บทที่ 1 อ่างสัมฤทธิผล
“ไอ้ชาวนา! ให้เวลาเจ้าอีกสามวัน หากไม่จ่ายภาษีที่ดินของเดือนนี้ ข้าจะส่งเจ้าไปหายมบาลซะ!”
ณ กระท่อมแห่งหนึ่ง ทหารสวมชุดเกราะสีหน้าดุดัน เหยียบร่างเด็กหนุ่มผู้สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบอยู่ใต้ฝ่าเท้า
เด็กหนุ่มรวบรวมความกล้า “แต่...แต่ว่า เมื่อต้นเดือนข้าได้จ่ายของเดือนหน้าไป...”
ผลัวะ!
เด็กหนุ่มยังพูดไม่ทันจบ ทหารนายนั้นก็เตะหน้าของเขาอย่างแรง ทำให้ฟันหักไปหลายซี่ เลือดไหลทะลักท่วมปาก
“ยังจะพูดพล่ามอีก! ข้าขอบอกให้เจ้ารู้ไว้ จงจำให้ดี หลังจากนี้สามวันถ้ายังไม่จ่ายภาษี ข้าเอาเจ้าตายแน่!”
ทหารพูดข่มขู่น้ำเสียงเย็นชา จากนั้นหมุนตัวเดินจากไปเก็บภาษีครอบครัวอื่นต่อ
เด็กหนุ่มกำหมัดแน่นด้วยร่างที่สั่นสะท้าน ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เป็นเพราะแค้น
เขามีนามว่าเจียงผิงอัน อายุสิบสี่ปี อาศัยในหมู่บ้านต้าเหอ ครอบครัวของเขาทำนามาหลายชั่วอายุคน
เดิมทีเขาก็ยังพออยู่ได้ ทว่าปีก่อนเกิดสงครามขึ้น จึงเริ่มมีการเรียกเก็บภาษีอย่างหนัก
ไม่ว่าภาษีที่ดิน ภาษีรายหัว หรือภาษีเข้าเมือง… ภาษีไหน ๆ ล้วนต้องจ่ายเงินทั้งสิ้น
มารดาของเขาเหนื่อยตายจากการทำงานหนัก ส่วนบิดาถูกเสือร้ายบนภูเขาจับกินระหว่างเข้าป่าไปล่าสัตว์
บัดนี้ทั้งครอบครัวเหลือเพียงแค่เด็กหนุ่มเพียงคนเดียว ทว่าทหารเหล่านี้ยังคงไม่ปล่อยเด็กอายุสิบสี่เช่นเขาไป
เด็กหนุ่มรู้สึกเหนื่อยล้าและอยากจะจากโลกนี้ไป แต่ก่อนหน้านี้บิดามารดาได้สั่งกำชับให้เขาต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป
เขาไม่รู้ว่าความหมายของการมีชีวิตอยู่คืออะไร แต่หากต้องมีเป้าหมาย ก็คงเป็นการฆ่าไอ้พวกสารเลวที่ชอบกดขี่ข่มเหงชาวบ้านเหล่านี้
แต่...เขาอายุแค่สิบสี่ปี ร่างกายผอมแห้งเพราะขาดสารอาหารเป็นเวลานาน จะเอาอะไรไปต่อกรกับทหารที่ร่ำเรียนวิชาการต่อสู้เหล่านี้ได้ นอกจากนี้ยังเคยได้ยินมาว่าทหารบางคนมีพลังของเซียนด้วย
เจียงผิงอันตะเกียกตะกายลุกขึ้น วันนี้ทั้งวันยังไม่มีอะไรตกถึงท้องประกอบกับโดนซ้อมอย่างหนัก ร่างกายจึงสาหัสพอสมควร
ในกระท่อมมีแต่ความว่างเปล่า โต๊ะเก้าอี้ที่สามารถขายได้ก็ถูกนำไปขายจนหมด
เจียงผิงอันทอดสายตามองไปที่อ่างเก่า ๆ ข้างเตาไฟ
นี่คือสิ่งเดียวที่หลงเหลือภายในบ้าน เป็นอ่างสำริดที่บิดาเก็บได้จากริมแม่น้ำ ตัวอ่างเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว มีขนาดใหญ่กว่าศีรษะเล็กน้อย ปกติจะใช้เพื่อรองน้ำ
เจียงผิงอันเดินกะโผลกกะเผลกไปอยู่ตรงหน้าอ่างสำริดเก่า ๆ มีเพียงแค่สิ่งนี้สิ่งเดียวที่ยังสามารถนำไปขายได้ ไม่รู้เช่นกันว่าจะขายได้สักเท่าไร
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้องเอาออกไปขายก่อน เพื่อจะได้มีเงินนำไปซื้อแป้งทอด หากว่าต้องตายขึ้นมาจริง ๆ จะได้ไม่ต้องเป็นผีตายอดตายอยาก
ขณะที่เด็กหนุ่มอุ้มอ่างสำริดขึ้น เลือดของเขาหยดลงบนอ่าง พลันมีแสงสีเขียวเจิดจ้าเปล่งประกายออกมา
เจียงผิงอันนิ่งตะลึง มันเรื่องอันใดกัน? เหตุใดอ่างสำริดจึงส่องแสงออกมาได้?
หรือว่าโดนซ้อมจนเกิดภาพหลอน?
“พี่ผิงอัน!”
เวลานี้เด็กผู้หญิงร่างกายแข็งแรงปรากฏตัวที่หน้าประตู เด็กหญิงอายุประมาณแปดขวบ สวมเสื้อผ้าปะ ๆ ขาด ๆ แต่ยังพอใช้สำหรับปกปิดร่างกายได้
“น้องหู่นิว” เจียงผิงอันตอบออกไป
อันที่จริงเด็กหญิงมีนามว่าหลี่เยว่เยว่ หู่นิวเป็นเพียงชื่อเล่นเท่านั้น
หลี่เยว่เยว่รีบวิ่งเข้ามา แบมือเล็ก ๆ ที่ขาวสะอาดราวกับหิมะ วางเหรียญทองแดงลงในอ่างที่เจียงผิงอันถืออย่างรวดเร็ว พูดเสียงน่ารักน่าเอ็นดู
“พี่ผิงอัน นี่เป็นเงินที่ข้าขโมยมาจากท่านพ่อ รีบนำไปจ่ายภาษีเถอะ”
ถัดมา นางหยิบหมั่นโถวครึ่งลูกที่ยังร้อน ๆ ออกมาจากอกเสื้อแล้วยัดใส่มือของเจียงผิงอัน “รีบ ๆ กิน ข้าแบ่งมาให้”
“ไม่ได้ เงินนี่...”
เจียงผิงอันยังพูดไม่จบ หลี่เยว่เยว่ก็หัวเราะคิก ๆ วิ่งออกไปเสียแล้ว
เจียงผิงอันโดนทหารซ้อมไม่เคยร้องสักแอะเดียว ทว่าเวลานี้… ต่อหน้าหมั่นโถวครึ่งลูกและเงินหนึ่งเหรียญ ในดวงตาของเขากลับมีน้ำตาเอ่อล้น
ในโลกนี้ไม่เคยขาดคนปักลายดอกไม้สวยบนผ้าแพรชิ้นงาม แต่ที่ขาดคือคนมอบถ่านในยามหนาวเหน็บ
ภายใต้ความสิ้นหวังเช่นนี้ ยังมีคนเป็นห่วงตนเอง ความรู้สึกเช่นนั้นยากนักจะพรรณนาเป็นคำพูดได้
ทันใด แสงสีเขียวก็ลุกวาบภายในอ่างสำริด
เพียงครู่ต่อมา เหตุการณ์ที่ทำให้เจียงผิงอันต้องตื่นตะลึงก็เกิดขึ้น เหรียญทองแดงจำนวนมากมายปรากฏขึ้นในอ่างใบเก่าคร่ำครึ
เด็กหนุ่มนิ่งตะลึงอยู่นาน จากนั้นตัวก็เริ่มสั่น เขารีบไปปิดประตูอย่างระมัดระวัง
ก้มหน้ามองอ่างสำริดใบนั้นอีกครั้ง เหรียญทองแดงยังคงอยู่!
ภาพลวงตา! ไม่ ไม่ใช่แน่!
เจียงผิงอันยื่นมือที่สั่นระริกเข้าไปในอ่าง หยิบเหรียญทองแดงออกมา
ไม่นับรวมเหรียญที่หลี่เยว่เยว่ให้ มันมีทั้งสิ้นสิบเหรียญ!
เพราะอะไร?
ทำไมจู่ ๆ ถึงมีเหรียญทองแดงเยอะแยะมากมายเพิ่มขึ้นได้?
ทันใดนั้นเขานึกถึงตำนานที่บิดาเคยเล่าให้ฟัง ที่ว่าเทพเซียนเก่งกาจมีอำนาจล้นฟ้า สามารถเรียกลมเรียกฝน สามารถเสกเงินได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีอาหารให้กินอิ่มท้องหรือไม่มีเสื้อผ้าไว้ห่มกายกันหนาว
เซียนบางตนยังมีของวิเศษที่มีอำนาจร้ายกาจและสามารถเสกเงินได้เช่นกัน ดังเช่นอ่างสัมฤทธิผล ใส่เงินเข้าไปสามารถงอกออกมาเป็นเงินได้ไม่ขาด
หรือว่านี่จะเป็นอ่างสัมฤทธิผลของเทพเซียน?
เจียงผิงอันอายุไม่มาก แต่เข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ได้รวดเร็ว เมื่อคิดตรึกตรองจนมั่นใจแล้ว เขาก็ตื่นเต้นจนหัวใจแทบจะหลุดออกมา
มีอ่างสัมฤทธิผลใบนี้แล้ว เขาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเงินอีก! อีกทั้งยังสามารถจ่ายภาษีได้ด้วย!
เจียงผิงอันโยนเหรียญทองแดงอีกเหรียญเข้าไปเพื่อให้เหรียญเพิ่มจำนวนมากขึ้น
แต่ทว่า...ผ่านไปครู่ใหญ่ เหรียญในอ่างกลับไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ
“สามารถเพิ่มจำนวนได้แค่ครั้งเดียว? หรือว่าต้องทิ้งระยะเวลาสักพัก?”
หากว่าเพิ่มจำนวนได้แค่ครั้งเดียว ถ้าเช่นนั้นคงเป็นเรื่องน่าเศร้าเหลือเกิน
เจียงผิงอันกินหมั่นโถวที่หู่นิวแบ่งให้ ทว่าไม่เพียงไม่หายหิวแต่กลับหิวหนักยิ่งกว่าเดิม
เด็กหนุ่มมองเหรียญทองแดงสิบเหรียญในมือ เงินจำนวนนี้เพียงพอแค่จ่ายภาษีที่ดินเท่านั้น
เจียงผิงอันตัดสินใจเด็ดขาด ไม่ว่าอย่างไรตนเองก็ต้องกินก่อน เขาตั้งใจจะไปหาซื้ออาหารมากินให้อิ่มท้อง
เขาอยากจะอุ้มอ่างออกไปด้วย แต่ก็กลัวจะเป็นที่จับตามองแล้วโดนคนอื่นแย่งไป
แต่หากเก็บไว้ในบ้าน เขาก็กลัวว่าคนอื่นจะมาขโมย
เมื่อก่อนไม่รู้ถึงความร้ายกาจของมัน ไม่ว่าวางไว้ตรงส่วนไหนของบ้านก็ไม่เคยรู้สึกเป็นห่วง ทว่าตอนนี้… พอรู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งล้ำค่า วางตรงไหนล้วนรู้สึกไม่ปลอดภัยทั้งสิ้น
อ่างในมือราวกับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง ฉับพลันมันกลายเป็นแสงสีเขียวมุดเข้าไปในร่างของเจียงผิงอัน
เจียงผิงอันตกใจมาก รีบตรวจคลำร่างกายของตัวเอง
“มันเรื่องอะไรกัน? อ่างของข้าอยู่ไหน?”
พร้อมกับความคิดนี้ อ่างกลายเป็นแสงสีเขียวปรากฏอยู่ในมืออีกครั้ง
เจียงผิงอันนิ่งไปชั่วครู่ ชักเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาแล้ว เขาพูด “เก็บ”
อ่างสำริดกลายเป็นแสงสีเขียวมุดเข้าไปในร่างของเขา
“ปรากฏ”
อ่างสำริดปรากฏบนมือของเขา
เจียงผิงอันดีใจมาก เหมือนดังที่คิดไว้ไม่ผิด สามารถเรียกเก็บอ่างได้ตามความใจนึก
หลังจากที่ทดลองอยู่หลายครั้งจนเป็นที่พอใจแล้ว เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าของดีชิ้นนี้ไม่ใช่สิ่งของที่ใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง!
ฉับพลันท้องของเขาก็ร้องเสียงดัง
เด็กหนุ่มรีบหยิบเงินแล้ววิ่งไปหาลุงหลี่ที่อยู่ข้างบ้าน
เวลานี้ หลี่หมินกำลังสั่งสอนอบรมหลี่เยว่เยว่ “เป็นเด็กเป็นเล็ก แต่รู้จักขโมยเงินแล้ว! ใครเป็นคนสั่งสอนกัน!”
“ไม่มีใครสอน ข้าเพียงแค่ไม่อยากให้พี่ผิงอันโดนตี” สองมือของหลี่เยว่เยว่เกาะกุมอยู่ด้วยกัน น้ำตาไหลพราก
“เจ้า...” หลี่หมินหยิบไม้เรียวขึ้นมา ทว่า...เห็นท่าทางน่าสงสารของหลี่เยว่เยว่แล้ว สุดท้ายก็ตีไม่ลง
ทันใดนั้น เขาก็เหลือบเห็นเจียงผิงอันอยู่ที่หน้าประตู
หลี่หมินแผดเสียงดุ “ไปให้พ้น”
เจียงผิงอันรีบพูดขึ้นมา “ท่านลุงหลี่ ข้ามาเพื่อเอาเงินมาคืน”
“ไม่ต้อง รีบไปให้พ้น” หลี่หมินส่งเสียงตวาด
ครอบครัวของเขาไม่ได้ร่ำรวย โดนขูดรีดไปหลายครั้ง เหลือข้าวของเพียงไม่กี่ชิ้น แต่เขารู้ว่าเจียงผิงอันยากจนยิ่งกว่า
ถึงแม้หลี่หมินจะรู้สึกสงสาร แต่เขาก็ไม่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของอีกฝ่ายได้… ลำพังแค่ของตัวเองก็เต็มกลืนแล้ว
เจียงผิงอันยังคงไม่ยอมไปไหน ในทางกลับกันเด็กหนุ่มแบมือตัวเองเพื่อให้เห็นเหรียญห้าเหรียญ
“คืนหนึ่งเหรียญให้พวกท่านแล้ว ยังมีเหลืออีกสี่เหรียญ ข้าอยากจะซื้อหมั่นโถวสี่ลูก”
หลี่หมินตกใจ “เหตุใดเจ้าจึงมีเงินเยอะเช่นนี้?”
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว