Stay By My Side รูมเมทคนนี้...ไล่ผีให้ที (นิยายแปล)-ตอนที่ 1 อาณาเขตถูกรุกราน ผู้ใดเข้าใกล้ต้องถูกประหาร! (5)

โดย  Bubble Tea House

Stay By My Side รูมเมทคนนี้...ไล่ผีให้ที (นิยายแปล)

ตอนที่ 1 อาณาเขตถูกรุกราน ผู้ใดเข้าใกล้ต้องถูกประหาร! (5)

อาหารเช้าทั้งหมดเป็นฝีมือของปี้เจียคนเดียว นางยืนมองนายอำเภอจี้กับจี้เส้าชางและหลิงจ้านกินอาหารฝีมือนางด้วยรอยยิ้มชอบอกชอบใจ ยิ่งจี้เส้าชางหันมาชมนางว่ามื้อนี้อาหารถูกปากอร่อยกว่าทุกครั้ง ปี้เจียก็ขอบคุณยกใหญ่ ผิดกับหลิงจ้านที่พูดขึ้นว่า

“ปรุงแต่งรสชาติมากเกินไป จนไม่สามารถรับรู้รสชาติที่แท้จริงของอาหารเหล่านี้!” ปี้เจียหน้าเสียลงทันที

“ท่านอ๋องหมายความว่าอย่างไรขอรับ คนเราก็ต้องการกินอาหารที่รสชาติได้รับการปรุงแต่งทั้งนั้นนี่ขอรับ” นายอำเภอจี้ถามด้วยสีหน้างุนงง

“ใช่ข้ารู้ดี เพราะปรุงแต่งมาดีเกินไป จึงไม่รู้ว่ารสชาติที่แท้จริงของผัก เนื้อสัตว์ และธัญพืชแต่ละชนิดมีรสชาติที่แท้จริงอย่างไร เหมือนกับนิสัยคนที่จงใจปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้ เพราะคิดอ่านแผนการใหญ่ในวันข้างหน้า!”

นายอำเภอจี้มิใช่คนโง่ เขาเหลือบสายตามองปี้เจียแวบหนึ่ง เห็นสาวใช้ผู้นี้มีสีหน้าซีดเผือด แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจก็คิดอ่านในใจปี้เจียออกทันที นายอำเภอจี้จึงพูดขึ้นว่า

“ปี้เจีย...เจ้าไม่ต้องติตตามเส้าชางไปเมืองหลวงด้วย ให้แม่นมฮุยกับปี้หวายติดตามไปเพียงสองคนก็พอ!”

“ทะ...ทำไมล่ะเจ้าคะ นายท่าน?” ปี้เจียร้องถามละล่ำละลัก ในใจรู้สึกวุ่นวายร้อนรนดุจมดในกระทะ

นางทำอะไรผิดหรือ?

“ข้าสั่ง เจ้าแค่ทำตามก็พอ!”

ปี้เจียหน้าสลด ยืนรับคำหงอยๆว่า “เจ้าค่ะ”


ด้านนอก ปี้หวายกำลังถือถาดใส่ขนมหวานสองอย่างซึ่งนางลงมือทำเองเพราะนางถนัดทำขนมหวานเดินตรงมายังเรือนหลัก กลับถูกบุรุษผู้หนึ่งวิ่งชน ทำให้นางถึงกับล้มหงายท้อง โชคดีที่บุรุษผู้นั้นหันมาคว้ารับร่างของนางไว้ในอ้อมแขน ใบหน้าของคนทั้งสองห่างกันเพียงคืบ สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของกันและกันจนปี้หวายหน้าร้อนแทบไหม้เมื่อพบว่าบุรุษผู้นี้มีใบหน้าคมคายมิใช่น้อย

ปี้หวายรีบทรงตัวยืนอย่างมั่นคงโดยเร็ว พลางจับเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง ขณะที่บุรุษผู้นั้นหน้าแดงเถือก ร่ำร้องขออภัยต่อนางครั้งแล้วครั้งเล่า

“ไม่...ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ” นางบอกเสียงนุ่ม แต่พอเห็นขนมซานเย่าไส้ถั่วแดงหล่นตกลงไปกลิ้งอยู่บนพื้นหมดจานก็เกิดโมโหขึ้นมา เผลอตวาดออกไปอย่างลืมตัวว่า

“คนบ้า วิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือ ขนมที่ข้าทำให้คุณหนูกินเสียหายหมดแล้ว!”

บุรุษผู้นั้นชะงักท่าทีในตอนแรก ก่อนเขาจะย่อเข่าลงช่วยปี้หวายเก็บขนมซานเย่าใส่จาน แต่กับถูกนางปัดมือเขาทิ้ง “ไม่ต้องมายุ่ง จะไปไหนก็ไป”

“อ่า แม่นาง ข้าขอโทษ ข้าแค่มีธุระเร่งด่วนต้องไปรายงานท่านอ๋อง”

เขาถามต่อว่า “แม่นางชื่ออะไร คราวหน้าข้าจะชดใช้ความผิดนี้ให้เป็นสองเท่า ข้าชื่อมั่วหลี...เป็นคนสนิทของท่านอ๋องหลิงจ้าน”

ปี้หวายพอรู้ว่าอีกฝ่ายมีศักดิ์ฐานะสูงกว่าตน ก็บังเกิดความหวาดหวั่น นางกลืนน้ำลายลงคอ บอกเสียงอ่อนลงกว่าเดิมว่า

“ช่างเถิด ท่านไม่ต้องชดใช้อะไรข้าน้อยหรอก เชิญไปพบท่านอ๋องเถิด ข้าน้อยเองก็จะกลับไปเอาขนมที่เหลือมาใหม่ และหวังว่า...ท่านมั่วหลีคงไม่วิ่งทะเล่อทะล่ามาชนข้าน้อยอีกรอบนะเจ้าคะ!” แล้วปี้หวายก็หมุนตัวสะบัดหน้าพรืด เดินสะบัดก้นจากไปอย่างหงุดหงิด

มั่วหลีมองตามร่างบางตาปรอย แต่มีรอยยิ้มขบขันเปื้อนหน้า เพราะปี้หวายนั้นจัดว่าเป็นสาวงามผู้หนึ่ง แม้นางจะเป็นฝาแฝดกับปี้เจีย แต่กับมีนิสัยผิดจากแฝดผู้พี่อยู่มิใช่น้อย

มั่วหลีมองดูแผ่นหลังงามที่ค่อยๆหายไปจากสายตา เขาบอกตนเองว่าแผ่นหลังอันบอบบางแผ่นนั้น จะไม่มีวันลบเลือนไปจากสายตาและความทรงจำของเขาจวบจนสิ้นชีวิต...

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว