Stay By My Side รูมเมทคนนี้...ไล่ผีให้ที (นิยายแปล)-ตอนที่ 2 ลมหายใจของนายคือวัคซีนของฉันเหรอ (2)

โดย  Bubble Tea House

Stay By My Side รูมเมทคนนี้...ไล่ผีให้ที (นิยายแปล)

ตอนที่ 2 ลมหายใจของนายคือวัคซีนของฉันเหรอ (2)

ตอนที่ 1 (10)

โซเฟียเพิ่งคีบซี่โครงผัดเปรี้ยวหวานเข้าปาก เหยาซุ่นอวี่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็วางตะเกียบลงดัง ‘ปัง’ ทำเอาเธอตกใจจนสะดุ้ง

“พี่ครับ ตอนเช้าที่ผู้จัดการทั่วไปอบรมก็ถูกแล้ว เป็นผมที่ไม่ได้ทำความเข้าใจผู้จัดการทั่วไปให้ดีก่อน เลยทำให้เขาไม่สบอารมณ์ พี่ช่วยบอกความชอบของผู้จัดการทั่วไปกับผมได้ไหมครับ สอนผมหน่อยว่าจะเป็นเลขาฯ ที่ดียังไง!”

สบประสานกับดวงตาเปล่งประกายของเหยาซุ่นอวี่ โซเฟียพลันรู้สึกว่าคนเบื้องหน้าเป็นเทวดาน้อยดีๆ นี่เอง ต่อให้ซื่อบื้อก็ตาม...

แม้ไม่รู้ว่าคนที่ส่งข้อความมาเป็นเทพเจ้าจากที่ไหน แต่ฉันขอบคุณคุณมากนะคะ!

โซเฟียโห่ร้องชูมืออยู่ในใจ

หนุ่มน้อยน่ารักชูธงลั่นกลองรบแล้ว เธอก็รู้สึกละอายใจอยู่หน่อยๆ บีบมือเหยาซุ่นอวี่เบาๆ “น้องซุ่นอวี่ของพวกเราเป็นเทวดาตัวจริงเลย...ไม่เป็นไรนะ พี่อยู่นี่แล้ว!” พูดจบก็หยิบสมุดบันทึกหนาปึ้กเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋าที่เธอพกติดตัวตลอด วางลงเบื้องหน้าเหยาซุ่นอวี่ ตบมันอย่างทะนุถนอม

“กลับไปค่อยดูนะ” โซเฟียพูดอย่างมีเลศนัย “นี่เป็นคัมภีร์ลับที่บรรพบุรุษหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือดสืบทอดต่อกันมาให้เรา”

เหยาซุ่นอวี่มองคัมภีร์ลับสุดหนาเล่มนั้นด้วยสายตาทึ่มทื่อ

หนาขนาดนี้เชียว!?

แต่เขายังไม่ทันตกตะลึง พี่สาวก็พูดยิ้มๆ ขึ้นอีกรอบว่า “รีบกินข้าวเถอะ...อยากดื่มกาแฟไหม พี่เลี้ยงเอง!”

&

พอหมดช่วงพักเที่ยงเหยาซุ่นอวี่ที่ถือแฟ้มเอกสารไว้ในมือและกำลังจะเดินเข้าไปในห้องทำงานผู้จัดการทั่วไปดันบังเอิญเจอรองผู้จัดการทั่วไปหลี่ฮุ่ยวั่งเข้าเสียก่อน

“ซุ่นอวี่ ทำงานวันแรกราบรื่นดีไหม” รองผู้จัดการทั่วไปกอดอกมองเขา แย้มยิ้มซุกซนทว่าไม่เสียความอ่อนโยนเป็นมิตร

พอนึกถึงที่เมื่อเช้ารองผู้จัดการทั่วไปหลี่ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้เขา เหยาซุ่นอวี่ก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย ท่าทางน่าอับอายทั้งหมดของตนถูกเห็นหมดแล้ว ขายหน้าชะมัด...กอดเอกสารที่อยู่ในอกแน่นขึ้นกว่าเดิม พูดเสียงแผ่วว่า “ผมทำได้ดีไม่พอเองครับ ผมจะปรับปรุงตัว พยายามยั่วโมโหผู้จัดการทั่วไปให้น้อยลง...”

หลังหลี่ฮุ่ยวั่งได้ฟังก็เผยสีหน้าชื่นชมออกมา

“ทัศนคติเยี่ยมมาก! ถึงผู้จัดการทั่วไปจะขี้โมโห แต่พื้นเพนิสัยเขาไม่ได้เลวร้ายหรอกนะ พนักงานทำงานยอดเยี่ยมเขาจะต้องให้รางวัลอย่างงามแน่นอน”

จริงด้วยสินะ นิสัยขี้โมโห...เหยาซุ่นอวี่ยิ้มขมขื่น แต่ก็แค่คิดในใจเท่านั้น

ตอนนั้นเองรองผู้จัดการทั่วไปก็แสดงท่าทางมีลับลมคมในออกมากะทันหัน แถมยังแอบกระซิบเบาๆ อีกด้วยว่า “จำไว้นะ ก็เหมือนเวลาน้วยแมวนั่นละ ลูบไปตามแนวขนเขา เข้าใจไหม”

“น้วยแมวเหรอครับ” นาทีนั้นเหยาซุ่นอวี่ยังไม่เข้าใจ ถามอย่างทึ่มทื่อ “ผู้จัดการทั่วไปเลี้ยงแมวเหรอครับ ผมต้องช่วยดูแลไหม”

คำถามที่ทั้งซื่อทั้งไร้เดียงสาทำให้หลี่ฮุ่ยวั่งบื้อใบ้พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ เขามองสบดวงตาเป็นประกายระยับของหนุ่มน้อย กลีบปากแดงอ้าๆ หุบๆ อยากพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ได้พูด สุดท้ายก็ฝืนกลืนวาจากลับลงไป

เจ้าเด็กบื้อคนนี้นี่ ถ้าให้นายเอาหัวมุดเข้าไปในปากสิงโต น่ากลัวว่านายคงทำด้วยความเต็มใจสินะ...

แม้จะแอบลอบขำในใจ แต่หลี่ฮุ่ยวั่งก็ยังมองเจ้าแฮมสเตอร์น้อยเด๋อด๋าไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยสีหน้าเมตตาอารี ตบบ่าเหยาซุ่นอวี่เป็นเชิงให้กำลังใจ แต่รู้สึกว่าไม่พอ จึงเพิ่มโควตากอดแน่นๆ ให้อีกหนึ่งที

“สู้เขานะ ฉันฝากความหวังไว้กับนาย”

อ้อมกอดแข็งแรงและถ้อยคำอบอุ่นของรองผู้จัดการทั่วไปช่วยเติมความมั่นใจมหาศาลให้เหยาซุ่นอวี่ เขาคลี่ยิ้ม ดูไปแล้วยิ่งเหมือนลูกสัตว์ตัวน้อยๆ ไม่มีพิษภัย “ขอบคุณครับรองผู้จัดการทั่วไป!”

รองผู้จัดการทั่วไปหลี่เองก็ส่งยิ้มตอบกลับมา ก่อนจะจากไปอย่างสบายอกสบายใจ

มองแผ่นหลังเหยียดตรงของหลี่ฮุ่ยวั่ง ความมั่นใจของเหยาซุ่นอวี่ทบทวีขึ้น รู้สึกว่าตนเองมีความกล้าในการเผชิญศึกตอนบ่ายแล้ว!

พยายามเข้า เหยาซุ่นอวี่!

เขากำหมัดให้กำลังใจตนเองอย่างเงียบเชียบ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะสาวเท้าไปทางห้องทำงานผู้จัดการทั่วไป

&

เพราะละครคั่นฉากสุดประดักประเดิดตอนเช้า เหยาซุ่นอวี่จึงปลุกสติตัวเองเต็มพิกัด ตาสว่างเป็นพิเศษ ทำงานหนึ่งที่ผู้จัดการทั่วไปมอบหมายให้สำเร็จทั้งตัวสั่นเทา

บางทีอาจเพราะตอนเช้าโหดร้ายกับเขาเกินไป หรือไม่ก็เป็นเพราะเขาทำได้ไม่เลว แม้ผู้จัดการทั่วไปจะมีสีหน้าไร้อารมณ์ตามเดิม ทว่าดีร้ายอย่างไรก็ไม่ได้ขมวดคิ้ว และไม่ได้ด่าเขาอีก

“...สิบโมงเช้าวันพรุ่งนี้มีประชุมประจำเดือนกับแผนกธุรกิจ บ่ายสามโมงประชุมทางออนไลน์เกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั่วโลก...” เหยาซุ่นอวี่รายงานกำหนดการไปพลางสำรวจสีหน้าของผู้จัดการทั่วไปด้วยความระมัดระวังไปพลาง

ซย่าซังโจวนั่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ดูเหมือนกำลังฟัง แต่ก็ใช้มือหนึ่งกดขมับ ท่าทางอึมครึม สีหน้าก็ย่ำแย่กว่าเมื่อเช้ามาก

เหยาซุ่นอวี่รายงานไปครึ่งหนึ่ง พอเห็นหัวหน้าเอื้อมมือออกมาเปิดลิ้นชัก คล้ายกำลังรื้อหาบางสิ่ง พอหาจนทั่วแต่ไม่เจอก็กระแทกลิ้นชักด้วยความหงุดหงิดจนเกิดเสียง ‘ปัง’ ดังลั่น ของตกแต่งที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานสั่นไหวเบาๆ

เหยาซุ่นอวี่จำต้องหยุดพูดแล้วถามเสียงแผ่ว “...ผู้จัดการทั่วไป เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

“น้ำ” ยังเป็นวิธีออกคำสั่งที่กระชับรวบรัดเช่นเดิม

“ครับ”

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว