเล่นเปียโนได้นะคะ นาราเรียนมา” คนตัวเล็กยิ้มตอบสดใสแล้วชี้ไปที่เปียโนข้างๆ

“งั้นดีเลย เรามาเล่นด้วยกัน แล้วเดี๋ยวสักพักค่อยไปหาพี่ตะวัน ตอนนี้ให้พี่ตะวันพาพี่กานท์ทัวร์ก่อน”

นาราพยักหน้าน้อยๆ แต่ยิ้มกว้าง แล้วเดินมารอที่เปียโน ไม่นานเสียงบรรเลงสอดประสานแว่วหวานระหว่างเปียโนกับแซกโซโฟนก็ดังกังวานในใจคนทั้งคู่


ระหว่างเดินไปยังห้องซ้อม นกานท์สังเกตทุกอย่าง ตั้งแต่อาณาบริเวณไปจนถึงการตกแต่ง บ้านหลังนี้โอ่อ่า ใหญ่โตไม่แพ้บ้านข้างๆ แถมยังมีห้องโน้นห้องนี้เยอะแยะไปหมด ตอนนี้เขามาถึงห้องซ้อมกีฬาของหญิงสาวเจ้าของบ้าน ห้องที่เธอบอกเขาว่าเป็นห้องที่เธอโปรดปราน มันกว้างขนาดมีห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ห้องเสื้อผ้าอยู่ในนี้เสร็จสรรพ

“บ้านนี้ไม่ใช่ของฉันหรอกนะ ทุกอย่างที่นายเห็นนั่นก็ด้วย ไม่มีอะไรเป็นของฉัน ฉันแค่มาอาศัยอยู่ เพราะฉะนั้นฉันไม่ได้รวยอย่างที่นายคิด” ตะวันเกริ่นขึ้นมาลอยๆ เมื่อเห็นนกานท์สำรวจบ้านของเธอซะละเอียดทุกซอกทุกมุม จนเขาเองต้องหันกลับมามองหน้าเธออย่างสงสัย

นกานท์ไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวจะต้องออกตัว เห็นๆ กันอยู่ว่าบ้านหลังนี้มีทุกอย่างที่เธอต้องการ ถ้าเธอไม่สั่งมันจะออกมาแบบนี้ได้ยังไง ทั้งห้องซ้อม การออกแบบ แล้วยังรถของเธออีก ดูก็รู้ว่าเป็นรถนำเข้า Limited edition แต่อาจจะมีหลายคันสักหน่อยในเมืองไทย เพราะเขาเองรู้สึกว่าเคยเห็นมาก่อนแต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน

“ที่นี่มีชุดหลายแบบ ทั้งยูโด เทควันโด คาราเต้ นายเลือกเอาก็แล้วกัน ตัวเล็กๆ เตี้ยๆ อย่างนายใส่แค่ชุดฉันก็พอได้มั้ง ขืนไปใส่ชุดพ่อความสุข ได้หลวมตาย”

“งั้นฉันเอาชุดเธอ!” นกานท์ไม่สนที่โดนหัวเราะเยาะ รีบคว้าโอกาสที่หญิงสาวหยิบยื่น

“ไม่ได้! ฉันพูดไปอย่างงั้น โน่น มีให้เลือกอีกหลายไซส์ นายเลือกเอาแล้วกัน อ้อ แล้วอยากอาบน้ำก็ได้นะ ทุกอย่างมีพร้อมอยู่ที่ห้องแต่งตัวหน้าห้องน้ำนั่นแหละ”

‘นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็แค่หาเรื่องกระแนะกระแหน’ นกานท์อมยิ้มแล้วรีบเดินตามหญิงสาวที่กำลังจะเดินไปห้องแต่งตัวอีกฝั่ง

“อาบด้วยกันสิ เป็นการวอร์มก่อนไง” ยืนหน้าหญิงสาวได้ เขาก็เดินถอยหลังไปคุยกับเธอไป เพราะเธอไม่ยอมหยุดเดิน

“ใจเย็นๆ สิคะพี่ชาย รีบร้อนไปได้ ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม เอาเป็นว่าถ้านายล้มฉันได้ แล้วเราค่อยอาบน้ำด้วยกันตอนที่เราเล่นกีฬาเสร็จ เหงื่อจะได้กำลังออกพอดี น่าจะสดชื่นกว่า นายว่าไหม” ตะวันยอมหยุดเดินแล้วพูดกับชายหนุ่ม พอเขาขยับเข้ามาใกล้ นิ้วชี้ของเธอก็กรีดลากผ่านแผงอกเขาอย่างช้าๆ นกานท์รีบฉวยมือหญิงสาวไว้ แต่เธอไวกว่ามาก เขาไม่ได้แม้แต่เฉียด

ตอนนี้จังหวะหัวใจของนกานท์ขึ้นๆ ลงๆ ไม่คงที่ ไม่น่าเชื่อ กะอีแค่ลากเบาๆ เนี่ยนะ ปกติสาวๆ ของเขาทำมากกว่านี้เขายังเฉยๆ ไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ยังไงเขาก็ยังมีโอกาสอยู่ดี เธอมอบโอกาสให้เขา ชวนเข้าบ้านแถมยังชวนอาบน้ำด้วยกันอีก มิน่า ให้พ่อชินจังกันน้องสาวของเขาออกไป แผนสูงแบบนี้ถูกใจชายหนุ่มอย่างแรง

“แต่ตอนนี้ห้องอาบน้ำของนายอยู่ด้านโน้น เชิญนายไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วเดี๋ยวไปเจอกันที่เบาะ เข้าใจ๋” นิ้วชี้จิ้มแรงๆ ลงไปที่อกของชายหนุ่ม ตะวันยิ้มเหยียดเพราะแค่นิ้วเดียวของเธอเล่นเอาเขาถึงกับเซ แบบนี้ต้องกะน้ำหนักมือประมาณไหนถึงจะไม่อ่วมเกินไปนัก คงต้องไปวัดกันที่หน้างาน

“ด๊าย แล้วเจอกัน เตรียมตัวได้เลย!” คนไม่รู้ตัวยิ้มเจ้าเล่ห์ เดินผิวปากกลับไปยังฝั่งของตัวเอง

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว