หวงรัก (เมียวัยเยาว์)

11

ณ ที่แห่งหนึ่งในป่าหลังภูเขา


“อะไร พวกเจ้าปล่อยให้มันหนีไปได้?” จางมัวพูดอย่างไม่สบอารมณ์


“พวกข้าขอโทษศิษย์พี่ พวกข้าคิดไม่ถึงว่ามันจะฝ่าออกไปเช่นนั้น” ศิษย์ที่เป็นผู้นำกลุ่มครั้งนั้นกล่าวไปก้มหน้าไป


ปังงงง


“พวกไม่ได้เรื่อง!! ”จางมัวตะโกนพร้อมกับต้อยศิษย์คนดังกล่าวกระเด็นออกไป


“รีบกระจายตัวกันหามันให้เจอ แล้วรีบมาแจ้งข้า ข้าจะไปจัดการมันด้วยตัวเอง” จางมัวรีบสั่งการลูกน้องของตนทันที


“หลินเฟิง แกหนีไม่รอดหรอก” จางมัวพรึมพรำกับตัวเอง พลางกำมือแน่น


………………..


หลังจากที่หลินเฟิงเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จนเกือบทำให้ตนเองต้องตาย หลินเฟิงตัดสินใจกลับไปหาเพื่อนๆของเขาทันที เขารู้สึกว่าเรื่องราวที่เกินขึ้นมันช่างน่าเหลือเชื่อเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะเล่าอะไรที่เกี่ยวกับหลุมศพมารให้คนอื่นๆฟัง


ส่วนเรื่องที่ทำไมมันถึงมาอยู่ในที่แห่งนี้ ทำไมผ่านมาตั้งนานแล้วไม่มีใครพบเห็น หรือต้นกำเนิดของมันจะเป็นเช่นไร หลินเฟิงไม่อยากรู้เลยสักนิด เขารู้สึกว่ามันต้องไม่ใช่สิ่งที่ดี และที่สำคัญมันจะต้องทำให้ชีวิตของเขามีแต่ปัญหาแน่นอน ดังนั้นเขาจึงอยากอยู่ห่างๆเรื่องนี้เอาไว้ดีกว่า หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นแล้วเขาไม่โชคดีเช่นครั้งนี้ เขาได้ตายจริงๆแน่นอน


แม้ว่าหลินเฟิงจะไม่อยากสนใจเรื่องของวิญญาณมาร เลยก็ตาม แต่มีคำพูดหนึ่งของมันที่ทำให้เขาเกิดข้อสงสัยนั่นคือ ‘ ที่แท้เจ้าก็ ’ วิญญาณมารเห็นอะไร มีอะไรอยู่ในร่างกายของเขากันแน่ ถึงทำให้วิญญาณมารที่คิดทำร้ายของเขาต้องสูญสลายหายไปเช่นนี้


ไม่ว่าจะคิดอย่างไร เขาก็คิดไม่ออก หากมีความเป็นไปได้ มันคงเป็นเรื่องที่เกิดตอนอยู่ตระกูลหลิน ครั้งที่เขาโดนฟ้าฝ่าจนเกิดความเปลี่ยนแปลงกับร่างกายของเขามากขนาดนี้ แต่เสียดายที่วิญญาณมารยังพูดไม่ทันจบมันก็สูญสลายไปเสียก่อน ทำให้เขาไม่รู้ว่ามันเห็นหรือรู้อันใดกันแน่


‘ ในเมื่อมันอยู่ในร่างกายและไม่ทำอันตรายอันใด งั้นก็ช่างมันแล้วกัน ถึงเวลาคงรู้เอง ’ หลินเฟิงคิดกับตนเอง


หลินเฟิงคิดไม่นานก็จะเลิกสนใจเรื่องนี้ อย่างไรเสียความแข็งแกร่งของเขายังน้อยอยู่คงไม่สามารถค้นพบความจริงได้ และหากเป็นอย่างที่บุคคลลึกลับกล่าวแล้ว เมื่อเขามีความแข็งแกร่งที่มากพอ เขาก็จะสามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง


“เป็นไรบ้าง หาทางกลับได้หรือไม่” หลินหลาน


ไม่นานนักหลินเฟิงก็กลับมาถึงบริเวณที่กลุ่มของเขาพักอยู่ เขาก็ได้ยินเสียงหลินหลานกล่าวถามเขาทันที


“เจ้ากลัวหรือ? ไม่ต้องกลัวหรอก ข้าปกป้องเจ้าได้” หลินเฟิงเห็นสีหน้าจริงจัง และเคร่งเครียดของหลินหลานก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อนาง


“ใครต้องการให้เจ้าปกป้องกัน” หลินหลานหน้าแดงพลันเบือนหน้าหนีทันที ส่วนคนอื่นๆ ก็แอบยิ้มกันในใจ


“ข้าสำรวจเส้นทางมาแล้ว พักกันอีกหน่อย แล้วพวกเราค่อยเดินทางออกจากกลับไป” หลินเฟิงหันไปกล่าวกับคนอื่นๆ


ใช้เวลาพักฟื้นร่างกายไม่นานนักกลุ่มหลินเฟิงก็ออกหาหญ้าปฐพีกันต่อ พวกเขาไม่ได้ใช้เวลาทางเดินตอนขามา แต่ใช้เส้นทางอ้อมๆเพื่อกลับไปยังทางเขา พวกเขาจะได้หาสมุนไพรรวมทั้งหญ้าปฐพีด้วย และยังป้องกันการลอบโจมตีของกลุ่มจางมัวด้วย


“ในที่สุดก็ได้เจอแก่สักที” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น


กลุ่มหลินเฟิงชะงักทันที จากนั้นก็หันไปยังทิศทางของเสียง พวกเขาขมวดคิ้วแน่นทันที เพราะคนที่มาก็คือจางมัวนั่นเอง พวกเขาไม่คิดเลยว่าจางมัวจะพบพวกเขาเร็วขนาดนี้ และที่สำคัญ พวกเขาลูกล้อมไว้อีกแล้ว


“จางมัว” หลินเฟิงมองจางมัวพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา


หลินเฟิงรู้ว่าครั้งนี้เขาไม่สามารถใช้แผนเดิมในการฝ่าออกไปจากวงล้อมได้อีก เขาเองก็อยากจะจบปัญหากับจางมัวลงเช่นกัน เขาไม่อยากให้คนอื่นๆมาเดือดร้อนเพราะเขาอีก


“คิดว่าจะหนีพ้นรึไง ได้เวลาที่เราต้องมาจบบัญชีแค้นกันแล้ว” จางมัวกล่าวขณะเดินเข้าหาหลินเฟิงอย่างช้าๆ


“อืม มันถึงเวลาที่ต้องสะสางปัญหาเสียที” หลินเฟิงเองกล่าวกับจางมัวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาจะจบปัญหาระหว่างเขากับจางมัวให้ได้


“หากลูกน้องมันไม่เคลื่อนไหว พวกเจ้าต้องไม่เคลื่อนไหวเช่นกัน”จากนั้นเขาหันไปหาคนในกลุ่มของเขาแล้วกล่าวว่า


“แต่ว่า” หลินหลานกล่าวด้วยความเป็นห่วง


“เจ้าเป็นห่วงข้ารึ!? ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่เป็นอะไรแน่นอน” หลินเฟิงกล่าวพร้อมยิ้มให้หลินหลาน


“พวกเจ้าล้อมพวกมันไว้ อย่าให้ใครหลุดลอดไปได้เด็ดขาด และหากข้าไม่สั่งก็อย่าได้ลงมือทำอะไร” จางมัวกล่าวกับลูกน้องของตน


พึบบ!!


หลังจากล่าวกับลูกน้องเสร็จ จางมัวก็พุ่งเข้าหาหลินเฟิงทันที ส่วนหลินเฟิงก็ไม่รอช้าเขาเองก็พุ่งเข้าใส่จางมัวเช่นกัน ตอนนี้ความเร็วของหลินเฟิงอาจจะด้อยกว่า แต่ด้วยการที่เคยสู้กันการก่อน ทำให้หลินเฟิงสมารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของจางมัว และสามารถคาดเดาทิศทางการเคลื่อที่และการโจมตีของจางมัวได้


ตูมมมม


แม้ว่าหลินเฟิงจะสามารถหลบการโจมตีของจางมัวได้ แต่เขาเลือกที่จะปะทะกับจางมัวตรงๆ ด้วยวรยุทธ์โจมตีอย่าง [ ทลายภูผา ] อย่างไรเสีย การหลบไม่ใช่วิธีที่จะจบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นหลินเฟิงหรือจางมัว วันนี้ต้องมีคนพ่ายแพ้ หากเขาเอาแต่หลบ เขาจะต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว