วันรุ่งเช้า จิรภาณินท์มองเสื้อผ้าในตู้ด้วยความหมดหวัง ตู้เธอแทบไม่มีชุดทำงานออฟฟิศเลยสักชุด วันนี้จะต้องไปทำงานที่บริษัทแต่ดันมีแต่ชุดเดรสที่ใส่เดินงานพริตตี้ทั้งนั้น ถึงจะมีก็พอใส่ได้ที่เป็นชุดเดรสสีอ่อน ๆ
สายตาหวานกวาดมองในตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง แต่ถ้าจำเป็นวันนี้เธอก็ต้องใส่ไปก่อน ก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มาทำงานในบริษัท มือเรียวเอื้อมไปหยิบชุดเดรสเกาะอกสีครีมรัดรูปสั้นเหนือเข่า พร้อมเสื้อคลุมสีดำเพื่อปิดไหลก่อนจะหยิบรองเท้าสีดำเข้ากับชุดเดินออกจากห้องไป
“ณินท์ แม่บอกว่าให้เลิกทำงานพริตตี้ได้แล้วใช่ไหม” สายพิรุณเอ่ยขึ้นเสียงดัง ขณะที่หญิงสาวเดินลงมาและเข้ามากอดหล่อน
“แม่คะ ณินท์จะไปทำงานที่บริษัทค่ะ” เมื่อได้ฟังคำตอบจากปากของคนเป็นลูก สายพิรุณยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“จริงหรอ แล้วทำไมไม่บอกแม่”
“จริงค่ะ” คนเป็นแม่เอื้อมมือไปจับมือลูกสาวด้วยความดีใจ
จิรภาณินท์ยิ้มตอบ ทั้งที่รู้ว่างานก็แค่ชั่วคราวและไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็อยากจะให้แม่ของเธอยิ้มได้แบบนี้โดยไม่ต้องเป็นห่วง
“ทานข้าวดีกว่าลูก จะได้ไปทำงาน”
“ค่ะแม่” หญิงสาวตอบ
.
.
ณัฐภัทรประธานบริษัทอัญมณีที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในด้านการออกแบบเครื่องเพชร ด้วยวัยหนุ่มที่เข้ารับดำรงตำแหน่งแทนบิดาเมื่อสามปีก่อน เขาเต็มไปด้วยความสามารถและความเพียบพร้อม จนเป็นผู้ชายในฝันของหญิงสาวหลาย ๆ คน
ชายหนุ่มเดินเข้าบริษัทมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องงานที่เขาทำ นั่นเป็นเพราะเมื่อเช้าย่าของเขา บอกว่าผู้ช่วยส่วนตัวจะมาทำงานในวันนี้และนั่งในห้องทำงาน ทั้งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยที่จะหาผู้ช่วยสักครั้ง หรือแม้แต่เลขาที่เป็นผู้หญิงก็ตาม
หน้าห้องประธานที่ถูกเรียงรายด้วยโต๊ะทำงานของพนักงานนักสิบโต๊ะ ทุกคนต่างเห็นเขาเดินเข้ามา พร้อมกับเอ่ยทักกล่าวสวัสดีเช่นทุกวัน ณัฐภัทรยิ้มตอบภายใต้ใบหน้านิ่งก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเขาด้วยสีหน้าบ่งบอกถึงเรื่องกลุ้มใจ
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงเก้าอี้ทำงานด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า เขาเบื่อที่ย่าต้องยัดเยียดผู้หญิงให้ใกล้ชิด ทั้งที่ผ่านมาก็พยายามพาไปดูตัวทาบทามอยู่หลายต่อหลายครั้ง
สายตาคมมองไปบนโต๊ะทำงาน แฟ้มเอกสารเกี่ยวกับประวัติสมัครงานวางอยู่ มือหนาเอื้อมไปหยิบพร้อมเปิดอ่าน เพียงอ่านชื่อและตำแหน่งที่
เข้าทำงานทำให้เขาถึงกับเดือดพล่าน นี่ย่ากำลังทำอะไรกันอยู่ จะให้ผู้ช่วยมาเดินแบบให้ดูหรือยังไงกัน!
ณัฐภัทรโยนแฟ้มทิ้งโดยไม่แยแส เพราะเขาจะไม่มีวันรับผู้หญิงคนนี้เข้าทำงานเด็ดขาด!
ก๊อก ๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น สายตาคมเงยหน้าขึ้นไปมองประตูที่ค่อย ๆ เปิดออกพร้อมปรากฏร่างหญิงสาวใบหน้าคล้ายกับรูปถ่ายในประวัติที่อ่านเมื่อครู่นี้ เธอเดินเข้ามาหาเขาก่อนจะยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าดูสวยสะอาดกว่าในรูปแต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกแต่อย่างใด
“สวัสดีค่ะ” เธอยกมือขึ้นไหว้เขาพร้อมกับสำรวจใบหน้าคมที่หล่อเหล่า ที่สะกดหัวใจตั้งแต่แรกเมื่อเธอก้าวเข้ามาในห้อง แต่ทว่ากลับไม่มีรอยยิ้มต้อนรับเธอบนใบหน้าชายหนุ่มแม้แต่น้อย
“ออกไป” เสียงเรียบเอ่ยสั่ง ทำให้เจ้าของร่างงามมองด้วยความตกใจ นี่หรือคำต้อนรับของเจ้านายใหม่เธอ
“คะ”
“ได้ยินแล้วก็ออกไป”
ไม่ใช่คำต้อนรับแน่ แต่นี่ไล่ไป มีที่ไหนไล่กันแบบนี้ เธอไม่มีวันไปแน่นอน ดวงตากลมมองหาโต๊ะทำงานแต่ว่าไม่มี
“ออกไป?” เธอถามเขามองหน้าด้วยความสงสัย
ชายหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบ
“หมายความว่ายังไงคะ” น้ำเสียงเสียงหวานเอ่ยถามเขาทั้งที่ใจเริ่มขุ่นเคืองกับการต้อนรับของเจ้านายใหม่
“ผมไม่รับเข้าทำงาน พอจะเป็นคำตอบได้ใช่ไหม” เขาตอบเรียบ ๆ
จิรภาณินท์ขบริมฝีปากล่าง มองชายหนุ่มตรงหน้า พลางกวาดสายตาหาเก้าอี้รับแขกเพื่อนั่งรอ แต่ทำไมในห้องถึงไม่มี มีแค่เก้าอี้ทำงานเพียงอย่างเดียว และเก้าอี้อีกที่ที่อยู่ฝั่งตรงข้างเขา
“คงจะไม่ได้มั่งคะ เพราะว่า ...”
“นั่นมันเรื่องของคุณย่า ผมไม่อยากฟังถ้าไม่ออกไปผมจะให้ รปภ. มาลากคุณออกไป” น้ำเสียงยังคงนิ่งเรียบเช่นเดิม ทำให้คนที่ฟังถึงกับเริ่มโมโหขึ้นมาเล็กน้อย ไม่เพียงแต่ไม่สนใจเธอ แต่ยังไล่เธออีก
“คุณ!” เธอมำสีหน้าไม่พอใจขณะก้าวเข้าไปหาเขา
“ฟังไม่ออกหรือไง” ณัฐภัทรถาม นัยน์ตาคมมองหญิงสาวตรงหน้า คงต้องยอมรับว่าสวยจริง ๆ ถ้าจะให้หลงก็คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะหัวใจเขาไม่มีไว้ให้ผู้หญิงคนอื่นอีกแล้ว
“ฉันมาทำงานตาม...”
“ค่าจ้าง” เขาพูดแทรกขึ้นก่อนจะลุกเดินมาหาหญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้าง มีหรือที่ย่าเขาจะไม่ใช้เงินจ้างมาไม่มีทาง นั่นเป็นเรื่องที่เขารู้ดี “ย่าของผมจ้างคุณเท่าไหร่ ผมจะจ่ายให้เป็นสองเท่า”
จิรภาณินท์มองชายหนุ่มตรงหน้า
“สองเท่าหรอคะ” เธอถามอีกครั้ง เงินไม่จำเป็นสำหรับเธอ แต่เมื่อเธอเลือกที่จะรับงานแล้วเธอจะไม่ผิดคำพูดเด็ดขาด
“ใช่” เขาตอบสั้น ๆ พร้อมยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าต้องยอมรับเงินของเขาอย่างแน่นอน
“แต่ฉันขอเป็น...” เธอเดินเข้ามากระซิบที่ข้างหู
ใช่แล้ว! งานของเธอเริ่มต้นขึ้นแล้วต่างหาก
เป็นครั้งแรกที่เธอจะยั่วผู้ชาย ดีที่เขาหน้าตาดีพอจะยั่วได้ถ้าเป็นเสี่ยตามผับ ต่อให้ร้อยล้านเธอก็ไม่ลงทุนยั่วหรอไม่มีทาง!
“สามเท่าผมก็ยินดีจ่าย” เขาดันไหล่บางที่ขยับเข้ามาใกล้ให้ออกห่างแต่มือน้อยๆ ของหญิงสาวอยู่ไม่สุข ลูบไล้ที่หน้าอกด้วยท่าทางยั่ว
“ฉันขอเปลี่ยนเป็นหัวใจคุณได้ไหมคะ” ทันทีที่ได้ยินชายหนุ่มถึงกับหัวเราะให้กับความกล้าของหญิงสาวตรงหน้า มือหนาจับแขนของเธอก่อนจะสะบัดออกโดยไม่แยแส
จิรภาณินท์เริ่มมีหวังในใจ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะลวนลาม ก็แค่สามเดือนทนอยู่กับเขา รู้อยู่แล้วว่าจะให้เปลี่ยนใจคนที่เขารักให้ลืมไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าเป็นเธอก็คงไม่คิดที่จะลืม แต่นี้เป็นงานที่ได้รับต่อให้แลกทุกอย่างก็ต้องทำสำเร็จให้ได้ ยกเว้นร่างกายไม่มีวัน!
“คุณต้องการเงินผมก็จะให้ แต่ออกไปจากชีวิตผมซะ”
เขาพูดก่อนเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง
“กลับไปได้แล้ว ที่นี่ไม่มีที่นั่งทำงานสำหรับคุณ”
จิรภาณินท์มอด้วยความไม่พอใจเมื่อเขายื่นเช็คมาให้เธอ
ขนาดยั่วแล้ว เขายังไม่สนใจแถมยังจะไล่เธอด้วยซ้ำไป หรือว่ายั่วน้อยไปนะ
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว