“แต่งงาน!”
สามสาวร้องประสานเสียงกันดังก้อง หลังจากสิ้นสุดการรับประทานมื้อเช้าเรียบร้อย คนเป็นพ่อที่เพิ่งจะกลับมาบ้านเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนก็แถลงการณ์เป็นเรื่องเป็นราว เล่นเอาของหวานที่วางอยู่ตรงหน้าทั้งสามสาวต้องเป็นหมันไปโดยปริยาย และนาทีนี้ดวงตาของทุกคนกำลังถลนแทบกระฉอกออกนอกเบ้า
“นิ่มไม่แต่งค่ะ” บุตรสาวคนโตอย่างชาลิญาโพล่งเสียงแข็ง
“เนยก็ไม่แต่งเด็ดขาดค่ะคุณพ่อ” ชาลินายืนกรานเช่นเดียวกับคนเป็นพี่
“น้ำ เอ่อ...น้ำไม่อยากแต่งค่ะ” เมื่อพี่ๆ สองคนปฏิเสธ ชาลิดาจึงต้องอ้อมแอ้มคัดค้านเช่นกัน
ขอบตาเหี่ยวย่นของชายร่างท้วมผิวขาว ซึ่งปกปิดด้วยกรอบแว่นสายตายาวใสแจ๋ว ถูกมือสากย่นนั้นขยับขึ้นเพื่อเพิ่มความคมชัด ก่อนจะจับจ้องไปยังบุตรสาวทั้งสามคน ซึ่งร่วมกันต่อต้านนโยบายหาคู่ครองที่ท่านคิดการณ์เอาไว้ ทำเอาท่านต้องเอื้อมไปคว้าน้ำชาอุ่นร้อนมาดื่มให้คล่องคอ ม่านตาสีน้ำตาลเข้มขยายกว้าง เฮอแมน เรเอสโน ผู้กุมอำนาจมืดในรัฐดูไบเพ่งพิศกรอบหน้าตึงๆ ของลูกสาวทุกคนเป็นรายตัว พยายามไม่พ่นลมหายใจทิ้ง
“แต่ลูกๆ โตพอที่จะมีคู่ครองแล้วนะ”
ประมุขแห่งเรเอสโนออกปาก ก่อนจะยืดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ผละห่างจากเก้าอี้ก้าวไปยืนอยู่หลังลูกสาวคนโต ฝ่ามือหนานุ่มนั้นวางทาบไหล่มนไว้หลวมๆ
“โดยเฉพาะลูกนะ นิ่ม”
“คุณพ่อว่านิ่มแก่หรือคะ”
ดวงตากลมๆ เอียงมองเสี้ยวหน้าของคนเป็นพ่อด้วยความรู้สึกแง่งอน “นิ่มไม่ยอมแต่งงาน จนกว่าจะเจอคนที่ใช่ คนที่นิ่มรักเท่านั้น คุณพ่อห้ามบังคับจิตใจของนิ่มและน้องๆ เด็ดขาด”
“แต่พ่อว่า...”
“อย่าบังคับพวกเรานะคะคุณพ่อ ถ้าพวกเราคิดจะแต่งงาน พวกเราจะเลือกคู่ครองด้วยตัวเอง”
บุตรสาวคนที่สองอย่างชาลินารีบเอ่ยย้ำความตั้งใจเดิมของตัวเอง ลำแขน กลมกลึงยกขึ้นกอดอก ใบหน้าสวยเฉี่ยวเริ่มบึ้งตึง
“เอ่อ...น้ำว่า คุณพ่อได้โปรดเห็นใจพวกเราเถอะนะคะ” จู่ๆ ชาลิดาก็เอ่ยปากร่วมด้วย
นาทีนี้สามพี่น้องหันมาสบตากันด้วยใบหน้ายิ้มๆ ปกติคุณพ่อมักจะไม่อยากขัดใจน้องนุชสุดท้อง รวมทั้งตัวของน้องสาวเองก็เป็นครั้งแรกที่คัดค้านบิดา งานนี้ดูท่าทางจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในคฤหาสน์เรเอสโนเข้าให้แล้ว แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ยังไงพวกเธอสามคนก็ไม่มีทางทำตามความต้องการของบิดาเด็ดขาด
“แต่ผู้ชายที่พ่อเลือกทั้งสามคน เขาเป็นคนดี มีชาติตระกูลนะลูก คนหนึ่งเป็นถึง...”
“ไม่แต่งค่ะ”
คุณหนูใหญ่ของตระกูลโพล่งขึ้นขัดจังหวะ “ไม่ว่าคุณพ่อจะพูดหว่านล้อมยังไง พวกเราก็ไม่แต่งงานเด็ดขาด”
“ลูกๆ ฟังพ่อสักหน่อยได้ไหมฮึ!”
เสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงแววเด็ดขาดว่า พลางขยับกายไปนั่งประจำตำแหน่ง เรียบร้อยก็ทิ้งแผ่นหลังแนบสนิทไปกับพนักพิงของเก้าอี้ ขอบตาย่นหรี่แคบลงเล็กน้อย “พ่อก็อายุปูนนี้แล้ว เห็นลูกสาวทุกคนเป็นฝั่งเป็นฝา มีผู้ชายดีๆ ดูแล ก็คงจะนอนตาหลับ ลูกก็รู้ว่าขณะนี้ชีวิตของเรามันก็แขวนอยู่บนเส้นด้าย จะขาดเมื่อไรก็ไม่รู้ อำนาจมันไม่เข้าใครออกใครหรอกนะ”
ริมฝีปากบางเฉียบของสามพี่น้องเม้มแน่นเป็นแถบตรง ดวงตากลมๆ ของทุกคนหันสบตากันเลิ่กลั่ก ใบหน้าฝาดเฝื่อนเมื่อรับรู้ความห่วงใยจากแววตาของบุพการีที่เคารพ อึดใจพี่ใหญ่ของบ้านจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“ถ้าคุณพ่อต้องการให้เรามีคู่ครองจริงๆ เราขอเลือกผู้ชายคนนั้นด้วยตัวเองได้ไหมคะ”
“ให้เราเลือกคนที่จะแต่งงานด้วยตัวเองเถอะนะคะคุณพ่อ” ชาลินารีบขอร้องด้วยอีกคน
“นะคะคุณพ่อ” น้องนุชของบ้านอย่างชาลิดารีบผละลุกจากเก้าอี้ วางมือเกาะบนท่อนแขนนุ่มหยุ่นนั้นหลวมๆ ปลายจมูกเล็กจมไปกับแก้มย่นฟอดใหญ่อย่างออดอ้อน ก่อนจะซบหน้าเข้ากับไหล่กระด้างที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
“นะคะคุณพ่อขา...ให้น้ำ พี่เนย และพี่นิ่มเลือกทางเดินชีวิตด้วยตัวเองนะคะ”
คนเป็นพ่อได้แต่ถอนใจทิ้ง ขยับมือมาลูบไหล่มนของร่างแน่งน้อยที่ซุกอยู่กับอก “ก็ได้ พ่อจะยอมทำตามที่ลูกขอร้อง”
สามสาวถึงกับฉีกยิ้มจนแก้มปริ แต่พริบตาเดียวก็ต้องเฉาลงทันตา เพราะความยินยอมนั้นมาพร้อมกับคำสั่งเด็ดขาด ชาลิญาซึ่งเป็นพี่ใหญ่ของบ้าน ต้องหาคู่ครองให้ได้ภายในระยะเวลาสามเดือนต่อจากนี้ ส่วนชาลินานั้นมีเวลาหกเดือน และชาลิดามีเวลามากสุดนั่นคือเก้าเดือนเต็ม แม้สามศรีพี่น้องอยากจะเอ่ยแย้งแทบขาดใจ แต่เมื่อเจอนัยน์ตาคมดุเข้าก็ต้องปิดปากเงียบ พร้อมทำหน้ายุ่งคล้ายยุงตีกัน
ประมุขแห่งเรเอสโนออกปากแค่นั้น ท่านก็หมุนกายก้าวออกไป ปล่อยให้แก้วตาดวงใจทั้งสามคนต้องพ่นลมหายใจทิ้ง หันมามองหน้ากันและกันอย่างครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป เธอทั้งสามจะเฟ้นหาผู้ชายดีๆ มาเป็นคู่ชีวิตได้ที่ไหน แค่มองไปเบื้องหน้าก็เจอทางตันจนต้องแอบยกแขนปาดเหงื่อ
“พี่นิ่มจะทำยังไงคะ” ชาลินาเอ่ยถาม พลางถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม “เราต้องช่วยพี่นิ่มก่อน เพราะพี่นิ่มมีเวลาน้อยที่สุด”
“จะทำยังไงได้ล่ะ ก็คงต้องหาผู้ชายสักคนมาอุปโลกน์ เหมือนที่เราคิดกันตั้งแต่แรกนั่นแหละ”
“ใครจะยอมเป็นคนๆ นั้นคะ” น้องนุชสุดท้องออกความเห็น “แล้วเราจะไว้ใจเขาได้สักแค่ไหน”
“น้ำ...”
พี่คนโตเอ่ยปากเรียก “นี่เราเริ่มรู้จักคิดรอบคอบแล้วนะ พี่ดีใจจัง ถึงแม้จะอยู่ในช่วงวิกฤติแบบนี้ แต่มันก็มีเรื่องดีๆ เข้ามา อย่างเช่นตอนนี้ไง น้ำรู้จักคัดค้านคุณพ่อ รู้จักมองโลกในอีกแง่มุม”
คนถูกชมได้แต่คลี่ยิ้มจืดๆ ก่อนจะเดินไปโอบเอวพี่สาวคนโตไว้หลวมๆ อึดใจชาลินาก็เดินเข้ามากอดอีกคน เป็นอันว่าสามคนพี่น้อง หน้าตาสละสลวยต่างก็มอบความรักที่เข้มข้นตามประสาเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน ให้กำลังใจกันและกันด้วยความอบอุ่นซึ่งมันจะไม่มีทางถูกบั่นทอนลงเลย ไม่ว่าจะเผชิญปัญหาที่ยิ่งใหญ่สักเพียงใด
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว