เพียงแค่บานประตูเปิดออก ร่างบางก็ถูกกระชากเข้าไปในห้องอย่างแรง ก่อนจะถูกผลักให้ไปยืนชนกำแพง ตามด้วยร่างใหญ่ที่พุ่งมาประกบชิดเสียจนหน้าอกของเขาบดเบียดอกอวบอิ่มของหล่อน
“คุณยุกต์!”
หญิงสาวตกใจ ยกมือขึ้นดันอกเขาให้ออกห่าง แต่เขากลับยิ่งออกแรงดันตัวเบียดเข้าหาเพิ่มขึ้นไปอีก ปลายจมูกโด่งกำลังจะชนปลายจมูกหล่อน หญิงสาวจึงเอียงหน้าหนี
“ทำไมมาช้านัก ไม่รู้เหรอว่าผมต้องกินมื้อเช้า” เสียงเขาดุแต่กลับสั่นพร่าแหบโหย ลมหายใจอุ่นรดรินแก้มเนียนที่แต่งหน้ามาบางๆ
“ก็แล้วทำไมไม่กินละคะ จะมารอฉันทำไม”
“หึ!” วรรณยุกต์ทำเสียงในลำคอแล้วไม่พูดอะไรต่อ เขายกขาข้างหนึ่งแทรกเข้าไปตรงกลางขาเรียวทั้งสอง จากนั้นค่อยๆ เลื่อนขึ้นช้าๆ
“คุณ!” วิอัณณาหันกลับมาพูดได้แค่นั้นก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอเมื่อได้เห็นรอยยิ้มและแววตาของเขา มันบอกชัดว่าเขากำลังเล่นสงครามกับหล่อน หญิงสาวเม้มปากหลับตาแน่น ยิ่งขาเขาเลื่อนขึ้นสูงเท่าไหร่ หล่อนยิ่งต้องเขย่งเท้าสูงขึ้นเท่านั้น ทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมาอย่างสมใจ ทว่ายังไม่ยอมหยุดยกขาขึ้นเรื่อยๆ
วิอัณณาเขย่งจนสุดปลายเท้า หล่อนไม่สามารถเขย่งให้สูงกว่านี้ได้อีก หญิงสาวตัวสั่นเมื่อรู้สึกถึงขาที่เลื่อนแหวกกระโปรงเนื้อนิ่มของหล่อนขึ้นมาจนถึงโคนขา และมันกำลังจะชนกับชั้นในตัวจิ๋วที่ปิดบังเนินสาวเอาไว้
“สั่นขนาดนี้...สั่นสู้ใช่มั้ย”
“คุณจะทำอะไร นี่มันห้องทำงานนะ เดี๋ยวใครก็มาเห็นหรอก” หล่อนพยายามเตือนสติเขา
“ห้องทำงานผม คุณก็เมีย...น้อยผม ผมจะทำอะไรก็ได้ ใครจะมาเห็นก็ช่าง แต่เขาไม่กล้าว่าแน่นอน” วิอัณณาเกลียดคำว่า ‘เมียน้อย’ แต่หล่อนคงต้องทำใจ เพราะจากนี้ไปเขาคงพูดให้ฟังบ่อยจนหล่อนสะอิดสะเอียน “แล้วก็รู้ไว้ด้วยนะว่าผมอยากจะกินคุณที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากอายคนอื่น อย่าปล่อยให้ผมหิวจัดแบบนี้อีก”
พูดจบเขาก็จูบหล่อนอย่างอดใจไม่ไหว ไม่รุนแรง ไม่รุกราน ทว่าเรียกร้องจนหญิงสาวแทบสำลักลมหลายใจ มือเรียวยกขึ้นผลักอกเขา ทว่าแรงปรารถนาอันแรงกล้าของเขาทำให้มือไม้ของหล่อนอ่อนแรงจนน่าโมโห