บทนำ
เสียงฝีเท้าของผู้คนจำนวนมากวิ่งอยู่เหนือพื้นไม้ ในขณะที่เด็กหญิงตัวน้อยถูกปิดปากกลั้นเสียงร้อง ซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นที่มีประตูกลปิดบังไว้
แสงสว่างสลับกับเงาดำที่พาดผ่านร่องไม้เล็ก ๆ ผู้คนข้างบนวิ่งวุ่นเพื่อหาตัว ‘ท่านหญิงน้อย’ วัยเพียงสี่ปีที่ไม่รู้ว่าหายตัวไปได้อย่างไร
“เจอท่านหญิงไหม!” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม
“ไม่เจอ” อีกเสียงหนึ่งตอบ “มีคนพานางไปแล้ว”
ฝ่าย ‘ท่านหญิง’ ที่ถูกถามหานั้น น้ำตาไหลพรากด้วยความหวาดกลัว วงแขนแข็งดังเหล็กกล้ากอดร่างเล็กเปราะบางไว้ ในขณะที่มือซึ่งหยาบกร้านจากการจับอาวุธปิดปากเล็ก ๆ แนบสนิท กลั้นเสียงสะอื้นเบา ๆ ของเด็กหญิงที่กำลังร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวที่สุดในชีวิต
“ปิดทางเข้าออกเมืองกุ้ยชิงทุกทาง จนกว่าจะพบท่านหญิง!”
“รับทราบ!”
เสียงฝีเท้าดังรัวขึ้นอีกครั้ง ไม่นานนัก ‘หมิงซือเซียน’ ก็มองเห็นเงาร่างร่างหนึ่งผ่านทางร่องประตูกล
กุ้ยชิงอ๋อง...บิดาของนาง!
หมิงซือเซียนพยายามดิ้น แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกกอดรัดแน่นขึ้น ยังไม่ทันที่ร่างบิดาจะก้าวพ้นไป ร่างของมารดาก็เดินตามมา สายตาของผู้เป็นแม่มองลอดลงมาใต้ช่องว่างระหว่างประตูกล นางมองไม่เห็นอะไรข้างใต้นั้น แต่ผู้ที่อยู่ข้างล่างมองเห็นนางอย่างชัดเจน
ร่างเล็กพยายามดิ้นรนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของชายที่กักตัวนางไว้ในอ้อมแขนที่แข็งแกร่งเกินกว่าที่นางจะต่อสู้ ในขณะที่ผู้คนมากมายกำลังสับสนอลหม่านค้นหาตัวหมิงซือเซียน ท่านหญิงน้องเองพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อให้ตนได้ออกไปหาเสด็จพ่อกับท่านแม่ของตนเช่นกัน
นางอยากตะโกนบอกทุกคนว่านางอยู่ในนี้
นางอยากวิ่งออกไปให้เสด็จพ่ออุ้ม
นางอยากให้ท่านแม่ช่วยปลอบโยนและเช็ดน้ำตาให้นาง
นางอยากกลับเข้าสู่อ้อมกอดของเสด็จพ่อกับท่านแม่
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีวันเป็นไปได้…ไม่มีหนทางที่จะเป็นไปได้อีกแล้ว!
ครู่ใหญ่ผ่านไป กว่าที่ความวุ่นวายทั้งหมดจะสงบลง แต่สำหรับหมิงซือเซียนนั้นช่างเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานราวชั่วอายุขัย ร่างเล็กดิ้นรนจนกระทั่งหมดแรงสลบไปในอ้อมแขนของผู้ที่รั้งตัวนางไว้
‘จางเค่อ’ ชายหนุ่มในชุดดำวัยสิบหกปี กำลังกอดร่างเล็กปวกเปียกไว้ในสองแขน เขารอจนแน่ใจแล้วว่าด้านบนไม่มีใคร มือใหญ่ข้างหนึ่งจึงเอื้อมไปผลักบานประตูกลออก แล้วพาหมิงซือเซียนขึ้นมาจากช่องลับอย่างเงียบเชียบ
ชายหนุ่มเดินอย่างระมัดระวัง ฝีเท้าของเขาเบายิ่งกว่าแมว ตำหนักกุ้ยชิงอ๋องยามนี้มีทหารหลวงมากมายล้อมไว้ ราวกับจะไม่ให้ใครเล็ดรอดออกไปได้แม้แต่คนเดียว หากแต่จางเค่อก็หาใช่คนที่จะถูกจับได้ง่าย ๆ เช่นกัน
ร่างสูงพลิกตัวหลบ หมุนกายเข้าซ่อนที่ผนังด้านหนึ่งเมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังผ่านมา โชคดีของเขาที่หมิงซือเซียนยังไม่ได้สติ จึงไม่ได้ส่งเสียงสะอื้นใด ๆ ออกไป
จางเค่อถอนหายใจ ไม่ง่ายเลยที่จะพาหมิงซือเซียนออกไปจากตำหนักกุ้ยชิงอ๋อง ในขณะที่ทหารมากมายยังคงเดินตรวจตรา ชายหนุ่มเหงื่อแตกชุ่มทั้งที่อากาศเย็นจัด ต้องคอยหลบซ่อนทหารมากมายที่เดินผลัดเปลี่ยนเวียนกันเข้ามาค้นหาหมิงซือเซียน จางเค่อลอบหนีออกไปทางเส้นทางลับที่เขาได้ตระเตรียมไว้ โดยมีร่างเล็กที่ไม่ได้สติฟุบศีรษะอยู่บนบ่ากว้าง แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวออกไปจากตำหนักกุ้ยชิงอ๋อง เสียงหนึ่งก็ตวาดขึ้น!
“หยุด!” เสียงนั้นดังก้องไปทั่วตำหนักกุ้ยชิงอ๋อง และมันก็เป็นเสียงที่เร่งให้สองขาของจางเค่อเคลื่อนไหวรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
“ท่านหญิงอยู่กับชายผู้นั้น ทหาร! ตามไป!”
แล้วจางเค่อก็ถูกไล่ตามด้วยทหารหลวงไม่ต่ำกว่ายี่สิบคน ชายหนุ่มวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ร่างเล็กที่สลบไปเมื่อครู่เริ่มรู้สึกตัว หมิงซือเซียนค่อย ๆ ปรือตาขึ้น เด็กน้อยยกศีรษะขึ้นจากไหล่กว้าง พลันสายตาเหลือบไปเห็นทหารมากมายติดตามมา และหนึ่งในนั้นมีทหารคนหนึ่งที่ยืนอยู่กับที่พร้อมกับเล็งธนูมาที่จางเค่อ!
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว